Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ บทที่ 14 อาณาจักรมาเฟียเฉินฮ่าวหมิง vote ติดต่อทีมงาน

ข้อมูลเบื้องต้น

นิยายรักโรแมนติก วงการแพทย์ ระหว่างสูติแพทย์สาวห้าว แกร่ง ไม่เคยกลัวใคร
กับหนุ่มน้อยอดีตนักศึกษาแพทย์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

อดีตคนรักที่มีเรื่องเข้าใจผิดจนต้องพลัดพรากจากกันไป สิบปีต่อมา


เขากลับมาอีกครั้งในสถานมหาเศรษฐีมาเฟียลึกลับนามเฉินฮ่าวหมิง
โดยอาศัยความผิดพลาดทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นในวันที่เธออยู่เวร
จนทำให้หญิงสาวครรภ์แก่ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

ทั้งแม่และลูก เขาฉวยโอกาสใช้จังหวะนี้บีบบังคับให้เธอมาอยู่กับเขา

 เขาตั้งใจจะอาศัยสถานใหม่ หลอกให้เธอหลงรักแล้วทิ้งเธอไปเช่นเดียวกับที่เธอเคยทำกับเขา


แต่แล้วเมื่อได้พบเธออีกครั้ง เขากลับพบว่า เธอกลายเป็นแพทย์ ทีีมีจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์เต็มตัว

เธอคืดว่าเธอเป็นผู้พิทักษ์ชาวโลกหรือไงกันนะ แถมไม่ใช่เธอคนเดียว ดันดึงเขาไปเอี่ยวด้วยทุกงาน
แล้วเป็นไง เวลาเธอเดือดร้อน ถูกฟ้องร้อง ถูกเข้าใจผิด ถูกสังคมตราหน้า แม้แต่คำว่าแพทย์ เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะใช้นำหน้าชื่อของเธอ


ก็เป็นเขา ที่คอยช่วยเหลือเธอตลอด แล้วไงล่ะ พอเธอรอดปลอดภัย เธอกลับสลัดนายเฉินฮ่าวหมิงเหมือนรองเท้าเก่าๆ
มัวแต่ไปคร่ำครวญถึงไอ้บ้าคนหนึ่งที่หายสาบสูญไปเป็นชาติแล้ว


เขาพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถดึงเธออกจากหมอนั่นได้

เรื่องคงไม่ยาก ถ้าไอ้บ้าที่เธอไม่เคยลืมก็คือเขาในอดีต 

เพราะไม่กล้าเปิดเผยให้เธอรู้ว่าเขาเคยหลอกเธอ

เขาเลยต้องกลายเป็นผู้ชายสองคนวิ่งสลับกลับไปกลับมา

ถ้าเธอไม่จับได้ก่อน เขาก็คงเหนื่อยตายไปเสียก่อน

แล้วเขาจะทำอย่างไรดี ปวดหัวจริงโว๊ย 

ยังไงเสีย เขาต้องตัดใครสักคนทิ้งไป

ไม่นายเฉินฮ่าวหมิง ก็ต้องเป็นนายเตชิต ใครสักคนต้องหายสาบสูญไป

แต่ที่แน่ ไม่ว่าจะเหลือใครไว้ เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอเป็นอันขาด



 
รถแอมบูแลนซ์สีขาวแล่นผ่านประตูอัลลอยด์สูงใหญ่ ไปตามถนนคอนกรีตยาวโค้ง ที่ทอดตรงไปสู่ลานกว้างหน้าคฤหาสน์หรูสีขาวสง่างาม จุดเด่นแปลกตาที่มองเห็นแต่ไกลคือกลุ่มคนจำนวนไม่ต่ำกว่าห้าสิบคนในชุดเครื่องแบบพนักงานรับใช้กำลังยืนเรียงแถวหน้ากระดานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยละม้ายกำลังรอคอยบุคคลสำคัญที่จะมาถึง
 
