Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ข้าแผ่นดิน : บทที่ ๑ vote ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๑ :


วรกายสูงโปร่งประทับบนพระเก้าอี้ทอดพระเนตรแผ่นกระดาษในพระหัตถ์ด้วยสีพระพักตร์ยุ่งยากพระทัย ครู่หนึ่งพระราชาธิบดีภูบดีก็ทรงเกยพระเศียรลงบนพนัก เงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรเพดานอย่างกลัดกลุ้ม ป่าไม้ในเขตตอนเหนือยิ่งอุดมสมบูรณ์เพียงไร ยิ่งเป็นที่หมายตามากขึ้นเท่านั้น ธุรกิจทำไม้ให้เม็ดเงินมหาศาลเพียงไรทรงทราบดี แต่ก็ไม่ทรงยอมเปิดสัมปทานอิสระแก่ผู้ใดทั้งสิ้น ทว่าเวลานี้มหาอำนาจใหญ่กำลังรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ พระราชาธิบดีภูบดีระบายปัสสาสะยาว ก่อนทรงขยับพระวรกายขึ้นมาทรงอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นอีกครั้ง

“...บัดนี้แคว้นอคินได้สัมปทานป่าไม้จากแคว้นศิรกานต์แล้ว แต่เนื่องจากพื้นที่สัมปทานส่วนหนึ่งนั้นได้ติดต่อกับเขตป่าของรัฐจันทรมัส ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงใคร่ขอสัมปทานจากจันทรมัสด้วย เพื่อให้การทำไม้เป็นไปโดยสะดวกยิ่งขึ้น...”

นั่นคือข้อความส่วนหนึ่ง แม้ว่าจะปรุงแต่งด้วยถ้อยคำสวยหรูสักปานใด แต่โดยนัยของมันคือการคุกคามชัดเจน อันที่จริงอคินไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเข้ามาเสียด้วยซ้ำ เพราะเวลานี้ก็รุกล้ำเขตแดนบางส่วนเข้ามาแล้ว ที่ทำข้อเสนอนี้มาก็เพื่อทำให้ตัวเอง 'ดูดี' ขึ้นมาเท่านั้นเอง

แคว้นศิรกานต์หวงแหนผืนป่าตนเองเพียงใด ทำไมจะไม่ทรงทราบ แต่ที่ยอมเปิดสัมปทานก็น่าจะเป็นเพราะกองกำลังอคินที่เข้ากุมทุกรัฐเอาไว้มากกว่า ตอนนี้ประวัติศาสตร์ก็ทำท่าจะซ้ำรอยเดิม เพราะทหารที่ดูแลตามแนวตะเข็บชายแดนก็ส่งข่าวผ่านทางเสนาบดีมหาดไทยเข้ามาเป็นระยะเกี่ยวกับการ 'พยายามรุกล้ำ' ของอีกฝ่าย รวมถึงการปะทะประปรายที่เกิดขึ้น ที่ร้ายไปกว่านั้น จันทรมัสคือรัฐกันชนที่ขวางกลางระหว่างอคินกับไศเลนทร์ ซ้ำเป็นด่านแรกที่จะเข้าสู่ธยามันอีกด้วย จันทรมัสจึงกลายสภาพเป็นชิ้นปลามันชิ้นใหญ่ที่ใครหยิบได้ก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะกินรวบทั้งแคว้นในคราวเดียว  

แผ่นกระดาษแผ่นใหม่ถูกหยิบออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทรงงานส่วนพระองค์ พระราชาธิบดีภูบดีทรงชะงักพระหัตถ์นิดหนึ่ง ก่อนจะทรงตวัดปากกาขนนกเป็นลายลักษณ์ เมื่อทรงเขียนจบก็ทรงอ่านทวนอีกครั้งหนึ่ง ทรงหวังว่าการตัดสินพระทัยครั้งนี้จะไม่ผิดพลาด



