ความคิดเห็นที่ 1 |
 |
จากร้านอาหารถึงไร่ภูรักษ์ ใช้เวลาร่วมชั่วโมง ตลอดเส้นทางหญิงสาวรู้สึกสดชื่นมาก จริงๆ เมื่อสองข้างทางของเธอ มันคือแนวเขา รากไม้ใหญ่ที่ยึดดินไว้เป็นระยะๆ อากาศก็ บริสุทธิ์จนเธอแอบเคลิ้มไปนิดๆ แต่ก็ยังคงเก็บอาการไว้ไม่ให้มันดูมากมายนัก ชายหนุ่ม ขับรถเลี้ยวซ้าย ขวา อีกสองสามโค้ง ก็เห็นป้ายทางแยก เข้าไร่ภูรักษ์ หญิงสาวมองภาพ ป้ายของไร่ คล้ายกลับจะจดจำมันให้ขึ้นใจเลยทีเดียว
หลังจาก เลี้ยวรถเข้ามาไม่นาน ก็เห็นป้อมยามไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ตรงกลางขวางเส้นทางเข้า ออก ชายหนุ่มขับผ่านไปโดยไม่สนใจ เส้นทางผ่านป่าดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ เพียงแต่ด้านหนึ่งเป็นภูเขาที่ตั้งสูงตระหง่าน ส่วนอีกด้านดูเหมือนยังเป็นพื้นที่ป่าดงดิบก็ ไม่ปาน
ทำให้เธอเริ่มรู้เหตุผลกลายๆ ว่า ทำไมเธอต้องมาพักที่นี่ การเดินทาง หากถ้าเทียบแค่ กรุงเทพ กาญจนบุรีแล้ว ถือว่าง่ายมาก แต่หากจะเข้ามาถึงไร่นี่ นับว่า ค่อนข้างลำบาก ทีเดียว เพราะนอกจากจะต้องข้ามภูเขามามากกว่าสามลูกแล้ว แถมนี่ ขับเข้ามายังป้าย เข้าไร่แล้วแท้ๆ ยังมิวายจะเป็นป่า และ ภูเขาขนาบอีก รถคันหรูยังคงแล่นไปอย่าง ชำนาญเส้นทาง
เกือบสิบนาที หญิงสาวมองจึงจะมองเห็นเรือนไม้ขนาดกลาง อยู่ด้านซ้ายมือ มีป้ายบอก ว่า ออฟฟิศ ด้านหน้ามีป้ายบอกทาง ซ้าย ขวา ถึงจุดหมายต่างๆ
มันแปลกตา และต่างจากเดิมมาก
หญิงสาวถอนใจเบาๆ คล้ายดังว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆเธอคุ้นชินดังเดิมแล้ว...
"ถอนใจทำไม"
เสียงถามเบา อ่อนโยน ราวกับร่วงรู้ความคิด
ภัคจิราหันมองยิ้ม
"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อืม .. ว่าแต่ อีกไกลไหมกว่าจะถึงบ้านน่ะค่ะ"
"ก็อีกสิบนาที น่าจะได้" รณภพตอบพลางปรายตามองหน้าปัดนาฬิกาในรถ
ภัคจิราภัคหน้า หันมองสำรวจทิวทัศน์ต่อ เห็นโรงกล้วยไม้ มีทางเดินเล็กๆ ขั้นกลางเป็น แถวๆ อย่างมีระเบียบ
ที่นี่ มีกล้วยไม้พันธ์อะไรบ้างหรือคะ
ก็หวายม่วง ขาว เหลือง แคทลียา แล้ว ก็พวกไม้ประดับ อืม มีไร่อ้อยด้วย ติดกับป่า อีก ด้าน อยู่เกือบสุดไร่เลยน่ะ
ภัคจิราพยักหน้าหงึกๆ พลางคิดถึงเวลาที่กล้วยไม้พวกนี้พร้อมใจกันออกดอก และ เหมือนนึกอะไรออก หญิงสาวเอากระจกรถลง
อยากสูดอากาศธรรมชาติน่ะค่ะ
หญิงสาวหันไปอธิบายเหมือนจะรู้ว่าอีกหนุ่มกำลังสงสัย
คราวนี้เมื่อชายหนุ่มเข้าใจ จึงลดระดับกระจกทั้งหมดลงเพื่อให้อากาศเข้ามาได้อย่างเต็ม ที่
ภัคจิราถึงกับห่อไหล่ อากาศเย็นทั้งที่มีแดด
