คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา (ภาคต่อบ่วงรัก กับดักลวง)
|
|
เรื่อง คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา
เป็นเรื่องของ แก้วกรรณิกา กับ นายว่านนที
ตอนนี้แบบว่าฟังเพลงของคุณปีเตอร์แล้วเพราะจังเลยจริงๆ เสียงอบอุ่นมากๆ เลยเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายตอนนี้ ขออนุญาตแนบลิงค์เพลงเอาไว้ด้านล่าง ภาพประกอบเจอในอากู๋ขออนุญาตยืมภาพมานะคะเห็นว่าภาพสวยดีจัง
บทนำ
รายการวิทยุชื่อดังที่คนอกหักหรือกำลังมีความรักมักจะเปิดฟังกัน มีเรื่องราวจากทางบ้านมากมายที่โทรมาเล่าถึงปัญหา และปรึกษาเรื่องรักกับพิธีกรชื่อดัง ชีวิตปกติของแก้วกรรณิกาไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมานั่งฟังอะไรแบบนี้ แต่ทว่าเมื่อเธอเปิดมาเจอคลื่นนี้ หัวข้อการสนทนาในคืนนี้ ต่างคนต่างเหงา หรือเรารักกัน มันทำให้เธอหยุดมือที่จะเปลี่ยนหาคลื่นต่อไป เพลงต้นเรื่องของรายการมันช่างตรงกับความรู้สึกของเธอที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ พิธีกรชายหญิงเริ่มดำเนินรายการจากนั้นก็มีสายจากทางบ้านโทรมาเล่าเรื่องราวของตนเองผ่านทางหน้าไมค์ แก้วกรรณิกานั่งฟังไปเรื่อยๆ อย่างสนใจใช่ว่าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่มีปัญหาเพราะความรัก คนอีกมากในสังคมที่ต้องเผชิญกับปัญหารักไม่ลงตัวหญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อฟังเรื่องเล่าของใครหลายๆคนและคิดถึงชีวิตรักที่ผ่านมา
จนกระทั่งมาถึงผู้หญิงคนหนึ่งน้ำเสียงของเจ้าหล่อนดูสดใสเหมือนคนกำลังมีความรักไม่ใช่คนอกหักเสียหน่อย เธอเล่าว่าเธอกำลังกลุ้มใจอย่างหนักเพราะปัญหารักไม่ลงตัว พิธีกรชื่อดังจึงถามคำถามว่า ปัญหาความรักที่ไม่ลงตัวของเธอนั้นคือปัญหาอะไร คนรักนอกใจหรือว่าเธอไม่ได้รักเขา หรือเขาไม่ได้รักเธอ พิธีกรให้เธอเล่าเรื่องของเธอ
ต้องขอโทษนะคะที่จริงเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของดิฉันหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนสาวที่สุดแสนจะงี้เง่าของดิฉันค่ะ ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แล้วโทรมาเล่าเรื่องชาวบ้านเขาทำไมยัยนี่ถ้าจะเพี้ยน แก้วกรรณิกาฟังและบ่นสายจากทางบ้าน เบาๆแต่ก็ยังไม่เปลี่ยนคลื่นหนี ยังคงฟังต่อ เอ
..ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้วมันทำให้คุณทุกข์ไปด้วยยังไงเหรอคะ พีธีกรสาวในรายการถามขึ้น
ทุกข์สิคะเพราะว่าบังเอิญยัยผู้หญิงงี่เง่าที่ไม่รู้ใจตัวเองเจ้าของเรื่องที่จะเล่าบังเอิญเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด และฉันรู้ดีว่าถ้าเธอพลาดจากความรักครั้งนี้เธอจะไม่มีความสุขตลอดไป
พิธีกรจึงบอกให้คุณ ย นามสมมุติเล่าเรื่องความรักของเพื่อนสาวให้ฟัง
