ข้อเท็จจริงที่สัตว์ประหลาดบุกโลกนั้นเป็นจริงมาหลายสิบปีแล้ว
เจ้าหน้าที่ฟูเชีย โชว ยืนมองคู่หูร่างยักษ์ของหล่อน โจไซยาห์ เดวิส พูดเสียงหนักแน่นอยู่หน้าห้องประชุม เบื้องหลังของชายหนุ่มคือธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีสดใสของธงกับดวงดาวสุกสว่างกลางผืนขับให้ร่างสูงดูเคร่งขรึม สไลด์ประกอบคำบรรยายอวดภาพจิ้งจกยักษ์ไต่ตึกสูงระฟ้า พ่นไฟใส่เฮลิคอปเตอร์
หญิงสาวห่อไหล่บาง ยกมือเรียวจัดเส้นผมซอยสั้นให้เข้าที่ สำรวจผู้ฟังที่จับจ้องไปยังเจ้าหน้าที่หนุ่มเป็นตาเดียว
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบสุริยะ วงจรของดาวนพเคราะห์แคบลง ส่งผลให้คลื่นแม่เหล็กรอบระบบสุริยะจักรวาลอ่อนกำลัง ทำให้สัตว์ประหลาดจากต่างดาวบุกเข้ามายังโลกได้ง่ายขึ้น อีกทั้งชั้นโอโซนที่ถูกทำลาย และการที่เราตัดสินใจใช้พลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้มีสัตว์กลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก ภาพในสไลด์เปลี่ยนเป็นรูปแผนผังของสุริยะจักรวาล มีดาวเคราะห์แค่เจ็ดดวงเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ทางภาครัฐของประเทศสัมพันธรัฐนิวแลนด์ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานราชการเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยในด้านสัตว์ประหลาดให้กับประชาชน ที่เรียกว่า หน่วยป้องกันสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้ หรือ ยูซีพี (Unidentified Creatures Protection) ซึ่งพวกผมเป็นตัวแทนจากสาขาเกาะเซนท์ ไซมอน มารายงานทุกท่านในวันนี้
หลังจากที่ร่วมฟังอยู่เป็นเวลานาน ผู้เข้าฟังบรรยายท่านหนึ่งก็ยกมือขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เชิญครับ โจพูด ทำหน้าเหมือนกินยาขม ดวงตาสีกาแฟส่งสัญญาณกับหล่อนเหมือนจะร้องว่า... ช่วยด้วย...
แต่ป๊ากับม้าบอกป๋มว่า ฉัดปาหยาดจะบุกเมืองหย่ายหย่ายเท่านั้นนี่ฮับ
ฟูเชียกลั้นหายใจ เพราะเมื่อคนหนึ่งได้พูด เหล่านักเรียนประถมที่เหลือก็แย่งกันพูดบ้าง ช่ายๆ ป๊าบอกว่า รัดถะบานนิสัยไม่ดี เกาะเราสงบมานานแล้ว แต่ยูซีพีสร้างสาขาที่เกาะเพราะจาเอาภาษี คูค้าบ ภาษีนี่สีอะไร สีสวยมั้ย มองจากตรงนี้ไม่เห็นหรอก แต่ฟูเชียเดาได้ ข้างขมับนายโจที่ทำหน้าเฉยๆ อยู่ตอนนี้ คงมีเส้นเลือดปูดออกมาขนาดเท่าแท่งดินสอ
น่ากลัวว่าคู่หูของเธอจะเส้นเลือดในสมองแตกตายตั้งแต่ยังไม่พ้นยี่สิบห้า ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง
เอ้า ใครอยากจะเล่นปราบสัตว์ประหลาดบ้าง ฟูเชียรีบตะโกนออกมาเสียงใส เด็กๆ ขานรับกันเสียงดังสนั่นก่อนจะวิ่งมารุมล้อมมุมห้องที่หญิงสาวยืนอยู่ จากหางตา ฟูเชียแอบเห็นคู่หูของหล่อนถอนหายใจโล่งอก มือใหญ่หยาบปาดเหงื่อที่หน้าผาก รายนั้นรับมือกับช้างผสมแรดกลายพันธุ์ได้สบาย แต่ดันกลัวเด็ก
สวัสดี เด็กๆ พี่ชื่อฟูนะคะ ซาหวาดดีค้าบ/ค่ะ คุณฟู เอาละนะคะ มาทบทวนให้พี่ฟังหน่อยดีกว่า ว่าถ้าเจอสัตว์ประหลาดจะต้องปฏิบัติตัวกันยังไงบ้าง เด็กๆ หันไปมองป้ายสีสวยที่ติดไว้บนฝาข้างหน้าต่างก่อนท่องอย่างพร้อมเพรียง ข้อหนึ่ง หากพบสัตว์ประหลาดโดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ ให้รีบกดปุ่มฉุกเฉินในมือถือทันที ข้อสอง หากพบสัตว์ประหลาดในอาคาร ให้ใช้เครื่องพ่นรังสีป้องกันภัย...
