ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยกับพี่คนแตกประเด็น คนเราเห็นว่าเป็นแบรนด์ออกมาทำ ก็คิดว่าการตลาดหมด ถึงจะการตลาดจริง ๆ ก็เป็นการตลาดที่น่าสนับสนุนไม่ใช่หรอ? จากคุณ : buacome30 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 12:28:40

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เข้าใจคนที่บอกว่า..เอาขวดมาใช้ซ้ำ..ถ้าคิดจะใช้ซ้ำแบบเอาขวดเพื่อไปเติมน้ำกินอีกรอบ "ทำไมไม่ซื้อ กระบอกน้ำ กระติกน้ำ" ใช้ได้นานกว่า ประหยัดกว่าตั้งเยอะ มีให้เลือกหลายขนาดด้วย จากคุณ : AppEal เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 12:38:55

ความคิดเห็นที่ 3 พอยน์คือ คนส่วนใหญ่ไม่ได้เอาขวดน้ำไปใช้ซ้ำ เวลาไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ฯลฯ เอาตรงนั้นมาใช้ซ้ำกันหรือ ที่บอกว่าเอาขวดน้ำไปใช้ซ้ำ ก็คงใช้ซำ้กันไม่นาน ถูกไหม... ซักสองอาทิตย์ผ่าน แน่ใจหรือว่ายังใช้ขวดเดิมซ้ำอยู่น่ะ.... จะดีกว่าถ้า ซื้อกระติกมาใช้ต่างหาก ถูกล่ะ เขาการตลาด จะดีมากถ้าทุกๆเจ้า หันมาทำการตลาดแบบนี้เหมือนกัน.... แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 55 14:24:39 จากคุณ : jaja12345 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:24:04

ความคิดเห็นที่ 4 ใครที่ชอบใช้ขวดซ้ำ ก็ซื้อยี่ห้ออื่นสิค่ะ ไม่น่ามีปัญหา น้ำมีให้เลือกหลายยี่ห้อค่ะ ในเมื่อคุณคิดว่าไม่ชอบก็ซื้อยี่ห้ออื่น ไม่มีใครบังคับได้ จากคุณ : exp_zaa เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:50:59

ความคิดเห็นที่ 5 เราใช้กระติกน้ำค่ะ ไม่ซื้อน้ำขวดกินมานานแล้ว ไม่รู้นะ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าลดโลกร้อน ลดขยะได้มากกว่า เลยยึดมั่นวิธีนี้มาตลอด ทำนองเดียวกับใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกแหละ เราก็ใช้แฮรอดใส่ของเอาค่ะ ทนทานแข็งแรงดี ช่วยโลกได้ด้วย ปล ไม่ได้โพสโจมตีแบรนด์นะคะ แค่มาบอกวิธีที่เราใช้ช่วยโลก จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:22:46

ความคิดเห็นที่ 6 สรุปง่ายๆ ที่ไม่ซื้อยี่ห้อนั้น ไม่ใช่เพราะการตลาด หรือ ไม่ได้อยากช่วยโลกนะคะ เราไม่ชอบขวด เพราะถือลำบาก เปิดลำบาก ส่วนขวดใช้ซ้ำ เราใช้ไม่เกิน 2-3 ครั้งก็ทิ้งแล้วค่ะ  (หมายถึงเอาน้ำใส่ขวดแล้วก็แช่ตู้เย็น ไม่ได้พกพาออกไปข้างนอก) ส่วนขวดยี่ห้อนี้ ลดการใช้พลาสติกจริง แต่รู้สึกว่าขยะจะเพิ่มขึ้นมากกว่า เพราะใช้แล้วทิ้งเลย จากคุณ : ส้มกลมกลิ้ง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:58:20

