พี่คิดว่า ดิฟเฟอริน ใช้ได้ผลดีกับพวกสิวอุดตัน สิวเสี้ยน หรือพวกกลุ่มสิวเม้ดเล็กๆ สิวหัวขาว นะคะ ส่วนสิวอักเสบจะไม่ค่อยได้ผล เรตินเอกับดิฟเฟอรินเป็นตัวยาเดียวกันแต่ตัวดิฟเฟอรินจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าเรตินเอ สำหรับพี่ พี่จะมีตัวยาทั้ง2 ตัวเลย พี่จะทาดิฟเฟอรินในกรณีที่เวลาพวกสิวอุดตันขึ้น สิวเม็ดๆ โดยเว้นสิวอักเสบไว้ และมักจะใช้เรตินเอ แต้มบางๆตรงที่อักเสบ มันจะมี2 กรณีสำหรับสิวอักเสบ คือ ถ้าเป็นสิวที่เริ่มเป็นไต ยังไม่แดง ไม่เจ็บ เมื่อแต้มไปตรงจุดนั้น มันจะค่อยๆยุบ ไปเอง แต่ถ้าสิวเม็ดนั้นเริ่มเป็นตุ่มแดง เจ็บๆแล้ว ถ้าแต้มเรตินเอ มันจะไปกระตุ้นทำให้สิวสุกไวขึ้น และถ้าไม่บ่งหัวสิวออก อดทนทาต่อไปเรื่อยๆหัวสิวจะเริ่มแข็งๆและแห้งๆ จนแกะออกมาได้เป็นก้อนๆ แต่ถ้ารอไม่ไหว บ่งสิวหนองที่สุกออกจนหมด ต้องหมดจริงๆนะ ก็ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นๆ ซับให้แห้ง และแต้มเรตินเอบางๆต่อไป สัก2-3 วันแผลก็จะเริ่มแห้งลอกไปเองจร้า ตัวยาพวกนี้ต้องใช้เวลารักษามากพอสมควร ถ้าใครใจไม่แข็งพอ ก็ไม่แนะนำเลยนะคะ ส่วนถ้าส่วนไหนที่เราทาบ่อยๆแล้วรู้สึกแสบผิว แห้ง ลอก ให้หามอยเจอร์ของเซตาฟิลก็ได้ค่ะ มาทาบริเวณที่แสบร้อน ลอก บางๆ นะคะ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นได้ค่ะ แต่อย่าโบกเยอะนะ เดวอุดตัน ตรงไหนไม่แห้งเป็นขุยก็ยังไม่ต้องทา แต่ตรงไหนที่แห้งมากๆก็ทาบางๆก่อนจะลงตัวดิฟเฟอรินหรือเรตินเอซ้ำก็ได้จร้า
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 14:17:32
จากคุณ |
:
glamor
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ธ.ค. 55 14:13:28
|
|
|
|