Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 4. vote ติดต่อทีมงาน

.

.


4.


รถยนต์เช่าเปรียบดังผู้มีพระคุณ ยานพาหนะช่วยชีวิตให้รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราช ไม่ต้องนอนจมกองเลือดหรือฝ่าเท้ายักษ์อยู่ในศึกสงครามที่เพิ่งหนีพ้นมาได้หมาดๆ เครื่องยนต์พลังม้าเดินทางข้ามผ่านเมืองแล้วเมืองเล่าด้วยความเร็วสูงสุดราวกับเหินฟ้าเดินอากาศ มาหยุดสนิทเทียบหน้าโรงแรมที่พักอาศัยยังเขตชุมชนซึ่งคงความหรูหราฟู่ฟ่าด้วยอาคารแบบทันสมัยไม่ดูเก่าคร่ำครึแม้จะมองเห็นในยามมืดมิดก็ตาม


“ไอ้กันย์เอ็งแน่ใจนะว่าคุมอยู่ ถ้าเกิดเงือกน้อยแสนสวยตื่นขึ้นมาแล้วอาละวาด”


“อืม”


“เดี๋ยวข้าทำธุระเสร็จแล้วจะมาหา โชคดีนะเว้ยเพื่อน”


ร่างสูงก้าวลงจากรถยนต์เมื่อผลักประตูเปิดออกจนกว้างเต็มที่ มือแข็งแรงคว้าอุ้มร่างอ้อนแอ้นแนบอกก่อนใช้อวัยวะเบื้องล่างส่วนที่เรียกว่าเท้ายันปิดประตูจนแน่นสนิท ยานพาหนะสี่ล้อค่อยๆ ขับเคลื่อนออกห่างช้าๆ จนหายลับจากสายตา กันยวัฒน์เงยหน้าขึ้นฟ้าหลับตาถอนใจเบาๆ เกิดข้อขัดแย้งในสมองจนต้องชั่งใจ นี่เขาคิดถูกหรือผิดถึงประมูลสิ่งมีชีวิตรูปงามมาให้ปวดกระโหลกเล่น แค่หัวใจตนเองที่โดนคนเคยรักกันเล่นงานก็บอบช้ำปางตาย เจ็บปวดสาหัสเวลานี้ยังเอาไม่รอด นับภาษาอะไรต้องมาคอยเป็นธุระดูแลแบกหิ้วหญิงสาวครึ่งมนุษย์ครึ่งปลา อมนุษย์แปลกหน้าแม้แต่วิธีเลี้ยงก็หารู้ไม่ และเหตุการณ์เบื้องหน้าจะเป็นเช่นไรหากนางพรายฟื้นตื่นขึ้นมา ยากเกินการคาดเดา


สองเท้าก้าวเดินเข้ายังด้านในของโรงแรมที่พัก โชคดีแค่ไหนเมื่อเวลานี้ยังเป็นช่วงย่ำรุ่งผู้คนต่างให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อน ตรงหน้าล๊อบบี้โอ่อ่าจึงไม่มีผู้ใดอยู่นอกเสียจากพนักงานต้อนรับที่สาดสายตามองเขาด้วยความประหลาดใจ แน่ล่ะจะไม่เป็นจุดสนใจได้อย่างไร ในเมื่อเขาหนุ่มหล่อทั้งแท่งหอบหิ้วหญิงสาวหน้าตาดีกลับมาในสภาพย่ำแย่ ทั้งสลบไสล ทั้งไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ มีแค่เสื้อโค้ชตัวใหญ่ปิดบังไว้เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็เห็นหน้าค่าตากันจนเคยชิน เนื่องจากเขาอาศัยพักนอนอยู่ที่นี่มาร่วมอาทิตย์กว่าเห็นจะได้ พนักงานผู้นั้นเลยแกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรมากมายให้เสียเวลา จึงปล่อยเลยตามเลย


ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมร่างสูงเบียดกายออกและรีบรุดเดินยังหน้าห้องส่วนตัว กุญแจถูกล้วงหยิบจากกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ทรงขาเด็ปสีดำสนิทและไขเปิดล็อคอย่างทุลักทุเล เนื่องจากในอ้อมแขนโดนยึดพื้นที่โดยร่างบอบบางจนหยิบจับอะไรไม่สะดวกมากนัก แต่ในที่สุดเขาก็ทำทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประตูห้องเปิดออกพร้อมไฟส่องแสงสว่างโดยอัตโนมัติ ร่างบางโดนจับวางนอนราบไปกับพื้นโซฟานุ่มตัวยาว สายตาคมกริบจ้องมองสำรวจร่างกายนวลเนียนโดยละเอียด นี่หรือคือเงือกพรายผิวพรรณช่างคล้ายแม่สาวแห่งตระกูลไฮโซที่ชอบเข้าสปานวดอบรักษาผิวให้ดูผุดผ่องเป็นยองใยอย่างสม่ำเสมอ ดูอย่างไรไม่เห็นเหมือนหนังปลาหยาบกร้านแม้แต่น้อย เป็นถึงอมนุษย์ครึ่งบกครึ่งน้ำตามร่างกายน่าจะมีเกร็ดสีแลให้เห็นกันบ้าง


กันยวัฒน์ลุกยืนเต็มความสูงก้าวเดินยังห้องส่วนตัว เปิดประตูตู้เก็บผ้าคว้าหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่มีความยาวพอดูติดไม้ติดมือกลับออกมายังโซฟาด้านนอกอีกครั้ง มือเอื้อมจับเสื้อโค้ชตัวหนาหวังจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าหาความอบอุ่นเพื่อประทังความหนาวเย็นจากอากาศ ถ้านางเป็นอมนุษย์ครึ่งบกครึ่งน้ำจริงน่าจะยังปรับอุณหภูมิในร่างกายไม่ทัน แต่ความคิดต้องหยุดลงพร้อมมือชะงักกึกอัตโนมัติ ถึงอย่างไรนางก็เป็นหญิงสาวจะให้มองดูเนื้อหนังมังสาก็ใช่ที่ จู่ๆ ใจเกิดเต้นแรงขึ้นมากะทันหัน ยับยั้งอารมณ์ชั่ววูบทัน เขาไม่ควรฉวยโอกาสต่อสตรีเพศแม่คือความรู้สึกที่ต่อต้านการกระทำทั้งปวง


ร่างสูงลุกยืนอีกครั้งกดปิดสวิตซ์ไฟฟ้าให้ดับสนิทก่อนก้าวเดินยังโซฟาแหล่งหลับนอนของสิ่งสวยงาม เขาจับร่างบางอย่างเบามือ โอบประคองขึ้นพิงพักแนบอกกว้าง นำหญิงสาวแปลงโฉมใส่เสื้อผ้าเฉกเช่นมนุษย์ธรรมดาที่ทำกันเป็นกิจลักษณะของการดำรงชีวิต กลิ่นหอมรัญจวนของเส้นผมยาวสยายลอยปะทะจมูกโด่งพาใจแกร่งสั่นไหวเล็กๆ ถึงแม้มือคู่นี้จะเคยผ่านการสัมผัสร่างกายหญิงสาวมาบ้างแล้วก็ตาม แต่กับเงือกพรายคงเป็นครั้งแรกในชีวิต ความรู้สึกช่างแตกต่าง ผิวกายเนียนนุ่มราวผิวเด็กแรกเกิด เขาสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งรีบเร่งจัดแจงทำภารกิจให้เรียบร้อยก่อนที่เงือกน้อยจะตื่นขึ้นแล้วคิดไปต่างๆ นานา ว่าเขาคิดไม่ซื่อทำมิดีมิร้าย ใช่ช่วยเหลืออย่างตั้งใจจริง


ไฟในห้องถูกเปิดอีกคราเมื่อเขาจัดการกับตุ๊กตาบาร์บี้จำลองตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย แสงไฟส่องสะท้อนทำให้เห็นรอยขีดข่วนหลงเหลือหลายแห่งอันเนื่องจากตู้กระจกแตกกระเด็นใส่ นิ้วเรียวแตะสัมผัสบาดแผล ในใจเกิดนึกสงสาร ถ้านางผู้นี้เป็นเงือกพรายอย่างใครๆ ว่าไว้คงรู้สึกย่ำแย่อยู่ไม่น้อย ต้องโดนจับพลัดพรากจากครอบครัวและเพื่อนฝูงอันเป็นที่รักมาอยู่ในดินแดนอันแตกต่าง แต่ทว่าคนอย่างกันยวัฒน์เป็นประเภทมองโลกในแง่ร้าย เขายังคงไม่เชื่อเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าร่างบางตรงหน้าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่โลกนี้สร้างขึ้นและมีอยู่จริง มันยังขัดแย้งในใจลึกๆ สิ่งใดถ้าไม่เห็นด้วยตาและมีสติครบสัมปชัญญะไม่มีทางจะหูเบาเด็ดขาด


