ความคิดเห็นที่ 1 นักศึกษาบอกจะไปร้านอื่น แต่ร้านอาจจะได้กลุ่มลูกค้าใหม่แทนก็ได้ ไปร้านไหน  เคเอฟซีเหรอ เดี๋ยวก็ประกาศอีก จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:39:00

ความคิดเห็นที่ 2 มานั่งร้านป้าแทนสิป้ากำลังเหงาเลย จากคุณ : Texas Holdem เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:39:09

ความคิดเห็นที่ 3 บ้านไม่มีที่นั่ง งั้นมานั่งยาง ร้านพี่มา จากคุณ : ราชันย์ยาสูบ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:47:50

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ว่าจะแมคจะสตาร์บัค เราก็ไม่ชอบไปนั่งอยู่แล้ว คนเยอะไม่ชอบ ซื้อกลับไปกินที่บ้านสบายใจกว่าแยะ จากคุณ : หนอนทอดกระเทียม เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 20:56:44

ความคิดเห็นที่ 5 เคยนัดกับเพื่อนที่ร้านนี้ เรามาถึงก่อน สั่งกาแฟมากิน เดินเข้าไปหาที่นั่งไม่ได้ มีแต่คนนั่งเต็มไปหมด แต่ไม่ยักกะมีแก้วหรือขนมวางบนโต๊ะเลย เราเลยมายืนดูดกาแฟโกร่ก ๆ หน้าร้าน เพราะเพื่อนอยากกินเค้ก เลยได้ซื้อกลับไปกินบ้าน   จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 21:21:26

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วที่สตาร์บัค  นั่งนานเป็นชั่วโมง  แต่ไม่ได้ติวหนังสือ   อย่างนี้นั่งได้ช่ะ ?? จากคุณ : คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 21:57:44

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมคนสมัยนี้ถึงไม่นิยมติวหนังสือในห้องสมุด ลืมห้องสมุดกันไปแล้วหรอ ม้านั่งที่โรงเรียน ไม่มีกันหรือยังไง ถึงต้องไปนั่งร้านอาหารแทน เมื่อก่อนห้องสมุดเป็นที่สิงสถิตย์ของเราเลย มีแอร์เย็น มีหนังสือให้หาข้อมูล มีโต๊ะให้นั่งทำรายงาน อยู่นานทั้งวันก็ได้  แค่คุยเบาๆหน่อยแค่นั้นเอง ทำไมไม่ไปกันนะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 22:36:26

ความคิดเห็นที่ 8 คคห 6  ได่สิครับ  คุณไม่ได้ใช้พื้นที่ของเขาเพื่อกิจธุระอื่นที่เป็นการละเมิดสิทธิของร้านเขาก็ไม่ว่าคุณครับ จริงๆ ไม่ใช่แต่สตาร์บัค และแมค  ร้านกาแฟหลายร้านก็ติดป้ายไม่ให้ใช้เป็นที่ติวหนังสือ  ร้านดอยตุงก็ติดป้ายมานานแล้วครับ วันก่อน ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการดูแลคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค  ก็ออกมาพูดชัดเจนว่า ร้านเหล่านี้เขาทำได้ตามสิทธิของเขา คนที่เอาที่ในร้านไปติวหนังสือคือคนที่ละเมิดสิทธิของร้านเหล่านั้น การที่เขาไม่ให้คุณนั่นไม่ใช่การที่เขาละเมิดสิทธิของคนเหล่านี้ แต่เป็นการปกป้องสิทธิของเขา และปกป้องสิทธิของลูกค้าอื่นๆ ที่เข้ามาใช้บริการแต่หาที่นั่งไม่ได้ เพราะถูกคนเหล่านี้ละเมิดสิทธิจนเคยชินคิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองทำได้ตามปกติ จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 22:36:41

ความคิดเห็นที่ 9 อยากรู้นักที่บอกว่าไม่ให้ติวหนังสือในร้านก็จะย้ายไปร้านอื่น ร้านไหนจะให้นั่งแช่เป็นวันเหรอ ตลกมาก ห้องสมุดไม่รู้จักเหรอไง จากคุณ : ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 22:56:39

ความคิดเห็นที่ 10 วัฒนธรรมแห่ตาม และการขาดความเคารพในสิทธิของการใช้สถานที่ ได้คืบเอาศอก จนทางร้านก็รับไม่ไหว คนที่จะอ่านหนังสือจริงๆ ก็อ่านไม่ได้ เพราะเสียงดังคนเยอะ ก็หนีไปร้านที่เปิดทางด้านนี้โดยตรง แต่คิดค่าบริการ โดยเฉพาะ น่าจะมีเปิดเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มนี้ เห็นใจร้านค้าครับ ตอนหลังมันเกินไปจริงๆ จากคุณ : เราชื่อ มารบูรพา เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 23:12:37

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วคนอย่างดิฉันที่ต้องการจะไปพักผ่อนหาของอร่อยกินเนี่ย!!! ไม่มีพื้นที่ให้นั่งบ้างเลย... แล้วคนที่เห็นแก่ตัวเอาพื้นที่ของคนอื่นมาใช้เสมือนเป็นของตัวเอง ช่วยๆ คิดกันหน่อยน่ะค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : เจมส์ & ปังคุง (ลิงกะหมา) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 23:38:45

