ความคิดเห็นที่ 1 ของงด้วยคนค่ะ ไม่เคยได้ยินเลย จากคุณ : muayhongkong (muayhongkong) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:11:14

ความคิดเห็นที่ 2 จริงหรอคะ..เราใช้น้ำผึ้งพอกหน้าบ่อยๆ...รอผู้รู้มาขยายความด้วยค่ะ จากคุณ : Chocky_girl เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:15:20

ความคิดเห็นที่ 3 น้ำผึ้งปลอมรึเปล่า งงด้วยคน จากคุณ : เด็กหญิงพระจันทร์ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:16:12

ความคิดเห็นที่ 4 หมายถึงน้ำผึ้งเก่าหรือเปล่า แบบมีจุลินทรีย์ในน้ำตาล เพราะมันชอบ ผมเดานะ จากคุณ : แดนอาทิตย์อุทัย เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:18:08

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันค่ะ  เพื่อน จขกท.เป็นหมอด้านผิวพรรณหรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หรือเปล่าคะ เข้ามาอธิบายให้กระจ่างที ได้โปรดอย่ามาทำให้กลัวแล้วจากไป เพราะทุกวันนี้เอาน้ำผึ้งละเลงหน้าอยู่ค่ะ แล้วสักพัก็เอามะขามกลุ่มแม่บ้านดอกคำใต้ลงต่อ แต่หนังหน้ายังไม่ติดเชื้อใดๆนะคะ ยังเหมือนคนปกติอยู่ ไม่รู้ว่าจะมีผลในระยะยาวไหม   เค้ารอฟังอยู่นะตัวเอง ปล.เคยอ่านเจอแต่ว่ามันมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้   แต่บางครั้งน้ำผึ้งก็มีเอนโดสปอร์ในระยะพักตัวของแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารก เพราะเอนโดสปอร์สามารถแปลงเป็นแบคทีเรียที่ผลิตชีวพิษในทางเดินอาหารที่ยังไม่เจริญเต็มที่ของทารก ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บป่วยและอาจถึงแก่ชีวิต เครดิตจากเวป วิกิพีเดีย จากคุณ : ชื่อนี้ดีใช้แล้วสวย เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:21:32

ความคิดเห็นที่ 6 หมอที่รักษาหน้าของเพื่อน บอกมาครับ น้ำผึ้งทั้งเก่าและใหม่ ห้ามเด็ดขาด ผมจึงอยากทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร จากคุณ : จขกท (Think Believe) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:30:24

ความคิดเห็นที่ 7 พอกมาหลายปีตั้งแต่อายุ 20 กว่าจนตอนนี้อายุ 30 กว่า ก็ยังไม่เห็นหน้าพังนะคะ ยังไม่เคยหาหมอผิวหนังเพราะนำ้ผึ้งเหมือนกัน จากคุณ : ส้มกลมกลิ้ง เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:35:37

