Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บริษัท “เทเวศน์ประกันภัย” ใช่นโยบายของคุณหรือเปล่า??? vote ติดต่อทีมงาน

บริษัท “เทเวศน์ประกันภัย” ใช่นโยบายของคุณหรือเปล่า???
“เทเวศประกันภัย ยินดีต้อนรับเข้าสู่.... ความคุ้มครองเหนือระดับ บริการประกันภัยออนไลน์ แบบครบ วงจร สะดวก รวดเร็ว เหมาะสำหรับ Life Style ของคนรุ่นใหม่ พร้อมรับเอกสิทธิ์เฉพาะ ลูกค้าคนสำคัญ ของเรา”
ก่อนที่จะเล่าเรื่องทั้งหลายให้ฟัง ผมออกตัวก่อนว่า ทุกเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงทุกประการ และผมขอรับผิดชอบข้อเขียนทั้งหมดนี้ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปร่วมงานแต่งของเพื่อนในวันที่ 26 พ.ย.55 ขณะที่ขับรถถึง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช (บ้านเกิด) เวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ บริเวณทางโค้งเยื้องปั๊มน้ำมัน สาขา บ้านสาขา ได้มีรถกะบะบรรทุกลังใส่ผลไม้ได้ทำลังร่วงใบหนึ่ง ส่งผลให้ผมชนเข้าอย่างจัง ผมเปิดไฟเลี้ยงซ้ายชิดขอบทางเพื่อสำรวจความเสียหาย ผลปรากฎ กันชนหน้าแตก สเกิร์ท หลุดออกมา หักครึ่งและครูดกับพื้น ที่เกิดเหตุพบลังใส่ผลไม้ ระบุเจ้าของ “เจ๊หนู” ผมเก็บใว้เป็นหลักฐาน มีคนออกมามุงดูกันหลายคนในที่เกิดเหตุ ผมสำรวจดูเครื่องยนต์ หม้อน้ำไม่แตก เครื่องยนต์ส่วนอื่นยังคงทำงานได้ปกติ พี่ๆที่มามุงดูช่วยเก็บกระจังหน้าพร้อมกรอบป้ายทะเบียนให้ ผมรีบโทรหาบริษัทเทเวศร์ประกันภัยเพื่อแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ ที่รับแจ้งครั้งแรกช่วยประสานงานเป็นอย่างดี และบอกว่าให้ผมรอ ประมาณ 30-40 นาที สักพักเจ้าหน้าที่ภาคสนามก็โทรหาผมและสอบถาม ผมก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง และบอกว่าผมต้องการแจ้งเคลมตอนนั้นเลย เพราะถ้ารอไปอีกวัน ผมก็กลัวมีปัญหาเรื่องคู่กรณี เพราะในที่เกิดเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์ ผมพอให้เขาเป็นพยานได้ว่าผมชนลังที่ร่วงมาจากรถคันข้างหน้าจริงๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าอยู่ในตัวเมือง และผมเห็นว่าตัวเมืองก็เป็นทางผ่านกลับบ้านผม (บ้านผมอยู่อำเภอพระพรหม) จึงได้นัดเจอกันที่สี่แยกเบญจม พร้อมกับลังเจ้าปัญหา ผมเดินทางไป 30km เพื่อไปรอเจ้าหน้าที่ที่อยู่ห่างจากจุดนัดพบเพียงไม่เกิน 5 Km ขณะฝนตกปรอยๆ มาถึง เจ้าหน้าก็ถามว่าจำหมายเลขรถทะเบียนคันหน้าได้มั้ย ผมบอกว่าจำไม่ได้ มันมืดและผมไม่ทันได้คิด เขาบอกผมว่าถ้าอย่างงั้น พี่เป็นฝ่ายผิดนะ ถ้าไม่มีคู่กรณี ผมก็ถาม ถ้าอย่างนี้ คราวหลังผมควรทำไงถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาบอกว่าพี่ต้องขับรถตามไป ผมก็บอกว่าขับรถตามไปได้ไง เสียงกันชนมันหลุดมาครูดกับพื้นอยู่ ถึงไม่ครูดผมก็ต้องหยุดรถเพื่อตรวจสอบความเสียหายอยู่ดี เขาก็บอกผมยังไงผมก็ต้องเป็นฝ่ายผิด ผมเลยบอกว่ายังไงผมขอคุยกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจแล้วกัน เขาจึงไม่ออกใบเคลมให้ และเขียนเลขที่รับแจ้ง พร้อมเบอร์คนที่ผมต้องติดต่อด้วยชื่อ คุณ มนัส และเบอร์ของเขาเอง