ความคิดเห็นที่ 12 วันก่อนไปดื่มสาขาใกล้บ้าน กะว่า ไปเช้าๆห้างเพิ่งเปิด อยากเข้าไปนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่มุมหนึ่งของร้าน หลังจากหมายตามาพักใหญ่ พอไปถึง เจอเด็กนั่งติว เปิดโน๊ตบุ๊คไว้ด้วย แหมครบเซต (ไม่ได้สังเกตว่ากลุ่มเดิมไหม เคยเจอแบบนี้มาครั้งหนึ่ง) แต่เรายังใจเย็นบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนบ่ายๆมาใหม่ก็ได้ พอตอนบ่ายเข้าไป เจอ เด็กกลุ่มเดิม กาแฟถ้วยเดิมแต่น้ำแข็งละลายไปแล้ว โน๊ตบุ๊คตั้งอยู่มุมเดิม ... อยากให้สตาร์บัคติดป้ายตัวโตๆเลย ไม่ต้องอ้อมค้อม ห้ามติวหนังสือ นั่งแช่ไม่สั่งกาแฟกว่าครึ่งวัน อายเสียบ้าง! จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 01:41:36

ความคิดเห็นที่ 13 คห.8  เราว่าแบบนี้ไม่ยุติธรรมนะ  พวกที่แย่กว่าพวกติวหนังสือ(แต่ปริมาณไม่มากเท่า คนเลยไม่สนใจ)  คือพวกมากันเป็นกลุ่มใหญ่ คุยเสียงดังเฮฮารบกวนชาวบ้าน อยู่นาน แถมยังสั่งของน้อยอีก ถ้าจะออกกฎอิงเวลาเป็นหลัก ก็ต้องอิงเวลาเป็นหลัก ถ้าจะกำหนดว่าเสียงห้ามดังเกินไป ก็ต้องเป็นไปตามนั้นด้วย  ไม่ใช่มาอคติต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะว่าไป รายได้ของร้านในวันธรรมดาตอนกลางวัน  มันมาจากกลุ่มรับติวเนี่ยแหละ วันธรรมดาตอนกลางวัน คนทำงานจะมาใช้บริการไม่ได้  ร้านจะโล่งเลย  เห็นก็แต่พวกติวๆกันเนี่ยแหละ  และเสียงเค้าก็ไม่ได้ดัง  ถ้าเป็นลักษณะนี้น่าจะอนุโลมได้  พนักงานก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ  เป็นการลดงานพนักงานด้วย  แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่โต๊ะดูเต็มๆ  อาจจะต้องมีการเช็คเวลาจากใบเสร็จรับเงินด้วย  ซึ่งถ้านำมาตรการนี้มาปฎิบัติจริง เดี๋ยวคนก็รู้เอง  คงไม่หน้าด้านอยู่ให้มาไล่หรอก อายชาวบ้าน จริงๆปัญหานี้มันบ่งบอกอะไรหลายอย่าง  นอกจากการแก้ปัญาจากปลายเหตุแล้ว  น่าจะมองที่ต้นเหตุด้วยเช่นกัน   ต้นเหตุน่าจะมาจาก เด็กไม่มีพื้นที่ในการติวหนังสือ  ห้องสมุดอาจจะมีจำกัด  หรือไม่ให้คนนอกเข้า  หรือคนเยอะไม่อยากไปแย่ง  หรือไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ ไม่มีที่ชาจน์แบตคอม เพราะสมัยนี่คนต้องทำงานกับคอมตลอด หรือห้องสมุดไม่ให้พูดคุยกัน  หรือห้องสมุดไม่อยู่ในที่ๆทุกคนๆมาได้อย่างสะดวก(ติดรถไฟฟ้า)  อะไรประมาณนี้ ยิ่งบางคนบอกว่าให้มาติวที่บ้านนี่ยิ่งแล้วใหญ่  อาจจะรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวกันเกินไป ใครควรจะพื้นที่ให้เด็กเหล่านี้  นักธุรกิจ? อย่าง Too fast too sleep ที่จัดแจงเอามาทำเป็นธุรกิจซะเลย  หรือควรมีแบบให้เช่าเป็นรายชั่วโมง หรือรัฐควรสร้างห้องสมุดติดรถไฟฟ้า และมีโซนให้พูดคุยและซื้อเครื่องดื่มกินได้  ตรงนี้น่าคิดนะ   สมัยนี้คนอ่านหนังสือที่บ้านกันไม่ได้แล้วล่ะ  เปิดคอมขึ้นมาก็กิเลสเพียบ  คนที่ไม่ขวางโลกแต่รุ้จักจับกระแสโลก  จะสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมาได้เลยทีเดียว  นี่ถ้ามีเงินทุน  เราจะสร้างร้านขายเครื่องดื่มกับขนมแล้วให้เช่าเวลาแบบที่จอดรถในห้างเลยนะ  ซื้อกี่บาทได้สแตมป์กีดวงนั่งได้กี่ชัวโมง จัดไป  และต้องดูไซน์โต๊ะด้วยนะ   แ่ต่มาคิดไปคิดมา  ถ้าต่อไปมีระบบการสื่อสารผ่านเน็ตที่ดีกว่านี้  เขียนอะไรก็เขียนลงแท๊ปเล็ตไม่ต้องเขียนลงกระดาษ แล้วแชร์ให้คนในกลุ่มเห็นได้  แล้วเด็กมันนัดเวลาติวกันแต่ละคนที่บ้านตัวเอง โดยผ่้านเน็ตขึ้นมาล่ะก็  เราเจ๊งเลยนะ่นั่น จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 02:29:00