ความคิดเห็นที่ 8 เหรอคะ ทำไมจากข้อมูลเห็นเว่า มีคุณค่าทางยาฆ่าจุลินทรีย์และเชื้อต่างๆ ได้ น้ำผึ้งทําอะไรได้บ้าง 1.บำรุงสุขภาพ น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่นดื่มทุกวัน 2. อดนอน น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมน้ำผลไม้ 3. ยาอายุวัฒนะ น้ำผึ้ง ½ -1 ช้อนโต๊ะ ดื่มทุกวัน เช้า / ก่อนนอน 4. นอนไม่หลับ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มเวลาอาหารเย็นหรือก่อนนอน 5 .ไอ หลอดลมอักเสบมีเสมหะ กระเทียม 1-2 กลีบ (ตำให้ละเอียด) น้ำมะนาว ½ เกลือเล็กน้อย พิมเสนหรือการบูร 2-3 เกล็ด น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ 6. ท้องอืด ท้องเฟ้อ น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะน้ำขิงเข้มข้น ½ ถ้วย เกลือเล็กน้อยดื่มวันล่ะ 3 เวลาหลังอาหาร 7. ท้องผูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มก่อนนอน 8. เด็กปัสสาวะรดที่นอน น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (ไม่ผสมน้ำ) ดื่มก่อนนอน 9. ท้องเสียรุนแรง น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือ ½ ช้อนชา ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว 10. เด็กหวะนม น้ำผึ้ง ½ -1 ช้อนโต๊ะ ผสมนมให้เด็กดื่ม 11. กล้ามเนื้อเป็นตะคริว น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ดื่มทุกเมื่ออาหาร 12. ล้างแผล แผล ฝี หนอง แผลเรื่อรัง น้ำผึ้ง 1 ส่วน ผสมน้ำ 9 ส่วนชะล้างแผล หัวหอมแดง 2 หัวตำให้ละเอียด+น้ำผึ้งพอกฝี น้ำสุกที่เย็นแล้วล้างให้สะอาด ใช้สำลีหรือผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดบริเวณแผล 13. แผลไฟไหมน้ำร้อนลวก ถูกท่อไอเสีย ใช้ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดแผล ไว้แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลทุก 12 ชั่วโมง 14. โรคกระเพาะ ดื่มน้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะขณะปวด และ 3 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน 15. ผู้ป่วยด้วยโรคพิษสุรา(ตับแข็ง/โรค ตับ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ ½ ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งเป็น ประจำ คอเหล้าดื่มน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนนอน 16. ผู้ป่วยริดสีดวงทวาร น้ำผึ้งผสมกระเทียมโทน บริโภควันละ 3 ครั้งหลังอาหาร 17. เด็กโตช้า และโลหิตจาง น้ำผึ้งผสมนมดื่มเป็น ประจำ 18. เสียน้ำหรือเสียเลือด( 10-20 % ) น้ำ 1 ถ้วยแก้วผสมเกลือ ¼ ช้อนชา น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ 19. โรคเด็ก (ทางเดินอาหารผิดปกติ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วย 20.ผสมกับเครื่องดื่มก็ได้หรืออยากจะทำ DETOX ร่างกายก็ได้ http://www.pawanatour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539125168 http://www.n3k.in.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87 http://www.azooga.com/content_detail.php?cno=680 จากคุณ : googleช่วยได้ค่ะ (Much the same) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:39:22

ความคิดเห็นที่ 9 ขอpaperจากหมอได้ไหมคะ เราจำได้ว่า เพื่อนเราเป็นเภสัช สมัยเรียน ก็ท่ิงว่า น้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยา มากมาย จากคุณ : เจ้านู๋คากิ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:39:39

ความคิดเห็นที่ 10 อย่านะอุส่าซื้อที่ล้างหน้าของอภัยภูเบศมาใช้ มันผสมมะขามกับน้ำผึ้งมาพร้อมแล้ว ไม่อยากเก็บเข้าพระคลังสินค้า จากคุณ : kamonyim เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:39:55

ความคิดเห็นที่ 11 เท่าที่รู้ น้ำผึ้งมีสรรพคุณฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบนะ จากคุณ : Big Belly Mama เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:40:21

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำผึ้งคุณค่าทางยาฆ่าจุลินทรีย์และเชื้อต่างๆ ได้ โดยน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของ น้ำตาลสูง มีแรงดูดซึม ทำให้จุลินทรีย์ที่ตกลงในน้ำผึ้งเหี่ยวตาย เมื่อเอาน้ำผึ้งมาละลายน้ำ กรดที่มีในน้ำผึ้งแสดงปฏิกิริยาได้และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่เกิดขึ้น สามารถฆ่าจุลินทรีย์ได้ด้วย น้ำผึ้งถูกนำไปใช้ในการฆ่าเชื้อโรคมา ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวอียิปต์ใช้น้ำผึ้งแช่ศพกันเน่าเปื่อยได้ ดังนั้นเมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผลจะสามารถ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และทำให้แผลไม่เกิดการอักเสบอีกด้วย และเราเองก็เคยเห็นการรักษาแผลผ่าตัดโดยการทาน้ำผึ้งด้วยนะ ที่หมอห้าม อาจเป็นเพราะไม่แน่ใจในที่มาของของน้ำผึ้งหรือเปล่า อันนี้เป็นข้อสังเกตุนะ เพราะเด๋ยวนี้ชอบมีคนเอาน้ำผึ้งผสมน้ำตาล หรือเอาน้ำตาลมาผสมเกษรดอกไม่ขายมากมาย ดังนั้นเราคิดว่าถ้าน้ำผึ้งมีแหล่งผู้ผลิต มีฉลากชัดเจน นา่่เชื่อถือก็ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ ที่มา  เว็บ สสส. จากคุณ : Pharmacy_me เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:42:06

