PANTIP.COM : S13130180 ทำความเข้าใจกับกรณีด่า ธีรศิลป์ แดงดา [ฟุตบอลไทย]

ความคิดเห็นที่ 37

โบราณเคยว่าไว้ว่าห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามไม่ให้คนอื่นคิดนั้นคงห้ามไม่ได้ ถูกครับคนเราทุกคนมีสิทธิ์คิด แต่ถ้าคิดแล้วทำให้ผู้อื่นเสียหายผมว่าอย่าคิดอย่าทำมันเลยเสียดีกว่า

โลกฟุตบอลมันกว้างครับ อย่าคิดเองเออเองครับว่าจะไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป คนธรรมดาที่ตื่นนอน กินข้าว ทำงาน อาบน้ำแล้วก็นอน คงยากที่จะเข้าใจโลกธุรกิจฟุตบอลว่ามันไปถึงไหนแล้ว เค้าไปไกลกว่าที่ท่านๆเห็นมาไกลมากแล้ว ไม่ใช่แค่เมืองทองหรอกครับ ทั้งชลบุรี บีจี บุรีรัมย์ เค้าดำเนินงานธุรกิจฟุตบอลมากกว่าที่เห็นตามข่าวไปไกลมากแล้ว มากเสี่ยจนคนในประเทศเดียวกันยังไม่คิดว่าจะไปได้ไกลขนาดนั้น ก็ไม่แปลกครับที่คนดูบอลธรรมดาอย่างท่านๆย่อมคาดไม่ถึง การที่สโมสรฟุตบอลจากไทยสโมสรหนึ่งมีความใกล้ชิดกับสโมสรยุโรปที่คุ้นชื่อนั้นอาจจะเป็นโจ๊กสำหรับคุณเมื่อซัก10-20ปีก่อน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงคนทำบอลไทยสมัยนี้เค้ามีความสามารถเยอะครับอย่าอยู่ในกะลากันให้เยอะเลย เปิดใจบ้างครับอย่าดูถูกคนประเทศเดียวกัน

ในธุรกิจฟุตบอล การเปิดตลาดนั่นไม่ใช่หมายความว่าจะเปิดตลาดในเรื่องของการหาแฟนบอลฐานใหม่ๆในประเทศที่3ที่มีประชาการเยอะ อันนั้นอาจจะเคยเป็นแผนการตลาดแต่มันเมื่อ 10ว่าปีที่แล้วครับที่เอานักบอลจีน อินเดียหรือแม้แต่ไทยไปเล่น ธุรกิจฟุตบอลเค้าดูกันออกแล้วว่ามันไม่ยั่งยืน แต่เค้ากลับนำมาต่อยอดในเรื่องของการจัดการบริหารกันตั้งหากที่มันยั่งยืน Atlético Madrid ไม่ได้ทำพันธมิตรกับประเทศโลกที่ 3ที่ฟุตบอลยังล้าหลังและห่างการพัฒนาจากตัวเองมาก เค้ามองกว้างกว่านั้นครับ ไม่อย่างนั้นเค้าจะทำ partnership ทำไมกับอินเตอร์นิซิอองนาลทีมจากบราซิล ทั้งๆที่ธุรกิจฟุตบอลบราซิลคงจะยากที่จะให้คนบลาซิลมาเชียร์ทีมจากสเปนประเทศที่แย่งอันดับ1ของโลกในเรื่องของฟุตบอลตอนนี้ไปจากบราซิล หรือกับเบซิคตัส จากประเทศตุรกีเพื่อนร่วมทวีปยุโรปด้วยกัน หรือแม่แต่อัลไอน์จากUAE ที่ถ้าจะนับเม็ดเงินกันแล้ว อัลไอน์มีเงินมากว่าแอต.มาดริดด้วยซ้ำ