ระหว่างที่เด็กๆ กำลังท่องข้อปฏิบัติกันอย่างพร้อมเพรียง ฟูเชียก็ยกกรงขนาดเล็กขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ บนกรงมีผ้าคลุมอยู่ ไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน หญิงสาวรอให้เด็กๆ อ่านจนครบทุกข้อ หันไปมองคู่หูก็เห็นเขาเดินออกไปที่ระเบียง คุยโทรศัพท์หน้าตาเครียดเคร่ง
เอาล่ะค่ะ เก่งมากเลย สมเป็นนักเรียนของนักเรียนประถม เซนท์ ไซมอน หญิงสาวเว้นจังหวะ มองนักเรียนที่ยิ้มแต้ด้วยความภาคภูมิใจ แล้วยกผ้าคลุมกรงออก มาลองปราบปิศาจกันดีกว่านะคะ เรามีตุ๊กตาสาธิตมาให้ทดลองใช้กัน
ในกรงมีตุ๊กตาสัตว์ประหลาดเก่าๆ อยู่สามตัว แต่ละตัวหน้าตาเหมือนลูกเม่น มีขนนุ่มปุกปุยแทนหนามแหลม เด็กๆ ร้องฮือฮาด้วยความตื่นเต้น โจไซยาห์เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ฟูเชีย เธอไปเอาตุ๊กตาพวกนี้มาจากไหน เขาดูเครียด แต่ก็ไม่ได้เครียดเกินกว่าปกติ หญิงสาวจึงตอบง่ายๆ ไปว่า เอามาจากที่แล็บน่ะโจ ยังว่ามาส่งเร็วจัง ทำเรื่องขอไปเมื่อวาน หกโมงเช้ามาวางรอที่โต๊ะส่วนกลางแล้ว ก่อนที่โจจะได้พูดอะไรต่อ เด็กๆ ก็กรูเข้ามาล้อมรอบกรงเสียแล้ว หู ตุ๊กตาน่ารักจังเลย เด็กคนนึงพูด เอื้อมมือจะจับตุ๊กตา อย่ามาแย่งเค้านะ เค้าก็อยากจับคุณเม่น ชายหนุ่มพยายามลากเด็กๆ ออกมา พลางตวาดฟูเชียอย่างหัวเสีย โธ่เว้ย ยายบ้า รู้ไหมว่าทำอะไรลงไป ตุ๊กตาพวกนั้นมัน...
โจแข็งแรง แต่เขาไม่ใช่สัตว์ประหลาด ผู้ชายคนเดียวจับเด็กเป็นสิบไม่ได้ เด็กหญิงตะโกน รุมสัตว์ประหลาดกอริลล่าตัวใหญ่เลย เย้ แล้วเด็กๆ ครึ่งห้องก็มะรุมมะตุ้มกันจับตัวโจไว้ ปีนไหล่บ้าง เกาะขาบ้างพะรุงพะรังไปหมดจนโจแทบขยับไม่ได้
ปล่อยนะ ไอ้เด็กพวกนี้ เดี๋ยวเถอะ! อะไรกัน โจ นายทำอย่างนี้ทำไม ตะโกนใส่เด็กๆไม่ได้นะ ไม่ใช่เวลามาเถียงกัน จับเด็กๆ ไว้ อย่าให้เด็กคนไหนโดนตัวไอ้พวกเม่นนั่นเชียวนะฟูเชีย สายไปแล้ว เสียงตะโกนนั่นยิ่งเหมือนคำท้า เด็กชายคนหนึ่งเอื้อมมือลดกรงไปบีบพุงกลมๆ ของตุ๊กตาเม่นเต็มแรง สิ่งที่ฟูเชียคิดว่าเป็นตุ๊กตาเม่นอ้าปากกว้าง กรีดร้องเสียงโหยหวน เสียงกึงกังดังสะเทือนมาจากฟากหนึ่งของผนัง มันดังขึ้นทุกที พื้นที่ฟูเชียยืนอยู่สั่นกราวเหมือนมีแผ่นดินไหว หมอบ!! โจตะโกน
โครม ผนังของห้องเรียนโรงเรียนประถม เซนท์ ไซมอน พังเป็นรูโหว่ เศษปูนกระจายไปทั่วทั้งห้อง และคงจะบาดพวกเด็กๆ หากโจและฟูเชียไม่ได้เอาตัวไปบังไว้ เศษปูนคงกระเด็นไปโดนหน้าผากโจ เลือดรินผ่านหน้าเขาเป็นสาย หยดลงพื้นดังแหมะ แหมะ ท่ามกลางเสียงอึกทึก ออกจากห้องไป เร็วสิ! ฟูเชียได้ยินเสียงโจตะโกน เด็กๆ ร้องไห้ระงม เด็กน้อยที่บีบตัวเม่นวิ่งมาหาโจ ผมขอโทษ ฮือๆ ขอโทษค้าบ พี่เจ็บไหม โจไม่ตอบ ได้แต่ดันหลังเด็กคนนั้นให้ออกจากห้องไป ควันฝุ่นฟุ้งกระจายลงแล้ว เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ทะลุกำแพงเข้ามาได้ถนัดตา