ความคิดเห็นที่ 1 (ที่มาของจางเหม่ยหลิน ที่แท้เกี่ยวกับหมอกล้วยนั่นเอง) ซานหลงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย เขารู้แต่ว่าระยะหลังนี้ ชายหนุ่มเงียบขรึมมากขึ้นจากที่ปกติก็พูดน้อยอยู่แล้ว หากไม่ใช่เป็น “คำสั่ง” ก็แทบจะไม่มีคำพูดได้หลุดออกมาจากปากเจ้านายเลย   วันนี้หลังออกจากบ้านไม่ถึง 200 เมตรดี  เฉินฮ่าวหมิง ก็สั่งให้จอดรถ แล้วหันไปบอกคุณเหม่ยหลินว่า “ฉันจะให้อาห่าวไปส่งเธอ”   โดยไม่มีการอธิบายเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น   และสำหรับเขามีเพียงคำสั่ง “ขับไปเรื่อย ๆ” จากเจ้านาย หลังจากนั้นในรถก็มีแต่ความเงียบราวกับว่ามีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น จากกระจกมองหลัง เขาเห็นคุณชายของเขาเอามือ 2 ข้างปิดหน้าตัวเอง สลับกับการยกกำปั้นข้างหนึ่งขึ้นมาดูเป็นระยะ เขาไม่เคยเห็นกิริยาเช่นนี้มาก่อน และยังไม่สามารถคาดเดาความหมายได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ขณะรถแล่นผ่านชายทะเล จึงมีคำสั่ง “หยุดรถ” ก่อนที่เจ้านายของเขาจะเปิดประตูรถผลุนผลันออกไปพร้อมคำสั่งที่ 3 “รออยุ่ในรถ” ซานหลงเห็นคนเป็นนายวิ่งลงไปตามเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ ข้างทาง ตรงไปที่ชายหาดซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล และถอดรองเท้ากับถุงเท้าออกก่อนจะเดินย่ำเท้าเปล่าลงไป เพราะคำสั่ง ‘รออยู่ในรถ’ ทำให้คนเป็นลูกน้องได้แต่นั่งรออยู่ข้างใน แม้ว่าจะอดเป็นห่วงเจ้านายไม่ได้ นับตั้งแต่ทำงานกับเฉินฮ่าวหมิงมา 5 ปี ซานหลงไม่เคยเห็นชายหนุ่มเป็นเช่นนี้มาก่อน ชีวิตคุณชายอยู่ในระเบียบแบบแผนมาตลอด แม้จะมีสตรีมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาในชีวิต หากไม่นับทอฝันที่คุณชายเอาใจใส่ดุจน้องสาว จางเหม่ยหลินคือผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษได้ใกล้ชิดคุณชายมากที่สุด  ทั้งที่คุณชายไม่เคยมีประวัติเป็นสมภารกินไก่วัด เจ้านายของเขาไม่เคยใช้อำนายส่วนตัวผลักดันใคร จางเหม่ยหลินเป็นคนแรกที่เขาใช้ตำแหน่งหน้าที่หัวเรือใหญ่ของ CM   กรุ๊ปช่วยให้หล่อนกลายเป็นดารานางแบบชั้นแนวหน้า นอกจากนี้ยังป้อนงานโฆษณาสินค้าในเครือให้มิได้ขาด   ทุกคนที่ใกล้ชิดคุณชายจึงพากันมองเห็นอนาคตลาง ๆ ว่า ตำแหน่งนายหญิงแห่งซีเอ็มกรุ๊ปคงไม่พ้นจางเหม่ยหลินไปได้ ยิ่งทอฝันมีสภาพเป็นเจ้าหญิงนิทราเช่นนี้ นักแสดงสาวก็แทบจะหมดคุ่แข่งไปโดยปริยาย   เขายังจำได้ดีถึงวันนั้น วันที่คุณชายพบกับคุณเหม่ยหลินเป็นครั้งแรก เป็นการพบกันผ่านจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่   เขาถือเอกสารเดินตามเฉินฮ่าวหมิงขึ้นลิฟต์ เพื่อไปประชุมผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็มทีวี แต่ลิฟต์เปิดออกก่อนจะถึงชั้นที่คุณชายกด ผู้บริหาระดับสูงอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในลิฟต์ คุณชายเพียงพยักหน้ารับการแสดงความเคารพของผู้เข้ามาใหม่ ขณะนั้นจอสี่เหลี่ยมใหญ่หน้าลิฟต์ฉายให้เห็นการสัมภาษณ์ผู้สมัครเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องสำอาง