​ปันนาแนบหน้ากับกระจกใสข้างรถ ดวงตากลมโตใสแจ๋วเพ่งมองออกไปรอบๆอาณาบริเวณตั้งแต่ แนวต้นไม้ใหญ่ทั้งไม้ยืนต้น และไม้ประดับ จัดตกแต่งในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ เลยไปถึงสนามหญ้กว้างใหญ่สีเขียวขจีตัดเรียบสม่ำเสมอ ราวกับคลี่กำมะหยี่ผืนใหญ่ไว้โดยรอบผืนดินกว้างสุดลุกหูลุกตาที่ไม่รู้ว่าอาณาเขตบองตัวบ้่านไปสิ้นสุดที่ตรงไหน
 
​ก่อนจะเดินทางมาที่นี่ ในสมองของปันนามีแต่เรื่องการเตรียมพร้อมทางด้านเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์เคมีภัณฑ์ต่างๆ และหยูกยาที่จำเป็นต้องใช้ ตลอดจนแผนการรับมือหากเกิดกรณีฉุกเฉิน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 
​และตั้งแต่ล้อรถเคลื่อนออกจากโรงพยาบาล หัวใจดวงน้อยๆ ก็เอาแต่เต้นตึกตักตึกตัก มือไม้เย็นเฉียบ
 
​ใบหน้าของเตชิตลอยซ้อนทับกับเฉินฮ่าวหมิงที่หล่อนได้เห็นเพียงแวบเดียว จนไม่มีช่องว่างในสมองมาจินตนาการถึงสถานที่ซึ่งจะต้องเข้ามาเกี่ยวพันอีกยาวนาน
 
​กระนั้นเมื่อได้เห็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่ คฤหาสน์โอ่อ่าสง่างามที่เกือบจะไม่ต่างจากวังของเชื้อพระวงศ์ในยุโรปสักเท่าใด ก็ทำให้หญิงสาวอดตื่นตาตื่นใจไปด้วยไม่ได้
 
​ยิ่งเมื่อรถเข้ามาใกล้จนเห็นชุดยูนิฟอร์มเป็นระเบียบ สวยเก๋ของพนักงานในบ้านทั้งชายหญิงที่ออกมายืนเข้าแถวรอต้อนรับ ปันนาก็เกิดอาการประหม่า จนอดก้มดูเสื้อผ้าที่สวมใส่มาไม่ได้
 
 
​เสื้อเชิ้ตแขนยาวพับเหนือข้อศอกถึงจะเก็บชายเรียบร้อยใต้ขอบกางเกงยีนสีน้ำเงินซีดๆ แต่เมื่อเทียบกับความเลิศหรูอลังการ์ของสถานที่และคนก็ลดทอนความมั่นใจของปันนาไปกว่าครึ่ง
 
 
​ทอฝันมีความสำคัญถึงขนาดต้องมีคนมาตั้งแถวยืนรอต้อนรับขนาดนี้เชียวหรือ 
 
แล้วเหตุใด สามีของหล่อน นายเฉินฮ่าวหมิงจึงโผล่มาเยี่ยมเพียงแค่ครั้งเดียว ก็คือครั้งที่หล่อนเห็นเขาวันนั้นนั่นแหละ
 
 
​ปันนาไม่มีโอกาสคิดนานเพราะทันทีที่รถจอดเทียบบันไดหินอ่อนหน้าตึก มารุตก็เปิดประตูข้างคนขับก้าวลง มาเป็นคนแรก 
 
ชายหนุ่มรีบเดินไปด้านข้างช่วยเลื่อนประตูฝั่งปันนาออก 
 
หคากหญิงสาวยังไม่ทันก้าวลงมายืนแตะพื้นเต็มตัว
 
แถวหน้ากระดานทั้งหลายก็พร้อมกันย่อตัวลงยกมือกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อม
 
​“พวกเราทุกคนที่นี่ขอต้อนรับคุณหมอปันนา บริรักษ์บดีกุลด้วยความยินดี” เสียงพูดราวกับซักซ้อมกันมาอย่างดีดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน
 
​“เย้ย” ปันนาสะดุ้งโหยงปรับตัวไม่ทัน
 
​ยังไม่ทันตั้งหลัก ก็มีระลอกสองตามมา
 
​“พวกราทุกคนยินดีและเต็มใจรับใช้คุณหมอปันนาเสมือนเป็นเจ้านายคนหนึ่งของพวกเรา”

คราวนี้ปันนาถึงกับอึ้งกิมกี่
  
ไม่อยากเชื่อ นายเฉินฮ่าวหมิงจะให้คนมาตั้งแถวรอรับหล่อนถึงขนาดนี้

นึกถึงคำพูดตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อนกับผอ.

