Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เทวทูตที่รัก บทที่ 8 ช่ออสรพิษ vote ติดต่อทีมงาน

เทวทูตที่รัก บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1

บทที่ 7 แผนการของจอมปิศาจกับความร้ายกาจของมนุษย์
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12826129/W12826129.html

บทที่ 8 ช่ออสรพิษ

การปะทะกับลูซิเฟอร์อย่างไม่คาดฝันสร้างความกังวลต่อราฟาเอลเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าแม้จะเป็นฝ่ายล่าถอยแต่จอมปิศาจไม่มีวันรามืออย่างแน่นอน หลังจากรักษารอยฟกช้ำให้กับน้ำทิพย์และปลอบเธอจนหายจากอาการตระหนกแล้วเขาจึงกลับเข้าห้องเพื่อทำการรักษาตัวเอง แต่ในระหว่างที่พลังแห่งการเยียวยาของราฟาเอลกำลังถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่อยู่นั้นพลันมีคลื่นบางอย่างพุ่งวาบเข้ามารบกวนภายในดวงจิต รัศมีสีทองที่เปล่งประกายรอบตัวสั่นไหวอย่างรุนแรงและดับวูบลง ราฟาเอลคลายปีกที่ห่อหุ้มร่างของตนออกพร้อมกับหันหน้าไปยังที่มาของคลื่นปริศนาด้วยความตกใจ

“ใครบางคนกำลังทำสัญญากับลูซิเฟอร์” เขาพึมพำด้วยความหนักใจ เพราะเทวดาไม่ได้รับการอนุญาตให้ทำลายชีวิตมนุษย์แม้คนผู้นั้นจะชั่วร้ายเพียงใดก็ตาม กระนั้นก็ยังมีข้อยกเว้นเพราะเหล่าอัครเทวทูตทั้งเจ็ด มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถพิพากษาชนบาปเหล่านี้ได้

มิคาเอล

เมื่อนึกถึงจอมทัพแห่งสวรรค์ราฟาเอลถึงกับถอนใจออกมา เพราะหากมิคาเอลลงมือ มนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับคนบาปเหล่านั้นทั้งหมดก็จะถูกลงทัณฑ์โดยไม่มีข้อละเว้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ความชั่วร้ายทั้งหมดจักต้องถูกกำจัดให้สิ้น

มันเป็นเหตุผลที่ตัวเขาเองไม่เคยเห็นด้วยเลยแม้แต่น้อย

ราฟาเอลเงยหน้าขึ้นมองผ่านเพดานห้องเลยขึ้นไปจนถึงท้องฟ้า จิตใจที่เคยพร่ำภาวนาขอความช่วยเหลือจากเบื้องบนเริ่มสั่นคลอน หากผู้ลงมาช่วยคือกาเบรียลหรืออูริเอลคงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเป็นมิคาเอลแล้วละก็ พลังมืดที่สัมผัสเมื่อครู่อาจจะทำให้เขาลงมือทำลายเมืองแห่งนี้เช่นเดียวกับโซดอม กอมโมราห์

ช่วงที่อยู่ในความกลัดกลุ้มพลันหูก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วมา แม้จะได้ยินไม่ชัดนักแต่น้ำเสียงกับท่วงทำนองอันแสนไพเราะทำให้จิตใจของราฟาเอลปลอดโปร่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความอยากรู้ว่าใครคือผู้ร้องเทวดาหนุ่มจึงก้าวออกจากห้องเดินไปยังต้นเสียงซึ่งดังมาจากหลังบ้าน เมื่อก้าวเข้าไปในเรือนกล้วยไม้เขาจึงพบว่าเจ้าของน้ำเสียงที่ได้ยินก็คือน้ำทิพย์นั่นเอง ฝ่ายหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงกุกกักจึงหันหลังกลับมามอง เมื่อเห็นราฟาเอลกำลังเดินเข้ามาหาเธอจึงเอ่ยทักอย่างร่าเริง

“อรุณสวัสดิ์ เช้านี้เป็นยังไงบ้าง”

“ดีกว่าเดิมมาก”เทวดาหนุ่มตอบ แต่ดูเหมือนน้ำทิพย์จะไม่ยอมเชื่อเพราะเธอขมวดคิ้วและถือวิสาสะแตะไปตามลำตัวของอีกฝ่าย

“จะดีได้ยังไงก็เมื่อวานโดนลูซิเฟอร์เล่นงานหนักขนาดนั้น”พูดพลางแหวกเสื้อนอนของเทวดาหนุ่ม หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจเมื่อไม่เห็นบาดแผลบนร่างกายของเขาเลยสักรอย