ยัยนี่ท่าทางจะรักเพื่อน เอ๊ะหรือว่าเอาเพื่อนมาขายกันแน่รายการนี้เห็นว่าดังคนฟังกันครึ่งค่อนประเทศแก้วกรรณิกาล้มตัวนอนฟังบนเตียงนอนหรูหราสมศักดิ์ศรีทายาทไฮโซตระกูลดัง
จากนั้นเสียงจากสายทางบ้านก็เริ่มเล่าเรื่องเพื่อนสาวที่ให้นามสมมุติเธอว่าชื่อ น้อง ก ซึ่งมีคนรักอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานแต่ปรากฏว่าเธอเพิ่งจะรู้ว่าเธอไม่เคยรักว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเลย ที่ผ่านมามันแค่เป็นความผูกพันและความคาดหวังของผู้ใหญ่ แต่ที่สำคัญเธอได้มารู้ตัวว่าเธอเกิดหลงรัก และเผลอทั้งตัวและหัวใจให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยพบหน้ากันแค่คืนเดียวแถมเขายังมีบุคลิกและหน้าตาเหมือนพวกเพล์บอย เธอโทษตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายในคืนนั้น และคิดว่าผู้ชายคนนั้นก็คงมองเธอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายเช่นเดียวกัน
เอ่อ เจอกันแค่คืนเดียวเองเหรอคะ พิธีกรสาวในรายการสดถามขึ้น
คืนนั้นเพื่อนของดิฉันถูกวางยานอนหลับค่ะจากผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วผู้ชายคนนั้นสมมุติว่าเขาชื่อคุณ ว ละกันนะคะเขาได้ช่วยเพื่อนของดิฉันเอาไว้ค่ะ แล้วมันก็เกิดเรื่องนั้นขึ้น แต่ดิฉันขอยืนยันว่าเพื่อนดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย เธอคบกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแต่อาจเคยคิดผิดไปว่ารักถึงเจ็ด ปีแต่ไม่ยอมที่จะมีอะไรด้วยทั้งที่ได้หมั้นกันแล้ว จนผู้ชายคนนั้นแอบไปมีกิ๊กในที่ทำงานเดียวกัน
คบกับแฟนมาถึงเจ็ดปีไม่เคยมีอะไร แต่พบผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พบกันคืนเดียวแล้วมีอะไรกัน พิธีกรเองก็คงงงและตกใจเช่นกันแม้จะเคยฟังเรื่องทางบ้านมามากแล้วก็ตาม
อย่างนี้เรียกว่าเกิดรักแบบสายฟ้าแลบหรือเปล่าคะ พิธีกรสาวแซว
เพื่อนของฉันเล่าว่าทันที่ที่ตื่นขึ้นมาแล้วสบตาเขา ในวินาทีนั้นมันเหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ร่างของเธอ หัวใจของเธอมันบอกว่าใช่เขาคนนี้ที่เธอรอคอย และต่อจากนั้นก็..................ขอไม่บรรยายนะคะ
แหะ แหะ .........เข้าใจค่ะ ถ้าบรรยายเราคงออกอากาศไม่ได้ แล้วยังไงต่อละคะ
เธอก็รู้สึกผิดมากรู้สึกว่าตัวเองได้ทรยศคู่หมั้น แม้เขาคนนั้นจะเคยทรยศความรักของเธอไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
เท่าที่ฟังดูก็เหมือนกับว่าต่างคนต่างเผลอใจไปกับคนอื่น แล้วมันยังไงต่อคะ พิธีกรสาวถาม
เรื่องในคืนนั้นถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้จริงไหมคะ แต่เพื่อนของดิฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้กับคู่หมั้นฟัง
ก็พังสิครับงานนี้ พิธีกรหนุ่มเอ่ยขึ้น
ส่วนคนฟังทางบ้านอย่างแก้วกรรณิกา จากที่กึ่งนอน กึ่งนั่งก็ลุกขึ้นมาฟังอย่างตั้งใจ............