ร่างบางเคลื่อนไหวขยับกายทำให้ความคิดของบุรุษหนุ่มเตลิด จ้องมองยังดวงตาฟ้ามรกตกลมโตเบิกกว้างกวาดไปรอบบริเวณห้องจนมาหยุดตรงวงหน้าคมเข้ม สีหน้าดูมีเลือดฝาดเป็นปกติอีกครั้ง นีลาน่าดีดกายลุกขึ้นนั่งขยับหนีจนหลังบางเบียดชิดพนักโซฟา นัยน์ตาสั่นระริกมองยังบุคคลลึกลับแปลกหน้า


“ฟื้นแล้วเหรอคุณ..”


สิ้นเสียงพูดจานีลาน่าขยับถอยต่อจนมุมที่นั่งสุดหนทางหนี ผมยาวสยายระดับเอวพลิ้วไหว ส่งสายตาหวาดหวั่นมองบุคคลเบื้องหน้าไม่ลดราวาศอก นี่หรือพวกมนุษย์โหดร้ายดังพรายทั้งหลายเคยเอ่ยประนามไว้ จะว่าไปก็ดูไม่ต่างจากเผ่าพันธุ์พรายเท่าใดนัก หู ตา จมูก ปาก มีคล้ายกัน นีลาน่าจ้องสำรวจอย่างกล้าๆ กลัวๆ


“นี่คุณ.. พูดได้ไหม คุยกับผมได้หรือเปล่า”


กันยวัฒน์ออกตัวเจรจาสื่อสารกับสิ่งที่เขาเองก็ไม่อาจทราบว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรโต้ตอบกลับมาบ้าง แต่คงจะดีกว่าให้นางพรายนั่งจ้องหน้าเขาราวกับเจอฆาตกรใจโหดที่จับนางมาเพื่อกระทำชำเราจนเหยื่อผวาหวาดระแวงดังเช่นเวลานี้


เสียงถอนใจนับครั้งไม่ถ้วนจดจ้องอยู่แค่หญิงสาวเบื้องหน้า หลายนาทีเข้าไปแล้วแต่นางยังคงนิ่งเฉยไม่ตอบสนองด้วยการพูดจา มีเพียงสายตาหวาดกลัวเท่านั้นที่เขาได้รับจนต้องยอมจำนนปล่อยให้เวลาช่วยเยียวยาต่อไป


“โอเค ในเมื่อคุณยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ งั้นผมขอตัวไปนอนก่อน ง่วงจะแย่แล้ว คุณก็พักผ่อนได้ตามสบาย คิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณก็แล้วกัน ผมไปล่ะ”


กันยวัฒน์ลุกยืนหันหลังกลับ เดินตรงยังห้องส่วนตัวหมดสิ้นแล้วพลังงานของวัน ทิ้งโฉมงามที่เหลียวสายตามองตามเป็นระยะไว้เบื้องหลัง นีลาน่ายังไม่แน่ใจว่าพร้อมยอมปริปากพูดจากับบุรุษเพศแปลกหน้าแล้วหรือไม่



++++



ดวงตะวันสาดแสงแรงจัดจ้าตรงตำแหน่งกลางศรีษะพอดิบพอดี บ่งบอกเวลาเยือนเที่ยงวันแล้ว กันยวัฒน์บิดกายปัดไล่ความเกียจคร้านที่เกาะกุมร่างกายยาวเหยียดให้หลุดพ้นด้วยความเคยชิน โดยส่วนใหญ่เวลาที่มีตั้งแต่เดินทางมาพักอาศัยยังต่างถิ่นต่างแดน วันๆ ได้แต่เที่ยวเตร่เสเพล ดื่มเหล้าเมามายจนไม่มีแก่ใจจะคิดสิ่งใดก่อนล้มตัวลงนอนให้ผ่านพ้นไปวันๆ