ซองจดหมายสีน้ำตาลประทับครั่งตราโสมส่องแสงวางนิ่งอยู่บนโต๊ะทรงงานส่วนพระองค์ขององค์เวธัสบดี เนตรสีลูกหว้าทอดพระเนตรอย่างแปลกพระทัย จันทรมัสไม่เคยส่งสาสน์อย่างใดๆ มาทางเมืองหลวงก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างธยามันกับหัวเมืองเหนือเป็นไปในลักษณะของการค้าเสียมากกว่า จดหมายที่มาจากทางเหนือเป็นประจำก็มีเพียงสาสน์ที่ส่งถึงพระอนุชาเท่านั้น  ขนงเข้มขมวดมุ่นทันทีที่ทอดพระเนตรข้อความที่ปรากฏในจดหมาย

“...อคินขอสัมปทานทำไม้ในจันทรมัส และขณะเดียวกันก็ส่งคณะเข้ามาทำการร่างสัญญาด้วย ข้อตกลงหนึ่งในสัญญาฉบับนั้นคือ คนของอคินทั้งหมดและผู้ที่สมัครใจเข้าเป็นคนในบังคับของอคิน จะได้รับสิทธิคุ้มกันเป็นพิเศษในทุกๆ เรื่อง...”

แคว้นอคินเริ่มลงมือแล้ว แต่ทางไศเลนทร์ยังเงียบหาย เห็นทีว่าสิ่งที่ทรงเคยดำริเอาไว้จะชักช้าไม่ได้เสียแล้ว สิทธิคุ้มกันพิเศษในทุกๆ เรื่องหมายความว่าอย่างไร ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ เพราะมันหมายถึงคนพวกนั้นจะอยู่เหนือกฎหมายของแคว้นธยามันโดยสิ้นเชิง หากเกิดคดีความอย่างใดๆ ก็จะต้องขึ้นศาลไต่สวนเฉพาะของอคินเท่านั้น แน่นอน ความยุติธรรมไม่ต้องพูดถึง อย่างไรก็ต้องเอนเอียงไปทางคนของตัวอยู่แล้ว ถึงจะมีข้อตกลงสวยหรูว่ายินดีให้คนท้องถิ่นเป็นองค์คณะตัดสินคดีก็เถิด แต่สุดท้ายคนที่มีอำนาจตัดสินความเด็ดขาดก็คือคนของแคว้นอคินเท่านั้น  

      องค์เวธัสบดีทอดพระเนตรคนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทรงงานด้วยสายพระเนตรยากจะเดาพระทัยได้ เจ้าชายกฤตตินไม่ตรัสว่าอะไร กลับทรงสบประสานสายพระเนตรกับพระเชษฐาอย่างรอคอยพระบัญชา ในที่สุดจอมคนแคว้นธยามันก็สรวลนิดๆ เมื่อทอดพระเนตรท่าทีของอนุชา

“เธอจะไม่ถามพี่เลยหรือว่า จันทรมัสส่งข่าวอะไรมา”

“หากหม่อมฉันทายไม่ผิด น่าจะเป็นเรื่องที่อคินขอสัมปทานป่าไม้”

“หูตาของเธอกว้างขวางไม่เลว”

“ขอบพระทัยสำหรับคำชม กระหม่อม” เจ้าชายกฤตตินค้อมพระเศียรนิดๆ พลางแย้มพระโอษฐ์

“ถ้าอย่างนั้น เธอคิดเห็นว่าอย่างไร”

“อคินกับไศเลนทร์ต่างหมายตาป่าไม้ของจันทรมัสมานาน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอคินจะมีภาษีดีกว่าตรงที่ยึดศิรกานต์ได้แล้ว ที่สำคัญคือแนวตะเข็บชายแดนของจันทรมัสกับศิรกานต์ที่มีบางส่วนคลุมเครืออยู่ว่าเป็นของใครกันแน่ เสือหิวอย่างอคินน่าจะเล็งเห็นประโยชน์ตรงนี้ เลยทำทีเป็นขอสัมปทาน”

“ใช่ นั่นเป็นฉากบังหน้า เธอรู้ไหมว่าพระราชาธิบดีภูบดีส่งข่าวมาว่าอย่างไร นอกจากเรื่องนี้แล้ว อคินยังขอสิทธิคุ้มกันพิเศษด้วย เจ้าภูบดีเองก็มองเห็นภัยตรงนี้ เลยถ่วงเวลาลงนามในสัญญาออกไปก่อน”