ความคิดเห็นที่ 14 แม็ค กับ สตาบั๊ค รับมือได้อย่างมีระดับมาก อ่านแล้วค่อนข้างประทับใจ สรุปใจความว่า ไม่มีการออกประกาศห้าม แต่ถ้าเจอนั่งแช่นาน ๆ ไม่สั่งอะไรและร้านเต็ม จะเข้าไปบอกคุยกับลูกค้าดี ๆ แทน นี่แหละครับ ทำไมร้านกาแฟร้านอื่นถึงได้อยู่ไม่ได้ (ต่อให้ขายถูกกกว่ามาก) การรับมือกับลูกค้า มันคนละระดับว่ะ จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 07:02:43

ความคิดเห็นที่ 15 ึคคห 13 ัทั้งหมดที่คุณยกตัวอย่างมา ก็บอกอยู่แล้วว่า ในร้านเหล่านี้ มีผู้ไม่เคารพสิทธิของคนอื่น คือทั้งร้านและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ  เมื่อเขาไม่อนุญาตให้คนส่วนหนึ่งเหล่านี้ทำการละเมิดสิทธิต่อไป ทำไมคุณถึงบอกว่านั่นคือความไม่ยุติธรรมล่ะครับ  ใช่ครับมันไม่ยุติธรรมเพราะคนละเมิดสิทธิอีกส่วนหนึ่งยังคงสามารถใช้บริการได้ต่อไป  แต่ถ้าคุณแยกการละเมิดสิทธิสองอย่างที่คูณเล่ามา  คนที่ติวหนังสือในร้านเป็นการใช้พื้นที่ร้านผิดวัตถุประสงค์กว่าคนที่มานั่งคุยกันเสียงดัง   การที่ร้านอนุญาตให้คนนั่งในร้านได้แม้จะสั่งอาหารน้อยๆหรือบางคนไม่สั่งเลย  เป็นสิ่งที่ดีครับ เพียงแต่คนเหล่านี้ไม่มีมารยาทในการใช้บริการสถานที่สาธารณะ ต่างจากคนที่ตั้งใจมาใช้ร้านเป็นสถานที่ติวหนังสือครับ   รายได้วันธรรมดาที่ยกมาบอกว่าคนเหล่านี้คือคนนำรายได้มาให้ร้านในวันธรรมดา  เมื่อเขาเห็นว่าเป็นการทำผิดละเมิดสิทธิของคนอื่น เขาไม่นำพารายได้ไม่อนุญาตให้ใช้ร้านเข้าต่อไป นั่นคือสิ่งที่เขาทำถูกต้องแล้วครับ ไม่ได้เห็นแก่รายได้ที่ทำให้ลูกค้าคนอื่นเดือดร้อน สำหรับสารพัดเหตุผลที่บอกคือการแก้ปัญหาปลายเหตุ   ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า ร้านเหล่านี้เขาไม่ได้มีหน้าที่มาแก้ปัญหาที่้ต้นเหตุให้กับคนที่เข้ามาใช้ที่ของเขาติวหนังสือครับ  จริงๆ ถ้าคนติวหนังสือจะทำให้ถูกต้องเขาควรจะไปเช่าสถานที่หรือจ่ายค่าสถานที่ที่ให้เขาใช้ติวหนังสือได้ ไม่ใช่การเห็นแก่ประโยชน์ของตัวมาใช้สถานที่ที่ไม่ต้องเสียค่าบริการแต่ละเมิดสิทธิของคนอื่นๆ   โรงเรียนติวที่เขาจัดเตรียมสถานที่ติวมีอยู่มากมายทำไมเขาไม่มานั่งติวกันที่ร้านเหล่านี้ครับ จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 07:26:51

ความคิดเห็นที่ 16 จริงๆ ร้านกาแฟเมืองนอก เขาก็ให้ลูกค้านั่งแช่ได้  เมืองไทยเพิ่งมีไม่นาน เพื่อนเราเล่าว่า  เวลาเขาเบื่อที่ทำงาน  คิดอะไรไม่ออก  ก็เอาโน้ตบุ๊คตัวนึง ไปนั่งร้านสตาร์บัค  สั่งกาแฟ ปิดโทรศัพท์  และดูคอมไปอาจนั่งคำนวณ คิดอะไรต่ออะไร  ไม่เคยถูกไล่ ไม่เคยถูกว่า  เพราะร้านเขาเปิดเพื่อการนี้ หรือบางทีก็นัดเพื่อน ไปปรึกษาการงาน  นั่งเป็นชั่วโมงก็ไม่มีใครว่าถ้าทำเงียบๆ แต่พวกขายตรง พวกติวเตอร์นี่  นัดดาวน์ไลน์ นัดเด็กนักเรียนไปติว  ไปเป็นโขยง วางเข้าของ พูดกัน ติวกันเป็นวันครึ่งวัน  คุณว่าลูกค้าจริงๆ  เขาจะเอาที่ที่ไหนนั่งกิน นั่งคิด นั่งคุย  ลูกค้าจริงๆ เขาก็เผ่นกันหมด น้องคห.13 เราว่าการไปคุยกันเสียงดัง เอะอะ มันเป็นเรื่องการไม่มีมารยาท แต่การไปติว ไปขายตรง  มันเป็นการละเมิดสิทธิของทางร้าน  ใช้พืิ้นที่ของร้าน ทำการค้าของตัวเอง  เพื่อประโยชน์ตัวเอง  ทางร้านไม่ใช่ศาลไม่ต้องมาพูดเรื่อง ยุติธรรมค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 15:45:23 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 15:44:46 จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 08:00:41

ความคิดเห็นที่ 17 ผมเข้าใจมาตลอดว่าร้านกาแฟแพงขั้นเทพเหล่านี้เค้าบวกค่าสถานที่ไปด้วยแล้วในแก้ว จากคุณ : Moonui เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:31:00