แต่สิ่งที่แอต.มาดริดเห็นและทีมต่างๆเหล่านี้เห็นคือการดำเนินธุรกิจฟุตบอลร่วมกัน เพื่อหาแนวทางหรือกำหนดกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่าที่พวกเค้าเหล่านั้นเห็น ฟุตบอลในยุคนี้มันหมดสมัยไปแล้วกับการทำเองคิดเอง แต่การบริหารงานใหม่ๆมีหนทางใหม่ๆมากกว่ายืนถ่ายรูปหมู่ที่ท่านคิด การแลกเปลี่ยนความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนกลยุทธ์กลศาสตร์ในการทำทีมฟุตบอลตั้งหากที่พวกเค้ามองกัน ทีมพัธมิตรเหล่านี้มีการประชุมร่วมกันหรือแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนหรือดูงานทีมในเครือข่ายด้วยกันแทบจะทุกเดือน สิ่งเหล่านี้สิที่มีคุณค่ามากกว่าการใช้ข่าวจูงใจหรือใช้กระแสชนชาติหาฐานเสียงแฟนบอลเพราะมันไม่ยั่งยืน

แน่นอนว่าในยุคของฟุตบอล global network แบบนี้ ใครที่มีเครือข่ายมากที่สุดก็ย่อมจะได้เปรียบ และก็อย่าแปลกใจว่ามุ้ย ถึงเป็นที่รู้จักคนคนต่างประเทศ เค้าส่งข้อมูลถึงกันหมดครับและยิ่งเมืองทองได้ทำงานกับคน High profile มาตลอด ไม่ว่าจะเรเน่ เดอเซเยียร์ เฮริเก้ คาลิสโต้ หรือแม้แต่ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์เองก็ตาม คนพวกนี้ต้องหากินในวงการฟุตบอลต่อไป แม้ไม่ว่าจะไม่ได้ทำงานกับเมืองทองแล้วก็ตาม หรือแม้แต่บริษัทเอเจนซี่ เอเย่นต์ หรืออะไรก็ตามทำอยู่ในธุรกิจฟุตบอล เดี๋ยวนี้มันมากยิ่งกว่าดอกเห็ด ถ้าจะขายอะไรเดิมๆก็คงจะเหมือนชาวบ้านเค้า แต่การที่มีเครือข่ายมากขึ้น มีสินค้ามาขายในตลาดมากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้นหรือแตกต่างขึ้น ยกตัวอย่างเอเจนซี่เจ้าหนึ่งที่นำนักฟุตบอลยุโรปตะวันออกมาขายในเมืองไทย แต่ด้วยความที่เป็นsport marketing สมัยใหม่แล้วรู้จักช่องทาง เอเจนซี่เจ้านี้ก็นำนักวอลเล่ย์บอลหญิงไทยไปขาย ให้กับในยุโรปนั่นอีกทางนึงด้วย