“หม่อมฉันไม่ห่วงการตัดสินพระทัยของพระราชาธิบดีภูบดี” เจ้าชายกฤตตินทูลพักตร์ขรึม “แต่อีกคนต่างหากที่น่าห่วง ความไม่รอบคอบของเขาอาจทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา” ทรงเลี่ยงที่จะไม่เอ่ยชื่อนั้นออกมา

“เพราะอย่างนี้ พี่เลยคิดว่าจะไปจันทรมัสด้วยตัวเอง เธอช่วยร่างจดหมายตอบไปทางโน้นที เราคงต้องเร่งลงมือเร็วกว่าเดิมแล้ว”

องค์เวธัสบดีพักตร์ขรึมลง ถึงจะทรงทราบดีว่าเสี่ยงไม่น้อย แต่ถ้าทอดเวลานานไปน่าจะเป็นผลเสียมากกว่า และตอนนี้พระราชาธิบดีภูบดีเองก็มีเค้าว่าจะเอนเอียงเข้าหาธยามัน น่าจะเจรจาความกันให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาสำคัญก็อย่างที่พระอนุชาทรงเอ่ยถึง คนเขลา ถ้ารู้ตนเองว่าเขลาและอยู่ในที่ของตนเองก็ดีอยู่หรอก แต่นี่ไม่เพียงไม่รู้ตัว ยังสอดมือเข้าแทรกในกิจการบ้านเมืองด้วย  



“หม่อมฉันไม่ยอมนะเจ้าพี่ จันทรมัสเป็นอิสระจากธยามันมานานแล้ว อยู่ๆ จะยอมเข้าเป็นดินเดียวกันได้อย่างไร”

สุรเสียงเกรี้ยวดังลั่นไปทั้งห้องทรงงานส่วนพระองค์ของผู้ครองรัฐจันทรมัส เจ้าของห้องประทับอยู่ที่พระเก้าอี้ตัวใหญ่ ทอดถอนปัสสาสะยาวอย่างเหนื่อยพระทัย มีศึกนอกจ่อเข้าประชิดยังไม่พออีกหรือ คนในจึงตั้งท่าจะก่อศึกภายในขนาบซ้ำเช่นนี้ พระราชาธิบดีภูบดีทอดพระเนตรวรกายสูงที่ดำเนินวนไปเวียนมาอยู่เบื้องพระพักตร์ด้วยสายพระเนตรเข้มจัด เช่นเดียวกับสุรเสียงที่ขานพระนามเต็มของอีกฝ่าย

“นั่งลง ธเรษบดี เธอจะเดินไปเดินมาพูดกับพี่อย่างนั้นหรือ”

เจ้าชายธเรษบดีขบริมพระโอษฐ์อย่างขัดเคืองพระทัย แต่ก็ทรงยอมเข้ามากระแทกองค์ประทับที่พระเก้าอี้หน้าโต๊ะทรงงานแต่โดยดี  

“เจ้าพี่ตอบหม่อมฉันมาสิ ทำไมต้องยอมก้มหัวให้ธยามัน”

“แล้วทำไมเราต้องยอมอคิน”

พระราชาธิบดีภูบดีทรงย้อนถามบ้าง ทำให้พระอนุชาตรัสไม่ออกไปครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดก็ตรัสโดยให้เหตุผลข้างๆ คูๆ ว่า

“อย่างไรเสียชายแดนเราก็ประชิดกับศิรกานต์ ขนบธรรมเนียมหรือก็ใกล้เคียงกัน ถ้าเราจะต้องถูกกลืนแล้ว หม่อมฉันเห็นว่าเราควรเป็นแผ่นดินเดียวกับศิรกานต์มากกว่า”

“เธอพูดเหมือนกับไม่รู้ว่าตอนนี้ศิรกานต์อยู่ในอุ้งมือใคร” พระเชษฐารับสั่งสุรเสียงเรียบ “เป็นแผ่นดินเดียวกับศิรกานต์ หึ! ของอคินสิไม่ว่า”

“ไศเลนทร์ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นหรอกเจ้าพี่”