ความคิดเห็นที่ 18 -เคยเจอติวภาษาอังกฤษที่ OOTOYA สาขาเอ็มโพเรียม สั่งอาหารมาจริงแต่เสียงดังมาก     เพราะโต๊ะก็เล็กและติดกันอีก จากคุณ : Pariwat เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 10:02:25

ความคิดเห็นที่ 19 ร้านกาแฟที่ขายแพงๆ นั่นมันราคานั่งแช่ไม่ใช่เหรอ เราซื้อสตาบั้คนานๆ ทีเพราะมันแพง แต่ถ้าซื้อก็เพราะตั้งใจจะนั่งแช่ในร้าน ไม่งั้นไม่รู้จะซื้อทำไม จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 10:04:52

ความคิดเห็นที่ 20 ร้านสตาร์บัคเขาออกแบบให้ลูกค้านั่งแช่ครับ เจตนาของคนออกแบบร้านเป็นอย่างนั้นครับ สังเกตดูสิ บรรยากาศและการตกแต่ง มันเชื้อเชิญให้คนนั่งแช่นานๆครับ แต่ Mc น่ะไม่ใช่ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 10:41:55 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 10:41:27 จากคุณ : สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า HR เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 10:39:27

ความคิดเห็นที่ 21 กลุ่มที่ไปติวหนังสือตามร้านกาแฟหรือฟาสฟู๊ด ดูเหมือนจะเป็นแฟชั่นไปเลยนะครับ ห้องสมุดหรือที่สงบกว่านี้ไม่มีแล้วหรือครับ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 11:40:22

ความคิดเห็นที่ 22 ใครมีเงิน สถานที่ ก็ลองเปิดร้านให้นั่งติวหนังสือกัน คิดค่าเช่าเป็นช่ัวโมงเหมือนร้านเน็ต จากคุณ : ปุ่ม shift อยู่ไหน เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 12:07:26

ความคิดเห็นที่ 23 คห.15-16  สงสัยเราจะเขียนไม่เคลียร์(แต่เราว่าเราอธิบายเนื้อหาตัวเองเคลียร์แล้วนะนี่ เอาเถอะ) ที่เราว่าไม่ยุติธรรม คือ คห.8  ไม่ใช่ร้าน  ที่คุณไปตอบ คห.6 ว่าให้นั่งแช่ได้แต่ห้ามติว  ร้านเค้ากำหนดเวลานั่งมา  ใครนั่งนานเกินไปเค้ามีสิทธิจะไล่หมดไม่ว่าจะมาติวหรือมานั่งทำอย่างอื่น(ซึ่ง...เหมือนกัน....ไปทำที่บ้านไม่ได้หรอ พวกอ่านนิยาย เล่นเกมส์นานๆ ไรงี้)  ถ้าแมคเป็นฟาสฟู้ดเวลานั่งควรจะแค่ 1 ชม ถูกแล้ว  แต่ร้านกาแฟมันเป็นร้านออกแบบมาให้นั่งนานหน่อย  ก็อาจจะเป็น 2 ชม ได้ ที่ด่าๆคนติวกันเนี่ย  สงสัยอยู่อย่างคือ  คนที่มาติวเนี่ย มีเกณฑ์วัดกันยังไง เห็นแต่ละ คห.เหมือนจะพูดเรื่องเดียวกัน(คือด่า)  แต่จริงๆคนละเรื่องเดียวกันนะ ติวกับติวเตอร์ อ่านหนังสือติวกันกับเพื่อน อ่านหนังสือเรียนคนเดียว ถ้านับคนที่อ่านหนังสือเรียนคนเดียว แล้ว คนอ่านหนังสือนิยายคนเดียว อ่านหนังสืออื่นๆคนเดียว เล่นไอแพดคนเดียว นับรึเปล่า เห็นไหม  ร้านเค้าทำถูกแล้วที่ใช้เวลามาเป็นข้อกำหมด  คุณ คห.8 กลับไปตีความเข้าข้างตัวเองว่าเค้าให้คนที่ไม่ได้มาติวนั่งแช่ได้ (เราสงสัยว่้าคุณเป็นพวกชอบไปนั่งทำกิจกรรมอื่นๆเช่นดูหุ้นอะไรพวกนี้ในร้านรึเปล่า  เลยพยายามตีความเข้าข้างตัวเอง) เรายังมองไม่เห็นกิจกรรมปกติอื่นๆเลยที่มันจะทำให้คนเรานั่งอยู่ในร้านกาแฟได้เกิน 2 ชม   เราว่ามันตลกมากที่จะบอกว่าเค้าละเมิดสิทธิเพราะเค้ามีการแลกเปลี่ยนเงินตรากัน  แบบนี้ร้านอาหารที่นักธุรกิจนัดกันเจรจา ก็ไม่ได้ด้วยสิ เอ๊ะ  แล้วนักธุรกิจจะไปเจรจากันที่ไหน  ที่บ้านเรอะ  เราถึงบอกว่าถ้าจะพูดเรื่องละเมิดสิทธิ ต้องพูดเรื่องนั่งแช่ กับเรื่องเสียงดังเกินไปต่างหาก  ซึ่งในที่นี้มันคือ ลูกค้าอื่นๆไม่ได้รับความสะดวก  ร้านก็เสียลูกค้า  เค้าถึงเรียกว่าละเมิดสิทธิ  คห.16 มองคนละมุมกับร้านแล้วว  ถ้าคิดแบบคุณ ถึงร้านโล่งๆไม่มีคน  สั่งกาแฟมาแก้วนึง มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันเกิดขึ้นปุ๊บละเมิดสิทธิ ก็ควรจัดการแจ้งชื่อแบล็กลิสไม่ให้เข้าร้านเลย  ซึ่ง???  ร้านเดือดร้อนเพราะเสียลูกค้า  ไม่ใช่เดือดร้อนเพราะคนมาทำการค้ากัน  เค้าไม่แคร์หรอกว่าใครจะมาทำอะไรตราบใดที่ไม่่เสียลูกค้า  หรือมาค้าอาวุธเถื่อนกัน  และถ้าคิดแบบคุณเด็กๆที่มาอ่านหนังสือกับเพื่อนก็ไม่ถือว่าผิดด้วย  เราถึงเขียนก่อนหน้านี้ไงว่าแต่ละ คห. ที่มาเห็นตามๆกันเนี่ย จริงๆนิยามกันไปคนละทางโดยไม่รู้ตัว และ คห.15  เราไม่ได้บอกให้ร้านจัดที่ให้เด็ก  คุณอ่านของคุณยังไง  เราบอกว่าปัญหานี้มันสามารถก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆได้สำหรับคนหัวใส  แต่ตอนนี้มันยังไม่มีใครทำไง  จะบอกว่าให้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส  ตั้งแต่ ย่อหน้าที่ 4 ในคห.13 ของเราเป็นต้นไปเป็นมุมมองออกความเห็นแบบนักธุรกิจ(จะเจ๋งไม่เจ๋งอีกเรื่อง)  เราว่าคุณโกรธพวกเด็กๆที่ติวมากไปจนอ่านแล้วตีความทุกอย่างในแง่ร้ายไปหมดนะ ปล.บางทีไปร้านกาแฟแล้วเจอคนนั่งเต็ม กับเครื่องดื่มที่หมดแก้วแล้ว และนั่งทำอะไรก็ไม่รู้ อ่านนิยายบ้าง คอมบ้าง ไอแพดบ้าง คุยเล่นเรื่อยเปื่อยบ้าง  ก็ไม่ชอบเหมือนกัน ไม่ต่างอะไรจากที่หลายๆคนไม่ชอบเด็กติว  แล้วความยุติธรรมอยู่ที่ไหน  อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนหรอ ใครชอบทำอะไรก็บอกว่าของตัวเองดี  เด็กติวก็บอกว่าของตัวเองไม่ผิด  ร้านเค้าถึงกำหนดมาตรฐานออกมาคือ เวลา ซึ่งถูกต้องแล้ว แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 14:25:34 จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 14:20:47