“เหลือเชื่อ ทั้งที่เมื่อวานโดนอัดมาขนาดนั้นแต่ไม่มีรอยอะไรเลยสักนิด”เธอพึมพำทั้งที่มือยังคงลูบไล้แผ่นอกของราฟาเอลไม่ยอมหยุด เขาอมยิ้มน้อยๆ

“บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าผมไม่เป็นอะไร”เขาเลื่อนสายตามองไปยังกระถางกล้วยไม้ที่ถูกยกลงมาวางบนโต๊ะ “กำลังทำอะไรอยู่หรือ”

คำถามของเขาทำให้น้ำทิพย์จำต้องละมือที่กำลังลูบคลำกล้ามเนื้อแน่นด้วยความเสียดายและเดินไปยังโต๊ะที่เธอทำงานเมื่อครู่

“ฉันกำลังดูกล้วยไม้น่ะ ตอนที่ตกลงมาคุณทับมันแบนไปหลายต้น เลยต้องตรวจดูว่ามีต้นไหนรอดบ้างจะได้ย้ายกระถางและแยกไปดูแลจนกว่ามันจะแข็งแรง”

“คุณเป็นผู้หญิงที่มีน้ำใจมาก ดูแลเอาใจใส่แม้กระทั่งต้นไม้”

ราฟาเอลเอ่ยชมจากใจจริง น้ำทิพย์หัวเราะออกมาเบาๆ

“ก็ไม่ได้ใจดีอะไรหรอก แต่คุณพ่อรักกล้วยไม้พวกนี้มาก ขืนปล่อยให้พวกมันตายมีหวังโดนตัดเงินค่าขนมไม่เหลือ”

พูดทั้งที่มือยังคงง่วนอยู่กับการตัดใบที่มีจุดแต้มสีน้ำตาลออก ราฟาเอลมองช่อดอกที่บานสะพรั่งอย่างชื่นชม

“สีสวยมาก”

“ไหน”น้ำทิพย์หันมามองและยิ้มกว้าง”อ๋อ แวนด้านั่นเอง พวกนี้มีเสน่ห์ตรงที่ดอกแน่น สีสด อย่างสีม่วงเข้มนั้นเขาเรียกโรเบิร์ตดีไลท์แบล็คเดวิน (Robert’s Delight Black Bevin) ส่วนสีอ่อนกว่าจนเกือบแดงนั่นคือโรเบิร์ตดีไลท์เรดแบล็ค (Robert’s Delight Red Black)”

“แล้วดอกขาวโตนั่นชื่ออะไร”เทวดาหนุ่มถามพลางชี้ไปยังกระถางที่มีดอกกล้วยไม้สีขาวขนาดใหญ่กว่ากลุ่มแวนด้า น้ำทิพย์แตะกลีบมันอย่างแผ่วเบาก่อนตอบ

“ถ้าเป็นดอกที่มีสีเหลืองคล้ายมงกุฎคือแคทลียาควีนสิริกิตไดมอนด์คราวน์ (C.Queen Sirikit Diamond Crown) ส่วนดอกสีขาวที่ตรงกลางเป็นสีม่วงเข้มนั่นคือแคทลียา มาดามอิดิธ บอนโก้ (Madame Edith Bongo) แต่ฉันเสียดายทิพย์มาลีนั่นจัง เพิ่งบานได้แค่วันเดียวเท่านั้นก็โดนเทวดาตกลงมาทับดับอนาถเสียแล้ว”

พูดพลางถอนใจน้อยๆ ราฟาเอลจึงก้มศีรษะลงพร้อมกับพูด

“ผมต้องขอโทษด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันยังมีแบบนั้นอีกสองสามต้น อีกอย่างยังนับว่าโชคดีที่คุณไม่ตกลงไปทับรองเท้านารีเพราะพวกนี้บางพันธุ์หายาก ขืนเป็นอะไรไปคุณพ่อจับฉันหักคอจิ้มน้ำพริกแน่”

หญิงสาวชี้ไปที่มุมด้านหนึ่งพลางพูดปิดท้ายเชิงติดตลก ราฟาเอลมองตามแล้วยิ้มเมื่อเห็นดอกกล้วยไม้หลากสีกำลังชูช่อออกมาจากกอของตนเอง

“สวยมาก”เขาพูดและหันกลับมายังน้ำทิพย์อีกครั้ง”คุณเป็นผู้หญิงที่มีความรอบรู้อย่างน่าประทับใจ”

คำชมซึ่งหน้าทำเอาน้ำทิพย์ถึงกับเขินจนเกือบจะทำอะไรไม่ถูก เธอรีบยกกระถางกล้วยไม้ขึ้นไปแขวนเป็นการแก้เก้อก่อนจะพูด

