Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลขาเนื้อทอง :: ยอแสงแข - 19 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12855387/W12855387.html

บทที่ 19

บนลานจอดรถเงียบและวังเวงในยามที่เวลาตีหนึ่งครอบครอง เสียงฝีเท้ากึกๆ ฟังก้องไปทีละก้าว กระทั่งเงียบลงเมื่อปะทะกับเงาของหุ่นเล็ก

ตรงฉัตรระบายลมหายใจทิ้งอย่างเบื่อๆ เขาเจอปัญหาใหญ่ในระยะนี้ อาจจะเรียกว่าระยะไม่ได้อีกด้วย เพราะพลิ้วแพรเรียนจบแล้ว หล่อนกลับมาแล้ว และจะอยู่ที่เมืองไทยบ้านเกิดตลอดไป

สิ่งที่สาวใจแตกทำให้รู้สึกผิดหวังแทนณพนาอย่างที่สุดก็คือความจริงที่หล่อนปกปิด แต่ก็ไม่เกินความสามารถที่จะสืบค้นและทะลวงจนมันแตกโพละว่าหล่อน 'เรียนไม่จบ'

ยังนึกแปลกใจระคนโล่งนิดๆ ว่าสาวทนายไม่ได้ความหายหน้าไปตั้งสิบกว่าวัน เขาเดาไม่ได้ว่าเธอกำลังเตรียมวางแผนให้กับงานชิ้นเอกของตัวเองยังไง โดยเฉพาะกับประวัติของเขาที่เธอได้ไป

และที่น่าขบคิดก็ตรงที่ประวัติของลุงเฉิดชัยก็อยู่ในความสนใจของเธอ เดาว่าเธอคงได้ไปแล้วเช่นกัน โดยสังเกตได้จากเอกสารแผ่นหนึ่งพับจนยับย่น ซึ่งก็อาจจะเกิดจากความเร่งรีบตอนปิดแฟ้ม ก็ใช่ล่ะ งานขโมยกลางดึกแบบนั้น โอ้เอ้ไม่ได้เสียด้วย เธอจึงต้องแข่งกับเวลา

"ไปได้ข้อมูลอะไรที่มันวิเศษๆ มาเพิ่มจนอดใจไม่มาอวดผมไม่ได้หรือครับ"

"ค่ะ ฉันจะมาบอกคุณว่าฉันอาจจะหายหน้าไปสักหลายวันหน่อย นี่ฉันยุติธรรมมากเลยนะ ไม่หายไปเฉยๆ กลัวว่าคุณจะสงสัย จะระแวง แล้วก็ เอ้อ อาจจะคิดถึงเพราะเฉาหู แบบว่าไม่มีคนมา.. "

"สั้นๆ เถอะครับ ตีหนึ่งครึ่งแล้ว"

ปัญปัทม์ทำเสียงเสียอารมณ์ในปาก ทำไมเขาต้องขัดจังหวะประโยคเกริ่นนำของเธอทุกทีเลย เขาไม่เคยเรียนวิชาภาษาไทยว่าด้วยหัวข้อการเขียนเรียงความหรือ มันต้องมีสามส่วนใช่ไหม เกริ่นนำ เนื้อหา และสรุป เธอก็ทำอยู่นี่ยังไง

"ฉันจะไปเที่ยวฝั่งลาวสักสี่ห้าวันค่ะ มีใครบางคนรอให้ฉันไปเจาะข้อมูลสำคัญ"

"คุณเป็นทนายความที่น่าสนใจมาก เปิดเผยลำดับขั้นตอนการทำงานให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ล่วงหน้า ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงกระหยิ่มในใจ และรีบกลับบ้านไปวางแผนเตรียมรับมือดักทางเข้าทางออกของคุณ แต่ผมจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก"