ความคิดเห็นที่ 24 คคห 23 ผมว่าคุณนั่นแหละไม่เข้าใจ ที่เขียนมาคงเคลียร์ของคุณคนเดียว ดูง่ายๆ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่แสดงความเห็นกับ คคห ของคุณครับ เมื่อเราไม่มีสิทธิจะทำ เขาห้ามเราจะอ้างว่าทีคนอื่นยังทำไปเพื่ออะไรครับ  คล้ายๆ ตำรวจจราจรจับรถทำผิดกฎ แล้วคนโดนจับพูดว่าทำไมคันโน้นคันนี้ไม่โดนล่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 14:48:10 จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 14:41:49

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับคห. 24 จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 15:50:03

ความคิดเห็นที่ 26 คห.24 เราคงคุยกันไม่เข้าใจเสียแล้ว  ที่เราว่าคุณอ่านของคุณยังไง   เป็นเรื่องความเห็นด้านธุรกิจและนโยบายรัฐของเรา  ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประเด็นที่เราโต้แย้งคุณเรื่องกฎของร้าน  แต่คุณเอามารวมกัน  และ คห.16 ที่มีความเห็นไม่ตรงกับเรา มันก็ไม่ใช่ประเด็นนั้น แต่เป็นประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิ  ที่เห็นไม่ตรงกัน ซึ่งมันคนละกรณีกับของคุณ อันนี้ไม่ได้กล่าวโทษนะ อธิบายให้ฟังเฉยๆ  ขออธิบายใหม่ละกัน  คนเราอ่านไม่เข้าใจกันได้ ไม่แปลก ตามหัวกระทู้ และจากข่าว  เค้าบอกว่า "ห้ามนั่งแช่"  ซึ่งสาเหตุหลักมันอาจจะเกิดจากเด็กมาติวที่มีปริมาณมากเกินไปจนร้านและลูกค้าเดือดร้อน  แต่เมื่อกำหนดกฎ "ห้ามนั่งแช่เกิน 1 ชม หรือ 2 ชม"  มันก็ควรหมายความตามนั้น  จากเนื้อข่าวผู้ให้สัมภาษณ์ เค้าบอกว่า  "กลุ่มคนมาใช้พื้นที่โดยไม่ได้ซื้อหรือรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารของร้าน หรือการวางสิ่งของทิ้งไว้ที่โต๊ะเป็นเวลานาน"   มันไม่ใช่แค่เด็กที่มาติว หรือขายตรงเท่านั้น แต่หมายรวมถึงพวกอื่นๆด้วย "พวกอื่นๆ" ที่ว่า  คือ พวกซื้อกาแฟแก้วเดียวนั่งอ่านนิยาย 5 ชม หรือพวกนั่งเล่นไอแพด(ที่บ้านเล่นไม่ได้?) หรือมานั่งเม้าท์แตกกันเป็น ชม เป็นต้น และพวกอื่นๆที่ว่า  มีปริมาณเยอะเสียด้วยสิ  และเราก็สงสัยว่า คุณเป็น"พวกอื่นๆ"พวกนั้นรึเปล่า   เราจึงไม่เห็นด้วยกับ คห 8 ของคุณที่แนะนำให้คนอื่นๆนั่งแช่  โดยถือว่าถ้าไม่ได้ิติวก็ไม่ผิด "พวกอื่นๆ"รำคาญเด็กติว  เราก็รำคาญ"พวกอื่นๆ"เช่นกัน  เข้าร้านกาแฟเจอคนพวกนี้กาแฟดูดหมดแม้แต่น้ำแข็งก็ไม่เหลือ  ยังนั่งอยู่ได้  พอ"พวกอื่นๆ"เห็นคนมารุมด่าเด็กติว  ตัวเองก็เอามั่ง  ทั้งที่การกระทำของตัวเองก็ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเหมือนกัน  เพียงแต่ปริมาณ"พวกอื่นๆ"มันไม่มาก  จนไม่สามารถเห็นได้เด่นชัด  ไม่เลยไม่เคยเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนหน้านี้ เอาตรงๆคือเรารำคาญทั้งเด็กติว ขายตรง และั"พวกอื่นๆ"  และจัดพวกนี้อยู่ในระดับเดียวกัน  พอ"พวกอื่นๆ"ออกมาโวยเด็กติว  เลยอดไม่ได้ที่จะบอกให้ลองมองตัวเองดูบ้าง  และอยากให้ทุกฝ่ายเคารพกฎเรื่องเวลากันหน่อยเถอะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 17:10:37 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 17:07:33 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 16:48:36 จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 16:46:03