ความคิดเห็นที่ 7 โลกเราถึงได้ร้อนเหมือนทุกวันนี้ไงคะ พูดกันตรง ๆ คือ เราต้องยอมรับความจริง ว่ามนุษย์เราตามใจตนเองเกินไป เอาความสะดวกสบายเข้าว่า อย่างเช่น รู้ว่าเปิดแอร์  มันทำให้โลกใบนี้ร้อนขึ้น แต่ฉันร้อนนี่ ฉันจะเปิดแอร์ ไอเสียจากรถยนต์ทำให้ โลกร้อนขึ้น ก็ทำไมล่ะ ฉันไม่อยากเบียดกับใคร ขับรถไปสบายกว่า เหมือนกันค่ะ ส่วนตัวเราก็คิดว่ามันเปิดยากจริงนะ ขวดน้ำทิพย์เนี่ย มันบางมากเลย แต่เรานับถือ น้ำทิพย์ที่กล้าทำนะ (ถ้า Green จริง <3) ตอนทำโปรเจคเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก เราก็หาอ่านข้อมูลมาพอสมควร เพราะดันไปเสนอการรีไซเคิล อาจารย์เลยให้ลองศึกษาดู หาข้อมูลอ่านยากมาก และข้อมูลมีน้อย  เพราะยังไม่ฮิตในหมู่ผู้ผลิตในไทย ทราบมาว่า เม็ดพลาสติกแบบ Green Recycle เนี่ย แพงกว่าเม็ดพลาสติกแบบธรรมดาถึง 4 เท่า เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต เช่นเครื่องฉีดพลาสติก ก็ใช้แบบเดิมไม่ได้  แปลว่าต้องสั่งมาใหม่หมด ต้นทุนมีแต่เพิ่มกับเพิ่ม  มันถึงไม่ฮิตในหมู่ผู้ผลิต  เพราะมันแพง  ไม่คุ้ม อีกอย่างพลาสติกแบบ Green ก็จะเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ อ่อน ๆ บาง ๆ พังง่าย เพราะต้องการการย่อยสลายที่ง่ายตามไปด้วย จากคุณ : KIMdEARJAE เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 19:52:29

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ามันไม่คุ้ม...เค้าไม่ทำหรอกค่ะ การลงทุนในระยะแรก ติดลบทุกโรงงาน แหละ ไม่ว่าจะผลิตอะไรก็ตาม  การลงทุนแบบนี้ถือว่าเป็นการลงทุน ระยะยาว อาจจะเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอะไรก็ตามในอนาคต ที่คาดการณ์ เอาไว้  ส่วนเรื่องราคา ไม่ว่าจะเป็น raw material , ต้นทุนในการ operate รวมถึงการ ปรับเปลี่ยน plant คนธรรมดาอย่างเราๆ ไม่สามารถประเมิณได้ เพราะมันเป็นความลับของบริษัท ในส่วนของการลดปริมาณน้ำ ซึ่ง ต่อให้ต้นทุนของการผลิตเฉพาะน้ำจะน้อย มากเมื่อเทียบกับราคาขวดก็ตาม  การ Scale Up ทำให้กำไรส่วนต่างอัน น้อยนิดของแต่ละขวด เพิ่มขึ้นมหาศาลแน่นอนค่ะ           ส่วนการตัดสินว่า "ผู้บริโภค" ท่านไหน เห็นแก่ตัวหรือไม่ แต่ละคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะเลือกค่ะ เมื่อเขาไม่สะดวกที่จะช่วยลดโลกร้อนด้วย concept นี้ แต่เขาอาจจะทำด้วยวิธีอื่นได้อีกตั้งมากมาย  แค่ขวดน้ำนิ่มๆ ตัดสินคนไม่ได้หรอกนะคะ ps.เราคิดว่าขวดน้ำมันเปิดยากจริงๆนะ ^^" จากคุณ : KAPOOKKUNG เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 21:04:54

ความคิดเห็นที่ 9 ...เอากันจริงๆ ไม่รู้ว่าใครเห็นแก่ตัวกันเนี่ยสิเนี่ย --' จากคุณ : Jeja เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 21:42:23

ความคิดเห็นที่ 10 งง ทำไมไม่อ่านเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ ให้ไว้ในกระทู้ก่อนหน้าล่ะ ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าแนวคิดดี แต่ที่ไม่ใช้เพราะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า การไม่ใช้ไม่ได้แปลว่าเห็นแก่ตัวนะคะ สรุปแบบนี้ทำให้เกิดข้อขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปอีก อยากช่วยโลก น่าจะใจเย็นลงหน่อยนะ เอาน้ำขวดช่วยโลก แช่เย็นค่อยๆดื่มก็ได้ จะได้สงบลงหน่อย ขอโทษนะคะ เห็นข้อสรุปว่ามีแต่คนเห็นแก่ตัวแล้วมันจี๊ด // ดื่มน้ำเย็นในกระติกสงบสติอารมณ์ จากคุณ : คุณป้าขอแจม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:03:26