"เพราะคุณประมาทในตัวฉัน" เธอเดาพร้อมกับยักไหล่

"เพราะผมระมัดระวังตัวเองเสมอต่างหาก" เลขาหนุ่มก็ย้อนทันควัน "อยากทำอะไรก็ทำไปเลย การมารายงานผมมันจะทำให้คุณเสียเวลา ตีหนึ่งสี่สิบห้าแล้ว คุณกลับบ้านยังไง อยากให้ผมขับรถไปส่งไหม"

"ถ้าฉันบอกว่าอยากละคะ"

ตรงฉัตรส่ายหน้า เขาไม่ได้รำคาญเสียงท้าทาย แต่กำลังหวั่นไหวกับประกายตาหวาน มันคงไม่ดีถ้าจะเผลอเผยมันออกมาให้เธอจับสังเกตได้ อีกอย่าง ปากยิ้มๆ ของเธอก็มากพิษ แล้วเธอก็ไม่ค่อยหวงมัน ซ้ำยังพร้อมจะพ่นได้ทุกช่วงเหตุฉุกเฉินด้วย

ก็อย่างเช่นจูบในคืนนั้นนั่นยังไง อย่างน้อยรสซาบซ่านประหลาดที่เธอฝากไว้ มันก็ทำเอาใจเขารวนลอยไปตั้งหลายคืน เขาไม่กลัวหรอก แต่ถ้าไม่ปะทะด้วยอีกก็จะดีมากกว่า

นี่แหละเธอ ปัญปัทม์ผู้ไม่ได้ความ เจ้าของวิธีการทำงานแบบแปลก ไม่มีระเบียบ ทุกขั้นตอนของงานมันจะถูกดึงมาใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ แม้แต่คืนนี้ที่อุตส่าห์มาแกร่วรอจนดึกดื่นเพียงเพื่อจะบอกว่าจะเดินทางไปฝั่งลาว

แน่นอน เธอไม่ไปหรอกเขารู้ เพราะสิ่งที่เธอต้องการจะบอกไม่ใช่เรื่องนี้ สวนผลไม้ของลุงฉัตรชายที่นครนายกคงไม่ใช่ความลับของเธออีกแล้ว

และฝ่ายโน้นก็น่าจะหลงลมปากน้ำท่วมทุ่งของเธอเข้า สิ่งที่เขากำลังคิดในตอนนี้ ก็น่าจะเป็นข้อมูลที่ลุงฉัตรชายคายให้เธอกอบใส่ถุงกลับมารายงานอวดดีใส่หน้าเขานั่นล่ะ

"ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ อ้อ หรือว่าหยิ่งเพราะฉายาเลขาเนื้อทองมันค้ำคออยู่" ปัญปัทม์ตามมาท้าทายอีกนิด ตอนเขาเปิดประตูรถ เธอยิ้มยียวนเมื่อเขาปรายตามองอย่างขรึมเชียว

"ก็คงอย่างนั้นครับ ผมระลึกอยู่เสมอว่าการทำตัวให้มีคุณค่ามันทำยาก การทำตัวให้คนยอมรับในคุณค่าก็ยิ่งยาก และการรักษาจำนวนของคนที่ยอมรับในคุณค่าไม่ให้ลดลง มันยากกว่าอะไรทั้งหมด"

"นี่คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ" สาวทนายนิ่วหน้า ช้อนตาแป๋วจ้องตาขรึมเขม็งเชียว

"พูดเรื่องฉายาเลขาเนื้อทองของผมไง ผมจำเป็นต้องหยิ่งเพื่อให้มันมีคุณค่าเท่าเดิม เพราะไม่อยากสูญเสียคนสักคนที่ยอมรับในคุณค่านั้นของผม"

"ด้วยการ.. "

"ด้วยการไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า"

"แต่ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้านะคะ เรา.. "

"ผมยังพูดไม่จบ ผมกำลังจะบอกว่าและทุกคนที่ยืนอยู่บนถนนคนละฟากกับผม"

"เอ้อ.. "