ความคิดเห็นที่ 27 ออกแบบร้านใหม่ให้หมด...ยกเลิกเก้าอี้ เหลือเพียงโต๊ะเล็กๆพอวางของกินก็พอ คราวนี้อยากยืนแช่ก็ทำไป... จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 17:02:33

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนเรื่องละเมิดสิทธิ ตามนิยามของสตาบัค เป็นดังนี้ "ร้านสตาร์บัคส์เป็นที่ลูกค้าสามารถนั่งพักผ่อนและจิบกาแฟได้ตามต้องการ ไม่ว่าคุณจะมาคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม ทางสตาร์บัคส์พร้อมต้อนรับและเคารพในความต้องการและความชื่นชอบของแต่ละปัจเจกชน แต่อย่างไรก็ตามในบางโอกาส เช่น ในช่วงที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหนาแน่น และกำลังมองหาที่นั่ง แล้วพบว่ามีกลุ่มคนมาใช้พื้นที่โดยไม่ได้ซื้อหรือรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารของร้าน หรือการวางสิ่งของทิ้งไว้ที่โต๊ะเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือจากทางลูกค้าด้วย" น.ส.สุมนพินทุ์กล่าว เค้าเขียนมาชัดๆแล้ว  ว่าปัญหามันอยุ่ที่คนอื่นไม่มีที่นั่ง  ไม่ใช่เรื่องมาจ้างวานหรือมีผลประโยชน์กัน  ดังนั้นพวกนั่งแช่ใน(เฉพาะเวลาที่ลูกค้าแน่นๆ ถ้าลูกค้าไม่แน่นใครจะไปสนใจคุณ) ทุกคนควรจะสำนึกบ้าง  ไม่ใช่พอตัวเองเดือนร้อน(จากกฎกำหนดเวลา) ก็ออกมาโวยวายเด็กติวอย่างเดียว  แล้วบอกว่าข้าจะนั่งเล่นไอแพดที่ร้านทั้งวันด้วยกาแฟแก้วเดียวเพราะร้านออกแบบมาให้ข้านั่งแช่  (ไม่ได้จำเพาะเจาะจงใครนะ  พูดโดยรวม) ย้ำอีกครั้ง  ร้านออกมาตรฐานเรื่องเวลาออกมา โปรดเคารพด้วย  ไม่ใช่ตีความเข้าข้างตัวเองอย่างหลับหูหลับตา ส่วนกรณีร้านฟาสฟู้ด ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าฟาสฟู้ด ไม่ควรทำอย่างอื่นทั้งนั้นนอกจากรีบๆกินแล้วออกไปซะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 17:14:27 จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 17:02:36

ความคิดเห็นที่ 29 คคห 26 และ 28 มีความเห็นตามนี้ครับ 1.  ข้อสงสัยของคุณว่าผมเป็นหนึ่งในพวกอื่นๆ   ขอตอบว่าผมเชื่อมั่นว่าผมไม่ได้เป็นใครสักคนที่ก่อความรำคาญในร้านเหล่านี้ ผมใช้บริการร้านเหล่านี้บ่อยมาก แต่เป็นการซื้อแล้วเอาไปกิน/ดื่่มนอกร้านครับ  และคุณก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยคนที่ตอบว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยว่าเป็นคนพวกไหน เพราะอาจทำให้คุณตีความหรือเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปมากขึ้น 2.  ถ้านิยามที่คุณยกมาใน คคห 28 เป็นป้ายประกาศของร้านก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ลูกค้าสามารถนั่งพักผ่อนและจิบกาแฟได้ตามต้องการ   ผมคงบอกไม่ได้ว่าคนที่ไปนั่งคุย นั่งเล่นไอพอดในร้านถือเป็นการนั่งพักผ่อนและจิบกาแฟหรือเปล่าครับ  แต่ผมไม่มีสิทธิจะไปบอกให้คนเหล่านี้ออกจากร้านค้า   และถ้าร้านเขาจะยอมให้คนเหล่านี้นั่งต่อไปนานเท่าไหร่ก็ตามเพื่อพักผ่อนและจิบกาแฟ ก็เป็นสิทธิของร้านเขาครับ  ต่างจากการใช้ร้านของเขาติวหนังสือเพราะผมนึกไม่ออกว่าจะเรียกเป็นการพักผ่อนและจิบกาแฟได้อย่างไร  ผมเข้าใจครับว่าการที่หลายคนไปใช้บริการและหาที่นั่งไม่ได้เพราะมีลูกค้านั่งเต็มเป็นอย่างไร  แต่บอกตรงๆ สมมุติว่าเขาให้นั่งคนละ 1 ชั่วโมง โต๊ะก็เต็มอยู่ดีครับ หวังว่าจะเข้าใจ คคห 8 ที่ผมตอบ คคห 6 นะครับ  เอาเป็นว่าขอตอบเติมใน คคห นี้ว่า สามารถทำได้แต่ก็ควรจะดูว่าเหมาะสมหรือเปล่าด้วยก็แล้วกัน  แต่ก็ต้องย้ำว่า ถ้าเขาให้คุณนั่งก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้ (แม้จะว่าในใจก็ตาม) จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 17:45:41