"ผอ.ไม่เกณฑ์คนมาตั้งแถวรอรับเลยล่ะคะ เค้าจะได้ปลื้ม"

อยู่ดีๆก็ขนลุกชันขึ้นมาเฉยๆ หรือว่าเขาจะได้ยินคำพูดประชดประชันของปันนาในคืนนั้น


  เป็นไปไม่ได้หรอก คนอะไรจะมีหูตาทิพย์ขนาดนั้น

  เอ๊ะ! รึว่านายนั่นจะติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วโรงพยาบาล
 
  ไม่จริงมั๊ง นายเฉิ่มจะว่างจัดขนาดวันๆเอาแต่แอบฟังชาวบ้านคุยกันเชียวหรือ


  แล้วถ้าจริงล่ะ

ก็แปลว่ายายกล้วยกำลังหลงเข้ามาอยู่ในดงคนบ้านะสิ ใครว่าดงเสือ
 
  “สวัสดีค่ะคุณหมอปันนา” หญิงร่างท้วมท่าทางใจดี อายุน่าจะเลยวัยกลางคนไปไม่กี่มากน้อย ขยับออกจากหัวแถวทักทายปันนาอย่างเป็นทางการเมื่อเห็นอาการกระอักกระอ่วนของหญิงสาว


                 “ดิฉันชื่อนิ่มนวล จะเรียกนิ่มเฉยๆก็ได้ เป็นแม่บ้านที่นี่ หรือเรียกเท่ๆก็ผู้จัดการบ้าน แต่ถ้าเรียกให้ตรงตามลักษณะงานก็หัวหน้าคนใช้ค่ะ ถ้ามีอะไรต้องการอะไรก็สั่งได้ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”


  “แหม...แหะๆ” ปันนายิ้มแหยๆเมื่อตั้งตัวได้  “ไหนไหนก็ไหนๆ ขอสวัสดีทุกๆคนเลยนะคะ” แล้วหญิงสาวก็ยกมือไหว้กราดไปทั่วตั้งแต่หัวแถวจรดปลายแถว “ต่อไปนี้คงต้องฝากเนื้อฝากตัว ฝากปากฝากท้องไว้ด้วยคนนะค้า..งคุณป้านิ่ม” ถือโอกาสตีสนิทคนสำคัญเสียเลย


  รอยยิ้มด้วยความเอ็นดูประดับไปทั่วใบหน้าของเหล่าคนรับใช้ หากกมิใช่ทุกคนที่คิดเหมือนกัน มีสายตาริษยาของใครบางคนแอบแฝงอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย


  หากปันนาไม่มีเวลามาสนใจใครเป็นศัตรูหรือมิตร หล่อนรีบผลุบหายไปด้านหลังรถ ช่วยนายมั่นคนขับและพนักงานประจำรถ ดูแลการเคลื่อนย้ายรถเข็นทอฝันออกมาตามแนวรางเลื่อนบนพื้นรถ


  “คุณเฉินมาถึงหรือยัง ป้านิ่ม” เสียงมารุตถามคุณนิ่มนวลผู้จัดการบ้าน ขณะเดินตามปันนามาด้วย

   “ท่านยังไม่เข้าบ้านเลยค่ะ ไม่รู้ว่ามาถึงหรือยัง” การตอบเช่นนี้แสดงว่าคนตอบเองก็ไม่มั่นใจนัก ท่านของนาง ขณะนี้อยู่ที่ไหน เมืองไทยหรือต่างประเทศ


  ทันทีที่รถเข็นคนป่วยลงมาแตะพื้น สายตาทุกคู่ก็พุ่งตรงไปที่ทอฝันโดยอัตโนมัติ บางคนที่เคยไปเยี่ยมหล่อนที่โรงพยาบาลบ้างแล้ว คงไม่ประหลาดใจ