"ราตรีสวัสดิ์ครับ อ้อ.. " ตรงฉัตรพาดแขนบนขอบประตู หรี่ตาท้าทายสาวเก่ง "ขอให้เที่ยวฝั่งลาวให้สนุก อย่าลืมแบ่งปันรูปภาพประทับใจมาเป็นระยะนะครับ"

"อ้อ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณตรงฉัตรบอกอีเมล หรือว่าเฟซบุ๊ก หรือว่าทวิตเตอร์ หรือ.. "

"คุณเปิดหน้าสุดท้าย บรรทัดที่สามจากข้างล่าง มันอยู่ระหว่างข้อมูลที่อยู่การติดต่อภายในภายนอกกับส่วนตัว"

"เอ้อ.. "

"ผมกำลังเตือนว่าประวัติของผมที่คุณได้ไป มันไม่ควรไปนอนอยู่ใต้หมอนปะปนทับซ้อนกับข้อมูลเก่าๆ ที่คุณเคยบอกว่ามีเยอะแยะน่ะ คุณได้มาก่อนหน้ามันนี่ ใช่ไหมครับ"

"คุณตรงฉัตร"

ปัญปัทม์หลุดเสียงขุ่นขึ้น หน้าร้อนเห่อขึ้นมาเลย ใจก็คิดอย่างฉุนเฉียวว่า 'พูดแบบนี้ ตบมาเลยสักฉาดดีกว่าเว้ย ไอ้ปัทม์รับไหวอยู่แล้ว' เพราะถึงยังไง มันก็คงไม่เจ็บเท่ากับโดนกรีดด้วยวาจาเหน็บแบบนั้น  

แล้วตอนนี้ ตาเธอก็วาวมากเลย ซ้ำยังกัดปากคล้ายแค้นๆ มันเป็นกิริยาที่ควบคุมไม่ได้ อีกทั้งดั่งจะฟ้องความรู้สึกข้างในว่า 'เสียหน้ามาก'

แล้วตรงฉัตรก็มองภาพนั้นนิ่ง แต่ก็ด้วยใจที่เต้นรัว อาการวาบหวามก่อเกิดอย่างร้อนแรง ด้วยว่าเลือดลมปรารถนาในกายหนุ่มมันไหลวนพลุ่งพล่าน ใช่ อาการปุบปับแบบนี้ มันก็เข้าข่าย 'ควบคุมไม่ได้' เหมือนกัน

"เอาล่ะ" ดังนั้น พ่อเลขาขรึมจึงต้องรีบตัดบทก่อนที่กิริยาข้างในจะอาละวาดหนักกว่านี้ "เห็นแก่ที่คุณพยายามอย่างน่ารักมาก แล้วผมก็ทั้งสนุกและชื่นชมด้วย"

"หรือคะ" ไอ้ปัทม์แดกดันลอดไรฟัน ตาขุ่นเริ่มจะเห็นแสงไฟเดือดๆ ปะทุบ้างแล้ว

"ครับ" พ่อหนุ่มเลขาพยักหน้าไม่ยี่หระ "เอาเป็นว่าผมเฉลยให้นิดหน่อยก็แล้วกันว่าผมไม่ใช่หนุ่มประจวบ"

"คะ" โอ้ แสงไฟเดือดๆ ดับไปหลายกองเลยเมื่อได้ฟังอย่างนั้น

"แล้วคุณเองก็น่าจะยังไม่แน่ใจอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น คุณคงไม่กลุ้มมากจนต้องหาทางระบายออกด้วยการไปเที่ยวฝั่งลาวหรอก จริงไหมครับคุณปัญปัทม์ ราตรีสวัสดิ์อีกครั้งครับ"

"ค่ะ"

เสียงปิดประตูรถยังคงนุ่มนวลชวนชื่นชมดังเคย แม้แต่จังหวะถอยก็เนิบละมุนราวกับว่ามันกำลังเคลื่อนไปบนถนนฟองน้ำและมีคลื่นคอยส่งกำลังขึ้นๆ ลงๆ