ความคิดเห็นที่ 11 เราไปดูงานถึงบริษัทนี้มา (เราเป็นนักศึกษาน่ะค่ะ) เค้าก็ได้พูดถึงเจ้าสินค้าตัวนี้ ซึ่งเขาว่าเป็นCSRของแบรนด์ด้วย เค้าไม่ใช่อยู่ๆอยากจะลดปริมาณพลาสติกก็ลดได้นะคะ เค้าต้องไปค้นคว้าวิจัยมาว่าลดได้เท่าไหร่ จะใส่น้ำได้จริงมั้ย แต่อย่างไรก็ตาม CSR จุดประสงค์มันก็คือ 1.เพื่อสังคม 2.ได้ภาพลักษณ์ที่ดี เราว่ามันก็ดีอย่างเสียอย่างนะ เค้าต้องยอมทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาดูง่อยอ่อนยวบยาบเพื่อช่วยโลก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ภาพลักษณ์ที่ดี เจาะกลุ่มคนรักโลกได้อีกด้วย อย่างมองโลกสวยหรือโลกสีดำเลยค่ะ สมัยนี้เป็นสีเทาไปหมดแล้ว แค่ว่าจะเทามากเทาน้อยเท่านั้น จากคุณ : อายตา ห้าบาท เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:26:49

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าไม่ถูกต้องที่จะไปว่าคนที่ไม่ชอบว่าเห็นแก่ตัวนะครับ คือการตลาดเรื่องรักษ์โลก Feel Good แบบนี้ มันเป็นเรื่องของอารมณ์ ในเมื่อคุณอยากจะให้คนกินFeel Good แต่บางคนเขารู้สึกว่า ถูกเอาเปรียบ คุณภาพบรรจุภัณฑ์มันด้อยลง ปริมาตรก็ลดลง แต่ขายราคาเท่าเดิม เขาไม่Feel Good แล้วติดลบ มันก็เป็นเรื่องปกตินี่ครับ ไอ้เรื่องต้นทุน Green plastic อันนี้ ผมเข้าใจ แต่มันเป็นส่วนที่ผู้ผลิตต้องไปดูแลเอง ไม่เกี่ยวกับผู้บริโภค ไม่ใช่บอกว่าสั่งเครื่องจักรใหม่ ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตนะ แล้วจะมาคิดราคาเท่าเดิม ทั้งๆที่คนกินได้น้ำปริมาตรน้อยกว่า บริษัทใหญ่ๆเขาย่อมมีวิธีในการลดมลพิษอยู่แล้ว ลดไฟฟ้า ลดน้ำเสีย ลดสารเคมี ฯลฯ โดยไม่ให้มันมากระทบต่อคุณภาพสินค้า+ราคา แต่ถ้าคุณชูจุดนี้ขึ้นมาโปรโมต แล้วมันกระทบต่อคุณภาพสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อจนคนยี้ อันนี้ก็เป็นความเสี่ยงของบริษัทเอง ที่อาจจะมองภาพในการทำการตลาดไม่ขาด ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัวหรอกครับ เป็นเรื่องของการแข่งขัน+สินค้าและความพึงพอใจล้วนๆ จากคุณ : na_dol เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:43:52

ความคิดเห็นที่ 13 มาต่อที่กระทู้นี้ เอาจริง ๆ นะ น้ำ 50 มิล น่ะ อึกเดียวก็หมดแล้ว เอาว่าสำหรับเราแล้วกัน (เดี๋ยวไปพาดพิงชาวบ้านอีก) ไม่ได้เดือดร้อนเลยกับน้ำที่หายไปเท่านั้นค่ะ คือถ้ามันช่วยโลกแล้วบริษัทกำไรขึ้น แล้วเราลำบากตรงไหน มองไม่ออก  - -* เราก็เลยซื้อกินได้แบบไม่บ่นค่ะ จริง ๆ จะมาคิดทุกเม็ดว่าเอ๊ะ เราควรได้เงินคืนค่าพลาสติกกลับมาอีก 0.25 บาทสิ แบบนี้ก็อยู่ยาก ลำบากจะทอนกันอีก ของแบบนี้มันไม่ได้เซ้นซิทีฟขนาดรับไม่ได้ อย่าว่าแต่น้ำยี่ห้อนี้เลย เรียง ๆ กันในตู้เย็นทำไมเราไม่เลือกยี่ห้อที่ขวดใหญ่ที่สุด ราคาถูกที่สุดล่ะคะถ้ามองกันแค่ว่าแค่น้ำขวดหนา ๆ + ปริมาณน้ำเยอะ ๆ มันเป็นค่าการตลาดนั่นแล่ะ เราไม่โลกสวยมองว่ามันช่วยโลกอย่างเดียวหรอกค่ะ (เหมือนสมัยก่อนคนกินเป๊ปซี่จะเท่) แต่อย่างที่บอกค่ะ เราจ่ายเท่าเดิม เราไม่เดือดร้อน โลกดีขึ้น เท่านี้ก็โอเครรรรร จากคุณ : บลอนดี้ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:47:56