แต่คนที่ยังไม่เคยเห็นสภาพเจ้าหญิงนิทรามาก่อน แทบไม่เชื่อว่านี่หรือคือคนป่วย ดูอย่างไรก็เหมือนคนกำลังนอนหลับฝันหวานอย่างสบาย ละม้ายเจ้าหญิงแสนสวยกำลังนอนหลับตาพริ้มรอจุมพิตจากเจ้าชายผู้งามสง่ากระนั้น
  

  

  ห้องที่เตรียมสำหรับทอฝันเป็นห้องขนาดใหญ่ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีอ่อนทั้งหมด ลวดลายเครือไม้ขนาดใหญ่ของวอลเปเปอร์สีเหลืองอ่อนเย็นตา เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ดูหรูหรา ทำให้ห้องโปร่งโล่งสบายตา


               ยิ่งผนังข้างและด้านหลังกรุกระจกใสสูงจากพื้นจรดเพดานมองออกไปเห็นสวนสีเขียวปลูกไม้ดอกหลากสีสรร และพืชพรรณต่างๆในสวนล้วนเป็นพืชใบเล็กหรือไม้พุ่มเตี้ยเพื่อเปิดทัศนียภาพให้เห็นความงดงามได้ชัดเจน


               ตรงกลางเป็นบ่อน้ำประดับด้วยโอ่งสำริดที่มีน้ำพุพุ่งขึ้นเป็นช่อสวยงามก่อนจะไหลผ่านลงบ่อปลาคาร์ฟอีกชั้นหนึ่ง มุมด้านหนึ่งมีศาลาหลังคาโดมรองรับด้วยเสาดอริคสีขาวงามสง่า พร้อมตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้อัลลอยด์สีขาวไว้นั่งสังสรรยามค่ำคืนที่อากาศกำลังเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

 

  หากคนป่วยสามารถรับรู้บรรยากาศธรรมชาติสวยงามร่มรื่นเช่นนี้ได้ เชื่อว่าคงช่วยให้หล่อนฟื้นตัวได้ในเร็ววัน


  ภายในห้อง เครื่องมือทางการแพทย์ก็ดูครบตามที่หล่อนแจ้งมาตั้งแต่วันก่อนเดินทางสองสามวัน และที่น่าทึ่งก็เห็นจะเป็นชุดวางเครื่องมือแพทย์แทนที่จะเป็นโต๊ะเข็นสแตนเลสทั่วๆไปแต่กลับใช้ตู้คอนโซลไม้สีโอ๊กมีล้อเลื่อนซ่อนอยู่ข้างใต้ขยับได้คล่องแคล่วในเวลาที่ต้องการใช้งานวางอยู่ข้างเตียง


             บนตู้วางอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้บ่อยๆ ส่วนสิ่งของที่นานๆจะใช้สักครั้งเก็บวางเป็นระเบียบในลิ้นชัก แม้แต่เครื่องมือฉุกเฉินเช่นอุปกรณ์และเคมีภัณฑ์ต่างๆก็มีอยู่ครบครัน


  เตียงนอนคนป่วยเท่านั้นกระมังที่ไม่ได้ดัดแปลง แต่ก็เป็นเตียงอย่างดีใช้ระบบไฟฟ้าควบคุมการปรับระดับ ได้สามส่วน ราวกั้นเตียงอลูมิเนียมที่ดูแข็งแรงดีเมื่อปันนาลองโยกขยับดู


ทุกอย่างในห้องนี้ดูใหม่และครบวงจรเกินกว่าสิ่งของที่หล่อนจดใส่กระดาษโน้ตฝากมาให้มารุตเสียอีก


  เขาเตรียมของได้รวดเร็วมาก ไม่น่าเชื่อ

  มิน่า หมอรักดีถึงบอก คนมีเงิน อยากได้อะไรก็ง่าย

  เห็นชัดๆก็นายเฉินคนนี้แหละ

  ชักอยากเชื่อเสียแล้วสิว่าคนอย่างนายเฉินนี่สามารถปิดโรงพยาบาลของหล่อนได้จริงๆ


  “แล้วนี่คุณรุตจะกลับยังไงคะ” เสียงป้านิ่มนวลถามมารุตขณะที่ปันนากำลังเดินสำรวจความพร้อมของเครื่องใช้ภายในห้อง