เพียงอึดใจเดียวเท่านั้นเอง ความมืดกับความเงียบก็ย้อนกลับมาคลี่กระจายปกคลุมไปทั่วบริเวณที่มีเพียงปัญปัทม์ยืนโดดเด่นอวดมาดไอ้ปัทม์สุนัขไม่กล้าเห่า 'ไปตามลำพัง'




ตรงฉัตรคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ เขามักจะเป็นฝ่ายทิ้งเธอไว้กลางลานจอดรถเสมอ ไม่คำนึงด้วยว่าเวลานั้นจะเป็นกลางวันแดดเปรี้ยงหรือดึกดื่นน้ำค้างร่วง เธอไม่เคยสมหวังกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และพกมันออกจากบ้านด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นกระตือรือร้น

มิน่าเล่า ลุงฉัตรชายถึงได้บอกว่าพันศิลป์เกลียดเขามาก เคยส่งลูกน้องไประรานเค้นให้คายเบื้องหลังของเขาอยู่พักใหญ่ แต่เป็นเพราะว่าแกมีเจ้าอิทธิพลในถิ่นนั้นคอยคุ้มครอง มาเฟียเทพบุตรจึงยอมล่าถอย เพราะไม่อยากสร้างศัตรูตัวจ้อยให้เสียเวลาเก็บกวาดกับเปลืองกระสุน

"มันก็ไม่เชิงหรอก ฉันว่าไอ้เวรนั่น มันคงแน่ใจมากกว่าว่าฆ่าฉันไปก็เท่านั้น ยังไงฉันก็ไม่มีสิ่งที่มันต้องการ"

"หมายถึงเขาแน่ใจว่าลุงไม่รู้ประวัติของคุณตรงฉัตรใช่ไหมจ๊ะ แต่จริงๆ แล้วลุงรู้"

"ไม่รู้ ไม่เคยรู้อะไรเลย คุณนาไม่ได้เล่า พี่เฉิดก็ไม่เล่า ฉันก็รู้เท่าที่บอกคุณทนายนั่นแหละ"

บอกว่ากลางดึกคืนหนึ่ง ณพนากับตรงฉัตรไปปรากฏที่บ้าน พาลุงเฉิดชัยไปด้วย ให้เงินก้อนใหญ่เพื่อแลกกับที่ซ่อนตัวชั่วไม่กี่วัน ลุงเฉิดชัยข้ามไปฝั่งลาวอย่างเงียบๆ และเจ้านายสาวสะพรั่งในวันนั้นก็รับปากแข็งขันว่า

"เสร็จธุระแล้วจะรับกลับบ้านและเลี้ยงดูในฐานะญาติให้สุขสบายไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ"

"ธุระอะไรคะ"

"ไม่รู้สิ คุณนาบอกแค่ว่ามันเป็นธุระสำคัญและเอาเถิดเจ้าล่อกับชีวิต เธอไม่กลัวตาย แต่ไม่อยากให้คนรอบตัวของเธอตายเพื่อเธอ"

"หมายความว่าลุงเฉิดชัยยอมตายเพื่อคุณนาหรือคะ"

"เท่าที่ได้คุยกับพี่เฉิด แกก็บอกอย่างนั้นนะ"

หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นผ่านไป ลุงฉัตรชายได้รับเงินเดือนพิเศษทุกเดือน มันมากพอที่แกจะซ่อนหน้าซ่อนตัวเพื่อตัดความรำคาญ

"ฉันก็ไม่ได้กลัวพวกนั้นหรอก แต่บางทีก็รำคาญ เบื่อๆ เข้าก็หนีหน้าไปเสียดื้อๆ ไปไหนก็ได้ เมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะแยะ สวยๆ ด้วย ไปทีหนึ่งก็หลายวันอยู่นะ"

