ตอนที่ 3
รักคือการเสียสละ หรือ เสียสละเพื่อให้ได้รัก
สายลมพลิ้วใบไม้ปลิวไสว หญิงสาวหลับตาเงยหน้าสูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอด แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ส่องลงกระทบดอกทานตะวันที่ปลุกอยู่เรียงรายเต็มทั่วทุ่ง สีเหลืองอร่ามตาดูเจิดจ้าสวยงามมากกว่าเวลาปกติยิ่งนัก นพรดาลืมตามองดูดอกไม้แสนโปรดโยกตัวไปมาตามสายลมคล้ายเต้นรำ ผุดยิ้มเมื่อเห็นเจ้าผีเสื้อตัวน้อยบินร่อนดอมดมดอกไม้เพื่อหาน้ำผึ้งแสนหวานไปสร้างรัง
อันที่จริงเธอจำไม่ได้ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน หญิงสาวหันมองซ้ายขวาอย่างสงสัย แต่เมื่อหันหลังกลับไปมองเธอเห็นบ้านไม้หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่ง หัวใจเต้นแรงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ก่อนจะได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน นพรดาขมวดคิ้วเมื่อจำได้ว่าเสียงหัวเราะนั้นคือเสียงของนิดาวรรณลูกสาวตัวน้อยของเธอ แต่...เสียงปริศนาอีกเสียงคือเสียงของใครกันล่ะ?
ว่าแล้วหญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินตรงไปยังบ้านไม้ แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขึ้นบันได ประตูไม้บานใหญ่หน้าบ้านถูกเปิดออก พร้อมกับนิดาวรรณกำลังถูกใครบางคนจูงมือเดินออกมา ทั้งสองพูดคุยถูกคอถึงแม้จะต่างวัยกันก็ตาม
หญิงสาวเงยหน้ามองด้วยความสงสัย ทันใดนั้นดวงอาทิตย์ส่องสว่างไสวกว่าเดิมคล้ายเป็นคำเตือน แสงสีขาวทำให้ดวงตาของหญิงสาวพร่ามัว นพรดาหรี่ตาพยายามมองว่าบุคคลปริศนานั้นคือใคร ก่อนจะเห็นขายาวของชายหนุ่มเดินคู่มากับนิดาวรรณ
ทั้งสองเดินลงบันไดตรงมาหาเธอ แต่เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ที่สว่างเกินไปจึงทำให้หญิงสาวตาพร่ามัว แม้จะพยายามมองหน้าชายหนุ่มให้ชัดเจน แต่ทว่าเธอยิ่งกลับไม่สามารถลืมตาให้ได้มากกว่านี้ แสงส่องทั่วทุกมุมขาวโพลน ก่อนจะเห็นแค่ชายหนุ่มตรงหน้าส่งยิ้มให้เธอ
ทันใดนั้นคล้ายโลกทั้งใบดับมืดลง ภาพชายหนุ่มเด็กหญิงวับหายไปเหมือนไม่มีตัวตนมาตั้งแต่แรก นพรดาใจเต้นแรงเมื่อไม่เห็นลูกน้อยอยู่ยืนที่เดิม หญิงสาวเอื้อมมือไปด้านหน้า พยายามไขว่คว้าค้นหาลูกน้อยสุดที่รักกลับคืนมา ตะโกนสุดเสียงด้วยความกลัว
หนูนิด...หนูนิด!
เมื่อไม่เห็นใครนอกจากตนเอง น้ำใสคลอหน่วยอยู่บนนัยน์ตาหวาน ก่อนจะรินไหลลงมาอาบแก้ม
หนูนิด...หนูนิด...ฮือๆ...ฮือๆ
หญิงสาวร่ำไห้หนักขึ้นเมื่อไม่มีวี่แววของใครตรงหน้าสักคนเดียว เสียงร้องไห้สะอื้นดังก้องไปทั่วความมืด ความรู้สึกสับสน เศร้า เสียใจประดั่งประเดอยู่ในอก นพรดาอ่อนสิ้นกําลังล้มพับลงไปกับพื้น ดวงหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
หัวใจของเธอแตกสลายเมื่อดวงใจสุดที่รักหายไปจากตรงหน้า เสียงร่ำไห้ยังคงดังไม่หยุดคล้ายอยากจะอ้อนวอนขอความเมตตาจากสวรรค์ ก่อนที่สมองและความนึกคิดของหญิงสาวจะดับลงด้วยความเหนื่อยล้า
คุณดา...คุณดา!
นพรดาค่อยลืมตามองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนเพลีย หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงพนักเบาะเก้าอี้พลางกระพริบตาสองสามทีให้ชินกับแสงสว่างของโลกแห่งความเป็นจริง
แสงสว่างจากหลอดไฟนีออนส่องสว่างไสวไปทั่วทุกมุมห้องทำงานส่วนตัวของหญิงสาว นพรดาส่ายหัวไล่ความมึนงงก่อนจะเห็นสโรชาเลขาฯส่วนตัวกำลังมองมาทีเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 55 19:21:41
จากคุณ |
:
mollaly
|
เขียนเมื่อ |
:
2 พ.ย. 55 17:48:51
|
|
|
|