ความคิดเห็นที่ 13 เราก็กินยาสมุนไพรที่มีน้ำผึ้งเป็นตัวทำละลายนะคะ จากคุณ : prettylatte เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 23:59:58

ความคิดเห็นที่ 14 ที่เรารู้มาคือแบบ คห 12 ค่ะ จากคุณ : wawaei เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:02:40

ความคิดเห็นที่ 15 คือเชื้อแบคทีเรียมันชอบน้ำตาล และน้ำผึ้งก็มีน้ำตาลเยอะ เลยมีคนอาจเข้าใจว่าน้ำผึ้งเป็นแหล่งอาหารในการเพาะเชื้อแบคทีเรียอย่างดี แต่จริงๆแล้วน้ำผึ้งจะมีความเข้มข้นสูงจนแบคทีเรียทั่วไปไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เนื่องจากสภาพเซลล์ของมันเองจะขาดน้ำตายไป (หลักการออสโมซิส) ยกเว้นแบคทีเรียบางชนิดที่สามารถมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาวะความเข้มข้นสูงแบบนี้ได้ (หาได้ยาก) จากคุณ : ไม่ได้อ่าน เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:06:13

ความคิดเห็นที่ 16 เอามากินอร่อยกว่า แผล่บๆ จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:10:29

