นอกจากเจ้าหกเหลี่ยมที่ขั้วแล้ว ดาวเสาร์ยังทิ้งปริศนาไว้เพียบให้นักดาราศาสตร์สงกะสัยกัน
มันมากซะจน NASA จำต้องมีภารกิจสำรวจครั้งใหม่ และต้องโคจร (Orbit) รอบดาวเสาร์เพื่อการสำรวจระยะยาวด้วย
ไม่กี่ปีหลังวอยเอเจอร์สำรวจดาวเสาร์ไป ภารกิจใหม่ก็ถูกเสนอและวิจัย
และอีกเกือบสิบปียานอวกาศลำใหม่จึงจะถูกสร้าง
ยานที่ว่าคือ "แคสสินี-ฮอยเกนส์" ให้เกียรกับนักดาราศาสตร์ยุคบุกเบิกผู้สำรวจดาวเสาร์ทั้งสองท่าน ยานอวกาศราคาแพงลำนี้เป็นความร่วมมือ 1,400 ล้านดอลล่าร์ระหว่าง NASA และยุโรป (80/20%)
สร้างและทดสอบอีกหลายปี รวมถึงรอเวลาที่เหมาะสม
ในที่สุดฤกษ์ยิงยานก็คือ 15 ตุลาคม 1997
รูปยานแคสสินีครับ
... ดาวเสาร์ ดาวเคราะห์ลำดับที่ 6 อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์กว่า 1450 ล้านกม. และไกลจากโลกเฉลี่ย 1300 ล้านกม.
การยิงยานยาวรวดเดียวให้ถึงดาวเสาร์ทำไม่ได้ ดังนั้นยานต้องบินเฉียดผ่านเพื่อเร่งความเร็วกับโลกครั้งนึง ดาวศุกร์อีก 2 รอบ ดาวพฤหัสอีกรอบนึง
เผื่อใครอยากดู ก็ในนี้ครับ
ช่วงก่อนนาทีที่ 1:30
กรกฎาคม 2004 เกือบ 7 ปีหลังปล่อยยาน เจ้าแคสสินีก็เข้าสู่วงโคจรดาวเสาร์ได้สำเร็จ และเริ่มภารกิจสำรวจหลายปียาวเป็นหางว่าวไม่เว้นแต่ละวัน
และแน่นอน หกเหลี่ยมประหลาดที่ขั้วดาวเสาร์ก็อยู่ในคิวสำรวจด้วย (ปี 2006) เมื่อยานปรับวงโคจรเป็นแนวบินผ่านขั้วเหนือของดาวเสาร์
แคสสินีได้ยืนยันสิ่งที่วอยเอเจอร์ถ่ายภาพมาครับ มีหกเหลี่ยมขนาดใหญ่โตอยู่ที่ขั้วเหนือดาวเสาร์จริงๆ (และไม่พบที่ขั้วใต้)
- มันมีแต่ละด้านยาวประมาณ 13,800 กม. (เส้นผ่านศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ราว 12,750 กม.) วางตัวอยู่แถวๆ 78 องศาเหนือของดาวเสาร์
- และมีคาบการหมุนรอบตัวเองอยู่ที่ 10 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของดาวเสาร์
- แถมมันก็คงสภาพเป็นหกเหลี่ยมนี้มาได้ยาวนานถึงกว่า 25 ปี ตั้งแต่วอยเอเจอร์ค้นพบมัน
แคสสินีใช้หลายช่วงคลื่นในการสำรวจครับ หนึ่งในนั้นคืออินฟราเรดซึ่งมองทะลุเมฆได้ และพบว่าโครงสร้างหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นในส่วนยอดเมฆของบรรยากาศดาวเสาร์ซะด้วย
และค่อนข้างแน่ชัดว่ามันสัมพันธ์กับแถบเมฆความเร็วสูงอื่นๆที่อยู่ถัดๆออกมา รวมถึงกลไกการส่งถ่ายความร้อนภายในตัวดาวเสาร์อีกด้วย
แต่มันเกิดขึ้นจริงๆได้ยังไง? ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ดี
รูป: อนิเมชั่นการหมุนรอบตัวเองของหกเหลี่ยมแห่งดาวเสาร์ โดยยานแคสสินีครับ
รูปใน Rep: ภาพถ่ายอินฟราเรดความละเอียดต่ำของหกเหลี่ยมดาวเสาร์