ร่างสูงโงนเงนลุกลงจากเตียงนอน สีหน้ายังคงงัวเงียคล้ายวิญญาณสับสนหาทางกลับเข้าร่างไม่เจอ ตาปรือเดินโซเซยังห้องน้ำ ด้วยการอยู่คนเดียวจนชินจึงไม่ต้องอายใครหน้าไหน ยืนปลดทุกข์เบาปล่อยของเสียในร่างกายโดยไม่คิดจะปิดประตูหรือแง้มให้หรี่ลงเลยแม้แต่น้อย เสร็จสิ้นการกิจร่างสูงพาตนเองกลับยังเตียงนุ่มๆ กระแทกกายล้มนอน ปิดตาหลับไหลเตรียมดำดิ่งสู่นิทราตามเดิม ทว่าในสมองกลับจำภาพฝันเมื่อคืนได้ขึ้นใจ เขาระบายยิ้มบนวงหน้าคมคาย ที่แท้ก็แค่ฝันไปมีจริงที่ไหนเงือกพราย กันยวัฒน์เอี้ยวกายตะแคงนอนอีกด้านฝั่งกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใบหน้า แค่ฝันว่าออกกำลังต่อสู้กับยักษ์ทรงพลังเหตุใดร่างกายจึงเจ็บปวดจริงจังขึ้นมา


นิ้วเรียวยกสัมผัสใบหน้ากดลงตรงรอยเจ็บปวดเมื่อครู่ ‘อู๊ยย!!’ สู้จริง โดนจริง เจ็บจริง ไม่ใช่แค่ฝันไป เสียงโอดครวญพาสายตาเบิกกว้าง ความง่วงอันตธานหายสิ้น วิญญาณกลับเข้าร่างฟื้นคืนชีพทันที นึกถึงบางสิ่งที่ยังคงอยู่ด้านนอกห้อง หากนางไม่เรียนรู้วิธีเปิดประตูห้องได้เองหรือไม่จงใจหนีไปเสียก่อน กันยวัฒน์ลุกพรวด ก้าวเดินถี่ยิบ กระชากประตูห้อง ส่งสายตาจ้องมองยังโซฟาตัวยาว หญิงสาวคนเดิมยังคงนั่งนิ่งเฉยไม่หนีหายไปไหน จากถอนใจระบายความโล่งอก ต้องแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงกะทันหัน


“นี่คุณ! ใจคอจะนั่งอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืนว่างั้น”


กันยวัฒน์ทักท้วงเมื่อเห็นสมบัติของตนนั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิมตั้งแต่ช่วงรุ่งสางก่อนเขาเข้านอนเพื่อหลับพักผ่อนจนเวลาล่วงเลยมาค่อนวัน หญิงสาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว หากนางเป็นอมนุษย์ครึ่งบกครึ่งน้ำจริง ดูท่าจะมีความอดทนสูงมากถึงได้แสดงให้มนุษย์อย่างเขาเห็นและชื่นชมในความพยายาม จนต้องทึ่งอึ้งสร่างจากอาการง่วงนอนเป็นปลิดทิ้ง จากที่คิดว่าฝันไปเขาคงต้องปวดสมองขึ้นมาอีกระลอก ด้วยการเฟ้นหาหนทางปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างมนุษย์กับเงือกพราย เมื่อทุกอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก


ดวงตากลมใสเริ่มเห็นแววเป็นมิตร ไม่สั่นไหวแบบเมื่อครั้งแรกที่นางตื่นรู้สึกตัว อาจเป็นนิมิตรหมายอันดีในการเริ่มต้นเจรจาอีกครั้ง กันยวัฒน์ก้าวเดินยังชุดโซฟารับแขกก่อนทรุดกายลงนั่ง จ้องมองใบหน้านวลเนียนราวโดนสะกดจนต้องพยายามควบคุมจิตใจให้เข้มแข็งไม่วอกแวกไปไหน


“คุณชื่ออะไร”


นีลาน่ามองมนุษย์บุรุษซึ่งตอนนี้เริ่มคุ้นเคยขึ้นมาบ้าง เพราะเขาไม่ได้ทำให้นางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยถึงจะตั้งท่าหน้ายักษ์หน้ามารอยู่ตลอดเวลาก็ตาม นางยังคงชั่งใจตัดสินระหว่างเลือกที่จะเงียบต่อไปหรือเล่นไปตามบทบาทของบุรุษหนุ่มซึ่งป็นผู้เริ่มต้นและดึงให้นางมีส่วนร่วมไปด้วยกัน


“ว่าไง..”