แอต.มาดริดก็เช่นกัน ก็หวังที่จะหาทางดำเนินช่องทางทางธุรกิจมากขึ้น โดยอาศัยconnection ของเหล่าทีมพันธมิตรให้มากขึ้น และแน่นอนชื่อของธีรศิลปื แดงดา ย่อมที่จะเข้าถึงหูแอต.มาดริดฉะนั้นจึงตัดข้อสงสัยที่ว่าเมืองทองยัดหรือเอาธีรศิลป์ไปซ้อมปั้นข่าวได้เลย ด้วยศักยภาพของธีรศิลปืตอนนี้มีดีพอที่จะทำให้หลายๆทีมในยุโรปได้รู้จักแล้ว แต่แน่นอนแหละ ของแบบนี้ไม่มีหลักฐานก็คงไม่มีใครเชื่อ และผมเชื่อว่าทางเมืองทองก็คงไม่บ้าจี้เอาเอกสารที่คุยกันมาออกสื่อโชว์ ไม่มีทีมในโลกไหนเค้าทำกัน เช่น เอาเอกสารขอยืมตัว เอกสารถามราคา เอกสารขอซื้อ-ขาย หรือเอกสารขอนำนักบอลไปทดสอบฝีเท้า มาโชว์ออกสื่อเพื่อยืนยันความบริสูทธิ์ของตัวเอง ไม่มีใครเค้าทำกันหรอก เพราะเค้าก็ต้องให้เกียรติทีมผู้ส่งหนังสือมาด้วย ซึ่งมันเป็นดาบสองคมที่สะท้อนกลับมาทำร้ายฝ่ายให้ข่าวว่าเป็นจอมลวงโลกอะไรก็ตาม ทั้งๆที่หนังสือมีอยู่ในมือแต่เปิดเผยไม่ได้ เพราะไม่มีใครในโลกไหนเค้าทำกัน แต่เชื่อได้เลยว่าเค้ามีแน่นอน โดยเฉพาะเคสของธีรศิลป์นั้น ถ้าจะนับแค่จดหมายจากสโมสรต่างชาติทั้งในยุโรปและเอเชีย ถ้ามานับรวมกันทั้งาเอกสารขอยืมตัว เอกสารถามราคา เอกสารขอซื้อ-ขาย หรือเอกสารขอนำนักบอลไปทดสอบฝีเท้า ต่างๆรวมกันมีเกิน 10ฉบับแน่นอน ไม่นับของกวิน มาริโอ้ ดาโน่ เอดดิลวัลโด้ หรือนักฟุตบอลคนอื่นๆในสโมสรแห่งนี้ เพราะถามว่า เด็กสมัยนี้ 3-4ขวบยังรู้จักธีรศิลป์ รู้จักกวิน รู้จักมาริโอ้ แล้วทำไมคนในธุรกิจฟุตบอล เค้าจะไม่เคยได้ยิน ไม่เคยติดตาม หรือไม่เคยสนใจนักฟุตบอลเหล่านี้บ้างหล่ะในเมื่อฟุตบอลลีคบ้านเราเราบอกว่ามันไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว

อย่างไรก็ดี ก็เลิกดูถูกการทำทีมของคนทำฟุตบอลได้แล้ว ทีมระดับอย่างแอต.มาดริด คงไม่ยอมจะใช้"ความน่าเชื่อถือ"ของตัวเอง มาทำเรื่องเล่นๆหรือปาหี้ให้ทีมเล็กๆจากโลกที่3สร้างข่าวหรอก ทีมระดับนี้แล้วเค้ากล้าคิดกล้าทำและกล้าตัดสินใจ ถ้าธีรศิลป์ไปทดสอบแล้วเค้าไม่สนใจหรือสนใจแต่ยังไม่ใช่ที่สุด เค้าก็สามารถจะพลิกผันหาช่องทางในการสร้างธุรกิจต่อได้ ถ้าเค้ายังไม่แน่ใจในธีรศิลป์เค้าอาจจะให้สโมสรเล็กๆร่วมเมืองหรือทีมร่วมเครือข่ายไปใช้ก่อนเพื่อติดตามpotential ต่อไป ซึ่งแอต.มาดริดก็ไม่มีคำว่าเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนเมืองทองเองด้วยมารยาทก็ต้องให้ แอต.มาดริดเพื่อนร่วมธุรกิจดูสินค้าก่อนก่อนที่จะทำไปขายที่อื่น ซึ่งสมมุติว่าเมืองทองนำเพชรอย่างธีรศิลปืไปขายให้กับทีมอื่นๆในสเปนทีมเล็กๆเองก็เหอะ ด้วยมารยาทก็ต้องถามความน่าจะเป็นหรือข้อมูลของทีมเหล่านี้กับแอต.มาดริดก่อน และแน่นอนว่าการปรับตัวที่สเปนก็อาจจะเป็นอีกข้อดีของตัวธีรศิลป์เอง