“รู้ได้อย่างไร นั่นก็อีกหนึ่งที่จ้องตะครุบเราอยู่”

คราวนี้เจ้าชายธเรษบดีแย้มพระโอษฐ์อย่างกระหยิ่ม ก่อนจะทูลตอบพระเชษฐาด้วยสุรเสียงมั่นพระทัยหนักหนากับดำริขององค์เอง

“ไศเลนทร์ก็ขอสัมปทานทำไม้กับเราเหมือนกันไม่ใช่หรือเจ้าพี่ แทนที่จะยกให้แคว้นใดแคว้นหนึ่ง เราก็แบ่งให้พวกนั้นคนละครึ่งหนึ่งสิ เท่านี้ก็เท่ากับว่าเราทำไมตรีด้วยทั้งสองทาง ไม่ได้เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง”

พระราชาธิบดีภูบดีทรงตบโต๊ะทำงานอย่างสุดที่จะทรงข่มความกริ้วได้อีก เนตรเข้มจัดจับนิ่งเพียงพักตร์ของพระอนุชา จนอีกฝ่ายตกพระทัยไม่น้อย

“พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างหรือเปล่า ทำอย่างนั้นก็เท่ากับเปิดช่องให้พวกมันบีบเราได้ง่ายขึ้น หึ! เป็นกลางไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งเรอะ จะถูกมันกินรวบล่ะไม่ว่า พอทีธเรษ ความคิดของเธอมีแต่จะนำภัยมาให้จันทรมัส”

เจ้าชายธเรษบดีขบริมพระโอษฐ์แน่นอย่างไม่พอพระทัย เนตรเป็นประกายวาววับขึ้นด้วยอารมณ์ชนิดหนึ่ง ในสายตาของชาวจันทรมัสดูเหมือนว่าพระองค์จะไม่ทรงมีอะไรดีสักอย่างเดียว บางคนถึงกับแสดงสายตาหมิ่นหยามมาให้เสียด้วยซ้ำไป

“ใช่สิ หม่อมฉันมันโง่นี่ ก็คิดอย่างคนโง่ๆ นี่ล่ะ”

“ธเรษ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

พระราชาธิบดีภูบดีรับสั่งสุรเสียงอ่อนลง อันที่จริงเจ้าชายธเรษบดีไม่ใช่คนโง่ ครั้งหนึ่งทรงเป็นคู่คิดของพระองค์ด้วยซ้ำ แต่เพราะเหตุการณ์นั้น ทำให้สติปัญญาทั้งปวงของอนุชาองค์เดียวปลาตหายไปหมด

“ยังจะให้หม่อมฉันคิดเป็นอื่นได้อีกหรือ ถึงยังไงไอ้โง่คนนี้ก็รักแผ่นดินตัวเองไม่น้อยไปกว่าไอ้อีหน้าไหนทั้งสิ้น หม่อมฉันขอถามหน่อยเถิด เจ้าคนฉลาดของเจ้าพี่มันหายหัวไปไหนหมด จนถึงตอนนี้ นอกจากเจ้าคุณมหาดไทยที่วิ่งวุ่นกับทางอคินอยู่คนเดียวแล้ว หม่อมฉันก็ยังไม่เห็นพวกมันขยับตัวทำอะไรเลย หรืออคินกับไศเลนทร์มันซื้อตัวไปอยู่กับมันหมดแล้ว”

เจ้าชายธเรษบดีจะตรัสเพราะด้วยแรงอารมณ์หรือสิ่งใดก็ตามแต่ ทว่าพระวาจานั้นทำให้พระราชาธิบดีภูบดีทรงสะดุดพระทัย ไม่ใช่ทุกคนจะนิ่งเฉยดูดาย ความจริงทรงเรียกประชุมเสนาบดีเป็นการลับ เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไร รัฐจันทรมัสจึงจะรอดพ้นจากสถานการณ์อันน่าตึงเครียดเช่นนี้ แต่แทบทุกครั้งเก้าอี้ตัวที่ว่างเปล่าก็มักเป็นของเสนาบดีมหาดไทย ครั้นทรงถามไถ่ก็ได้ความว่าติดราชการอยู่นอกเมืองบ้าง ป่วยไข้หนักจนมาไม่ได้บ้าง เพิ่งจะทรงทราบก็ตอนนี้ว่าสารพัดข้ออ้างของเสนาบดีมหาดไทยคืออะไร