  ตอนนี้หลังจากทุกคนช่วยกันย้ายทอฝันจากรถเข็นมานอนบนเตียงและจัดท่าคนป่วยให้นอนอย่างสบายแล้ว


ในห้องก็เหลือแต่หมอปันนา คุณนิ่มนวล มารุต และเด็กสาววัยใกล้เคียงกันสองคนหน้าตาดีทั้งคู่แต่งกายชุดยูนิฟอร์มคนรับใช้ที่ปันนาเห็นตั้งแต่ตอนมาถึงใหม่ๆ
 

แต่เพิ่งจะมีโอกาสสังเกตละเอียดละออตอนนี้ว่าชุดเมดนั้นเป็นเสื้อกระโปรงติดกันสีน้ำเงินลายสก๊อตแขนตุ๊กตา กระโปรงบานย้วยพอดีเข่า ตรงปลายระบายลูกไม้สีขาว มีผ้าโปร่งสีเดียวกันซ้อนทับอยู่ด้านในอีกชั้น ตกแต่งด้วยผ้ากุ้นสีขาวเช่นกัน ที่เอวมีผ้ากันเปื้อนสีขาวคาดไว้สั้นเหนือระดับกระโปรงเล็กน้อย มีโบว์สีขาวใหญ่น่ารักอ้อมไปผูกด้านหลัง


กลางศีรษะมีที่คาดผมเป็นผ้าลูกไม้สีน้ำเงินหูกระต่ายสีขาวน่ารักน่าเอ็นดู ให้บรรยากาศราวกับอยู่ในวังของเชื้อพระวงศ์แถวๆยุโรปหรือหากจินตนาการเลิศเพริศแพร้วกว่านั้น ก็ไม่ต่างจากชุดนางกระต่ายในนิตยสารเพลย์บอยที่ปิดมิดชิดสักเท่าไหร่


  ทั้งสองยืนคอยอย่างสงบเสงี่ยมอยู่หน้าประตูไม่ได้ตามเข้ามาในห้องด้วย นอกจากนี้ปันนายังได้รู้จักพยาบาลซึ่งอยู่เวรเฝ้าทอฝันเป็นวันแรกรออยู่ก่อนคณะของหล่อนจะมาถึงเสียอีก


  ก็ไหนว่าต้องการหมอเป็นคนเฝ้าเองยังไงล่ะ มีพยาบาลอยู่แล้ว เอาเธอมาทำไม


  "เดี๋ยวนายชัชจะมารับ” นายชัชคือคนขับรถประจำตัวของมารุต หากวันนี้เขาต้องการมาส่งทอฝันเป็นเพื่อนปันนา จึงให้นายชัชขับรถมารับภายหลัง “ผมจะอยู่รอคุณเฉินก่อน มีเรื่องต้องรายงาน” เสียงมารุตตอบคุณแม่บ้าน ท่าทางยังไม่อยากออกไปไหน


  "งั้นเชิญคุณรุตตามสบายเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าจะคอยดูแลคุณหมอเอง"


  เมื่อเห็นมารุตยังมีทีท่ารีรอก็พอเดาว่าชายหนุ่มยังเป็นห่วงแขกคนใหม่ของบ้าน

  "ผมไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นก่อนก็แล้วกัน...ผมไปก่อนนะครับคุณหมอ มีปัญหาอะไรก็ป้านิ่ม ผู้จัดการแม่บ้านนี่เลย” หนุ่มใหญ่หันมาเอ่ยลาปันนาก่อนอย่างคนมารยาทดีแถมแซวป้านิ่มนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเอง
 
  ท่าทางมารุตคงสนิทคุ้นเคยกับคนในบ้านพอสมควร

  หลังจากมารุตออกไปแล้ว หญิงชราก็หันมาถามเชิงหารือกับปันนาว่า

  "คุณหมอคิดว่ายังต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม?"