“เรา.. นีลาน่า”


น้ำเสียงแผ่วเบาแต่หวานจับใจพาคนฟังหลงเคลิ้มชั่ววูบ ควบคุมสติที่พร้อมจะเตลิดได้ทุกเมื่อ นีลาน่าก้มหน้าหลบสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่ลดละ เลี่ยงการปะทะซึ่งหน้า


“เอ่อ.. คุณ.. ตกลงคุณฟังภาษาผมรู้เรื่องใช่ไหม”


นีลาน่ากระพริบตาปริบๆ พยายามทำความเข้าใจกับประโยคคำถาม ในเมื่อนางรู้ความหมายและตอบกลับไป เหตุใดเจ้ามนุษย์ผู้นี้ยังคิดว่านางฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่องอยู่อีก นีลาน่าได้แต่ขำในใจ มนุษย์ยังอีกแดนโลกช่างไม่มีความคิดเอาเสียเลย หากทว่าความคิดต้องหยุดกะทันหัน นางไม่เข้าใจเหตุใดจึงฟังภาษามนุษย์โลกรู้เรื่อง ไหนจะเจรจากันเข้าใจอีก มือบางยกจับสัมผัสสร้อยประดับที่สวมใส่อยู่ คงเพราะอิทธิฤทธิ์ของเจ้าสิ่งนี้ทำให้นางสามารถติดต่อสื่อสาร รับรู้และเข้าใจความหมายที่สนทนากันกับมนุษย์ต่างแดน


“เอ้า! เงียบอีกแล้ว จะเงียบให้ได้โล่หรือไงคุณ!”


น้ำเสียงกระแทกกระทั้นแดกดันพอเป็นพิธี เริ่มส่อแววหนักใจกับการเงียบนิ่งตีหน้าใสซื่อ นี่ถ้าเป็นการเล่นละครตบตาเขาถือว่านางตรงหน้าทำได้แนบเนียนกว่าที่คิดไว้หลายเท่า ดวงตาแวววาวดูไร้เดียงสาจับพิรุธไม่เจอ


“โอเคๆ ในเมื่อคุณบอกว่าชื่อนีลาน่า งั้นผมแนะนำตัวบ้าง ผม กันยวัฒน์ เรียกสั้นๆ ว่ากันย์ก็ได้นะ”


“โลกันต์..”


นีลาน่าส่งเสียงแผ่วในลำคอ หลบสายตาออกอาการหลุดขำเล็กน้อย โลกันต์คงเหมาะที่สุดสำหรับบุรุษผู้นี้ ตีหน้านิ่ง วางมาดขรึม ไม่ต่างจากอะไรที่ดูโหดร้ายและน่าเกรงกลัว


“คุณเรียกผมว่าอะไรนะ”


“...”


“เงียบอีกแล้ว จะยั่วโมโหคนเพิ่งตื่นหรือไงกัน”


“เราคิดว่าเจ้าเหมาะกับชื่อ โลกันต์มากกว่า”


“อ้าว! คุณ.. จะเหมาว่าผมชั่วร้ายงั้นเหรอ”


ผู้หญิงอะไร พอหลุดเสียงพูดจาก็กวนโทสะป่วนประสาทขึ้นมาดื้อๆ เสียแรงยอมอ่อนข้อถามไถ่อย่างสุภาพอ่อนโยน แต่ยังพอให้อภัยในเมื่อเสียงเจ้าหล่อนช่างหวานจับใจเหลือเกิน สายตาคมกริบได้แต่จดจำรอยยิ้มแสนสวยวาดประทับอยู่บนใบหน้านวลเนียนจนเกือบเผลอไผลไปว่าเขาไม่ควรไว้ใจผู้หญิงใดอีกแล้ว


“เราไม่ได้จงใจว่าเจ้าแต่อย่างใด”