"แล้วไม่เคยแวะไปฝั่งลาวเพื่อเยี่ยมลุงเฉิดชัยบ้างหรือคะ"

"อยากไป แต่คุณนากำชับว่าห้ามเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากให้ร่องรอยของแกถูกเปิดเผย คุณนาแกรอบคอบ ดูสิ จนถึงวันนี้ ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าพี่เฉิดอยู่ที่ไหน สุขสบายหรือตกระกำลำบากยังไงบ้าง"

ปัญปัทม์เดินมาหยุดข้างรถจักรยานยนต์ของน้องชาย เงยหน้าซึมเซามองแสงไฟบนเสาใกล้ๆ แล้วถอนใจเฮือกใหญ่

เธอไม่เข้าใจว่าความเป็นมาของตรงฉัตรมันพิสดารกว่าใครยังไงหรือ ทำไมณพนาต้องปกปิดเอาเป็นเอาตาย ใครก็ตามที่ล่วงรู้ หล่อนจะปิดกั้นเก็บซ่อนอย่างมิดชิด ซึ่งก็มีไม่มากไปกว่าหนึ่งคน แล้วก็คือลุงเฉิดชัยนั่นล่ะ

"ไอ้ปัทม์เอ๊ย จะใช้อะไรทะลวงอุโมงค์ดีวะ มันเปล่าประโยชน์จริงๆ ใช่ไหมที่ดั้นด้นหาว่ามันตั้งอยู่ที่ไหนจนเจอ แต่แล้วก็ต้องนั่งลงแล้วจ้องมองมันอย่างจนตรอก"

เธอถอนใจปิดท้ายเสียงพึมพำคล้ายท้อแท้ ตราบใดที่หาทางเข้าอุโมงค์ปริศนาไม่ได้ ความลับก็จะไม่มีวันไหลออกมา แล้วถ้ามันไม่อยู่ในกำมือ เธอก็ไม่มีเครื่องต่อรองชั้นเลิศไปเบ่งใส่พ่อเลขาเนื้อทองน่ะสิ

"จะเริ่มต้นจากตรงไหนดีวะไอ้ปัทม์" เธอแหงนหน้าจนลำคอเหยียดตึงคล้ายผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พ่นลมหายใจดังๆ พอตบต้นคอเบาๆ ก็พึมพำอีก "หรือว่าจะไปเริ่มต้นที่ประจวบ เอ๊ะ แต่คุณตรงฉัตรก็เพิ่งเฉลยว่าเขาไม่ใช่ชาวประจวบนี่หว่า ในเมื่อไม่ใช่แล้วไปโผล่ที่นั่นทำไม จนเจอคุณณพนาเสียด้วย"

ตีสองพอดีตอนปัญปัทม์ทิ้งปัญหาชวนปวดหัวไว้แถวนั้น เธอบึ่งกลับบ้านฝ่าอากาศหนาวเหน็บ แม้แต่แจ๊กเก็ตหนังสีดำของน้องชายก็ยังต้านทานกระแสแหลมคมของมันแทบไม่ไหว

แต่ที่เธอต้องคาดไม่ถึงแน่เลยก็ตรงที่หลายนาทีที่เคลื่อนไปในภวังค์ข้างรถ เธอไม่ทันสังเกตว่ามีรถคันเก่งของตรงฉัตรจอดซุ่ม ตาขรึมหรี่เป็นพักๆ และแววที่วาวในแสงหลัวทั่วก็บอกได้เลยว่าเขากำลัง 'สังเกตการณ์'




ณพนาเลิกคิ้วตกใจ หล่อนวางปากกาแล้วรีบลุกมาจับแขนใหญ่เขย่ารบเร้าให้เล่าซ้ำ มันน่าตื่นเต้นไม่ใช่หรือที่แม่สาวทนายปัญปัทม์ดั้นด้นไปจนถึงสวนลึกของลุงฉัตรชาย

