และเรื่อง ตัวเลขน้ำหนัก ถ้าจะลดก้ขอแนะค่ะว่า = = อย่าชั่งมาก
เพราะว่ามันจิตตกจริงๆนะ ถ้าลั่นวาจาว่าจะเอาออกสัก 20 โล<--- เป้าหมายนี้ใหญ่เกินนะคะ
อาจจะใช้เวลาเป็นแรมปี แทนที่จะคิดเรื่องตัวเลขให้มันลงเยอะๆ ให้เปลี่ยนความคิดค่ะ
ตั้งเป้าแทนว่าเอาล่ะฉันจะดื่มน้ำเช้าๆทุกวันหลังตื่นนอน หรือว่าจะทานอาหารให้มัน clean กว่านี้
ลำไส้จะได้ทำงานดี (อาการคลีนคืออาหารที่ปรุงแต่งน้อยค่ะไม่เน้น รสจัดและ ทอดหรือผัดน้ำมันเยอะ
วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่นับพวกอาหารกล่องสำเร็จ หรือกระป๋อง รวมถึงอาหารแปรรูปเช่นไส้กรอก ปูอัด )
หรือว่าจะทำปิ่นโตเองทุกวัน หรือว่าฉันจะงดน้ำอัดลม งดขนมของหวานๆแทน
และตั้งเป้าว่าฉันจะออกกำลังกายแบบถวายหัว ตายเป็นตาย ไม่เหนื่อยสุดก็ๆไม่หยุด
(ปล. อย่าออกจนหัวใจล้มเหลวนะ เดี๋ยวฉันโดนฟ้อง > < )
ในวันที่เธอทำได้ตามเป้าหมายแล้วเธอจะเริ่มรู้สึกว่า การเพ่งไปที่ นน. ตัวเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี
เพราะถึงคราวนั้น ร่างกายเธอจะผอมลง เริ่มมีเอวเป็นสัดส่วนกับเค้า นน. อาจจไม่ต่างจากเดิมนัก
แต่เชือ่เถอะว่า ต้องมีคนทักแน่ๆเฮ้ยผอมลงเยอะเลย วิธีที่มั่นคงและปลอดภัยเช่นนี้รับรองว่า
ดีกว่าชะนีที่อดข้าว ตัดมื้อเย็น นับแคลอรี่ หรือกินตามสูตรแน่นอน คนเหล่านั้นโอเคค่ะ นน.
อาจจะลงฮวบๆ ปลาบปลื้มตัวเลขน้อยๆบนตาชั่ง แต่ให้มองที่รูปร่าง
สัดส่วนมันต่างจากคนออกกำลังกาย และกินอิ่มอย่างแฮ๊บปี้แต่เลือกอาหารแน่นอน(เชื่อขนมกินได้)
เราต้องเปลี่ยนทศนคติค่ะ ว่าเรากำลัง 'ลดความอ้วน เน้นสัดส่วน' ไม่ใช่ 'ลดน้ำหนัก'
สองคำนี้แลดูเหมือนความมหายใกล้เคียงกันนะคะ แต่จริงๆแล้ว ผลลัพธ์(result)ต่างกันมากเลยค่ะ
เพราะอะไรรู้มั้ยคะ เวลาเราเดินถนนข้างนอก เราไมีมีตัวเลขน้ำหนักแปะบนหน้าผาก
ให้คนเค้าทึ่งกับ นน. น้อยๆหรอกค่ะ สิ่งที่ตาของคนนอกมองเห้นคือสัดส่วนโค้งเว้า
และสุขภาพความแจ่มใสบนใบหน้าของเราล้วนๆ
ผู้หญิงคนไหนที่ชอบ ลดน้ำหนักและพุ่งเป้าว่าจะทำยอดตัวเลขได้เยอะๆ ขอให้ดูรูปนี้นะคะ
เพราะว่า "ชีวิตคุณสำคัญกว่าตัวเลขบนตาชั่งค่ะ"
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 14:28:34
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 13:58:17
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 13:30:37
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 13:21:03