“ช่างเหอะ.. จะเรียกอะไรก็แล้วแต่คุณล่ะกัน ว่าแต่.. คุณไม่เมื่อยบ้างเหรอนั่งท่านี้ตั้งหลายชั่วโมง”


นีลาน่ามองตามนิ้วชี้ ก้มสำรวจร่างกายตนเองที่แปรเปลี่ยนสภาพทั้งที่นางยังไม่เคยได้เห็นเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นางไม่กล้าขยับกายเคลื่อนย้ายไปไหน หางงามระหงส์หายไปกลับกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมงอกขึ้นแทนที่


“เราไม่เคยใช้สิ่งนี้เคลื่อนที่”


ร่างสูงลุกยืนกอดอก อยากหัวเราะตะโกนให้ก้องโลกมีขาสองข้างแต่กลับไม่เคยได้ใช้งาน จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ฟ้าประทานมาให้แท้ๆ แต่กลับไม่ทำให้มันคุ้มค่า


“นี่คุณ! อยากให้ผมอุ้ม บอกดีๆ ก็ได้นะ สาวสวยแบบนี้ผมยินดีบริการ”


รอยยิ้มเหยียดกระตุกขึ้นมุมปาก ลองดูซักตั้งแม่สาวพราวเสน่ห์จะมาไม้ไหนกับเขากันแน่ กันยวัฒน์ขยับกายเข้าใกล้ยื่นมือทำท่าทำทางจะช้อนร่างบางที่ขยับหนีอย่างเกรงกลัว


“อย่าเข้าใกล้เรา!”


“อ้าว.. ก็คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าใช้ไอ้ขาสองข้างไม่เป็น ผมจะช่วยไง”


“อย่า!”


คิดการใดแล้วไม่ควรเสียแรงเปล่า ในเมื่อถูกปฏิเสธการโอบอุ้ม จำใจต้องแปรเปลี่ยนมือแข็งแรงหักเหจุดประสงค์คว้าแขนบางกระชากให้ยืนขึ้นเต็มแรง ร่างอ้อนแอ้นโซเซไร้แรงโน้มถ่วงทำท่าจะล้มทั้งยืนคล้ายเด็กเล็กเพิ่งริเริ่มหัดเดินก้าวแรก


“นี่คุณเดินไม่เป็นจริงๆ ว่างั้น?”


นัยน์ตาใสซื่อสั่นระริก แค่พยายามยืนประคองตนเองก็ทำได้ยากเย็น ยังจะต้องมาคอยตอบคำถามโง่เขลาเบาปัญญา นีลาน่าบีบแขนแข็งแรงไว้มั่นอดทนฝืนยืนด้วยลำแข้งของตน ความไร้เดียงสาของนางไม่ถูกชะตาเอาซะเลยสำหรับบุรุษหนุ่มที่โดนรังแกหัวใจ มันยิ่งบันดาลโทสะให้เขาอยากกระชากความใสซื่อให้หลุดออกอย่างไร้มารยา หมดความอดทนเกินควบคุมไหว สองมือช้อนร่างบางขึ้นแนบอกลดความขัดแย้งในใจ พาเดินดิ่งยังห้องน้ำทันที มือเล็กคว้าโอบรัดรอบคอกลัวถูกปล่อยลงกลางอากาศ


“เจ้าจะพาเราไปแห่งใดกัน!”


“ในเมื่อคุณเดินไม่ได้ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเป็นในน้ำจะเดินได้ไหม”


ร่างบางถูกวางลงยังอ่างเย็นเยือก หัวก๊อกโดนบิดหมุนจนน้ำพวยพุ่งออกจากต้นท่อยังปลายทางไหลลงอ่างราดรดเรียวขา น้ำขังอยู่ในอ่างสีขาวสะอาดจนค่อยๆ มีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ นีลาน่าขยับขาเรียวขาวสิ่งแปลกปลอมในร่างกายสำหรับนาง เริงรื่นสะบัดน้ำเป็นคลื่นก่อนมันจะแปรสภาพเป็นหางงามระหงส์สวยสดสีเขียวมรกตอมฟ้าอีกครั้ง กันยวัฒน์ตะลึงงันคราวนี้คงหนีไม่พ้นความจริง ถ้าไม่ตาฝาดก็คงเข้าขั้นบ้าระดับโลก นิทานโบราณปรัมปรามีอยู่จริงตรงหน้า