“แค่จำคุณพ่อมาเท่านั้น บางชื่อฉันยังพูดผิดด้วยซ้ำ”

“ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังใส่ใจ”เทวดาหนุ่มพูดพลางมองกระถางกล้วยไม้รอบตัว แม้บางต้นจะปราศจากดอกแต่ความเขียวสดของก้านใบที่แข็งแรงบ่งบอกว่าพวกมันได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่กล้วยไม้ในโรงเลี้ยงเท่านั้น ต้นไม้ทุกต้นของบ้านหลังนี้ก็ล้วนแล้วแต่สดชื่นสมบูรณ์พรั่งพร้อมไปด้วยดอกและผลเป็นที่น่าชื่นใจ ด้วยดวงตาพิเศษของเทวดาทำให้ราฟาเอลสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งพลังชีวิตของแมกไม้ รังสีของทุกต้นล้วนแจ่มจรัสสดใส สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่หากเจ้าบ้านไม่ใช่ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เพราะจากอดีตที่ผ่านมาแม้เขาจะเคยเห็นสวนอันแสนวิจิตรงดงามมามากมาย แต่หากสถานที่ใดผู้ปลูกมีใจบาปหยาบช้าแล้วพลังชีวิตของต้นไม้เหล่านั้นก็จะมัวหมองไปด้วยตำหนิและรอยมลทิน

น้ำทิพย์มองราฟาเอลที่ยืนนิ่งเฉยไม่พูดไม่จาด้วยความสงสัย แต่เพราะเข้าใจว่าเขาใช้พลังไปมากอาจจะเพลียและหิวเธอจึงแขวนกล้วยไม้ไว้ตามเดิมจากนั้นจึงเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดกลับเข้าที่ เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วหญิงสาวจึงหันไปเรียก

“เข้าบ้านเถอะราฟาเอล”

เทวดาหนุ่มพยักหน้ารับและเดินไปตามคำเรียก หลังจากล้างมือจนสะอาดแล้วน้ำทิพย์จึงลงมือทำอาหารเช้าซึ่งวันนี้เธอตั้งใจจะทำน้ำสลัดแบบญี่ปุ่นสำหรับทานกับผักสด ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันราฟาเอลสังเกตว่าทั้งที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์น่ากลัวมาเพียงชั่วข้ามคืนแต่น้ำทิพย์กลับแทบจะไม่แสดงอาการหวาดกลัวเลยสักนิด แถมยังดูแจ่มใสมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ หลังจากนั่งไปได้สักพักเขาจึงตัดสินใจถาม

“คุณเป็นยังไงบ้าง”

“หมายความว่าอะไรหรือคะ”น้ำทิพย์ย้อนถามพลางวางแก้วกาแฟที่กำลังดื่มลง ราฟาเอลนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“ก็เมื่อคืนนี้คุณถูกลูซิเฟอร์ทำร้าย”

“อ๋อ เรื่องนั้นเอง”น้ำทิพย์พูดอย่างอารมณ์ดีและจิ้มมะเขือเทศส่งเข้าปากเคี้ยวเหมือนไม่ใส่ใจนักแต่พอเห็นสีหน้าวิตกของเทวดาหนุ่มแล้วเธอจึงรีบตอบ”ก็ตกใจบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไรนัก อีกอย่างตอนนี้ฉันมีเทวดาระดับอัครเทวทูตอยู่ในบ้าน ลูซิเฟอร์ไม่มีทางทำอะไรได้แน่”

“ถึงจะมีผมอยู่ด้วยแต่ก็ใช่ว่าจะคุ้มครองคุณได้ตลอดเวลา ตอนนี้พลังของผมยังอ่อนมาก หากลูซิเฟอร์โจมตีหนักกว่านี้หรือคุณอยู่ไกลเกินไปผมก็อาจไปช่วยไม่ทัน”

คำพูดของราฟาเอลทำให้น้ำทิพย์จำต้องนิ่งคิดแต่สุดท้ายเธอก็ยิ้ม

“แต่เขาก็ไม่ทำไม่ใช่เหรอ พวกคุณต่อสู้กันมาตั้งนานบางทีลูซิเฟอร์อาจจะเบื่อ ไม่แน่นะถ้าเกิดเขาถูกใจอารยธรรมของคนรุ่นใหม่อาจจะเปลี่ยนใจหันกลับมาลงทุนทำธุรกิจ หน้าตาหล่อเหลามาดเท่แถมมีอำนาจเหนือมนุษย์แบบนั้นจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด เผลอๆเขาอาจจะกลายเป็นผู้กุมอำนาจทางการค้าของโลกไปเลยก็ได้”

