Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวียงนาคินทร์ 33-34 vote ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1-18 อ่านได้ในบล็อกเลยนะคะ 



ตอน 33

กล่องประทิมโฉม

 

 

         'มหิตา!! คิดจะทำอะไรกันนี่?!!!'

 

         เคียงฟ้าร้องอุทานออกมาทันทีด้วยความตกใจยิ่งนัก   ก็จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรกันเล่า   เมื่อหล่อนจำได้ดีว่ากล่องประทิมโฉมนั้นเป็นของผู้ใด  สิ่งของที่องค์ภคินีพินทุมณีเทวีประทานให้มิใช่สิ่งดีงาม   แต่มีไว้เพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศัตรูหัวใจ  แล้วเหตุไฉนจึงคิดจะประทานกล่องประทินโฉมอันเคลือบแฝงด้วยประสงค์ร้ายนี้แด่กุสุมาลย์

 

         'ไม่ได้นะอย่าทำบ้าๆ แบบนั้นนะ!!?   นั่นพี่กุสุมาลย์พี่เลี้ยงของเธอเองไม่ใช่เหรอ?!!'

 

         หล่อนตระหนกตกใจยิ่งนักเมื่อพบว่ามหิตาเทวีไม่เปลี่ยนพระทัย  และสำทับให้ศรีดารานำไปวางไว้ในห้องนอนของกุสุมาลย์เงียบๆ   ข้างนางคนทะเล้นมิได้รู้ความลับของกล่องประทินโฉมนี้ก็ดีใจนัก   หลงคิดไปว่านี่คือการง้องอนในแบบของพระเทวีจึงรับอาสาอย่างเต็มอกเต็มใจ   เมื่อศรีดาราไปแล้วเคียงฟ้าหวั่นใจยิ่งนัก   เมื่อหันมาพบเห็นรอยยิ้มอันเย็นเยียบจากพระนางผู้ทรงโฉม

 

         'นี่เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไงมหิตา!!?'

 

         แต่เปล่าประโยคเสียงของหล่อนมิได้เข้าสู่โสตประสาทพระนางเลยแม้แต่น้อย   ดวงฤทัยที่เคยพิสุทธิ์ใสมาบัดนี้ถูกความหึงหวงเข้าบดบังจนมืดมิด  ทรงยอมปล่อยองค์ไปตามโทสะมิได้คำนึงถึงผลที่จะตามมาแม้แต่น้อย

 

         'ศรีดาราอย่าเพิ่งไป...อย่าเอากล่องนั่นไปให้พี่กุสุมาลย์นะ

 

         เมื่อเห็นว่าป่วยการที่ทูลให้มหิตาเทวีเปลี่ยนพระทัย    เพราะพระทัยนางปิดกลั้นสำนึกอันดีงามไปเสียแล้ว  เสียงของหล่อนหรือจะแทรกเข้าไปได้  หญิงสาวจึงวิ่งตามศรีดาราไปทันที

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

         กุสุมาลย์นึกประหลาดใจที่เห็นสีหน้าของศรีดารานั้นดูมีเลศนัยนัก  นางเอาแต่ยิ้มกริ่มแต่ไม่ยอมบอกอันใดออกมา  เพียงแต่ไล่ให้นางโฉมงามกลับไปที่เรือนนอนเอาตอนที่ตะวันยังแจ่มฟ้าอยู่เช่นนี้   แม้ไม่เข้าใจนักแต่ยอมกลับเรือนนอนตามคำคะยั้นคะยอของนางคนทะเล้น  

 

เมื่อเปิดทวารบานเข้าไปในห้องหับจึงแลเห็นกล่องไม้มีลวดลายลงรักปิดทองวางเด่นอยู่บนโต๊ะหน้ากระจกทองเหลือง   กล่องประทิมโฉมใบนั้นอวดลวดลายสีทองเด่นเป็นสง่าอยู่บนพื้นดำเงานั่น ในยุคสมัยของนางนั้นบรรจุภัณฑ์อันล้ำค่านี้  ถูกสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น  เพราะการลงรักปิดทองหาใช่ศิลปะที่นิยมแพร่หลายไปหลายชนชั้น  เช่นในกาลสมัยข้างหน้าเยี่ยงยุคอโยธยาศรีรามเทพนครไม่   

 