+++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 1 (นอนนับดาวกับสาวข้างบ้าน) 50 %
เมื่อฟังเรื่องเล่าจากทางบ้านไปได้สักพัก จากอาการกึ่งนั่ง กึ่งนอนก็ได้เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมาฟังอย่างตั้งใจ และเมื่อฟังต่อไปได้อีกสักประมาณ 5 นาทีแก้วกรรณิกาถึงกับรู้สึกกะสับกระส่าย คล้ายคนถูกไฟลน
ยิ่งฟังยิ่งคล้าย เรื่องของใครมันทำไมคล้ายเรื่องของเราจัง แก้วกรรณิกาหยิบรีโมตเปิดเสียงให้ดังขึ้น น้ำเสียงคนเล่ายิ่งฟังก็ยิ่งคุ้น เหมือนจะไม่คุ้นธรรมดาแล้วเสียด้วย เมื่อเธอนึกถึงอักษรย่อ ที่สายจากทางบ้านกำลังเล่าอยู่
น้อง ก ที่ยัยนั่นกำลังเล่า ก ก็ แก้ว เฮ้ย! แล้ว นาย ว ที่ว่าก็ ว่าน หรือเปล่า ตายล่ะงานเข้าเสียงแบบนี้ยัยยาหยีแน่ๆ ไม่ผิดล่ะยัยนี่เป็นแฟนพันธุ์แท้รายการนี้นี่นา ลืมไปสนิทเลย แก้วกรรณิกาอยู่ไม่เป็นสุขลุกขึ้นมาเดินวนไปวนมา
แย่แล้ว ๆ ทำไงดีๆ นี่มันเอาเรื่องเราไปเล่าออกสื่อเชียวเหรอ ตายล่ะใครมาฟังเข้าแล้วเดาออกว่าเป็นเราจะทำยังไง ยิ่งเป็นลูกหลานคนดังทำอะไรต้องระวังตัว ถ้าต้องกลายเป็นข่าวฉาว
แก้วกรรณิกายกมือขึ้นกุมศีรษะเดินวนไปมาอยู่สองสามรอบก่อนจะมองไปที่มือถือเครื่องหรู +++++++++++++++++++ ทำอะไรอยู่น่ะ ว่าน หญิงสาวหน้าตาสวยเกลี้ยงเกลาห่อไหล่ลาดขับไล่ความหนาวเย็น รูปร่างสูงเพรียวบางหยุดยืนอยู่ข้างเขาจากนั้นย่อตัวลงนั่งเคียงข้างและมองท้องฟ้ายามราตรี หมู่ดาวดวงเล็ก ดวงใหญ่ กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า
นับดาวอยู่น่ะ
โอ้โห
.โรแมนติกเวอร์
ได้กี่ดวงแล้วล่ะ ทำไมไม่หาคนมาช่วยนับล่ะ เพื่อจะนับได้เร็วขึ้น
ก็อยากหาคนมาช่วยนับอยู่เหมือนกันแต่ว่า
ก็ทำไมไม่ยอมใจอ่อนกับฉันสักทีล่ะจ้ะ จะได้มีคนช่วยนับดาวไง หญิงสาวหันไปสบตากับเขา แต่เห็นเพียงรอยยิ้มแห้งเศร้าๆ หน้าตาเหงาๆ ของชายคนหนึ่ง
เมขลา เธอนี่ยังเซ็กซี่ ขี้เล่นอยู่เหมือนเดิมเลยนะ เขายิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อหันไปมองเพื่อนสาวคนสวย และมองเลยไปที่ท้องฟ้าอีกครั้ง มองดาวศุกร์ที่สว่างกว่าหมู่ดาวทั้งหลายที่อยู่รายลอบและเห็นหน้าของใครบางคนลอยอยู่บนท้องฟ้า
อกหักมาเหรอว่าน ถึงมาที่นี่ได้ เสียงหวานๆแทรกขึ้นถาม ขณะว่านนทีกำลังจินตนาการให้ดาวดวงนั้นกลายเป็นหน้าของใครบางคน
ว่านนทีไม่ตอบนั่นแปลว่าใช่
แล้วล่ะ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น เมขลาพูดขึ้นและมองไปบนท้องฟ้า ขณะที่ลมหนาวพัดมาปะทะกาย เธอจึงห่อไหล่อีกครั้ง ว่านนทีถอดเสื้อคลุมของเขาออกและส่งให้เธอ
อากาศมันหนาว ใส่ซะสิเดี๋ยวจะไม่สบาย
เมขลาส่ายหน้า ฉันอยู่ที่นี่มาจนชินแล้วหนาวกายไม่เท่าหนาวใจหรอกนะนายก็รู้ เธอมองหน้าผู้ชายข้างๆแล้วทำตาซึ้งใส่
ว่านนทีหันมาสบตา ถึงผมจะเหงาก็ไม่เลือกรักสาวข้างบ้านหรอกนะ
เมขลาหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี แหม
.นายว่านฉันล้อเล่นน่ะ ฉันเห็นนายมาตั้งแต่ยังเล็กๆ แค่นิดเดียวใครจะไปคิดอะไรกับนายลง