“เธอรู้ได้อย่างไร ธเรษ ว่าเจ้าคุณมหาดไทยทำอย่างนั้น”

“เจ้าคุณบอกหม่อมฉันเอง”

อ้อ! เพิ่งจะทรงทราบว่าพระอนุชากลายเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเสนาบดีมหาดไทยเสียแล้ว เรื่องป่าไม้กับเหมืองแร่เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับมหาดไทยก็จริง แต่การที่เสนาบดีมหาดไทยเข้าสอดมือเข้ามายุ่งจนถึงขั้นเป็นคนวิ่งเต้นเสียเองเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดี และที่ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนทุกฝ่ายย่อมรู้ ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของทุกกระทรวงคือพระองค์เอง หาใช่เจ้านายพระองค์อื่นไม่ ยิ่งการกระทำนอกหน้าที่อย่างนี้ ต้องมีพระบัญชาลงมาเท่านั้นจึงจะทำได้ ถึงเวลาแล้วกระมังที่จะต้องต้องตัดสินพระทัยให้เด็ดขาดลงไปเสียที  



“มีความเห็นอย่างไร”

ถ้อยรับสั่งสั้นกับใครคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านทางขวามือโดยมิได้ทรงหันไปทอดพระเนตร ชายม่านไหวนิดๆ พร้อมกับเสียงของใครคนหนึ่งที่ตอบกลับมา คำตอบที่แสดงว่าเจ้าตัวซ่อนอยู่ตรงนี้นานแล้ว

“เป็นไปได้ทั้งสองทาง อาจใช่หรือไม่ใช่ก็ได้”

คนลึกลับตอบ พระราชาธิบดีภูบดีถอนพระทัยยาวอย่างเหนื่อยพระทัยเต็มที

“แล้วตกลงเธอจะไม่ออกมาพูดกับฉันอย่างคนปกติบ้างหรือ”

“อย่าทรงลืมสิว่า เวลานี้หม่อมฉันอยู่ในฐานะของคนไร้ตัวตน” เขาพูดกลั้วหัวเราะอย่างหยันตนเองมากกว่าจะขบขัน “ตอนกลางวันเสี่ยงอยู่ไม่น้อยสำหรับการที่ใครจะมาพบเข้า หากทรงมีพระประสงค์ คืนนี้หม่อมฉันจะรอพบพระองค์อยู่ที่นั่น”  

พระราชาธิบดีทรงหันมาทอดพระเนตรม่านหนาที่กั้นขวางระหว่างพระองค์กับคู่สนทนา แววพระเนตรฉายแสงอ่อนลงเช่นเดียวกับสุรเสียงที่ทอดอ่อน

“เธอไม่ต้องอยู่ในเงามืดอย่างนั้นตลอดไปหรอก อีกไม่นาน เธอจะออกมายืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างอย่างภาคภูมิที่สุด สมกับฐานะแท้จริงของเธอ”

คนหลังม่านหัวเราะในคอ ไม่ต่อคำในเรื่องนั้นอีก กลับบอกเพียงว่า

“หม่อมฉันขอตัวก่อนกระหม่อม ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากทีเดียว”

ม่านหนาสะบัดแรง ชายม่านแทบว่าจะปัดมาต้ององค์พระราชาธิบดี สัญชาตญาณทำให้พระองค์ทรงยกพระพาหาขึ้นป้องเอาไว้ พอลดพระพาหาลงก็ไม่ปรากฏเงาใครร่วมอยู่ในห้องทรงงานส่วนพระองค์อีกแล้ว เหลือเพียงม่านที่ยังขยับไหวนิดๆ เท่านั้นที่เป็นประจักษ์พยานว่าเมื่อสักครู่มีผู้ซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นจริงๆ  