ดังนั้นแค่มองก็รู้ได้ว่านี่มิได้เป็นของขวัญที่คนสามัญชนธรรมดาอย่างศรีดาราจะมอบให้กุสุมาลย์ไม่  หากแต่เป็นพระเทวีน้อยสั่งให้นางนำมามอบแด่พระพี่เลี้ยงคนงามนั่นเอง  เมื่อคิดได้เช่นนี้กุสุมาลย์ก็เผยอยิ้มออกมา  นางค่อยๆ เปิดกล่องประทินโฉมที่ประดิษฐ์มาอย่างประณีตนั่นด้วยความเบามือ   ภายในมีสีแต้มเปลือกตาหลายสีถูกบดบรรจุไว้ในช่องเล็กๆ ภายใน  เว้นแต่แท่งถ่านสีดำที่ยังมิได้บด  นอกจากนั้นก็มีแป้งร่ำ น้ำอบ และเครื่องปรุงโฉมต่างๆ ถูกจัดวางไว้ยิ่งมองยิ่งนึกชอบใจยิ่งนัก  จึงอดมิได้ที่นำมาใช้แต่งแต้มใบหน้า

 

         'ไม่ได้นะ อย่าใช้ของในกล่องนี้แต่งหน้าเด็ดขาด!!'

 

หญิงสาวเยื้อมือพระพี่เลี้ยงคนงามไว้  แต่ทว่ามือของหล่อนทะลุผ่าน  ไม่อาจสัมผัสแตะต้องกันได้   ทำให้หล่อนร้อนใจยิ่งนักจนลืมเลือนไปเสียสนิทว่า  กุสุมาลย์คนนี้ครั้งก่อนเคยบีบคอหล่อนเกือบตาย   แต่หญิงสาวเข้าใจไปว่านั่นเป็นฝันร้ายเท่านั้น   คนอ่อนหวานอย่างนางโฉมงามจะทำร้ายคนอื่นอย่างไร  ความห่วงใยที่เคียงฟ้ามีให้กุสุมาลย์ทำให้หล่อนหลงลืมความกลัวไปสนิท

 

         หญิงงามมิรู้ถึงเภทภัยที่แฝงมาในเครื่องปรุงโฉม นางจึงอารมณ์ดียิ่งนักค่อยๆ นำแท่งถ่านสีดำมาหักลงในครกเล็กแล้วบดให้ละเอียดก่อนจะตักใส่ตลับไว้   ผงถ่านสีดำนั้นต่างกับสีทาเปลือกตาอื่นๆ เหตุที่ไม่บดเตรียมไว้ล่วงหน้า  เพราะสีจะเพี้ยนได้เมื่อจะใช้จึงค่อยบดแค่เล็กน้อยพอสำหรับเขียนตาเท่านั้น  ส่วนที่เหลือก็เททิ้งมิได้เก็บกลับมาใช้ซ้ำอีก  จากนั้นกุสุมาลย์จึงนำน้ำอบมาผสมกับแป้งดินสอพองทาจนทั่วใบหน้าและใช้ผ้าถูเกลี่ยจนโฉมฉายนวลผ่อง  แล้วจึงวาดคิ้วเขียนตาอย่างบรรจง  เคียงฟ้าได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี   เมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ถึงภัยร้ายที่แฝงมาเลยอีกทั้งยังคงประทิมโฉมด้วยความสบายใจอีกด้วย

 

         "อุ๊บ! แสบตาจริง" นางหรี่ตาเมื่อพบว่าทาผงถ่านทับเข้าที่บาดแผลแล้วเกิดปฏิกิริยาแสบร้อน

 

         'เป็นไงบ้าง? ก็บอกแล้วอย่าใช้มันเลย'

 

         "เฮ้อ..สงสัยแผลยังไม่แห้งดี" 

หญิงงามบ่นพึมพำแต่มิได้สังหรณ์ใจใดๆ   นางยังคงแต่งหน้าต่อไปจนเสร็จเรียบร้อย   ก็ส่องดูภาพเงาในกระจกเมื่อพบว่างามสมใจแล้วจึงปิดฝากล่องลง  

 

         'ไม่คันรึ ?'

 

         หญิงสาวถามซ้ำอีกครั้ง  เมื่อไม่เห็นอาการคันปรากฏก็เบาใจลงไปบ้าง  แต่ยังคงติดตามกุสุมาลย์ไม่ให้ห่างสายตา   ไม่ว่านางจะไปกิจทำอันใดก็ตาม  จนถึงย่ำวันนั้นอาการคันก็ยังไม่ปรากฏแต่อย่างใด   อย่าว่าแต่เคียงฟ้าแปลกใจเลย   แม้แต่มหิตาเทวีก็ยังอดประหลาดใจมิได้เมื่อเห็นหญิงงามเข้ามาถวายงาน

 

         "หม่อมฉันนำแพรจากกันทรานครไปอบหอมมาแล้วเพคะ   ลองเปลี่ยนกลิ่นใหม่ดูด้วยไม่ทราบว่าทรงโปรดไหมเพคะ" 