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนนะคะ  สำหรับที่พาดพิงถึงคอมเม้นในกระทู้ก่อนหน้านี้ว่าเห็นแก่ตัว  อาจจะอินเพราะตอนตอบอารมณ์ร้อนจริง ๆ บวกกับเพิ่งดู The Day After Tomorrow  แบบรีรันทางช่องเคเบิ้ลจบ เลยรู้สึกไปว่าเพราะคนเห็นแก่ตัว  โลกเลยย่ำแย่มาจนถึงทุกวันนี้ ยังไงต้อง ขอโทษ จริง ๆ นะคะ ตอนนี้ดื่มน้ำเย็น ๆ ตามที่คุณ คห.10 บอกเป็นที่เรียบร้อยค่ะ ส่วนตัวขอสนับสนุนน้ำทิพย์ต่อไปนะคะ  แอบจิ๊กคลิปที่สวนของน้ำทิพย์มาแปะนะคะ เผื่อฟังแล้วจะหายเคืองกัน ขอโทษอีกครั้งนะคะ  จากคุณ : PNworld เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:42:35

ความคิดเห็นที่ 15 เราเฉยๆน่ะ แต่บอกตรงๆใช้ขวดน้ำยี่ห้อนี้ แล้วกว่าจะเปิดได้ พอบิดฝาปุ๊บ ลมมีอัดในนั้นออกปั้บ เปิดต่อลำบากเลยค่ะ เพราะขวดมันนิ่มแล้วมันบิดฝาให้ออกไม่ได้ ต้องบีบขวด บีบๆๆ น้ำหกออกมาครึ่งขวด แอบลำบากนิดนึง ยิ่งตอนดูหนังในโรงหนังน่ะ หยิบขวดขึ้นมาดังแกรบๆๆ คนข้างๆหันมามอง แต่พอกินเสร็จเนี่ย ความมันส์ บวก สะใจ จงบังเกิด ตีกะแฟนแย่งกันบิดขวด เวลาออกไปนอกบ้าน ดูหนัง กินข้าวข้างทาง ที่ซื้อเพราะมันบิดขวดได้เนี่ยแหละ นี่เราแอบโรคจิตป่าว ถามว่าไอเดีย ขวดนิ่มดีมั้ย เราสนับสนุนน่ะ ทำอะไรเพื่อโลกบ้างก็ยินดีจ๊ะ จากคุณ : Lady peggy เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:35:35

ความคิดเห็นที่ 16 แต่เราชอบที่พอเปิดแล้วมันมีเสียงเหมือนเปิดกระป๋องน้ำอัดลมอ่ะ เราไร้สาระไปมั๊ยเนี่ย 55555 จากคุณ : IN VOGUE เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:21:51