“เราอยู่ในที่แคบเช่นนี้ หางเราก็คงใช้การไม่ได้เช่นกัน เจ้าปล่อยเราให้เป็นอิสระกลับยังดินแดนเถิด”


สายตาอ้อนวอนร้องขอ น้ำเสียงหวานใสดึงสติให้ร่างสูงกลับมารู้สึกอีกครั้ง


“เอ่อ.. ผมคงไม่มีปัญญาพาคุณกลับไปดินแดนบ้านเกิดคุณได้หรอก ผมแค่เป็นคนประมูลคุณมา”


กันยวัฒน์ถอนใจหนักหน่วง ยกมือกุมขมับคิดหนักถึงวิธีการต่อไป แต่ก่อนอื่นคงปล่อยให้หางโผล่ไม่ได้อีกแล้วยังที่สาธารณะชน ในเมื่อมีขาคล้ายมนุษย์ธรรมดาก็ต้องปรับตัวให้ได้ตามสภาพแวดล้อมของการดำรงอยู่ ใบหน้าเศร้าสร้อยพาใจแกร่งวูบไหว ถึงเขาไม่อยากสนิทชิดเชื้อกับหญิงสาวเพียงใดแต่ความใจอ่อนยังคงเป็นนิสัยที่ติดอยู่ในจิตใจไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน


“เอาล่ะ ผมคงต้องหัดให้คุณช่วยเหลือตัวเอง”


“ได้โปรด พาเรากลับยังแดนบาดาลด้วยเถิด เจ้าอยากได้สิ่งใดเราจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง”


“เสียใจ เรื่องนี้ผมคงช่วยคุณไม่ได้ และอีกอย่างผมเสียเงินกับคุณไปเยอะ ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าคุณเป็นเงือกน้อยตัวจริงเสียงจริง ผมคงต้องหากำไรคืนบ้าง”


คำพูดทุกๆ คำเพียงแค่ต้องการให้การเจรจาหยุดลงเท่านั้น เขาคงทนใจอ่อนไม่ไหวถ้าต้องเห็นสายตาเว้าวอนร้องขอ มือเอื้อมปิดน้ำประปาเมื่อตั้งสติได้สมบูรณ์ ผ้าขนหนูผืนหนาถูกพันรอบกายก่อนร่างบางจะถูกโอบอุ้มขึ้นสูงระดับอกอีกครั้ง คงไม่ทั้งชีวิตหรอกใช่ไหมที่เขาจะต้องอุ้มนางพรายตัวจริงไปไหนมาไหน กันยวัฒน์ได้แต่เตือนตนเองในใจ



++++



สองเท้าค่อยๆ เยื้องย่างอย่างเชื่องช้าละเมียดละไม นีลาน่าพยายามหาหลักยึดมั่นประคองร่างกายให้ทรงตัวอยู่ โดยได้มือแข็งแรงของกันยวัฒน์จับกุมไว้ไม่มีปล่อย เขาไม่มีแก่ใจคิดอกุศลใดๆ มีแต่อยากช่วยเหลือแบ่งเบาภาระในภายภาคหน้า เพื่อนางจะได้ใช้ขาทั้งสองข้างให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด  


“เอาเป็นว่าตอนนี้คุณพอจะทรงตัวเดินได้แล้วนะ และคุณก็จัดการใส่เสื้อผ้าเองได้อีกด้วยถึงมันจะใหญ่กว่าตัวคุณ แต่ก็ประสบความสำเร็จ”


เสียงเอ่ยส่งท้ายหลังจากกันยวัฒย์สอนสั่งวิธีการเดินทรงตัวและแต่งกายเสร็จสิ้นเนื่องจากภาระหน้าที่หลังจากนี้คงไม่ใช่เขาอีกแล้วต้องดูแล ถึงแม้จะเสียดายอยู่เล็กน้อยในใจ คงยากหากหวังได้สัมผัสใกล้ชิดความนุ่มนวลและหอมหวานของผิวกายและกลิ่นรัญจวนใจของเส้นผมยาวดุจแพรไหมอีกครา