ผมโทรหาคุณ มนัส ในวันอังคาร ก็เล่าเหตุการณ์ให้คุณมนัสฟัง ทั้งหมด ทั้งนี้คุณมนัส ยังไม่ทราบเรื่อง บอกให้ผมรอเอกสาร ใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ ถึงจะได้คำตอบ ผมก็ตกลง
ผมรอมาสองอาทิตย์ กับอีกสองวัน 17 วัน ยังไม่มีใครโทรติดต่อมา ผมโทรหาคุณมนัสอีกครั้ง แต่ไม่อยู่ ผมได้คุยกับคนทำหน้าที่แทนคนหนึ่ง ไม่ทราบรายละเอียดเช่นกัน และผมได้เล่าเหตุการณ์ให้เขาฟังอีกครั้ง เขาขอเบอร์เจ้าหน้าที่ภาคสนามไป ราว 10 นาที โทรกลับมาหาผม พูดเหมือนคนรับแจ้งเคลมเป๊ะ นั่นคือ มันเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์ ตัดสินให้ผมเป็นฝ่ายผิด แต่จะงดค่าแอคเซฟ 1000 บาทให้ ผมบอกว่างั้นออกใบเคลมให้ผมเลย ขณะนั้นสิ่งที่ผมสงสัยมากที่สุด คือ 17 วันที่ให้ผมรอ เขาทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ดำเนินการแล้วโทรแจ้งแต่เนิ่นๆ แล้วสมมุติว่าใช้เวลารอรับเรื่อง 2 สัปดาห์จริง ทำไมใช้เวลามากขนาดนั้น (เพราะสมัยนี้ แฟกส์ก็มี อีเมล์ก็เร็ว) นี่เป็นคำถามในใจ ที่สังคมจำเป็นต้องรับรู้และตั้งคำถามร่วมกัน และสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง นั้นคือ เจ้าหน้าท่านนั้นได้สอนกฎหมายผมด้วยว่า จริงๆแล้วผมควรขับรถห่างจากรถคันหน้าด้วยระยะห่างเท่าไหร่ เผื่อจะได้หักหลบได้ทัน เหตุการณ์จะไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่ขับประชิดเกินไป หลังจากก่อนหน้านั้น ที่เจ้าหน้าที่เคลมประกันบอกผมว่าทำไมไม่ขับตามรถคันหน้าไป ทุกสิ่งที่เขาพยายามพูดคือ ให้ผมรู้สึกและยอมรับผมเป็นฝ่ายผิด (ซึ่งผมรู้อยู่แก่ใจตัวเองดีว่า ผมไม่ผิดอะไรเลย แค่โชคไม่ดี และผมได้ซื้อประกันความเสี่ยงนั้นใว้แล้ว) ผมคิดในใจขณะนั้นเลยว่า ผมไม่ได้โชคร้ายที่ของร่วงใส่ แต่ผมโชคร้ายมากกว่าที่มาเจอการทำงานแบบนี้แบบนี้ ถึงรถผมไม่เสียหายอะไรมาก แถมเคลมประกันได้ ไม่ต้องมีค่าแอคเซฟก็จริงอยู่ แต่ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วผลมันร้ายแรงกว่านี้ และพนักงานบริษัทประกันยังคงรักษาผลประโยชน์ของบริษัทเหนือสิ่งอื่นใดเช่นนี้ สังคมเราจะอยู่กันอย่างไร นี่ไม่ใช่แค่ผมถามเพื่อรักษาผลประโยชน์ตนเอง แต่สังคมควรสร้างคำถามเช่นกัน เพื่อบรรทัดฐานในสังคม เผื่อคราวหน้า เราไม่ต้องถามคำถามเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูง หรือคนที่เรารัก ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ การปล่อยให้มันผ่านไปนั้น มันง่ายมาก คือแค่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย เอารถไปเคลมก็จบ อีกหนทางหนึ่งคือกระตุ้นให้บริษัทที่รับทำประกันมีความรับผิดชอบสำนึกของการประกันภัยมากว่าอ้างเอกสารอย่างเลือดเย็น