ความคิดเห็นที่ 30 โอเคเราเข้าใจละ คห.29 คุณอ่านประกาศแล้วตีความออกไปคนละอย่างกับเรา  ที่คุณว่า ถ้าเขาให้คุณนั่งก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้ แม้ว่าจะว่าในใจก็ตาม---ตรงนี้เรามองว่าเขาว่าคุณได้นะ  แน่นอนเค้าไม่เดินเข้าไปด่าหรอกแต่อาจจะเข้าไปถามว่า รับเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมครับ/ค่ะ ประมาณนี้---อันนี้ก็ถือว่า ว่าแล้วล่ะ ใครจะหน้าด้านอยู่ต่อได้ลง คุณตีความตามประโยคแรกของประกาศเป็นหลัก  แต่เรามองประกาศทั้งหมดแล้วตีความ  ไม่รู้อย่างไหนถูก อย่างไหนผิด  แต่คนเราย่อมเข้าข้างตัวเองว่าของตัวเองถูกเป็นธรรมดา  เราจะไม่บอกว่าเราถูกคนเดียวคนอื่นห้ามแย้ง ด้านล่างคือการตีความของเรา   ในประโยคที่ว่า "พร้อมต้อนรับและเคารพในความต้องการและความชื่นชอบของแต่ละปัจเจกชน" น่าจะหมายความว่าเข้าไปทำอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ไม่รบกวนลูกค้าคนอื่นมากเกินไป  และที่ว่า   "ในช่วงที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหนาแน่น และกำลังมองหาที่นั่ง แล้วพบว่ามีกลุ่มคนมาใช้พื้นที่โดยไม่ได้ซื้อหรือรับประทานเครื่องดื่มหรืออาหารของร้าน หรือการวางสิ่งของทิ้งไว้ที่โต๊ะเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือจากทางลูกค้าด้วย"  เราตีความว่าใครก็ตามที่นั่งแช่และไม่สั่งอาหารเพิ่ม  เวลาลูกค้าแน่น สมควรลุกออกไป  ไม่ว่ากิจกรรมที่ทำอยู่คืออะไรก็ตาม นอกเรื่องนิดนึง  สตาร์บัคเมืองนอกยุคเศรษฐกิจแย่ๆเนี่ย  เจ๊งกันหลายสาขาเลยทีเดียว แต่เมืองไทยกลับแก่งแย่งที่นั่งกัน  นึกๆแล้วก็ตลกดี จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 19:38:46

ความคิดเห็นที่ 31 ว่ากันเฉพาะนอกเรื่องใน คคห 30 สตาร์บัคและแมคเมืองนอก ก็ไม่ต่างจากเมืองไทยหรอกครับ  เวลาคนแน่นๆ ก็ไม่มีที่นั่งเหมือนกัน ร้านแมคตอนเศรษฐกิจตกต่ำยิ่งแล้วกันใหญ่ เพราะราคาถูกกว่าอาหารชนิดอื่นๆ (ต่างจากบ้านเรามั้ง) แต่ก็ไม่ได้เป็นทุกสาขา บางสาขาอยู่ในทำเลคนน้อย ก็ไม่เคยมีปัญหาโต๊ะเต็ม  สาขาพวกนี้มักอยู่ชานเมืองหรือนอกเมืองใหญ่   ปัญหาโต๊ะเต็มมีในสาขาเมืองใหญ่หรือกลางย่านชุมชนใหญ่ๆ  ตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวครับ  และเรื่องนั่งแช่ก็มีทุกที่เหมือนกัน  ที่ผมตอบ คคห ทั้งหมด ผมไม่ได้อ่านประกาศมาอ่านจาก คคห 28 ครับ แต่ผมเอาจากที่ผมเห็นมาหลายๆ ที่มาตอบเป็นหลักครับ เมืองไทยก็เหมือนกัน สาขาที่โต๊ะเต็มมีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แถวบ้านผมมีแมคและสตาร์บัคเปิดหลายสาขา บอกได้เลยว่างตลอดวันครับ จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:00:37

ความคิดเห็นที่ 32 ผมคิดว่า พอจะเข้าใจ #30 น่ะ สงสัยเหมือนกันว่า ห้องสมุดที่มีอยู่ทำไม ต้องพยายามทำให้เงียบขรึม ทำไมจึงต้องพยายามทำให้เงียบที่สุด  ผมก็อึดอัดกับบรรยากาสห้องสมุดแบบนี้เหมือนกัน   เมื่อก่อนจำได้ว่าร้านดอกหญ้า (ไม่รู้ยังมีรึเปล่า) สาขาอนุสาวรีย์ อนุญาตให้อ่านและมีมุมกาแฟด้วย ผมชอบมากๆเลย จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:56:03