ความคิดเห็นที่ 17 น้ำผึ้ง...น้ำหวานที่มากคุณค่า เพื่อสุขภาพ คำว่า "น้ำผึ้ง" จากอดีตจนถึงปัจจุบัน คนทุกชาติทุกภาษายอมรับว่าเป็นยาอายุวัฒนะขนานแท้ สำหรับคนไทยเรารู้จักผึ้งและคุณค่าของน้ำผึ้งมาแต่โบราณกาล ที่เป็นหลักฐานเด่นชัดก็คือ หลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีตัวอักษร "ผ" ปรากฏอยู่ และนอกจากนี้ ในประวัติศาสตร์ศาสนาต่างๆ เกือบทุกศาสนาทั่วโลกก็ได้มีการจารึกถึงคุณประโยชน์ของผึ้ง และน้ำผึ้งไว้ด้วย "น้ำผึ้ง" เป็นอาหารที่ให้ความหวานที่เก่าแก่ที่สุด เป็นน้ำตาลบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ปราศจากเชื้อโรค ปลอดภัยต่อการบริโภค สรรพคุณของน้ำผึ้งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษายอมรับถึงคุณประโยชน์ของการใช้เป็นอาหารบำรุงสุขภาพ และมีความเชื่อถึงสรรพคุณทางยา แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น สถาบันแพทย์แผนไทย ระบุว่า น้ำผึ้ง เป็นสารที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย บำรุงประสาทและสมองให้สดชื่นแจ่มใส เป็นต้น ในสมัยโบราณถือว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นของกำนัลที่มีมูลค่าสำหรับผู้ให้และผู้รับเสมอมานับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จากน้ำหวาน...เป็นน้ำผึ้ง น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ผึ้งงานเก็บจากต่อมน้ำหวานของดอกไม้ หรือต้นไม้ ที่ผ่านกระบวนการย่อยภายในตัวผึ้ง แปรสภาพน้ำหวานให้กลายเป็นน้ำผึ้ง ขณะกำลังบินกลับรัง แล้วคายออกมาเก็บไว้ในหลอดรวง ผ่านการระเหยน้ำโดยผึ้งช่วยกันกระพือปีกไล่ความชื้น จนน้ำผึ้งในหลอดรวงนั้นมีความชื้นน้อยกว่า 20% ฝาหลอดรวงรังปิด จึงจัดเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน มีอะไรบ้าง?ในน้ำผึ้ง คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า น้ำผึ้ง คือน้ำตาล แต่ความจริงแล้ว น้ำผึ้งไม่ใช่น้ำตาลธรรมดาแต่เป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว ที่ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมไปใช้ได้ง่าย องค์ประกอบที่สำคัญๆ ในน้ำผึ้ง มีดังนี้ 1. น้ำ หรือความชื้นที่มีอยู่ในน้ำผึ้ง มีประมาณ 17-18% โดยมาตรฐาน โดยทั่วไปมีความชื้นไม่เกิน ร้อยละ 21 จะทำให้เก็บไว้ได้นาน ไม่บูดเสียง่าย 2. น้ำตาล มีไม่ต่ำกว่า 17 ชนิด เช่น ฟรุกโทส กลูโคส ซูโครส มอลโทส เป็นต้น น้ำผึ้งเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำผึ้งมีรสหวาน 3. กรด ในน้ำผึ้งมีหลายชนิด ได้แก่ กรดกลูโคนิก นอกจากนี้ ยังมีกรดอะมิโน ถึง 16 ชนิด กรดเกลือ และกรดกำมะถันรวมอยู่ 4. แร่ธาตุ ได้แก่ โพแทสเซียม คลอรีน กำมะถัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซิลิคอน เหล็ก แมงกานีส ทองแดง ถึงจะมีปริมาณไม่มากนัก แต่ก็อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ประมาณ 0.02-1% 5. เอ็นไซม์ ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาที่มีประโยชน์ต่างๆ เช่น - กลูโคสออกซิเดส เปลี่ยนกลูโคส กรดกลูโคนิก+ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อโรค เช่นเดียวกับสารอินฮิบิน แต่สารอินฮิบินจะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อนประมาณ 57 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 ชั่วโมง - อินเวอร์เทส ช่วยย่อยน้ำตาล ซูโครส เดกซ์โทรส และ ลีวูโลส แต่เอ็นไซม์ชนิดนี้จะสลายตัว เมื่อได้รับความร้อนมากกว่า 58-59 องศาเซลเซียส นาน 10 ชั่วโมง - ไดแอสเตส ช่วยย่อยแป้ง น้ำตาล แต่ความจริงแล้วจะไม่มีแป้งอยู่ในน้ำหวานของดอกไม้ ทำให้ไม่ต้องใช้เอ็นไซม์ตัวนี้ แต่เป็นเพียงตัวบ่งชี้ให้รู้ว่า เป็นน้ำผึ้งที่มีไดแอสเตส มากน้อยเพียงใด 6. วิตามิน ที่พบมีหลายอย่าง เช่น บี 1 บี 2 ซี บี 6 และวิตามินบีรวม แตกต่างกันตามชนิดของเกสรดอกไม้ในน้ำผึ้งนั้น 7. โปรตีน และกรดอะมิโน น้ำผึ้ง...กับคุณสมบัติทางยา น้ำผึ้ง สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้จะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียต้องการใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดและมีปริมาณโปรตีนต่ำ ทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้ น้ำผึ้ง ยังมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และสารแอนติออกซิแดนต์ เช่นเดียวกับที่มีในผักใบเขียว และยังมีวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงโลหิต ปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนักได้ นอกจากนี้ ในน้ำผึ้งยังมี "โพลเลน" ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติ มีฤทธิ์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ดังนั้น เวลาที่เราได้รับบาดเจ็บมีแผลเล็กน้อย เช่น แผลถลอก รอยขีดข่วนต่างๆ ก็สามารถใช้น้ำผึ้งทาเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ และน้ำผึ้งยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถแก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี จำได้ว่าน้ำผึ้งกำมะถัน  เลยไปหามาให้  ผมว่าอันนี้อธิบายเข้าใจง่ายดีครับ  ขอบคุณน้องที่สร้างข้อมูลให้เราได้อ่านด้วยนะครับ จากคุณ : ลำดวนดอย เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:15:11

ความคิดเห็นที่ 18 เราพอกหน้าทุกวัน แฟนบอกว่าแผลที่เป็นสะเก็ดหายเร็วดีนะ จากคุณ : Sweet Georgia Brown เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:53:00

ความคิดเห็นที่ 19 หมอของเพื่อน จขกท   เรียนจบจากที่ไหนมา? ข้อมูลแน่นอน  หรือ มั่วเอา จากคุณ : princessizz เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 00:56:08