ที่เล่ามาทั้งหมด ผมจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องการเรียกร้องสินไหมทดแทน แต่เป็นเรื่องการทำงานของบริษัทประกันภัย ในการบริการต่างๆ ประการแรก ทำไมทางบริษัทให้ผมรอสองอาทิตย์ ทั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 17 วัน ประการที่สอง ทำไมหลังจากที่ผมโทรไปสอบถาม ทางบริษัทกลับให้คำตอบได้เพียงไม่กี่นาที ประการต่อมาการพูดเพื่อผลักภาระให้ลูกค้าผิด (ให้ผมรู้สึกผิดจริงๆ)และยอมรับนั้น เป็นเรื่องที่บริษัทไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะโดยปกติคนที่เกิดอุบัติเหตุ สิ่งแรกที่ทำให้อุ่นใจได้ก็คือประกันภัย แว้บแรกผมรู้สึกเลยว่าไม่เป็นไร ประกันผมชั้นหนึ่ง แต่พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่วันนี้ กลับรู้สึกแย่กว่าวันที่เกิดเหตุเสียอีก เขาพูดเสียงเรียบและดูสภาพมาก “คุณผิดครับ ไม่มีใครตัดสินใจได้ มันเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์”
ต่อมาผมโทรคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เขาบอกว่า การตัดสินให้ผมเป็นฝ่ายผิด ไม่น่าจะถูกต้อง ถึงแม้นจะเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์ก็เถอะ เพราะวัตถุประสงค์ของการซื้อประกัน ก็เพื่อซื้อความไม่แน่นอน เหตุไม่คาดคิดที่อาจจะเกิด ยิ่งเหตุการณ์ของผม ไม่น่าจะเป็นฝ่ายผิดได้ เพราะไม่มีพฤติกรรมใดที่ควรระบุว่าผมเป็นฝ่ายผิดได้เลย เจตนารมณ์ของการทำประกัน ไม่ควรตีความพร่ำเพรื่อเช่นนี้ เขาจึงแนะนำให้ผมโทรปรึกษา คปภ.
ผมโทรหาฝ่ายประกันรถยนต์ (คปภ.) เล่ารายละเอียดเดิมให้ฟังอีกครั้งนึง เจ้าหน้าที่บอกกับผมว่า ผมไม่น่าจะเป็นฝ่ายผิดตามคาด คนที่เป็นฝ่ายผิดน่าจะเป็นรถบรรทุกลัง แต่กรณีนี้ ผมจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะปกติเมื่อเปิดเหตุแบบไม่คาดคิด ส่วนใหญ่ก็คิดแต่เรื่องความปลอดภัยในอันดับแรกๆ ซึ่งบริษัทประกันควรจะดูเป็นกรณีๆไป และอีกอย่างผมก็โทรแจ้งทันทีที่เกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลักฐานผมก็เก็บมา พร้อมที่จะอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมมีพยานซึ่งอยู่ไกล้ๆ มันน่าจะเป็นความบกพร่องของการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า การรับแจ้งเคลม เจ้าหน้าที่ควรมาดูที่เกิดเหตุเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ คปภ.จึงให้ผมไปเขียนคำร้องที่สำนักงานในวันพรุ่งนี้ มีความคืบหน้าอย่างไร ผมจะนำมาเสนออีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ……

จากคุณ : Sutha
เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 23:30:48 A:171.7.149.60 X: TicketID:385031




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com