เมื่อได้อยู่ตามลำพัง พระราชาธิบดีภูบดีจึงทรงเปิดลิ้นชักโต๊ะทรงงานออก ซองจดหมายสีขาวตีตราครั่งวางอยู่ตรงนั้น โดยวางทับเนื้อจดหมายอีกทีหนึ่ง เพราะอารามทรงรีบร้อนเก็บลงไปตอนที่พระอนุชาทรงพรวดพราดเข้ามาในห้องทรงงานส่วนพระองค์ หัตถ์ใหญ่เอื้อมหยิบขึ้นมาคลี่ทอดพระเนตรอีกครั้ง

“ตอนนี้อย่าเพิ่งตัดสินพระทัยอย่างใดทั้งสิ้น หม่อมฉันจะเร่งขึ้นไปเฝ้าภายในเจ็ดวันนี้ การหารือโดยจดหมายเป็นการเสี่ยงไม่น้อย การพบปะเจรจาซึ่งหน้าน่าจะดีกว่า”

พระราชาธิบดีภูบดีพระพักตร์ขรึมลง อดที่จะทรงนึกเปรียบเทียบทั้งสามแคว้นไม่ได้ เมื่อเดือนก่อนไศเลนทร์ส่งราชทูตมาสู่ขอเจ้าหญิงอินทุมณฑลไปเป็นราชินี แต่เจ้าตัวกลับทรงปฏิเสธอย่างนุ่มนวล หากไศเลนทร์ก็ไม่ยอมล่าถอยไปโดยง่าย ยังเพียรส่งของขวัญมาถวายมิได้ขาด ส่วนอคินก็รุกคืบเร่งเร้าขอคำตอบเรื่องสัมปทานอยู่เรื่อยๆ ซ้ำคนในยังดูท่าจะเอนเอียงไปทางนี้อยู่ไม่น้อย และธยามัน มิได้แสดงท่าทีอะไรออกมา นอกจากจะดำรงตนอย่างมิตรคอยให้คำปรึกษาเท่านั้น สามแคว้นกับกลการเมืองสามแบบ อยู่ที่พระองค์แล้วว่าจะทรงเลือกอย่างไร        



“ท่านแน่ใจหรือว่า จะทำให้พระราชาธิบดีภูบดีทรงลงพระนามในสัญญาสัมปทานนี้ได้”

คำถามนั้นมาจากชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างทรงสูงในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของบ้าน นัยน์ตาดุหรี่ลงมองคนงานที่กำลังแต่งสวนด้วยแววตานิ่งสงบ ก่อนจะหันมาทางเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้รับแขกบุนวมสีน้ำเงินสด ริมฝีปากที่ถูกบังด้วยหนวดสีดอกเลาขยับเป็นรอยยิ้มอย่างมั่นใจ ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์

“ไม่ใช่พระราชาธิบดีภูบดี”

“หมายความว่ายังไง เจ้าคุณ”

คราวนี้คนเป็นแขกหันกลับมามองหน้าเสนาบดีมหาดไทยเต็มตา นัยน์ตาคู่นั้นฉายแววไม่พอใจชัดเจน เพราะคิดว่าตนกำลังถูกหลอกมาให้เสียเวลา รัฐจันทรมัสมีผู้ปกครองสูงสุดเป็นพระราชาธิบดี ถ้าไม่ใช่พระราชาธิบดีภูบดีทรงลงพระนามแล้ว สัญญาสัมปทานจะมีผลบังคับได้อย่างไร

“ตามนั้น ท่านวาโย จริงอยู่ว่าพระราชาธิบดีบดีทรงเป็นผู้ปกครองรัฐ แต่เจ้าชายธเรษบดีก็ทรงมีอำนาจมากพอที่จะตัดสินพระทัยลงพระนามแทนได้เช่นกัน”

“ผมไม่เข้าใจ”

“กรณีที่พระราชาธิบดีประชวร หรือทรงติดภารกิจเสด็จออกนอกรัฐ ผู้ที่จะลงพระนามแทนคือองค์รัชทายาท หากยังไม่มีก็จะเป็นบุคคลที่คณะเสนาบดีคัดเลือกว่าเหมาะสม โดยถือตามลำดับอาวุโสในพระราชวงศ์ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งก็คือเจ้าชายธเรษบดี”

“ท่านกำลังมองข้ามเจ้าหญิงอินทุมณฑล”  