ความคิดเห็นที่ 33 เอวัง  คห.31  ตอบกระทู้แต่ไม่อ่านเนื้อกระทู้  อุตส่าห์เถียงด้วยตั้งนาน แอบโกรธนะ  กระทู้ยาวๆมักจะมีแบบนี้อยู่เรื่อย ถ้าคุณเขียนว่า แม้ ผอ.ฝ่ายการตลาดของสตาบัคจะกล่าวว่า......(ตามประกาศ)  แต่ในทางปฎิบัติจริงนั้น  ทางร้านได้มีการอลุมอล่วยให้กับผู้ที่มาพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริงให้นั่งแช่ได้  เราจะไม่นั่งเถียงกับคุณหรอก  เพราะเราไม่ได้เข้าสตาบัคมาเป็นปีๆแล้ว  เราไม่มีข้อมูลอะไรจะไปเถียงกับคุณ (ถึงแม้เราจะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่---ถ้าเป็นจริง) แต่ที่เถียงด้วยเพราะเห็นว่าคุณพูดไม่ตรงกับที่ ผอ.ฝ่ายการตลาดให้สัมภาษณ์  ใครจะไปรู้ว่าคุณไม่ได้อ่านเนื้อกระทู้! ใครจะไปรู้ว่าคุณไม่ได้ให้ความเห็นจากข่าวที่เอามาลง ! คห.32 เราว่าถ้าจะพูดอะไรที่มัน out of scope คงต้องไปตั้งกระทู้ใหม่  เดี๋ยวจะโดนเหมือนเรามิใช่น้อย  ประเด็นที่ว่าน่าจะสร้างที่ทางให้เด็กอ่านหนังสือ อยากพูดเหมือนกัน แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบของร้าน  พูดไปโดนเหมาว่าเข้าข้างเด็กซะงั้น(ทั้งๆที่มันเป็นคนละเรื่อง แค่คิดขึ้นมาได้เลยอยากเสนอแนวคิด)  ดีไม่ดีบางคนคงคิดว่าเราเป็นเด็กซะเอง หึๆ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 55 21:46:38 จากคุณ : มนุษย์ตัวเล็กในขวดทดลอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 21:40:27

ความคิดเห็นที่ 34 คคห 33 จะบอกว่าอ่านกระทู้ไม่ครบทุกตัวอักษรก็ได้ ไม่เป็นไรครับ ผมจึงใช้การตอบคำถามโดยระบุ คคห ที่ผมจะออกความเห็นไปเลย  แต่ที่พูดมาใน คคห 33 ว่า "แต่ในทางปฎิบัติจริงนั้น  ทางร้านได้มีการอลุมอล่วยให้กับผู้ที่มาพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริงให้นั่งแช่ได้"  ผมว่าไม่ต่างจากที่ผมออกความเห็นใน คคห 8 นะครับ ผมเห็นด้วยว่า คนเราอาจตีความสิ่งที่อ่านสิ่งที่ได้ยินแตกต่างกัน และคนเราก็ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน ไม่ต้องแอบโกรธครับ จะโกรธก็ได้ แต่ผมไม่โกรธถือเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน  การแลกเปลี่ยนความเห็น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเปลี่ยนความคิดเห็นเสมอไปครับ   ....................................................... คคห 32 การอ่านในร้านหนังสือก็เพื่อการผ่อนคลายมากกว่าการอ่านเพื่อความเข้าใจที่ต้องการสมาธิ (ไมต้องยกตัวอย่างคนที่เอาตำราไปนั่งอ่านในร้านหนังสือนะครับ) ผมคิดว่าแตกต่างกันครับ สมัยเรียนหนังสือ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบสิงสถิตย์ในหอสมุดครับ ปัจจุบันนี้ผมก็ยังชอบไปนั่งห้องสมุดบ่อยๆ  ปกติอยู่บ้านอ่านหน้งสือต้องฟังเพลงไปด้วย แต่ถ้าเป็นในห้องสมุดผมต้องการความเงียบครับ เสียงบางเสียงรบกวนสมาธิในการอ่านหน้งสือจริงๆ ครับ   ถ้าคุณมีโอกาสแวะไปที่ TKPark เขาจะแบ่งโซนอ่านหนังสือที่มีเสียงและเดินไปมาได้ตามสะดวก ก้บมีห้องอ่านหนังสือที่ไม่ให้ทำเสียงรบกวนคนอื่นครับ ว่าแต่ว่าเลือกร้านที่จะไปเดทได้หรือยังครับ 555 จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:03:53

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับ Ter @ AFC ห้องสมุด ทุกอย่างมันต้องเงียบเชียบซะหมดจนน่าอึดอัดไปหน่อย แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับพวกไปนั่งแช่เพื่อติวหนังสือกัน จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:29:33

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วเราไปนั่งสามชั่วโมง กาแฟแก้วเดียว   สักพักเพื่อนอยากเจอ  มาแล้วอธิบายการบ้านกัน   อย่างนี้ได้รึเปล่า จากคุณ : คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 23:22:13

ความคิดเห็นที่ 37 คงจะไม่ลืมกันนะว่า  "แฮรี่ พอตเตอร์"  กำเนิดขึ้นที่ร้านกาแฟที่อังกฤษ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 16:56:25

ความคิดเห็นที่ 38 นั่งนาน 3 ชั่วโมง กินกาแฟแก้วเดียว จุดประสงค์คืออะไรครับ นั่งทำอะไรตั้ง 3 ชั่วโมง ยังมาถามอีก จากคุณ : -- (รักสาวอุบล) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 01:37:12