หนาวเหรอ
ก็เย็นดีค่ะ.. ภัคว่า อืม.. ภัคจิราลากเสียงพลางตั้งใจเอียงหูฟังเสียงน้ำที่ดังมาแว่วๆ "ภัคว่า ภัคเหมือนได้ยินเสียงน้ำนะ"
น้ำตกท้ายไร่ ยังอยู่ รณภพตอบเบา
โห...ดีจัง ว่าแต่ ไร่สวยๆอย่างนี้ ไม่คิดเปิดเป็นโฮมสเตย์บ้างหรือคะ อากาศก็ดี มีน้ำตก แถมถ้าถึงตอนช่วงที่กล้วยไม้พวกนี้พร้อมใจกันออกดอกภัคว่าต้องสวยแน่ๆเลย
ก็ธรรมดา ชายหนุ่มพูดเบา
อะไรนะคะ เสียงลมมันดัง ภัคไม่ค่อยได้ยินน่ะค่ะ ภัคจิราตะโกนถามแข่งกับเสียงลม
ชายหนุ่มถอนหายใจแรง ก่อนจะพูดว่า
ผมยังไม่คิดจะเปิดไร่หรอกครับ แม่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่ พี่พงศ์น่ะเขาอยาก ทำ แต่อันที่จริงผมก็คิดเหมือนแม่
ภัคจิราหันมายิ้มให้นึกเสียดายที่หลายคนจะไม่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้แต่ก็ดีใจ ที่รณ ภพจะได้ไม่ต้องไปเจอใครต่อใครมากมายนัก ถึงแม้หญิงสาวจะพอรู้มาบ้างว่าปัจจุบัน เขาค่อนข้างจะกว้างขวางทีเดียวในจังหวัดนี้
เมื่อเข้าใกล้บ้านมากขึ้น ป้ายบอกทางแยกไปส่วนต่างๆของไร่ก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น ทั้ง ป้ายบอกทางไป เรือนกล้วยไม้ตัด เรือนกล้วยไม้แคทลียา เรือนเพาะเนื้อเยื่อ และอีก เยอะแยะมากมาย หญิงสาวอ่านป้าย อย่างตื่นเต้น
หลังป้ายบอกทางต่างๆคือ เรือนไม้สองชั้นขนาดใหญ่ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้หลากชนิด และสะพานไม้เชื่อมต่อไปยัง เรือนไม้ชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดอีกสองหลัง ดูใหม่กว่า เรือนใหญ่ มาก รถคันหรูจอดพรืดลงหน้าเรือนใหญ่ แล้วหันมามองหญิงสาว เอ่ยว่า
ยินดีต้อนรับสู่ไร่ภูรักษ์
ใบหน้าเรียบเฉยดูจริงจัง ยิ้มน้อยๆ ทำเอาผู้ที่ถูกต้อนรับ รู้สึกขัดเขินแต่ก็ปรับซ่อนอาการ อย่างรวดเร็ว ยิ้มกว้าง
ค่ะ ยินดี ที่ได้ร่วมงานกัน
ภัคจิราลงจากรถ โดยมีรณภพเปิดประตูให้ มองเลยขึ้นไปด้านหลัง เห็นพัคพงศ์กำลังสั่ง งานลูกน้องคนหนึ่งอยู่ รณภพเดินนำหญิงสาวเข้าไปที่เรือนใหญ่ เมื่อถึง ลูกน้องคนนั้น ก็ แนะนำว่า
โต้ง นี่ คุณภัค เธอจะมาทำระบบคอมพิวเตอร์ในไร่
ภัค ถ้าต้องการข้อมูลอะไรของคนงานที่นี่เพิ่ม ถามเจ้านี่ได้นะ เขาเป็น GB ของที่นี่
ผู้ที่ถูกแนะนำยืดขึ้นเล็กน้อยภาคภูมิในตำแหน่ง ก่อนจะยิ้มแหย อธิบาย เมื่อเห็นอีกคน ทำหน้างง
GB ย่อมาจาก general เบ้ครับ คุณภัค
เมื่อรู้ความหมายทั้งหมดก็หัวเราะครืน ภัคจิรายิ้มกว้างให้พัคพงศ์นิดหนึ่งก่อนจะเดิน ตาม รณภพเข้าไปด้านใน
แม่ครับ ยัยปา
รณภพเรียกผู้เป็นแม่ที่กำลังสนใจทีวีกับน้องสาวเบาๆ เมื่อทั้งสองหัน มา ชายหนุ่มก็แนะ นำ