อะไรเล็กบอกมาดีๆนะยัยเมขลาเขาจ้องหน้าเธอเขม็ง หน้าตาจริงจัง
เมขลายิ้มกว้าง หัวเราะแหะ แหะ หน้าอกไง เห็นกันมาตั้งแต่หน้าอกนายยังเล็กๆ จนตอนนี้หน้าอกนายกว้างสามศอกสองวาแล้ว
เธอนี่มันจริงๆเลยอารมณ์ดีตลอดเวลา แบบนี้สินะนายรามสูร มันถึงหลงรักเธอหัวปรักหัวปรำ นี่มันก็นานแล้วไม่ใช่เหรอทำไมเธอสองคนไม่ยอมปรับความเข้าใจกันสักที
ยาก
..ไม่มีทางหรอก นายเลิกพูดชื่อนี้ให้ฉันได้ยินไหมถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ต้อนรับนายอีก
พูดแทงใจดำล่ะสิ เชื่อฉันเถอะไอ้รามสูรมันรักเธอจริงยิ่งกว่าอิงนิยายเสียอีกนะ ยัยเมขลาล่อแก้ว
นายเลิกพูดเรื่องของฉันเถอะนายว่าน ตอนนี้มันเป็นเรื่องของนาย ไม่ใช่เรื่องของฉัน ตกลงนายจะยอมให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เหรอพรุ่งนี้เขาจะแต่งงานกันแล้วนะ
จากที่ดูเหมือนอารมณ์จะเริ่มสงบนิ่งจากเมื่อเดือนก่อนที่เมขลาพบว่านนที เมื่อพูดมาถึงเรื่องนี้ว่านนทีก็เหมือนจะซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้ไม่ไหวจนระเบิดออกมา
เมขลาบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก จะให้ผมทำยังไงในเมื่อทั้งขอโทษ อ้อนวอน ขอให้เขาอภัย และเปลี่ยนใจ แต่เขากลับบอกว่าไอ้เรามันเป็นคนมาที่หลังก็ต้องทำใจเขาให้สิทธิ์คนมาก่อน ผู้หญิงตัวขาวแต่ใจโคตรดำ
แต่ฉันเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นเขาก็รักนายนะ นายพยายามจะตัดใจแต่ก็ทำไม่ได้ นายไม่คิดจะลองดูอีกทีเหรอว่าน ก็ในเมื่อตัดบัวยังเหลือใย ตัดใจยังเหลือเธออยู่แบบนี้แล้วล่ะก็ ชีวิตนี้คงสร้างความสุขให้ตัวเองไม่ได้หรอก
ทำไมจะไม่ได้ใช้ชีวิตหนุ่มหล่อและโสดสนิท ไปแบบนี้ไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งอีกสองสามปีกำลังจะเปิดอาเซียน แล้วล่ะก็อาชีพของผมเป็นหนึ่งในอาชีพที่เขาจะให้เสรีทำงานได้ทั่วทั้งอาเซียนรับรองชีวิตนี้มีแต่ความสุข ถ้าผมเบื่อประเทศไทยก็จะย้ายไปเวียดนามสาวประเทศนี้ตาคมผมสวย ผิวขาวหน้าหมวย ชีวิตนี้ช่างมีความสุข อ้อ.. ถ้ายังไม่ถูกใจใครผมก็จะย้ายไปอยู่ฟิลิปินเธอก็รู้ไม่ใช่เหรอเมขลา ว่าสาวประเทศนี้มีหน้าตาเหมือนสาวไทยที่สุดอาจจะมีสักคนที่ทำให้ผมหลงรักเธอ และลืมหน้าผู้หญิงไทยใจร้ายคนนั้นก็ได้ วนไปวนมาจนครบสิบประเทศผมคงหาใครสักคนได้ไม่ยาก
นายว่านตกลงนายทำอาชีพสำรวจปิโตรเลียม หรือว่านายจะสำรวจรักกันแน่
ก็สำรวจไปพร้อมกันทั้งสองอย่างนั่นแหละ
"ต่อให้นายตามหาทั่วทั้งอาเซียนนายก็คงไม่เจอหรอกนะ ที่จริงนายแค่สำรวจที่หัวใจก็คงจะรู้แล้วว่าน"
"รู้ตัวว่าเรารักเขา แต่เขาไม่ต้องการเราจะให้ทำยังไงล่ะ"
ยิ่งฟังคนไม่เข้าใจตัวเองแบบนายฉันยิ่งห่อเหี่ยวกับชีวิต ถ้าเป็นฉันรู้ตัวว่ารักใครจะไม่มานอนนับดาวอยู่บนหน้าผาแบบนี้ฉันจะลงไปจากภู แล้วไปให้หาเธออีกครั้งก่อนที่เธอจะถูกตีตาจองเป็นของใครอย่างถูกกฎหมายด้วยใบทะเบียนสมรสในวันพรุ่งนี้ มันสายไปแล้วล่ะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว
ถ้านายไม่ลงมือทำอะไรมันคงสายแน่ๆ ถ้าคิดจะยอมแพ้ทำไมไม่กลับอ่าวไทยของนายไปซะล่ะ ไปนั่งมองฟ้ากับน้ำทะเลให้พอใจ พาตัวเองหนีมาทำอะไรถึงบนยอดภูนี้ ทะเลผมยิ่งมองก็ยิ่งเหงาเดี๋ยวจะเห็นหน้าเขาลอยขึ้นมาอีก ยิ่งมองก็ยิ่งเบื่อใครหลายคนอาจจะชอบแต่ถ้าต้องนั่งมองมันทุกวันต้องอยู่กับมันรั้งละหลายๆเดือนก็เบื่อเหมือนกัน กว่าจะได้เห็นแผ่นดิน ได้เห็นหน้าสาวสักคนโอ้
โฮ เมื่อรู้ว่าจะได้ขึ้นฝั่งวันไหนใจมันเต้นตึกตักเลยล่ะ
ลำบากขนาดนั้นเชียวเหรองานของนายน่ะ อยากขึ้นฝั่งก็นั่งเรือมาไม่เห็นจะยาก คนพูดมองสภาพงานไม่ออกเพราะปกติทำงานอยู่แต่ในป่าและบนภูเขา
โอ้ย! แม่คุณพูดเข้าไปนั่น บางครั้งผมทำงานอยู่ในแท่นขุดเจาะคราวละหลายเดือนเขาไม่ได้ใช้เรือนั่งไปกลับเวลาเหมือนเวลาที่เธอพักร้อนไปเที่ยวเกาะกันสักหน่อย เราใช้เฮลิคอปเตอร์เท่านั้นในการขึ้นลง ต้องรู้จักวิธีโรยตัวลงมา เราต้องเรียนวิชาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก จะว่าไปนายนี่มันก็ฉลาดมาตั้งแต่สมัยเรียน หน้าที่การงานก็ดี พ่อแม่ก็รวยทำงานเดือนมีรายได้เป็นหลักแสน แต่ไอ้เรื่องความรักง่ายทำไมนายถึงทำให้มันยากจัง ฉันไม่เสียเวลาเกลี้ยกล่อมนายแล้วล่ะถ้าแค่นี้ถ้อก็ตามสบาย ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้มันก็สายไปฉันขอไปฟังรายการโปรดก่อนนะ วันนี้กว่าฉันจะหาคลื่นได้แทบแย่
รายการอะไร ว่านนทีถามเพราะยังอยากมีเพื่อนคุยต่อเขาจะได้ลืมเรื่องของแก้วกรรณิกา และงานวิวาห์ของเธอในพรุ่งนี้เช้าไปได้ชั่วขณะ
คลื่นที่สาวๆชอบฟัง โดยเฉพาะ คนมีความรัก กับคนอกหักจะชอบมากเป็นพิเศษ
อย่าไปเลยเมขลาเธอไม่ได้ฟังคืนเดียวไม่ถึงกับลงแดงตายหรอก อยู่คุยเป็นเพื่อนกันก่อนไม่ได้เหรอไง ตอนเธอมีปัญหาเรื่องความรักฉันยังนั่งฟังเธอเล่าเรื่องนายรามสูรย์ จนถึงเช้าเลย
นี่นายว่าน อย่าริมาทวงบุญคุณฉันนะ ก็ฉันแนะนำนายไม่ทำตาม ไปล่ะฉันกำลังฟังเรื่องเล่าจากสายทางบ้านค้างอยู่เลยโฆษณาคงจบแล้วฉันจะรีบไปฟังต่อ มันจะมีด้วยเหรอคนแบบนี้คบกับผู้ชายมาเจ็ดปีไม่มีอะไรกัน เจอผู้ชายคนใหม่คืนเดียวเผลอตัวเผลอใจ ความรักอะไรจะเกิดไวขนาดนั้นคนเราไม่ใช่ปลากัดที่สบตากันแล้วจะรักและมีอะไรกัน"
จากนั้นเมขลาก็ไม่สนใจเพื่อนชายที่คบกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ก้าวยาวๆรีบกลับเข้าไปที่บ้านพัก
"เห็นรายการวิทยุสำคัญกว่าเรื่องของเรา เชื่อเขาเลย" ว่านนทีได้แต่มองตามหลังเพื่อนสาวฟัง แต่ทว่าเรื่องราวที่เพื่อนพูดมันสะกิดใจเขาอย่างไรไม่รู้ฟังดูคุ้นๆ
++++++++++++++++++++++++++
แนะนำให้ฟังเพลงนี้ ขณะอ่านนิยายด้วยนะคะ http://www.youtube.com/watch?v=R8ixMYEyn7k&feature=related
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 01:21:20
จากคุณ |
:
อัปสราน่ารัก
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ย. 55 01:16:11
|
|
|
|