ความคิดเห็นที่ 17 เราเป็นหนึ่งในComment จากกระทู้ที่แล้วค่ะ ที่มีแนวโน้มเห็นแก่ตัวค่ะ ยิ้มรับความจริงค่ะว่าเราเห็นแก่ตัว ในบางเรื่องและในบางครั้ง แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ การไม่ใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกอย่างน้ำทิพย์ที่ลดปริมาณพลาสติกเป็นการเห็นแก่ตัว  งั้นเราว่า ทั้งคุณเจ้าของกระทู้และดิฉันก็เห็นแก่ตัวอยู่ค่ะ เพราะเรากำลังเห็นแก่ความสุขส่วนตัวเล่นคอมค่ะ เห้นมั้ยแค่นี้เราก็ไม่รักษ์โลกแล้วค่ะ ไม่ได้มาประชด แต่เรามาชี้ให้เห้นว่านี่คือความจริงบนโลกใบนี้ ว่าไม่มีใครทนทำในสิ่งที่ตัวเองไมชอบได้นานหรอกค่ะ ต่อให้คุณอ่านข้่อความเราปุ๊ปแล้วปิดคอมไปนอน คุณจะทนได้กี่วันว่าจะไม่เล่นคอมให้เปลืองไฟ การที่มนุษย์อยู่บนโลกใบนี้ เราก็ต่างหยิบยืมพลังงานจากคนในอนาคตมาใช้กันทั้งนั้นค่ะ แต่เราขอให้ใช้อย่างรู้คุณค่าอย่างมากที่สุด รบกวนเขาให้น้อย แต่มันยากที่จะทำ การที่น้ำทิพย์มีแคมเปญนี้เป็นสิ่งที่ดีอย่างที่เราบอกไป แต่น้ำทิพย์ไม่แฟร์กับผู้บริโภคค่ะ คุณลดปริมาณน้ำ อ้างการลดพลาสติก อ้างลดโลกโลก แต่สิ่งเดียวที่น้ำทิพย์ไม่พูดถึงคือ "การจะเอาทั้งหมดมาอ้างอิงเพื่อลดราคาน้ำ"  นี่คือความจริงใช่มั้ยค่ะ ถ้าให้เรามอง มองจากการเป็นเด็กการตลาด เราเชื่อว่าน้ำทิพย์ไม่ได้มองแค่ลดประมาณพลาสติกเพื่อลดโลกร้อน แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในเหตุผลเล็กๆที่ดูยิ่งใหญ่ที่น้ำทิพย์เอามาพูด เพื่อสร้างให้ผลิตภัณฑ์ดูยิ่งใหญ่แต่จับต้องได้ง่าย เพื่อคนที่ใส่ใจในโลก แต่เท่าที่เราคิดได้คือ พลาสติกคือต้นทุนหลักในการผลิตน้ำด้วยซ้ำ แพงกว่าค่าน้ำจริงมั้ยคะ การที่น้ำทิพย์จะลงทุนเป็นหลักร้อยหรือพันล้านเพื่อสร้างโรงงานใหม่ หรือเพื่อสร้างเครื่องจักรใหม่ โดยที่หวังแค่ลดโลกร้อน เราว่ามันคงไม่จริง สิ่งที่น้ำทิพย์คิดไกลไปล่วงหน้ามากแล้วก็คือ  ราคาพลาสติกที่สูงเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนในการผลิตนั้นจะสูงยิ่งขึ้นในอนาคต น้ำทิพย์คงเห็นจุดนี้และศึกษามาแล้วจึงกล้าจะฉีกและเริ่มต้นกับขวดน้ำอ่อนยวบเช่นนี้ เพื่อลดปริมาณต้นทุนในอนาคต วิธีนี้จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท และเป็นการต่อยอดไปในตัว และลดต้นทุนได้ตั้งแต่นี้   ไม่ว่าน้ำทิพย์จะบุกการตลาดแบบใด เราขอชื่นชมว่าคุณคิดดีค่ะ แต่มันยังไม่ใช่สำหรับคนในยุคนี้ มีหลายคนบอกว่าทำไมไม่ใช้กระติกน้ำไปเลย เพราะกระติกน้ำดีๆสวยๆบางตัวหนักมากค่ะ การใช้ขวดพลาสติกทำให้เหมือนว่าเพิ่งกินน้ำเหลือจากร้านอาหารมาแล้วหิ้วมากินต่อ ฮาๆๆดูงก แต่ไม่เคอะเขิน แต่ถ้าคุรจะยกกระติกน้ำขึ้นมาดูดหรือกระดก คนข้างๆจะคิดมั้ยว่าเราแอบไปจิกกระติกน้ำหลานที่บ้านมาใช้หรือเปล่าไม่รู้ฮาๆๆ รักษ์โลกมีหลายวิธีค่ะ มันไม่ใช่แค่หันมากินน้ำทิพย์แล้วโลกจะร้อนน้อยลงซะทีเดียว  มันมีวิธีอื่นอีกมากมายค่ะที่ทำเพื่อโลกได้ อยากบอกน้ำทิพย์ว่า บางทีก็เลิกเถอะ ไอ้การตลาดยัดเยียดอ่ะ คนเขาดูออกค่ะว่ามันไม่จริง จากคุณ : daniel_melody เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 22:18:47

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าออกแนวการตลาดเกินไป  วิธีการเขียนการตั้งกระทู้ของจขกทกระทู้นั้นทำให้ดูเหมือนมาโปรโมทสินค้า จากคุณ : นายวาคิม เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 19:55:23