การไปแอต.มาดริดครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการเยินยอ ขายฝัน ราคาคุย เหมือนที่ท่านพูด มันหมดยุคกับการที่จะทำแบบนั้นแล้ว แต่ฟุตบอลสมัยใหม่เค้ามีมากกว่านั้น เค้าคิดเยอะกว่านั้น มันคือการช่วยเหลือกันของพันธมิตรที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์เชิงฟุตบอลของทั้ง 2ฝ่าย แอต.มาดริดอาจจะได้นักฟุตบอลใหม่ๆจากตลาดใหม่ๆคนนึงที่มีศักยาภาพอยู่ในทีม ส่วนเมืองทองเองถ้าไม่ได้ขายกับแอต.มาดริด ก็ยังมีทีมรองๆลงมาที่ยังสนใจในตัวธีรศิลป์อยู่และการไปทดสอบกับแอต.มาดริด ก็ยังเป็นการสร้าง profile ให้กับตัวเองของธีรศิลป์ได้อีกด้วย เพราะด้วยศักยภาพของเจ้าตัวเองแล้วนั้น ยังมีที่ๆยังสนใจเจ้าตัวอีกเยอะ ถ้าจะบอกว่าเป็นแผนการตลาดในการขายนักฟุตบอลของเมืองทองเองก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะการที่มีสินด้าดีๆและพร้อมขายอยู่ในมือ ยิ่งทำให้สินค้าน่าสนใจเท่าไหร่ มูลค่าในการขายมันก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย และเมืองทองเองก็คงไม่โง่เอาชื่อเสียงของเพื่อนมาทำให้ตัวเองดูดี หรือเอามาคุยโวโอ้อวดอะไร เพราะถ้าเค้ายังจะทำธุรกิจนี้ต่อไปนานๆ เค้าไม่โง่ทำแบบที่คุณบอกหรอกครับ ว่าเอาธีรศิลป์ไปซ้อมแล้วออกข่าวขายข่าวมันตลกไป คำว่าให้เกียรติกันคือสิ่งที่ต้องมาก่อนของคนทำธุรกิจร่วมกัน ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อนะ ว่าคนดูบอลบ้านเรายังคิดแบบนี้ได้อีก ว่าจะมีการส่งนักบอลไปถ่ายรูปแล้วเอามาเขียนข่าวว่าทีมนั้นสนใจ อย่ามองโลกแคยครับ ทั้งเมืองทองและแอต.มาดริดเค้าก็มีศักดิืศรีของเค้าเหมือนกัน

เพราะอย่างที่บอก เอกสารเค้าคุยกันบนโต๊ะถ้าเราไม่รู้ก็อย่าพูดเสียดีกว่ามันไม่ได้ทำให้คุรดูมีความรู้มากขึ้นเลย ผมคงไม่ท้าทายให้ฝ่ายเมืองทองโชว์เอกสารหรือท้าทายให้คุณมารับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ถ้าวันนึงผลออกมามันไม่ใช่แบบนั้น เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คนมากกว่าสิ่งใดๆ วันนึงมุ้ยไปไหนเดี๋ยวคนไทยก็รู้เอง เดิมพันครั้งนี้มันสูงมากทั้งสำหรับวงการฟุตบอลไทย กับสโมสรเมืองทอง และก็กับตัวธีรศิลป์เอง ไม่มีอะไรที่ชุ่ยๆหรอกครับ

ปล.นักฟุตบอลบอล 3คนที่คุณว่าอวดอ้างมาเรื่องโควต้าEU คุณก็น่าจะบอกให้หมดนะว่ากฏเพิ่มเติมมันเป็นยังไง อยู่ประเทศนี้กี่ปีๆถึงจะได้พาสปอร์ตEU เพราะ 1ใน3คนนั้นอาจจะได้พาสปอร์ตEU เร็วๆนี้ก็ได้

จากคุณ : GreaT DaneS

เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 19:42:37