  "ไม่ต้องการเพิ่มแล้วค่ะ” ส่ายหน้าจนผมหางม้าปลิวไสว “มีมากเกินกว่าที่หมอคิดไว้เสียอีก เหมือนอยู่ในโรงพยาบาลเลย”
 
  "ท่านก็ต้องการให้คุณทอฝันได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดค่ะ”

  ปันนาอยากเชื่ออย่างนั้นจริงๆ แต่ทำไมสมองไม่ยอมคล้อยตามก็ไม่รู้

  "งั้นคุณหมอจะขึ้นไปห้องพักเลยไหมคะ?"

  ปันนาเพิ่งนึกออกว่ายังไม่ได้เอากระเป๋าออกจากรถเลย เพราะตอนอยู่ข้างนอกก็มัวแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับทอฝัน แต่ก็คิดว่าน่าจะมีคนช่วยเอาลงมาแล้ว
 
  เห็นหมอหันรีหันขวาง ป้านิ่มก็รีบบอกว่า "กระเป๋าคุณหมออยู่บนห้องเรียบร้อยแล้วค่ะ"
 

  บันไดโค้งที่วนขึ้นสู่ห้องชั้นบนนั้นปูด้วยพรมผืนยาวตรงขั้นบันไดพร้อมล๊อกพรมไว้สไตล์บ้านยุโรปแท้ๆ


ราวบันไดไม้โค้งแกะสลักลวดลายประณีต แต่งราวด้วยเหล็กร๊อทไอรอนดัดโชว์ความอ่อนช้อย  เพดานเพ้นท์เป็นรูปเหล่าทูตสวรรค์ล้อมกรอบด้วยคิ้วบัว กึ่งกลางห้อยแชนเดอเรียสีทองแสงแพรวพราวระยิบระยับ

            
ด้านข้างชานพักบันไดมีภาพวาดผองทวยเทพของจิตรกรชื่อดัง ดูหรูหรางดงามจนปันนาสงสัยว่าเท้าเปล่าเปลือยของตนเองนั้นสะอาดพอที่จะเหยียบขึ้นไปหรือเปล่า

  ห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่คงจะต้อนรับเฉพาะญาติสนิทมิตรสหายโดดเด่นสะดุดตาทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้นสอง มีเซตรับแขกโซฟาหลุยส์ขาม้วนสีทองระยับลวดลายวิจิตรตระการตา คนนั่งยังสามารถมองลงไปยังโถงกว้างทางเข้าบ้านชั้นล่างได้ และยังสามารถนั่งเล่นดูทีวีจอใหญ่ได้อย่างสบาย


ทางแยกไปห้องต่างๆเป็นพื้นหินลายวงกลมเหนือขึ้นไปเป็นหลุมฝ้าวงกลมประดับด้วยคิ้วบัว ห้อยแชนเดอเรียดวงใหญ่ เพิ่มความสว่างสดใส โถงทางเดินที่จะพาเข้าสู่ห้องพักก็สง่างามไม่แพ้กัน

              
เพดานทำเป็นซุ้มโค้งแบบสถาปัตยกรรมโรมันขนาบด้วยผนังไม้กรุกระจกใสพ่นทรายเป็นลายดอกสวยงดงาม
 
นี่หากปันนาไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลที่ไม่สวยงามนักล่ะก็ หล่อนคงกระโดดโลดเต้นวิ่งเริงร่าไปมาตามห้องต่างๆดุจนกน้อยไนติงเกิลไปแล้วล่ะ


ป้านิ่มตามขึ้นมาส่งปันนาพร้อมเมดสาวสวยทั้งสอง แต่หยุดแค่ประตู ไม่ยอมเข้าไปข้างใน

  
"คุณท่านจัดเด็กรับใช้สำหรับดูแลคุณหมอโดยเฉพาะ” ปันนาจึงเข้าใจทันที ทำไมเด็กสาวสองคนนี้ถึงตามติดด้วยตลอด “คนนี้ชื่อลูกจันทน์ เรียกยายแจ๋วก็ได้”

   

ยายแจ๋วคือคนผมยาวรวบเป็นมวยไว้ด้านหลัง ตากลมโตน่ารัก ท่าทางเฉลียวฉลาด นอกจากแป้งฝุ่นบางๆแล้ว เด็กสาวคนนี้ไม่ประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางใดๆ


ปันนารู้สึกถูกชะตาขึ้นมาทันที

  
"มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องนอนคุณหมอโดยเฉพาะ ส่วนคนนี้” ป้านิ่มแตะแขนเด็กสาวผมสั้นที่ดูน่าจะอายุมากกว่าคนแรก ตาคมสวยแต่งหน้าทาปากโทนสีชมพูสวยน่ารักสมวัย “ชื่อลำดวน เรียกชื่อเล่นง่ายๆ จิ๊ก"
 
  
คนฟังรู้สึกเหมือนจะผิดคาด น่ารักเหมือนตุ๊กตาบลายธ์ทั้งคู่ แต่ไหงชื่อ แจ๋ว จิ๊ก น่าจะชื่อเพราะๆอย่าง ลินดา เจสซี่ก้า เอลิซาเบธหรือถ้าชื่อไทย อย่างน้อยก็น่าจะคุณพราวพิลาศ แพรพรรณราย บุษบามินตราทำนองนั้น หรืออย่างน้อย ชื่อปันนาก็ใช้ได้นะ


  
"คนนี้จะรับผิดชอบดูแลซักรีดเสื้อผ้าให้คุณหมอ มีอะไรก็เรียกรับใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ"


พอตั้งสติได้ ปันนาก็รู้สึกแปลกๆ คงจะมีการเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง


  
หมอปันนาที่รับจ้างมาเฝ้าไข้ กินเงินเดือนเหมือนคนอื่น แต่ไหงมีเด็กรับใช้ประจำตัวด้วย

  
'แถมห้องนอนที่มองเข้าไปปราดเดียวก็รู้ว่าหะรูหะราซะไม่มี'

  
นี่เรามารับจ้างหรือมาสมัครเป็นนายจ้างกันแน่ฟะ

  
ป้านิ่มทำท่าจะออกไปแล้วเพราะไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของหมอ แต่นึกอะไรขึ้นมาได้รีบหันกลับมาบอกว่า

  
"คุณท่านบอกว่าคุณหมอมาถึงแล้ว ไม่ต้องรบกวน ให้พักผ่อนให้เต็มที่ คุณหมอจะรับอาหารเย็นเมื่อไหร่ก็บอกนะคะ"

  
"ปกติอาหารเย็นที่นี่เริ่มกี่โมงคะ?" คนอ่อนวัยกว่าถามเพราะสงสัย นี่เลยสองทุ่มไปแล้ว ไม่น่าจะเป็นเวลาอาหารเย็นของคนปกติทั่วไป


  
"เริ่มทุ่มตรงค่ะ อาหารเช้า 7 โมงตรง อาหารกลางวันก็เที่ยงตรง” ป้านิ่มบอก ก่อนจะเน้นประโยคสำคัญ "คุณท่านเป็นคนตรงต่อเวลา ท่านไม่ชอบรอใคร”

  
ปันนาขมวดคิ้วเป็นโบว์

  
นี่มิเป็นการบอกทางอ้อมดอกหรือว่าหล่อนต้องไปนั่งหน้าแป้นแร้นรอคุณท่านก่อน

  
"คุณท่านของป้านิ่มมีเวลาอยู่ที่เมืองไทยด้วยหรือคะ หมอนึกว่าอยู่ต่างประเทศเสียอีก" ถามตรงๆเลย
 
  
ถ้านายเฉินหรือนายเฉิ่มนั่นมีเวลามานั่งเล่นนอนเล่นที่บ้านนี้ ตอนทอฝันยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล เขาก็น่าจะเจียดเวลาไปเยี่ยมทอฝันได้บ่อยๆเหมือนกัน

  
"นานๆท่านจะมาทีค่ะ ปกติที่นี่เป็นรีสอร์ทให้เพื่อนๆนักธุรกิจของท่านมาพักตีกอล์ฟ แต่พอจะรับคุณทอฝันมาอยู่ด้วย ท่านก็ห้ามไม่ให้ใครมาเล่นกอล์ฟแถวนี้ ท่านสั่งปรับปรุงห้องทุกอย่างใหม่หมด"