 

         หญิงงามยังถวายงานเป็นปกติ  และเข้าหน้าพระเทวีได้โดยไม่ขัดเขินโดยแสร้งทำเป็นลืมเลือนเรื่องที่ผ่านมา   ในขณะที่มหิตาเทวีนั้นกลับปั้นแต่งสีพระพักตร์ไม่ถูก   อีกทั้งยังอ้ำอึ้งลังเลอยู่นาน  กว่าจะรับแพรพันผืนใหม่มาสูดดมกลิ่นได้   ซึ่งก็เป็นไปอย่างแกนๆ พระนางรับมาแตะที่ปลายนาสิกพอเป็นพิธีก็ส่งคืนให้

 

         "ก็ดี..." ตรัสตอบแผ่วเบา  ก่อนจะทรงซักถามให้แน่ใจอีกครั้ง

 

         "วันนี้แต่งหน้า...ด้วยเครื่องประทิมโฉมที่เราให้ไปรึ ?" คำถามนั้นดูขลาดกลัว  แต่กุสุมาลย์มิได้เอะใจอันใด  จึงคลี่ยิ้มสวยสดตอบรับด้วยความผ่องแผ้ว

 

         "เพคะ...ขอบพระทัยเพคะที่ทรงเมตตาประทานเครื่องประทิมโฉมชั้นดีให้หม่อมฉัน"  กล่าวจบก็ก้มกราบลงแทบบาท   หากแต่พระนางทรงกระดากอายจึงตรัสตวาดขึ้นมา

 

         "พอเถอะ....จะไปไหนก็ไป!!" กุสุมาลย์เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ  ไม่ผิดกับนางกำนัลอื่นๆ ในที่นั้น

 

         "ทรงเป็นอะไรไปเพคะ  พระพักตร์ซีดเชียว"

ยิ่งหญิงงามพยายามดูแลเอาใจใส่พระองค์เท่าไร  มหิตาเทวีก็ยิ่งรู้สึกผิดเป็นทวีคูณ   และปัดป้องมือของอีกฝ่ายที่แตะพระนลาฏเพื่อตรวจอุณหภูมิร่างกาย

 

         "เย็นเฉียบเลยเพคะ  ให้หมอหลวงมาตรวจดูหน่อยดีกว่าเพคะ"

 

         "ไม่ต้อง!!" สุรเสียงนั้นดังจนกุสุมาลย์สะดุ้ง

 

         "มะ...ไม่เป็นไรจริงๆ  ไม่เป็นไร...พี่กุสุมาลย์  เราแค่เวียนหัวนิดหน่อยเท่านั้นแค่งีบสักตื่นคงหาย  ปทุมมาพาเราไปห้องบรรทมที"  ว่าแล้วก็ทรงเรียกปทุมมาให้ประคองเข้าห้องบรรทมไป   ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน

 

         "ศรีดารา...พระเทวีทรงประชวรหรือไม่  ดูท่าทางแปลกๆ" กุสุมาลย์หันไปถามไถ่เอากับศรีดารา  ซึ่งรับหน้าที่ดูพระนางในช่วงนี้

 

         "ทรงเป็นแบบนี้มาสักระยะแล้ว  แต่ไม่ยอมให้หมอหลวงมาตรวจ  พระเทวีว่าไม่เป็นอะไรแค่บรรทมไม่ค่อยหลับน่ะ"

 

         "ถ้างั้นเจ้าต้องจัดหาสมุนไพรให้เสวยก่อนเข้าบรรทมสิ  ระยะนี้ทรงมีเรื่องไม่สบายพระทัยมากอาจกระเทือนถึงพระวรกายได้"

 

         "จ้ะ" ศรีดารารับคำ

 

         'จะเป็นอะไรล่ะ  ก็แค่โรคร้อนตัวเพราะให้ทุกข์ผู้อื่นน่ะสิ...เฮ้อ'

เคียงฟ้าส่ายหน้านึกดีใจที่ผงคันในเครื่องประทิมโฉมไม่ทำงาน   หล่อนเดาว่าอาจจะเชื้อเพียงอ่อนๆ เท่านั้นจึงไม่มีผลอะไรสำหรับคนที่ผิวหนังไม่ได้แพ้ง่าย

 

         'โชคดีจริงๆ พี่กุสุมาลย์...โชคดี...' หล่อนพึมพัมซ้ำไปมา  ก่อนจะมีเสียงอื่นแทรกเข้ามาในโสตประสาท

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 17:55:00

แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 17:40:11

จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:14:26




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com