ราฟาเอลส่ายหน้ากับความคิดอันสุดแสนพิสดารของน้ำทิพย์

“คุณมองโลกในแง่ดีเกินไป”

น้ำทิพย์นึกแย้งในใจว่าขืนมองโลกในแง่ร้ายเทวดาก็คงไม่ร่วงใส่หลังคาบ้านของเธอ แต่ถึงจะคิดแบบนั้นแต่หญิงสาวกลับยักไหล่พร้อมกับพูด

“ขืนมองโลกในแง่ร้ายฉันก็วาดรูปสวยๆไม่ได้นะสิ”

ราฟาเอลยิ้มกับคำตอบของเธอ

“พูดได้สมกับเป็นคุณ”เขามองหญิงสาวที่รวบช้อนและทำท่าจะยกจานไปล้าง”เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัยเถอะ”

น้ำทิพย์หันมาทำตาโตเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินจนราฟาเอลเก็บจานอาหารทั้งหมดไปที่อ่างล้างจานเธอจึงกรีดร้องในใจ

จะไม่ให้ร้องได้ยังไงในเมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเทวดาหนุ่มสุดหล่อรูปร่างผึ่งผายกำลังก้มหน้าก้มตาใช้ฟองน้ำถูจานอย่างขะมักเขม้น มันช่างเป็นภาพที่น่ารักจนเธออยากจะกระโดดเข้าไปกอดและเอาหน้าถูไถแผ่นหลังของเขาให้หายมันเขี้ยวเหลือเกิน

“สุดยอด เทวดามายืนล้างจานให้ฉัน”

น้ำทิพย์ประสานมือด้วยความปลาบปลื้มอย่างที่สุด จนเมื่อราฟาเอลคว่ำจานทุกใบเสร็จเรียบร้อยและหันหน้ากลับมาเห็น เขาจึงเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“มัวยืนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบไปแต่งตัว”

น้ำทิพย์สะดุ้งและรีบส่งยิ้มเก้อให้กับเขาก่อนจะวิ่งตื๋อขึ้นไปชั้นบน ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเธอจึงกลับลงมาอีกครั้งในชุดนักศึกษา เมื่อเห็นราฟาเอลยืนมองท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดกว่าทุกวันหญิงสาวจึงเอ่ยถาม

“มีอะไรเหรอ”

เทวดาหนุ่มสั่นศีรษะน้อยๆก่อนหันหน้ากลับมาตอบ

“ไม่มี”

“แต่สีหน้าของคุณเหมือนเจออะไรบางอย่าง”น้ำทิพย์พูดพลางชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง”หรือว่ามีปิศาจอยู่ข้างนอก”

“พวกมันไม่กล้าเข้ามาในบริเวณนี้หรอก”ราฟาเอลพูดและยืนนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิด น้ำทิพย์มองอ่างนึกสังหรณ์ใจ

“แล้วฉันจะโดนพวกมันดักทำร้ายระหว่างทางหรือเปล่า”

ราฟาเอลอยากจะตอบว่าไม่มีปิศาจตนใดกล้าลงมือทำร้ายน้ำทิพย์เพราะเวลานี้เธอคือเหยื่อคนสำคัญของลูซิเฟอร์ แต่ความที่ไม่อยากให้หญิงสาวตกใจกลัวมากจนเกินไปเขาจึงตอบเลี่ยงไปว่า

“นอกจากลูซิเฟอร์แล้วผมยังไม่พบปิศาจอื่นเลยสักตัว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเพราะฉันไม่อยากให้คนอื่นต้องมาพลอยเดือดร้อนไปกับเราด้วย” น้ำทิพย์พูดอย่างโล่งใจก่อนจะคว้ากระเป๋ามาสะพายและฉวยกุญแจนถขึ้นมาขณะกำลังจะเดินออกจากบ้านเธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อราฟาเอลเอ่ยเรียก

“น้ำทิพย์”

หญิงสาวหันหน้ากลับไปมองและขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาหาแต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามเธอก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเทวดาหนุ่มวางอะไรบางอย่างลงบนมือของเธอพร้อมกับพูด

“เก็บของสิ่งนี้เอาไว้กับตัว มันจะช่วยเหลือคุณเมื่อถึงคราวจำเป็น”เขาพูดเสียงนุ่มพลางกุมมือเธอแน่น”หากพบกับลูซิเฟอร์ก็ขอให้นึกถึงผม”