ความคิดเห็นที่ 20 เราชอบหมุนฝาแล้วดูดจากหลอด / น้ำผึ้งจิตรลดา อะครับ จากคุณ : BankZGee เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 01:20:20

ความคิดเห็นที่ 21 หมอ จขกท ไม่อยากให้หน้าดีขึ้นรึเปล่า เลยบอกแบบนั้น ว่าอย่าเอามาพอก ถ้าพอกละหายคนไข้หมอจะหายไป 1 คน  * เดาๆน่ะค่ะ แต่น้ำผึ้งมีแต่คุณ ไม่น่ามีโทษนอกจากกินเยอะไป ทำให้อ้วน :3 จากคุณ : ชาวหมีหมีสีชมพู เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 04:50:18

ความคิดเห็นที่ 22 เภสัชกร ขอมาตอบนะครับ ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้เดี่ยวๆ  มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจริง  ดังที่เป็นความรู้ที่ทราบๆกันมาครับ เพราะเนื่องจาก  ความเข้มข้นน้ำ  ไม่เกินระดับต่ำสุดที่สามารถให้เชื่อเติบโตได้ครับ แต่ถ้านำไปผสมกับอย่างอื่น  หรือ  นำไปพอกหน้าแล้วล้างไม่สะอาด  ก็จะเป็นปัญหาแน่นอนครับ เพราะน้ำตาลก็เป็นอาหารของเชื้อต่างๆชั้นดีเช่นกันครับ จากคุณ : PandaMAN7777777 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 04:57:47

ความคิดเห็นที่ 23 เราใช้น้ำผึ้งแล้วสิวขึ้นสงสัยจะล้างไม่เกลี้ยง จากคุณ : ผัดกะเฉด (ผัดกะเฉด) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 05:22:56

ความคิดเห็นที่ 24 เราว่าไม่นะ ไม่งั้นในอดีต หมอเค้าจะเอามาใส่แผลทำไมอ่ะ จากคุณ : ทะเลตะวัน เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 07:50:02

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่จริงค่ะ สรระคุณของน้ำผึ้งคือการฆ่าเชื้อด้วยค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPad (ann_aa) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 08:52:03

ความคิดเห็นที่ 26 ตามความเห็น 12 ค่ะ เราทำแผลให้น้องหมาบางทีก็เอาน้ำผึ้งใส่นะ ฆ่าเชื้อด้วยแล้วก็ให้ความชุ่มชื้น ที่คุณหมอเค้ากลัวน่าจะกลัวพวกแบคทีเรียประจำถิ่น(แบคทีเรียตัวดี)บนหน้าตายไปด้วยน่ะค่ะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วพวกแบคทีเรียตัวไม่ดีจะเข้ายึดพื้นที่แล้วสร้างความเสียหายใ้ห้หน้าเรา จากคุณ : กระต่ายน้อยเซนทาโร่ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 09:08:03

ความคิดเห็นที่ 27 อยากรู้ด้วยคนค่ะ แต่ที่แน่ๆ เราแพ้น้ำผึ้งอ่ะ เอามาพอกหน้าไม่ได้เลย >_< จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 09:35:15

ความคิดเห็นที่ 28 หน้าของเพื่อน จขกท อาจแพ้ก็ได้ คุณหมอจึงห้ามใช้ อีกอย่างเราว่า หน้าเค้าอาจเป็นสิวเยอะ ยิ่งใช้อะไรมั่วๆนอกจากยาคุณหมอ แล้วอาจจะไม่หายนะค่ะ จากคุณ : babydollcute เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:02:34

ความคิดเห็นที่ 29 มีความรู้เรื่องน้ำผึ้งขึ้นมาก ขอบคุณ จขกท ที่ตั้งกระทู้นี้มาให้แสดง คห กันค่ะ จากคุณ : มังคุดม่วง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:10:41

ความคิดเห็นที่ 30 เคยไปขัดหน้า นวดหน้า แล้วเขาไม่พอกน้ำผึ้งให้ โวยวายซ้าาาา  เขาเลยพอกให้ เช้ามาสิวอักเสบเลย 55555 จากคุณ : beautystone เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 14:06:25