  
เออ ฟังดูก็เหมือนว่านายเฉิ่มนี่ก็รักทอฝันไม่น้อยเลยนะ หรือนายนี่จะถนัดสร้างภาพพจน์

  
เชื่อดีหรือเปล่า อย่าเลย ไม่อยากออกลูกเป็นลิง

  
ขนาดเรารึ เรียบร้อยปานผ้าพับไว้ยังมีคนบางคนชอบว่าเราเป็นลิงเลย

  
"ถ้าคุณหมอว่าง ดิฉันจะพาไปแนะนำให้รู้จักคนงานคนอื่นที่คุณหมออาจต้องการเรียกใช้แล้วก็พาชมสถานที่ต่างๆภายในบ้าน คิดว่าบางห้องน่าจะมีประโยชน์กับคุณหมอบ้าง”

  
หลังจากป้านิ่มและเด็กรับใช้ประจำตัวของปันนาที่แต่งตัวดีกว่าเจ้านายออกไปแล้ว หญิงสาวก็หันมาสำรวจภายในห้อง
 
  
ห้องนอนอะไรฟะ มลังมเลืองเลิศหรูอลังการงานสร้างจริงๆ

  
ห้องนอนชั่วคราวของหล่อนใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามวิจิตรยิ่งกว่าความงดงามที่ผ่านมาตามรายทางเสียอีก

               

สิ่งแรกที่สะดุดตาคือเตียงนอนใหญ่ขนาดปันนากลิ้งไปมาสิบตลบยังไม่ตกเตียง แกะลวดลายแบบยุโรปลายเดียวกับฝ้าหัวเตียงและตู้คอนโซลข้างเตียงทั้งสองด้าน โคมไฟแบบตั้งโต๊ะสวยงามขาตั้งเป็นกระถางโรมันแกะสลักฝีมือประณีตให้แสงนวลลออตา

  
แต่ที่ไม่เข้ากับชุดเครื่องประดับทั้งหมดเห็นจะเป็นตุ๊กตาลิงตัวใหญ่สวมชุดเสื้อกระโปรงสีชมพูลายสก๊อตสั้นเลยเข่ากว่าคืบ ผูกโบว์หูกระต่ายที่คอ แถมที่คาดผมหูกระต่ายสีเดียวกันนั่งพิงอยู่บนหมอนลายดอกน่ารัก

  
แหวะ!

 
 
เมดลิง หรือลิงเพลย์เกิล น่ารักตรงไหน
 
  
คนมองปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที

  บ้าหรือเปล่า ใครเอามาวาง? วางไว้ทำไม?

  
เจ้าของห้องคนเดิมเป็นเด็กหรือไง เด็กพิศดารนะสิ ถึงเล่นตุ๊กตาลิง ตุ๊กตาอย่างอื่นน่ารักๆมีตั้งมากมาย ไม่เล่น มาเล่นกับลิง

  
แต่เอ? ถ้าเคยเป็นห้องเด็กมาก่อน ทำไมเตียงถึงใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่าอ้าซ่าขนาดนี้

  
ปันนาจับเจ้าตุ๊กตาลิงโยนโครมข้ามเตียงไปไกล ไม่สนใจว่ามันจะไปตกลงตรงไหน จัดแจงลากกระเป๋าใบใหญ่ที่มีคนเอามาตั้งรอไว้ก่อนแล้ว รูดซิบเปิด ดึงตุ๊กตาหมีตัวโปรดที่แม้จะเก่ากว่า 10 ปี แต่ก็ยังน่ารักกว่าไอ้ลิงบ้าดัดจริตนั่นเป็นกอง


  
หญิงสาวบรรจงวางเจ้าหมีแสนเท่ที่เพิ่งซื้อชุดทักซิโด้ใหม่เอี่ยมมาเปลี่ยนให้ก่อนมาที่นี่ลงแทนตำแหน่งลิงยักษ์

                
 
ตำแหน่งตรงนี้ของพี่เตยย่ะ

 

 

 

[ ค้นหาเว็บบอร์ดทุกโรงเรียน แวะไปล่างสุดโฮมเพจ Dek-D ]

แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 55 15:57:21

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 15:49:58




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com