ดวงตาสีฟ้าที่มองด้วยความห่วงใยทำให้น้ำทิพย์ใจเต้น ครั้นจะสบตากับราฟาเอลเธอก็บังเกิดอาการขวยเขินขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ พวงแก้มที่ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างปุบปับทำให้หญิงสาวต้องรีบก้มหน้าลงและดึงมือออกจากการเกาะกุมของเทวดาหนุ่มพร้อมกับแบออกเพื่อดูของให้เขามอบให้

“ขนนก” เธอพึมพำด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นขนนกสีขาวสะอาดราวปุยฝ้ายในมือ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองราฟาเอลพร้อมกับถาม”อย่าบอกนะว่าดึงออกมาจากปีกของคุณ”

“ผมใช้พลังสร้างมันขึ้นมาต่างหาก”เขาตอบเสียงนุ่ม”แต่มันจะคุ้มครองคุณจนถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น”

“ทำไม”

“เพราะตอนนี้พลังของผมยังไม่แข็งแกร่งพอและรัตติกาลคือขุมพลังของเหล่าปิศาจ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยผมขอให้คุณกลับบ้านก่อนค่ำเพื่อไม่ให้บริวารของลูซิเฟอร์ทำร้ายคุณได้”

น้ำทิพย์พยักหน้ารับและเก็บขนนกไว้ในกระเป๋าถือประจำตัว เธอโบกมือให้กับราฟาเอลก่อนจะก้าวขึ้นรถแต่ก่อนจะขับออกจากบ้านหญิงสาวกลับเปิดกระเป๋าและหยิบขนนกที่ราฟาเอลมอบให้ขึ้นมาดูอีกครั้ง หลังจากนั่งคิดอยู่ชั่วครู่เธอจึงตัดสินใจสอดมันเอาไว้ในยกทรงและยิ้ม

“เอาไว้ตรงนี้อุ่นใจกว่า”เธอเหลือบตาขึ้นมองราฟาเอลผ่านกระจกมองหลังและยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าตรงไปยังมหาวิทยาลัย

นับว่าโชคดีที่ลานจอดรถหน้าอาคารที่เธอเรียนในวันนี้ค่อนข้างโล่ง เมื่อลงจากรถเธอจึงหยิบตำราเรียนและกระเป๋าใส่โน้ตบุคขึ้นมาสะพายจากนั้นจึงเดินไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นบนซึ่งเมื่อไปถึงหญิงสาวจึงเดินตรงเข้าไปหาจรายุทธกับจันทรนิภาที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงาน

“ไง”หญิงสาวเอ่ยทักพลางชะโงกหน้ามองภาพที่ปรากฏบนหน้าจอโน้ตบุคของจรายุทธและขมวดคิ้วเมื่อพบว่ามันเป็นรูปอสุรกายตัวใหญ่หางยาวแถมยังมีปีกเป็นค้างคาวถึงหกคู่”ตัวอะไรของนายน่ะเต่า”

“ลูซิเฟอร์ไง”จรายุทธตอบอย่างภาคภูมิใจและทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ เขารีบเอามือบังหน้าจอเอาไว้เหมือนภาพที่ตนกำลังทำเป็นความลับสุดยอดพร้อมกับพูด”อ๊ะ ห้ามดูเพราะนี่เป็นผลงานระดับสูงของท่านราชาเต่า”

“หมั่นไส้”จันทรนิภาพูดขึ้นพร้อมกับใช้เมาส์ปากกาจิ้มแขนเพื่อนไม่แรงนักแต่คราวนี้จรายุทธกลับยักคิ้วพร้อมกับยิ้มอย่างทะเล้น

“ตอนนี้เมาส์ปากกาของหญิงกุ้งติดเชื้อเสื่อมของผมไปแล้ว รูปหนุ่มๆในคอมทั้งหมดจะกลายเป็นสุภาพบุรุษสุดเสื่อม”

“งั้นก็ต้องหายาแก้”พูดพลางจันทรนิภาก็หยิบคัตเตอร์ขึ้นมาและแสยะรอยยิ้มเหี้ยม”นั่นก็คือเลือดของนาย”

“เลือดผมรักษาอะไรไม่ได้หรอกครับ”จรายุทธลากหางเสียงทั้งที่ยังคงจ้องอาวุธในมือของเพื่อนไม่วางตา จันทรนิภาแยกเขี้ยวก่อนจะวางคัตเตอร์ลง

“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายสักครั้ง แต่ต่อไปถ้ากล้ามาแตะต้องหนุ่มในฮาเร็มของฉันอีก นายจะกลายเป็นเต่าไม่มีกระดอง”