"เด็กคนนี้มันบ้า" หล่อนสบถ เดินสะบัดเสียงหงุดหงิด รบเร้าให้พ่อเลขาเล่า พอเขาเล่าซ้ำจบ ก็โมโหแบบนี้ "ก็ถ้าจะเก่งเสียขนาดนี้ ทำไมจะต้องไปก้มหัวทำงานให้คนเลวๆ อย่างไอ้พันศิลป์ด้วยเล่า"

"ผมเคยเตือนว่า.. "

"นี่ หยุดนะนายตรง" เจ้านายสาวใหญ่หันขวับกลับมาตวาด ตาดุวาว "ฉันไม่กลัวไอ้พันศิลป์ แม่คนนั้นฉันก็ไม่กลัว ต่อให้ลุยไปให้ถึงฝั่งลาว เจอลุงเฉิดชัย ฉันก็ไม่กลัว"

"คุณนาไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ เพราะที่นั่นไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณนา เราส่งลุงเฉิดชัยไปกบดานทางโน้นก็เพื่อรักษาชีวิตของแกไม่ให้โดนคุณพันศิลป์คุกคามเอาชีวิต เพียงแค่ว่าเขาอยากรู้ประวัติของผม เหมือนกับที่คุณปัญปัทม์กำลังพยายามอยู่"

"นายตรง"

"ประวัติของผมมันคงมีส่วนช่วยให้เกมทวงแค้นระหว่างคุณนากับเขาลุล่วงได้เร็วขึ้น ก็เหมือนกับคุณปัญปัทม์อีกนั่นแหละ เธอจะใช้มันมาคุกคามต่อรองให้ผมยอมสารภาพว่าเป็นชู้กับคุณนา"

"ตรงฉัตร" อารมณ์ฉุนเฉียวจางหายไปเมื่อพ่อเลขาเท้าความมากระทบกับเหตุผลหลัก

"คุณนารู้ดีแก่ใจว่าผมไม่ได้กลัวเรื่องนี้"

เจ้านายเลขาจ้องตากันนานนิ่ง มีความนัยซ่อนอยู่ในประกายที่พราวจ้าออกมา ใช่ ตรงฉัตรย้ำได้ตรงประเด็นเผงเลย เขาไม่กลัวหรอกว่าใครจะกล่าวหาว่าเป็นชายชู้ มันเป็นข้อหาร้ายแรง ดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย แต่เขาก็พร้อมจะยืดอกเชิดหน้ายอมรับถ้าหมดทางบ่ายเบี่ยง

แต่ความนัยบางอย่างที่ซ่อนเร้นและโดนปกป้องด้วยประวัติพิสดารของเขาต่างหากที่เขาทะนุถนอม และพร้อมจะแลกชีวิตได้อีกเช่นกันถ้าจะมีใครสักคนล่วงล้ำเข้าไประราน

"ฉันขอโทษที่ฉุนเฉียวใส่นาย ทั้งที่รู้ว่านายก็มีปัญหาของตัวเองให้แบก และจนถึงวันนี้นายก็ยังหาวิธีย้ายลงจากบ่าไม่ได้เลย"

เจ้านายเลขาถอนหายใจยาวพร้อมกัน โอบกอดกันอย่างเข้าอกเข้าใจและเห็นใจในชะตากรรมที่ต่างฝ่ายต่างเจอ ณพนาหลับตาใช้ความมืดอันน้อยนิดมุ่งสมาธิไปนับจังหวะการเต้นของหัวใจใต้แผงอกตรงฉัตร

กลัวเหลือเกินว่าสักวันหนึ่ง เนื้อก้อนนี้จะหยุดทำงานอย่างถาวร หล่อนอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ให้หล่อนได้ชดใช้บาปที่ก่อไว้กับเขา ชดเชยความสุขให้เขา ให้เท่าๆ กับความทุกข์ที่หล่อนขยันให้ทุกวันๆ อยู่ในตอนนี้