“ทำไมมนุษย์อย่างพวกเจ้าถึงต้องแต่งเสื้อผ้าพวกนี้กันเล่า”


“ไม่แต่งก็โป้สิคุณ พวกผมไม่มีหางสวยงามหรือเกร็ดห่อหุ้มร่างกายแบบคุณนิ จะได้ปิดของลับไม่ให้เห็นความอุจาดตา”


นีลาน่ากระพริบตาปริบๆ บนดวงตากลมกลิ้ง พยักหน้าเล็กน้อยทำความเข้าใจยังสิ่งมีชีวิตอีกแดนโลกที่แตกต่างในหลายๆ เรื่องอย่างสิ้นเชิง


“...”


“ว่าแต่ทำไมคุยฟังภาษาผมรู้เรื่อง ไหนจะพูดจาสื่อสารกันเข้าใจอีก”


“คงเพราะเจ้าสิ่งนี้”


นีลาน่ายกมือแตะสัมผัสสร้อยคอ พาบุรุษตั้งคำถามมองตามอย่างสนใจ เหลือเชื่อจริงๆ แค่สร้อยงดงามเส้นเล็กๆ จะมีพลังทำให้เงือกพรายเข้าใจวิธีสื่อสารเจรจากับมนุษย์โลกอย่างเขา หากเขามีบ้างคงดีไม่น้อย อาจตกเป็นข่าวดังระเบิดหากสามารถสื่อสารได้กับทุกสิ่งทั้งในและนอกโลก สารพัดสัตว์น้อยใหญ่ หรือแม้แต่มนุษย์ต่างดาว คงสนุกพิลึก ความคิดพิเรนผุดขึ้นในสมอง


“ก็แปลกดีนะ.. งั้นคุณก็สื่อสารได้กับทุกอย่างที่ต้องการพูดคุยกับคุณได้สิ”


“คงเป็นเช่นนั้น เราก็เพิ่งสังเกตุเมื่อได้เจรจากับเจ้า”


“คุณหิวหรือยัง..”


“หิว..?” สีหน้างุนงงทวนคำถามกลับอีกครั้ง


“ภาษาบ้านคุณเรียกว่าอะไร หิว กระหาย อยากกิน วิธีที่ทำให้อาหารลงไปอยู่ในท้องอะไรทำนองนั้นหน่ะ”


เสียงถอนใจไม่รู้ครั้งที่เท่าไร อีกนานแค่ไหนมนุษย์ปกติธรรมดากับอมนุษย์ร่างงามสองโลกจะเข้าใจภาษาของแต่ละฝ่าย ใช้เวลามาร่วมสองชั่วโมงยังไม่อาจลงรอยกันเสียที


“พวกเราไม่จำเป็นต้องหิว”


“อ่อ.. คุณกำลังจะบอกว่า พวกคุณในโลกบาดาลอิ่มทิพย์ว่างั้น กินน้ำทะเลเป็นอาหารหรอกเหรอ แต่โลกมนุษย์มันต้องกินนะคุณ ไม่กินก็อดตาย ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจัดการให้คุณเอง เอาเป็นว่าคุณหัดเดินแบบที่ผมสอนก็แล้วกัน ค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวก็เก่งเอง ส่วนเรื่องเสื้อผ้ากับอาหารผมจะหามาให้ คุณอยู่นี่ห้ามออกไปไหน ใครมาเคาะประตูเรียกก็ห้ามเปิด ตกลงไหม”


นีลาน่าพยักหน้ารับก่อนหันมาสนใจกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเรียนรู้มาได้สักพักใหญ่ การใช้งานอวัยวะแปลกปลอมที่ร่างกายได้รับมาทำให้นางรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินขึ้นมาบ้าง กันยวัฒน์ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าหันมองยังร่างบางเป็นระยะ ทั้งห่วง ทั้งกังวล สารพัด ปล่อยไว้ตามลำพังจะดีหรือไม่ แต่คงไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะเขาคงรีบไปรีบกลับอย่างรวดเร็ว สายตาคมเข้มจ้องมองชั่วครู่ก่อนเปิดประตูก้าวพ้นจากห้องพักไป


++++

โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 10:10:38

แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 10:05:42

แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 09:39:35

แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 10:07:11

แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 55 11:23:05

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 10:58:33




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com