มันก็แค่เม่นตัวนึง... ที่กลายพันธุ์จากกัมมันตภาพรังสีเรียบร้อยแล้ว ตัวของมันใหญ่ขนาดรถกระบะ หลังเต็มไปด้วยหนามแหลมขนาดยาวเท่าเสาวิทยุ น้ำลายของมันไหลเป็นฟองฟอดมาจากปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวอาบยาพิษ จะตอบว่าเจ็บก็กลัวเสียฟอร์มเด็ก แต่เจ็บจริงๆ นะเนี่ย โจพูดหน้าตาย มาตลกฝืดอะไรกันตอนนี้นะตาบ้า โจ... ฉัน ฟูเชียตั้งใจจะขอโทษ แต่โจชักปืนออกมาแล้วยิงใส่สัตว์ประหลาดติดๆ กันสามนัดซ้อน
พิษสีแดงดำกระจายเต็มห้องเรียนไปหมด เม่นยักษ์กรีดเสียงแหลมแสบแก้วหู ร่างใหญ่ยักษ์ของมันบิดเร่าๆ ด้วยความเจ็บปวด ยิงก่อน คุยทีหลัง ฟูเชียชักปืนบ้าง การฝึกสอนหญิงสาวว่า เม่นทรายมีจุดอ่อนอยู่กลางหลัง ภายใต้หนามแหลม เป็นจุดเดียวที่สามารถฆ่าเม่นทรายได้อย่างรวดเร็ว ยิงที่ลิ้นและตาทำให้มันเจ็บปวดได้ ปกติมันจะหนีไป แต่ในกรณีที่แม่เม่นทรายต้องการจะปกป้องตัวอ่อน มีแต่จะทำให้มันคลั่งมากขึ้น เหมือนอย่างตอนนี้ ลิ้นของมันยืดยาวออก เปื้อนทั้งเลือดและพิษสีแดงฉาน ตวัดใส่นักปฏิบัติการหนุ่มด้วยความเร็ว โจเองก็เร็วไม่แพ้กัน ชายหนุ่มม้วนตัวหลบ ใช้โต๊ะเรียนเป็นเกราะกำบัง ก่อนจะยิงสวนเป็นระยะ เสียงปืนดังกึกก้องไปทั้งสถานศึกษา โต๊ะไม้ที่เปื้อนเลือดเดือดเป็นฟองฟอด ก่อนจะละลายลงช้าๆ เหมือนเทียนไขโดนความร้อน ฟูเชียรู้ โจเดินเกมนี้เพราะเขาตั้งใจจะเป็นนกต่อ ล่อให้ความสนใจทั้งหมดของเม่นทรายมาอยู่กับเขา เพื่อที่คู่หูของเขาจะได้ยิงปิศาจตนนี้จากข้างหลังได้ถนัด พูดให้ง่ายกว่านั้น ฟูเชียรู้ว่าหล่อนจะต้องเป็นคนยิงกระสุนนัดสังหาร ปลิดชีวิตเจ้าเม่นตัวนี้ โจยิงปืนออกมาอีกสามนัด เขาโหนตัวไปบนกำแพง เม่นทรายก็หลงกล ยืดตัวเต็มความสูง จุดตายของมันปรากฏชัดต่อสายตาเจ้าหน้าที่สาว ฟูเชียเล็งปืน ระยะขนาดนี้ไม่พลาดแน่
เหล่าลูกเม่นต่างตื่นกันหมดแล้ว พากันร้องไห้ระงมหาแม่ ยัยทึ่ม ยิงสิ ทำอะไรอยู่ ชายหนุ่มตะโกน มือของเขาเปื้อนเลือดและเหงื่อจนลื่น เขาจะตกจากคานแล้ว มีแค่ปลายนิ้วเกี่ยวเอาไว้เท่านั้น ตกลงมาเสร็จแน่ เจ้าหน้าที่สาววางนิ้วลงบนไกปืน เส้นสายในตัวเกร็งแน่น
แต่ทำไมในอกถึงโหวงๆ อย่างนี้นะ
ทำอะไรสักอย่างสิ โจหายใจถี่ รองเท้าบู๊ทของเขาพยายามเปะปะหาที่พักน้ำหนัก แต่การแกว่งบู๊ทไปมาทำให้ชายหนุ่มต้องออกแรงรับน้ำหนักตัวเองมากขึ้น โธ่เว้ย
ฟูเชียทิ้งปืน หญิงสาวทุ่มตัวด้วยความเร็วทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ วิ่งไปอีกฟากหนึ่งของห้องแล้วเปิดประตูกรงออก
โจร้องเสียงหลงเมื่อแขนของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไป ร่างหนาตกลงมากระแทกพื้นดังอั้กใหญ่ ปืนกระเด็นไปอีกทิศ เม่นทรายคำรามดุร้าย มันพุ่งเข้าใกล้โจมากขึ้น โต๊ะไม้หนาหนักปลิวไปคนละทิศละทาง
โจ!!! ฟูเชียตะโกนลั่น
จากคุณ |
:
คมลิขิต
|
เขียนเมื่อ |
:
8 พ.ย. 55 08:54:32
|
|
|
|