"ฉันเกลียดไอ้เลวพันศิลป์จริงๆ " หล่อนสบถกร้าว ตาวาวด้วยแรงแค้น

"ผมก็เกลียดเขา แต่เราจะเอาชนะเขาให้ได้ ผมจะช่วยคุณนาปลดหนี้ชั่วๆ ของเขาให้สำเร็จ คุณนาจะเป็นไท คุณพลิ้วจะรู้ดีรู้ชั่ว ชีวิตหลังจากนั้น จะสวยงามเหมือนฟ้าหลังฝน"

พาดพิงถึงแม่ยอดชู้ปุ๊บ พยศที่ราบเรียบนอนนิ่งไปแล้วก็มีอันดัดจริตขึ้นมาทีเดียว ตรงฉัตรหรี่ตาเอือมระอาเมื่อโดนหยิกหน้าท้องกับต่อยคางเบาๆ แถมตวัดค้อนฉุนๆ อีกหนึ่งวงใหญ่

"มาแขวะอะไรแม่ยอดชู้ของฉันยะ น้องไปเกี่ยวอะไรด้วย เอ้อ แต่ก็ดีนะ พูดเรื่องนี้ด้วยก็ได้ ตกลงว่านายจะแต่งงานกับน้องใช่ไหม อืม จะว่าไปแล้ว นายก็เหมาะจะเป็นน้องเขยฉันเหมือนกันนะ นายดี นายเก่ง แล้วนายก็ช่วย.. "

"ถ้าผมเลือกได้ ผมเลือกเป็นทุกอย่างของคุณนา เว้นเป็นน้องเขยอย่างเดียว" ตรงฉัตรพูดตรงๆ แล้วไปทิ้งตัวนอนเหยียดบนโซฟา

"เอ๊ะ ทำไมพูดแบบนั้นยะ เราตกลงกันว่านายจะแต่งงานกับน้องหลังจากที่สามเดือนของไอ้สารเลวผ่านไป"

"ก็ผมพูดได้" ตรงฉัตรย้อนไปลอยๆ ยียวนนิดหน่อย "ตกลงก็เรื่องหนึ่ง พูดก็เรื่องหนึ่ง ผมไม่ขัดใจคุณนาหรอกน่า เคยบอกแล้วนี่ ชีวิตผมยังให้ได้ ประสาอะไรแค่สละร่างกายให้แม่ยอดชู้สวาปามกามตะกละนิดหน่อย"

ณพนาแยกเขี้ยวแล้วปรี่มาหยิกปากกล้า เขามาติเตียนแม่ยอดชู้เสียภาพพจน์เละหมด พลิ้วแพรไม่กระจอกสักหน่อย จบปริญญาตรีมาจากเมืองนอกด้วย นิสัยอาจจะปรูดปราดหวือหวาไปบ้าง แต่ก็น่ารักดีสมวัยสดใสไม่ใช่หรือ

หล่อนถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น บิดาพะเน้าพะนอบำรุงบำเรอ พี่สาวก็รักและตามใจ โอ๋น้องจ๊ะน้องจ๋าทุกคำ ไม่เกรงก็เหมือนกลัวเพราะไม่กล้าขัดใจให้หงุดหงิดผิดหวัง น้ำตาน้องสาวคือยาพิษทุกหยด แล้วหัวใจของพี่สาวก็เจ็บปวดกับพิษทุกหยดนั้น

"คิดไปเองทั้งเพ" ตรงฉัตรลุกมาขัดอารมณ์ยกย่องแม่ยอดชู้ "คุณพลิ้วไม่ไร้เดียงสาอย่างที่คุณท่านหรือคุณนาหลงเข้าใจหรอก"

"นายตรง ปากนายนี่มัน.. "