วาโยท้วง เขายังไม่ลืมว่าพระราชาธิบดีภูบดีทรงมีพระราชธิดาพระองค์เดียว และทรงฉลาดหลักแหลมไม่น้อย แม้จะเพิ่งทรงมีพระชนมายุเพียงสิบแปดชันษาก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ใส่ใจกับคำของเขา เพราะเจ้าตัวยักไหล่นิดๆ และกล่าวยืนยันคำเดิม

“นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมบอกแล้วว่าถือตามลำดับอาวุโส”

“มั่นใจเกินไปหรือเปล่า ผมหมายความว่า ท่านแน่ใจหรือว่าจะเป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้ เจ้าชายธเรษบดีทรงเป็นอย่างไร พวกเราก็รู้กันอยู่ อีกอย่างพระราชาธิบดีภูบดีก็คงไม่ยอมให้มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแน่”

“แล้วถ้ามีเหตุขึ้นล่ะ จะว่าอย่างไร”

“ผมไม่นิยมตัดเข้ารกเข้าพงถ้ายังมีทางปกติให้เดิน”

วาโยตอบเสียงหนัก นัยน์ตาฉายแววไม่ชอบใจชัดเจน จริงอยู่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้พระราชาธิบดีภูบดีทรงลงพระนามในสัญญา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากใช้วิธีตามที่เสนาบดีมหาดไทยกำลังเสนออยู่ดี คนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงประเทศอย่างนี้ หากไปอยู่ในถิ่นฐานใด ก็คงนำความพินาศมาให้ผู้ให้พักพิงอย่างสาหัสทีเดียว

“ผมยืนยันคำเดิม ขอเจรจากับพระราชาธิบดีภูบดีอย่างตรงไปตรงมา แคว้นอคินเป็นเสือหิวก็จริง แต่มันก็รู้จักเลือกกินเหมือนกัน ขอให้ท่านรู้เอาไว้ตามนี้ด้วย”

วาโยพูดจบก็เดินเร็วๆ ออกไปจากห้องโดยไม่บอกลาท่านเจ้าของบ้านสักคำ บานประตูไม้สักใหญ่ปิดลงพอดีกับที่ถ้วยชาเคลือบปลิวหวือไปกระทบกับประตูแตกดังเปรื่อง เสนาบดีมหาดไทยรัฐจันทรมัสหอบหายใจแรงอย่างโกรธเคือง

“ไอ้โง่ อุตส่าห์หาวิธีให้ยังไม่เอา ทำเป็นขอเจรจาตามประเพณี เฮอะ มันคงจะได้อยู่หรอก”



เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เจ้าตัวรีบปรับสีหน้าเพราะเข้าใจว่าราชทูตใหญ่จากอคินย้อนกลับมา แต่พอตกปากอนุญาตก็ต้องผิดหวัง เมื่อเห็นคนรับใช้ของตนนำทหารจากวังหลวงเข้ามาแทน

“มีอะไร”  เขาถามห้วน ทว่าพอได้ยินคำรายงานจากอีกฝ่าย ก็หน้าเครียดขึ้นทันที

“พระราชาธิบดีทรงมีพระโองการเรียกประชุมด่วนขอรับ”

“เรื่องอะไร ”

“ไม่ทราบขอรับ”

ทหารหนุ่มตอบอย่างสงวนท่าที ก่อนรีบทำความเคารพแล้วเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ เสนาบดีใหญ่หรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด เรื่องอะไรที่ทำให้พระราชาธิบดีภูบดีทรงเรียกประชุมอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ ในเมื่อกำหนดวันลงนามในสัญญาจะทำขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า และการประชุมเพื่อหารือถึงท่าทีและข้อดีข้อเสียอันเกี่ยวด้วยสัมปทานป่าไม้กับอคิน ก็มีวาระประชุมชัดเจนคือเช้าวันพรุ่งนี้ หรือทรงล่วงรู้สิ่งที่เขาวางแผนจะทำเข้าแล้ว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็ร้อนใจไม่น้อย  



                                                                                                      อริญชย์

จากคุณ : อินทรายุธ
เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 21:46:20




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com