จรายุทธทำตาปริบๆและรับคำด้วยน้ำเสียงที่เบาจนเกือบจะกลายเป็นกระซิบ ส่วนจันทรนิภาเมื่อกำราบเพื่อนได้จึงหันไปมองน้ำทิพย์ที่กำลังเปิดโน้ตบุคเพื่อทำงาน ตอนแรกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจกับภาพบนหน้าจอเท่าใดนักเพราะเคยเห็นในชั่วโมงเรียนมาแล้วแต่พอรูปล่าสุดปรากฏขึ้น จันทรนิภาถึงกับหลุดปากอุทานเสียงดังลั่น

“หล่อเป็นบ้า” เธอขยับแว่นพลางก้มหน้าลงไปดูจนแทบจะมุดเข้าไปในจอ”ใครน่ะ”

“ลูซิเฟอร์” น้ำทิพย์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบต่างจากจันทรนิภาที่มีอาการตื่นเต้นจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่

“เธอวาดเมื่อไหร่”พูดพลางวางปลายนิ้วบนหน้าจออย่างหลงใหล”แล้วไปได้นายแบบหล่อขนาดนี้มาจากไหน”

น้ำทิพย์ตอบคำถามของเพื่อนภายในใจว่า จากลูซิเฟอร์ตัวเป็นๆนะสิ แต่สิ่งที่หลุดจากปากของเธอกลับเป็น

“ฉันจินตนาการเอง”

“ช่างเป็นจินตนาการที่เลิศอะไรเช่นนี้”จันทรนิภาพูดอย่างพร่ำเพ้อพลางลากมือไปบนภาพพร้อมกับพูด”ใบหน้าหล่อชวนให้ลุ่มหลง แผงอกกว้างแข็งแกร่งจนฉันอยากโผเข้าไปซบ ที่น่าทึ่งก็คือปีกทั้งหกที่กางออกมา มันให้ความรู้สึกเหมือนอำนาจของพญาปิศาจที่ยิ่งใหญ่จนสามารถครอบครองโลกได้ทั้งใบ ถ้าลูซิเฟอร์เป็นแบบนี้จริงๆฉันก็จะขอยอมคุกเข่าลงศิโรราบด้วยความเต็มใจ เธอคิดยังไงเหรอน้ำทิพย์ถึงได้วาดเขาออกมาในลักษณะนี้”

ประโยคสุดท้ายเธอหันไปถามเพื่อน จรายุทธซึ่ชะโงกหน้าเข้ามาดูกลับสั่นศีรษะ

“ไอ้หล่อมันก็หล่ออยู่หรอก แต่ผมว่ามันน่ากลัวมากกว่า โดยเฉพาะดวงตาของเขามันทั้งเย็นชา โหดเหี้ยมชนิดสามารถสยบคนทั้งโลกได้เพียงแค่มอง น่าทึ่งมากที่ทิพย์สามารถถ่ายทอดความชั่วร้ายของเขาทั้งหมดได้จากดวงตาเพียงคู่เดียว”

คำวิจารณ์จากเพื่อนรักทำให้น้ำทิพย์อดหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานขึ้นมาไม่ได้ ช่วงที่อยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของลูซิเฟอร์เธอก็อดนึกแปลกใจตัวเองอยู่ไม่หายว่าเหตุใดในตอนนั้นถึงไม่พยายามดิ้นรนขัดขืนจนกระทั่งเมื่อคืนตอนที่นั่งวาดรูปจอมปิศาจหญิงสาวจึงนึกขึ้นมาได้ว่าระหว่างที่ถูกจับเธอเองก็คิดหาทางที่จะสลัดตัวเองให้พ้นจากการจับกุมอยู่เหมือนกัน แต่พอได้สบตากับลูซิเฟอร์แล้วความคิดเหล่านั้นรวมทั้งเรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอก็มลายหายไป เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้วน้ำทิพย์ก็บังเกิดความรัญจวนใจขึ้นมาอย่างปุบปับจนถึงกับต้องผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆเพื่อช่วยระบายความรู้สึกดังกล่าวให้คลายลง จะไม่ให้เธอรู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรเพราะเมื่อนึกถึงดวงตาคมกริบของลูซิเฟอร์ซึ่งแม้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความอำมหิตแต่มันกลับแฝงเสน่ห์อันลึกล้ำเอาไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเสน่ห์ที่ว่านั่นมันคืออะไรเพราะในเวลานั้นเธอรู้ได้อย่างเดียวว่าดวงตาของลูซิเฟอร์ช่างเย้ายวนชวนมองและเต็มไปด้วยแรงดึงดูดใจอย่างแสนร้ายกาจ เพียงแค่จอมปิศาจปรายตามองเธอเท่านั้น น้ำทิพย์ก็เกิดอาการมือไม้อ่อนนอนระทดระทวยอยู่ในอ้อมกอดหมดแรงต่อสู้ขึ้นมาเสียเฉยๆ  