"ปากคนพูดความจริงมันก็ไม่สวยแบบนี้ เสียงของความจริงมันก็คมและบาดหู ผมก็พูดได้เท่านี้ คุณพลิ้วไม่ใช่เด็กที่ผู้ใหญ่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจมาตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้าแล้ว"

"ตรงฉัตร เรากำลังถกกันเรื่องแม่สาวทนายคนนั้นอยู่นะ"

"ถกทำไมเรื่องคุณปัญปัทม์ เธอทำหน้าที่ของเธออยู่ แล้วผมก็ชื่นชมมาก ตัวก็เล็กๆ แต่ทุ่มเทให้กับหน้าที่ของตัวเองแบบหมดหน้าตัก ดึกดื่นก็ไม่กลัว อันตรายก็ไม่กลัว เธอกับเรามีอยู่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันมากเลย อะไรรู้ไหมครับ"

"เป้าหมาย"

"โอ้ คุณนาของผมฉลาดที่สุดในโลก เคยได้ยินไหมครับ เส้นผมบังภูเขา หรือว่าเห็นทุกอย่างได้สารพัดยกเว้นขนคิ้วของตัวเอง ทั้งที่มันอยู่บนหน้าตัวเองและสูงกว่าตาตัวเองนิดเดียวเอง"

เจ้านายสาวใหญ่เม้มปาก เลขาเนื้อทองจีบนิ้วประกอบเสียงยืดๆ เหน็บคมว่า'นิดเดียวเอง' ได้น่ารักกับน่าตบปนๆ กัน แต่มันก็จริงของเขา หล่อนฉลาดได้ทุกเรื่องนั่นแหละ แต่ทุกวันนี้ กลับต้องกลายเป็นหมากหน้าโง่ให้พันศิลป์จับวางตรงนั้นทีตรงนี้ที

จนแล้วจนรอดไอ้สารเลวก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้เวลาหล่อนได้คิดแผนตั้งรับ หล่อนมีแต่จะวิ่งหนีเกมชั่วเพื่อเอาชีวิตรอดไว้ก่อน พอทำท่าตั้งหลัก ไอ้เลวก็กระหน่ำวิกฤติลงมาถาโถมอีก

"นายว่าแม่สาวทนายจะไปหาลุงเฉิดชัยที่ฝั่งลาวหรือเปล่า" หล่อนปรารภถามเมื่อทอดความเงียบไปสักห้านาที

"ผมกลับเดาว่าเธออาจจะเบนเข็มไปประจวบ เธอเป็นคนฉลาด ประวัติผมเธอก็ได้ไปแล้ว เมื่อเธออ่านจบ ในใจจะต้องมีคำถามที่น่าสนใจอย่างน้อยก็หนึ่งคำถามว่า.. "

"นายไม่ใช่หนุ่มประจวบ" ณพนาต่อความเองด้วยเสียงฉลาดพอกัน "แล้วนายไปทำอะไรที่นั่นจนเจอฉัน"

รอยยิ้มขรึมของตรงฉัตรใช้แทนคำตอบว่า 'ใช่' เขาหรี่ตาทอดความคิดไกลไปกระทบผนังฝั่งตรงข้าม มันก็ยังยืนยันไม่ได้หรอกว่าปัญปัทม์จะคิดแบบที่เขาคิดดักทางเตรียมรับมือไว้หรือเปล่า

ใจจริงก็อยากจะบอกเธอให้ละเอียดว่าเขาไม่ใช่หนุ่มประจวบ แต่ประจวบคือที่ที่ทำให้เขาสูญเสีย และการสูญเสียในวันนั้นก็พลิกโฉมเขาให้กลายมาเป็นเลขาเนื้อทองในวันนี้ ดังนั้น ชั่วชีวิตนี้ เขาจะไม่มีวันลืมที่นั่น หรือต้องบอกว่าทุกวันนี้ เขายังแอบย้อนกลับไปที่นั่น 'อย่างเงียบๆ '

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 11:54:53




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com