|
นัดนี้...
จริงๆแล้วคนไทย จะไม่ได้ดูกันแบบสดๆผ่านดาวเทียมแล้ว
ถ้าเป็นการถ่ายทอดฟุตบอลโลกในระบบเดิมๆที่ผ่านมาอย่างในปี 1978 , 1982
เพราะช่วงเวลานั้น
ยกเว้นนัด เปิดสนาม กับ รอบชิงชนะเลิศ เท่านั้น ที่คนไทยจะได้รับอภิสิทธิ์ให้ดูเกมสดๆได้
นอกนั้น จะเป็นเทปมาฉายให้ดูกันตอนช่วงหัวคํ่าของวันถัดมาโลด
เม็กซิโก 86 นี้ก็เช่นกัน
ยกเว้นนัดเปิดสนาม ที่ อิตาลี่ โดน บัลแกเรีย ทำแสบตีเสมอได้ 1 - 1 ในเกมที่คนดูหลับกันครึ่งค่อนประเทศ
เกมๆต่อๆมาล้วนแล้วแต่เป็นเทปกันเรียบวุด
แต่พอคนไทยรู้ผลการประกบคู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่..
บราซิล พบ ฝรั่งเศส
อาร์เจนติน่า หวดกับ อังกฤษ
เยอรมันตะวันตก ใส่กับ เม็กซิโก
เบลเยี่ยม ดวลกับ สเปน
ก็ตาเหลือก ร้องจ๊ากอยากจะดูการถ่ายทอดสดๆในรอบน็อคเอาท์นี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง
บางคนเตรียมหอบผ้าหอบผ่อน หนีเมียไปเปิดโรงแรมแถวภาคใต้ ที่รับช่องดาวเทียมจากทีวีมาเลย์กันอยู่แล้ว
แต่ก่อนที่เกมนัดแรกของรอบ 8 ทีมนี้ จะเริ่มฟาดแข้งกันขึ้นนั้น ( ซึ่งก็คือคู่ของ บราซิล v ฝรั่งเศสนี้เอง )
คอบอลชาวไทยทั้งประเทศก็ได้ไชโยโห่หิ้วกันลั่นหัวซอยไปยันท้ายซอย
เพราะ " บิ๊กจิ๋ว " พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ผบทบ ที่ตอนนั้นคุมทีวีพูลอยู่
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแกดันเป็นหนึ่งในแฟนบอลตัวยง หรือ แกจะเห็นใจคนดูบอลชาวไทย ก็สุดจะคาดเดาได้
แต่ที่แน่ๆ แกเซ็นต์คำสั่งแกร๊กเดียว
อณุมัติให้ทีวีพูลจัดการยิงสดๆ ศึกลูกหนังโลกกลางแดดจ๊ามาจากแผ่นดินเม็กซิโก
พุ่งตรงมาเข้าจอทีวีของคนไทยทุกหัวระแหงตั้งแต่ตอนกลางดึก ไปยันรุ่งสาง
และ แกยังใจปํ้าตามสไตล์ " จิ๋วหวานเจี๊ยบ "
สั่งให้ถ่ายทอดสดๆ ทุกๆเกมนับจากเกม รอบ 8 ทีม ที่เริ่มเปิดหัวด้วยคู่ ..ฝรั่งเศส - บราซิล
ไปยันนัดชิงชนะเลิศที่อัซเตก้าในวันสุดท้าย จนกว่าจะรู้หมู่รู้จ่ากันไปเลย....
ทำให้การแข่งขันศึกหยุดโลกนัดนี้ เป็นฟุตบอลโลกที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนไทยกันทุกบ้านช่องห้องหอ
เพราะทั้งได้ดูเกมสดๆหนึ่ง และอีกหนึ่งก็คือ เป็นเกมที่ทั้งสองทีมแลกเพลงแข้งกันอย่าง 5 ดาวเต็มๆ
22 ผู้เล่นของทั้งสองสุดยอดทีมนี้ไม่มีใครยอมใคร จนกว่าจะถึงฉากสุดท้ายของการแข่งขัน
คนดูได้ดูครบถ้วนกระบวนความทั้ง..
ลูกยิงเปิดฉากกระตุกขนไก่ของ กาเรก้า ดาวยิงไฟแรงของแซมบ้า
และ ลูกยิงตีเสมอ 1 - 1 ฉลองวันเกิดครบ 31 ปีของ " นโปเลียนบนสนามหญ้า " มิเชล พลาตินี่ จอมทัพตราไก่
ไหนจะได้เห็นลูกจ่ายปลิดวิญญาณของซิโก้ที่เพิ่งจะลงมายืนในสนามได้ไม่ถึง 5 นาที
ที่นำไปสู่ลูกโทษที่จุดโทษ ที่ซิโก้ดันยิงไปให้ โจเอล บาสต์ นายทวารฝรั่งเศสเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
ไหนจะการพลาดจุดโทษของ " คุณหมอ " โซคราติส ที่ใช้วิธี.....ก้ม...ง้าง....ยิง... !!!
ไหนจะได้เห็น พลาตินี่ ที่แทบจะส่องลูกโทษเข้า 1000 เปอร์เซ็นต์ ต้องยิงเบิร์ดลอยข่้ามคานออกไปไกล
ไหนจะได้เห็น...." ช๊อตซวยของบราซิล " ที่บอลไปกระดอนโคนเสา
เด้งกลับออกมาโดนหลังของคาร์ลอสนายทวารบราซิลเข้าประตูไปแบบซวยสุดๆ ( ถ้าพุ่งผิดทางบราซิลก็มีเฮไปแล้ว )
ความบ้า....ความคลั่งไคล้.....ความกระหาย......ในฟุตบอล
ของคนไทยในช่วงเวลาที่ การถ่ายทอดสดไม่ได้มีมาอย่างสะดวกสบาย เฉกเช่นวันนี้
นี่ล่ะครับ
สิ่งเหล่านี้ เมื่อ ผนวกเข้ากับความเติมเต็มของบรรยากาศกลิ่นไอลูกหนังท่ามกลางแสงแดดจัดจ๊าของเม็กซิโก
และการได้ยลมนต์แข้งของเหล่านักเตะนามกระเดื่องที่เคยได้แต่อ่านความเก่งฉกาจของพวกเขาผ่านทางสตาร์ซ็อคเกอร์รายสัปดาห์
ทำให้การได้ดู...
มาราโดน่า....พลาตินี่....ซิโก้.....รุมเมนิกเก้.....ลินิเก้อร์....ซีโฟ่.....บรูตาเกโน่
ผ่านจอทีวีที่บ้านกันแบบสดๆ ในช่วงเวลานั้น
มันจึงกลายเป็นความทรงจำ ที่ยังคงกระจ่างชัด อยู่ในทุกความทรงจำของผู้คนที่มีส่วนร่วมซึบซับมันในเวลานั้น
อยู่มิรู้ลืม....
> Shine on you crazy diamond <
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 55 10:55:02
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 55 10:49:50
จากคุณ |
:
Romancini
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ธ.ค. 55 10:32:50
|
|
|
|
|