ผมพาภัคจิรา กลับมาแล้วครับแม่ ภัค นี่แม่ของผม แล้ว นั่นก็ยัยปา ปาริตาน้องสาว
สวัสดีค่ะคุณน้า สวัสดีจ้ะน้องปา
ภัคจิรายกมือขึ้นไหว้ผู้สูงวัยกว่าอย่างนอบน้อมที่สุด และเลยยิ้มกว้างทักทายผู้ที่อ่อนวัย กว่า
สวัสดีจ๊ะ กินอะไรกันมาหรือยังลูก
สวัสดีค่ะ ปาริตายกมือไหว้ "นั่นสิคะพี่ภัคทานอะไรมาหรือยัง ปาให้แม่ครัวทำอาหาร ให้ จะทานเลยไหมคะ นี่ก็เกือบเที่ยงแล้วนะ" ปาริตารีบตีสนิท
ไม่ว่าเบื้องหลังเธอจะเป็นยังไง แต่การที่พี่ชายทั้งสองคน มีทีท่ากระวนกระวาย แถม ห้องพักนั่นก็สั่งให้ต่อเติม ตบแต่งใหม่ เป็นพิเศษโดยใช้เวลาชั่วข้ามคืนก็ได้ห้องที่หรูหรา สวยงามขนาดนั้น มันทำให้เธอแน่ใจว่า ภัคจิรา ต้องเป็นคนสำคัญมากสำหรับพี่ชายของ เธอทั้งสองคนแน่นอน
คำทักทายสนิทสนมของเจ้าของบ้าน ทำให้ผู้ถูกทักเบาใจขึ้น ก่อนจะตอบ
ทานแล้วค่ะ เมื่อเช้าพอดีภัคเกิดหิวข้าวกลางทาง รุธก็เลยพาแวะทานข้าวก่อนจะมาถึงที่ นี่น่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ น้องปา
ภัคจิราเอ่ยตอบอย่างเกรงใจ
ปาริตาแอบเหล่พี่ชายคนรอง คนแบบนี้นะเหรอ จะมีพาสาวแวะทานข้าวก่อนเข้าบ้าน ผู้ชายที่เฉยได้ตลอดกาลนี่นะ นับเป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับเธอมากจริงๆ
แต่สำหรับคนที่ถูกแอบเหล่ กลับวางเฉย เดินออกไปด้านนอกเงียบๆ พัคพงศ์ที่เดินเข้า มาพอดี ยิ้มทัก
"ไง เหนื่อยไหม เจ้ารุธมันขับรถเร็วเกินอัตราอีกหรือเปล่า"
"พี่พงศ์ก็พูดไปเรื่อย รุธขับรถช้าออก ปลอดภัยดี ไม่งั้นภัคจะมายืนตรงนี้ไหมล่ะ" ภัคจิ ราตอบคุ้นเคย
นั่นล่ะ เรื่องที่ทำให้ปาริตา ประหลาดใจ เพิ่มขึ้นอีกเรื่อง พี่ชายคนรองผู้ที่ได้ชื่อว่า ขับรถ วิบากที่สุด ไม่ว่าจะหลุม บ่อ หรือ โคลน ไม่เคยคิดจะหลบสักนิด แถม ชอบขับรถด้วย ความเร็วชนิดที่เรียกว่า จะเหยียบยังไงก็ตามไม่ทัน
วันนี้กลับ ขับรถช้า...น่าแปลกใจมากๆ ปาริตาทำตาหยี เหมือนกำลังเจอเรื่องสนุกเสีย แล้ว
อย่างนั้นก็ไปดูห้องพักก่อน มาเหนื่อยๆ กินน้ำกินท่าพักซะก่อน" หนุ่มคนโตสุดในบ้าน พูดก่อนจะหัน มาพูดกับแม่และน้องว่า"เดี๋ยวผมพาเธอไปดูห้องก่อนนะ"
"เอาเถอะ ไปพักเสียก่อน เดี๋ยวหายเหนื่อยแล้ว ค่อยมาทานข้าวกันนะ"
พัคพงศ์ยิ้มแก้มแทบปริ เอามือรุนไหล่ของภัคจิราไว้สองข้าง พาเธอไปยัง ทิศทางเดียว กับที่รณภพเพิ่งจะเดินออกไป ภัคจิราแอบทำท่าลำบากใจให้ แม่และปาริตา แต่เธอก็ ยอมเดินออกไปแต่โดยดี
o(≧v≦)o
จากคุณ |
:
ริญรภัสร์
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 55 17:52:05
|
|
|
|