น้ำทิพย์หลับตาลงและถอนใจออกมาอีกครั้ง ถึงจะกลัวลูซิเฟอร์จนตัวสั่น แต่น่าแปลกที่ตอนนี้เธอมีความปรารถนาลึกๆอยู่ในใจว่า อยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง ทั้งที่รู้ว่าการกระทำเช่นนั้นเปรียบเสมือนกับการล้อเล่นกับความตาย

“มัวใจลอยอะไรอยู่ อาจารย์มาแล้ว”

เสียงจันทรนิภาเตือนเบาๆ น้ำทิพย์สะดุ้งสุดตัว หญิงสาวรีบสะบัดศีรษะสองสามครั้งเหมือนต้องการไล่ใบหน้าของลูซิเฟอร์ให้ออกไปจากหัวซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าใดนักเพราะยิ่งพยายามจะลืมมากเท่าใดก็เหมือนเพิ่มน้ำหนักตอกย้ำภาพเหล่านั้นเข้าไปในความทรงจำ น้ำทิพย์หวนนึกถึงริมฝีปากที่เหยียดยิ้มเหมือนจะดูแคลนทุกสิ่ง หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวความร้อนรุ่มภายในกายที่พุ่งทะลักขึ้นมาอย่างท่วมท้นจนเธออยากจะตะโกนออกมา ขณะที่กำลังอยู่ในอาการกระวนกระวายด้วยความทรมานอยู่นั้น มือข้างหนึ่งก็เลื่อนขึ้นมาแตะหน้าอก พริบตานั้นเองที่หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีแสงสีทองส่องประกายสว่างวาบขึ้นวูบหนึ่งจากนั้นความรู้สึกประหลาดทั้งหลายก็หายไป สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความงุนงงต่อน้ำทิพย์เป็นอย่างมาก แต่เมื่อหญิงสาวนึกถึงสิ่งที่ซุกเอาไว้ในเสื้อชั้นในแล้วเธอจึงระบายลมหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับกล่าวพึมพำ

“ราฟาเอล”

มือกดทรวงอกแน่นด้วยความสบายใจที่ได้รู้ว่าความห่วงใยของเทวดาหนุ่มทำให้เธอหลุดพ้นจากอำนาจสะกดของลูซิเฟอร์ น้ำทิพย์พริ้มตาลงเพื่อซึบซับพลังอบอุ่นจากขนนกที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อจิตใจสงบลงจนเป็นปรกติแล้วหญิงสาวจึงหันไปให้ความสนใจกับการเรียน

หมดชั่วโมงเรียนน้ำทิพย์นั่งพูดคุยเล่นหัวกับเพื่อนต่ออีกครู่หนึ่งจึงขอตัวกลับบ้าน หญิงสาวเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุขจนถึงรถ แต่ยังไม่จะได้เปิดประตูเธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงกฤตชัยร้องเรียก

“คุณน้ำทิพย์ครับ”

หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจแต่รีบปรับให้ราบเรียบและเพิ่มรอยยิ้มเล็กน้อยพองามก่อนจะหันหน้าไปยังผู้ที่กำลังเดินเข้ามาหา

“คุณคริส มีอะไรหรือคะ”

“แหมถามแบบนี้ผมน้อยใจนะครับ ต้องมีธุระเท่านั้นเหรอถึงจะยอมคุยกับผม”

กฤตชัยกล่าวเชิงน้อยใจ น้ำทิพย์แอบถอนใจออกมาเบาๆอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะปั้นหน้าให้ดูยิ้มแย้ม

“ทิพย์ต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายพูดแบบนั้น เพราะนักธุรกิจอย่างคุณคริสคงไม่มีเวลาพูดคุยกับใครหากไม่ใช่ธุระสำคัญจริงๆ”

คำพูดของหญิงสาวทำให้กฤตชัยอมยิ้ม เขาขยับมือที่ไขว้ไว้ด้านหลังเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นสิ่งที่เขาซ่อนก่อนจะพูด

“สำหรับคนอื่นผมเป็นแบบนั้น แต่กับคุณทิพย์แล้วผมพร้อมจะคุยด้วยเสมอ”เขาเว้นระยะคำพูดเล็กน้อยก่อนจะเอียงหน้าให้ดูน่ารัก”ถ้าคุณยินดีนะครับ”

กิริยาของเขาไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับน้ำทิพย์เลยสักนิด ตรงกันข้ามมันกลับทำให้เธอรู้สึกหวาดระแวงเขาขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ หญิงสาวขยับตัวถอยห่างจากเขาพองามแต่ยังคงแต้มรอยยิ้มไว้บนใบหน้า

“ถือเป็นเกียรติอย่างสูงเลยค่ะ”พูดพลางชำเลืองตามองไปยังด้านหลังของอีกฝ่ายอย่างระแวง กฤตชัยหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยื่นสิ่งที่เขาซ่อนไปตรงหน้าเธอ

“กรุณารับไว้ด้วยครับ”

น้ำทิพย์มองกุหลาบสีแดงสดช่อโตในมือเขาด้วยความประหลาดใจ

“อะไรกันคะเนี่ยคุณคริส”

เธอถามและยังคงยืนนิ่งไม่ยอมรับ กฤตชัยขยับช่อกุหลาบในมือพร้อมกับพูด

“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิครับคุณน้ำทิพย์ กุหลาบนี่คือคำขอโทษจากผมที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับคุณเมื่อวันก่อน”

“น้ำทิพย์ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไรคุณถึงขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ” น้ำทิพย์รีบพูดแต่ก็ยังไม่ยอมรับช่อดอกไม้อยู่ดี กฤตชัยตีสีหน้าสลดเหมือนเสียใจในสิ่งที่ตนเองกระทำ

“ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี” เขาส่งช่อกุหลาบให้น้ำทิพย์”กรุณารับคำขอโทษของผมด้วยเถิดครับคุณน้ำทิพย์”

น้ำทิพย์ขมวดคิ้วพลางมองดอกกุหลาบสีสวยในมือของกฤตชัยอย่างชั่งใจ

“แค่คำขอโทษเท่านั้นนะคะ”

เธอถามย้ำเหมือนต้องการให้แน่ใจว่าที่เขามอบดอกไม้ช่อนี้ก็เพื่อคำขอโทษไม่ได้มีความหมายอื่นเจือปน กฤตชัยยิ้มกว้าง

“ครับ แค่คำขอโทษเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่น”

น้ำทิพย์มองช่อกุหลาบอย่างลังเลแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับมันมา เมื่อเห็นหญิงสาวรับคำขอโทษแต่โดยดีแล้วกฤตชัยจึงยิ้ม

“ขอบคุณที่ยอมรับคำขอโทษจากผม คุณน้ำทิพย์ช่างเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจงดงามจริงๆ”

คำชมของเขาไม่ได้สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับหญิงสาวเลยสักนิด ตรงกันข้ามมันยิ่งเพิ่มความหวาดระแวงในตัวของคนพูดมากยิ่งขึ้น ความที่อยากจะหนีให้ห่างจากฤตชัยโดยเร็วที่สุดน้ำทิพย์จึงเปิดประตูรถพร้อมกับกล่าว

“คุณคริสก็พูดเกินไป” เธอหย่อนช่อกุหลาบไว้บนเบาะนั่งข้างคนขับก่อนจะหันกลับไปที่ชายหนุ่มอีกครั้งและชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายฉายความผิดหวังออกมาน้อยๆ

“เป็นอะไรไปหรือคะคุณคริส”

หญิงสาวถาม กฤตชัยไหวตัวเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้มก่อนตอบ

“เปล่านี่ครับ”

น้ำทิพย์มองท่าทางของเขาอย่างไม่ไว้ใจ

”ถ้าไม่มีอะไรแล้วทิพย์คงต้องขอตัวกลับก่อน ขอบคุณสำหรับกุหลาบสวยๆช่อนี้นะคะ”

เธอส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเข้าไปในรถและขับออกไปอย่างเร็ว กฤตชัยมองตามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเลศนัย

“ด้วยความยินดีครับ คุณน้ำทิพย์”

รอยยิ้มกระหยิ่มผุดขึ้นบนริมฝีปากจากนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปที่รถของตนเมื่อหย่อนตัวลงนั่งประจำที่คนขับแล้วเขาจึงขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด แต่เมื่อเห็นจรายุทธกับจันทรนิภาเดินออกมาจากอาคารดวงตาที่ฉายแววสงสัยก็เปลี่ยนไป ชายหนุ่มมองเพื่อนนักศึกษาด้วยความอาฆาตก่อนจะกวาดตามองนักศึกษาอื่นที่เดินผ่านไปมา กฤตชัยเหยียดรอยยิ้มหยัน

“อีกไม่นานพวกแกทุกคนจะต้องมาสยบอยู่แทบเท้าของฉัน”

ชายหนุ่มพูดอย่างลำพองก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกจากมหาวิทยาลัย

*/*/*/*/*

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 18:44:01




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com