ความคิดเห็นที่ 31 บ้านเราใช้น้ำผึ้งเดือน 5 เชียวนะ 5555 จากคุณ : ตัวบรรจง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 16:28:10

ความคิดเห็นที่ 32 เราแพ้น้ำผึ้งของเขาค้อทะเลภูค่ะ (สูตรผสมน้ำมันหอมระเหย) ทาไปทั่วหน้าปุ๊บแดงร้อนขึ้นผื่นเต็มเลย 3-4 ชั่วโมงกว่าจะยุบ ทำเอาไม่กล้าเอาน้ำผึ้งแบบอื่นมามาร์สกหน้าเลยค่ะ มีใครเคยใช้ยี่ห้อนี้แล้วแพ้บ้างมั้ยคะ จากคุณ : สุดสวาทขาดใจ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 18:18:49

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณเพื่อนๆ ห้องแป้งที่เข้ามาตอบกะทู้ ทุกๆคนนะครับ ผมได้ทราบในสิ่งที่สงสัย และจะนำเรื่องนี้ไปบอกเพื่อน ต่อไปนี้จะได้ใช้น้ำผึ้งได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะเปรียบเสมือนยาประจำบ้านไปแล้ว ผมให้กิ๊ฟทุกคนนะครับ จากคุณ : Think Believe เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 18:47:29

ความคิดเห็นที่ 34 PandaMAN7777777 อร๊างงง!!! จากคุณ : นิฮงโกะ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 19:34:15

ความคิดเห็นที่ 35 #32 เราก็ใช้จ้า แต่เราไม่แ้พ้ เดาว่าที่คุณแพ้ ไม่ใช่น้ำผึ้ง แต่เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ผสมมากกว่า เพราะน้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติทำให้หน้าระคายเคืองได้ง่าย แต่เผอิญ หน้าเราหนา เลยไม่เป็นไร 55555 ถ้าผิวแพ้ง่ายเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นที่เป็นน้ำผึ้ง 100% น่าจะดีกว่านะคะ จากคุณ : oyster tragidy เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:04:21

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วใช้น้ำผึ้งยี่ห้ออะไรกันบ้างคะ เราเอามาผสมเบกกิ้งโซดาแล้วพอกตัว ใช้น้ำผึ้งจิตลดาอ่ะค่ะ จะเป็นไรมั๊ยคะ เห็นว่าต้องนิำผึ้งแท้ถึงจะดี แล้วจิตลดาแท้มั้ยคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (LockEt) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:27:49

ความคิดเห็นที่ 37 เราใช้น้ำผึ้งแท้ พวกกะเหรี่ยงจะไปตีมาขาย ผึ้งหลวงรังใหญ่มากกก ใหญ่เท่าระฆังเลย แถมต้นที่ผึ้งเกาะ จะเรียกว่าต้นผึ้ง มีเป็นสิบๆรัง พ่อซื้งปีละหน หนนึงสองหมื่นได้ ได้มาหลายสิบขวดเลยค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ยัยหนูมิสา) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 07:40:57

ความคิดเห็นที่ 38 คห.35 ปกติเราก็หน้าหนานะคะ ไม่เคยแพ้อะไรเลย เจอตัวนี้ไปลมแทบจับ แต่แอบสงสัยเหมือนกัน เพราะมันมีเหมือนเกล็ดน้ำตาลตกผลึกด้วย ปกติน้ำผึ้งแท้มันไม่ตกผลึกนะคะ ของคุณ คห.35 มีผลึกนอนก้นขวดมั้ยคะ จากคุณ : สุดสวาทขาดใจ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 09:02:47

ความคิดเห็นที่ 39 น้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็น antioxidant โดยธรรมชาตินะคะ แต่ที่เราไม่ค่อยนิยมใช้เป็นสารกันการออกซิแดนซ์ของยาเพราะมันมีส่วนผสมไม่แน่นอน แต่เราว่ามันไม่ใช่สารแพร่เชื้อแน่นอนค่ะ ตอนแรกเราว่าจะเปิดชีทหาดูแล้ว แต่ขี้เกียจลุก 55 จากคุณ : marina_rain เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 16:04:32