ธปท.หวั่นหนี้ครัวเรือนพุ่ง! พบแบงก์เฉพาะกิจรัฐปล่อยกู้จนน่าห่วง
|
|
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง การประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ซึ่งแสดงความเป็นห่วงภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นของผู้มีรายได้น้อย ว่า เรื่องนี้คณะกรรมการทั้งสองชุดให้มีการติดตามการปล่อยสินเชื่ออย่างใกล้ชิด และได้มีการหารือกันในด้านความพร้อมของการใช้มาตรการดูแลสถาบันการเงินทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อป้องกันหนี้สินครัวเรือนที่จะกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ จะพิจารณาจากภาระการชำระหนี้รายเดือนต่อรายได้รวมของลูกหนี้ ซึ่งหากภาระหนี้ที่จ่ายต่อเดือนมากเกินไป จนมีแนวโน้มว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางธนาคารพาณิชย์ไม่ควรจะปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้รายนั้นๆ เพิ่มเติมอีก แต่ที่ผ่านมานั้น ธปท.เริ่มเห็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบางรายที่มีสัดส่วนดังกล่าวสูงมากเกินไปจนน่าเป็นห่วง
สำหรับสัดส่วนภาระหนี้รายเดือนต่อรายได้รวม ซึ่งขณะนี้ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยได้กำหนดสัดส่วนดังกล่าวประมาณ 40% คือ ถ้ามีรายได้เดือนละ 10,000 บาท ควรจะมีภาระจ่ายหนี้หรือผ่อนส่งรวมทุกสินเชื่อไม่เกิน 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่ายังได้อยู่ เพราะจะมีเงินเหลืออีก 6,000 บาทสำหรับไว้กินไว้ใช้จ่าย แต่ในขณะนี้เท่าที่เห็นมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจบางแห่ง กำหนดสัดส่วนดังกล่าวไว้ที่ 80% ซึ่งในส่วนของธปท.มองว่า ถ้าคนมีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน และต้องจ่ายหนี้สิน ดอกเบี้ย ค่าผ่อนงวด บัตรเครดิตต่างๆ ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ถือว่าคนนั้นมีหนี้สินล้นพ้นตัว
ทั้งนี้ บทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จะต้องช่วยเหลือให้สินเชื่อกับรายย่อย แต่ต้องมองถึงภาพรวมของการก่อหนี้ และการมีหนี้สินล้นพ้นตัว นอกจากนั้น จะต้องพิจารณาจำนวนบัตรเครดิตที่ลูกค้าแต่ละคนมี อย่างเช่น ถ้ามีบัตรเครดิตเกินกว่า 4 บัตรแล้ว บัตรที่ 5 ที่จะให้จะต้องพิจารณาแล้วว่า ควรจะให้หรือไม่ ซึ่งมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคแบบนี้เป็นสิ่งที่ ธปท.ติดตามดูอยู่ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบการเงิน และเศรษฐกิจไทยโดยรวมในอนาคต.
http://www.thairath.co.th/content/eco/314960
กู้บัตร ก ไปใช้หนี้บัตร ข กู้บัตร ข ไปใช้หนี้บัตร ค ....
จากคุณ |
:
หมาป่าดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ธ.ค. 55 21:51:54
|
|
|
|