หนึ่งในสินค้าย่อยของซีเอ็มกรุ๊ป เขาจำได้ว่าคุณชายไม่ได้มองหรือแสดงความสนใจเลยด้วยซ้ำ เสียงพิธีกรถามผู้เข้าสมัครคนหนึ่งว่า “เวลาที่คุณโกรธ สิ่งแรกที่คุณจะทำคืออะไร?” ภาพตัดไปที่จางเหม่ยหลินซึ่งขณะนั้นยังเป็นนางแบบโนเนม เสียงหวานใสของหล่อนตอบอย่างมั่นใจในตนเองว่า “ฉันก็จะดูก่อนว่าคนที่ทำให้ฉันโกรธเป็นใคร ฉันจะระบายใส่เขาได้ไหม ถ้าเขาเป็นเจ้านายของฉัน หรืออยู่ในที่สาธารณะที่ฉันต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเอง ฉันก็จะหนีไปร้านไอศกรีม..” เมื่อหญิงสาวพูดถึงตรงนี้ ประตูลิฟต์กำลังจะเลื่อนปิดพอดี คุณชายรีบกดปุ่มเปิดและเงยหน้าขึ้นมองจอทีวี “ฉันจะสั่งไอศกรีมรสที่ฉันชอบกินแล้วก็กิน ๆ ๆ เข้าไปจนกว่าความเย็นของมันจะช่วยละลายความร้อนในใจของฉันลง” เสียงจางเหม่ยหลินพูดต่อไป “นั่นใคร?” ฮ่าวหมิงถามคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ คนถูกถามทำหน้างง รับมุกไม่ทัน ซานหลงเองก็ไม่เข้าใจว่า “ใคร” ของเจ้าหมายหมายถึง “ใคร?” “ผู้หญิงคนนั้น!” คุณชายถามซ้ำ พลางมองไปที่จอทีวีข้างหน้า คนถูกถามรีบมองตามก่อนจะตอบอย่างรวดเร็วว่า “อ๋อ เป็นนางแบบที่มาสมัครเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้าของเราครับคุณเฉิน” “เป็นยังไง?” “คะแนนสูสีกันมากครับคุณเฉิน” “จะสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?” “มะรืนนี้ครับ” “เดี่ญวประชุมเสร็จให้ใครเอาประวัติของเธอมาให้ผมด้วย” คุณชายสั่ง และอีก 2 วันต่อมาการคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์รอบสุดท้ายก็เริ่มขึ้น จากสาวสวยที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วหลายรอบจนเหลือเพียง 3 คน ต้องเหลือเพียง 1 เดียว ไม่มีใครคาดคิดว่างานเล็ก ๆ แค่นี้เฉินฮ่าวหมิงจะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน และยังเป็นคนตั้งคำถามผู้สมัครเองด้วย แม้แต่คณะกรรมการบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากรรมการแปลกหน้าที่โผล่เข้ามาใหม่นั้นคือนายใหญ่ CM group เพราะหากไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงจริง ๆ น้อยคนนักที่จะรู้จักเขา สาวสวยทั้ง 3 คน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หากรู้ว่านายใหญ่   CM group   ออกโรงเองคงพากันตื่นเต้นตัวสั่น ตอบคำถามไม่ออกไปตาม ๆ กัน วันนั้นเป็นครั้งแรกที่คุณชายเฉินได้พบจางเหม่ยหลิน ถึงแม้เขาจะไม่ถึงกับตะลึงมองใบหน้าสวยนวลเนียนที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา แต่หล่อนก็เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่คุณชายให้ความสนใจเป็นพิเศษ และถามคำถามด้วยตัวเอง “ถ้าแฟนทำให้คุณโกรธคุณจะทำอย่างไร นอกจากหนีไปกินไอศกรีม” จางเหม่ยหลินทำท่านึกก่อนจะช้อนตาสวยคม ส่งให้คนถามที่หล่อนเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอบเสียงกังวานหวานว่า “ฉันจะอดข้าวประท้วงเขาค่ะ” เฉินฮ่าวหมิงกระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ เป็นเชิงพอใจในคำตอบ “ในเมื่อเขารักก็ต้องเป็นหว่งฉัน และตามมาง้อ” เหม่ยหลินหน้าแดงเมื่อพูดประโยคต่อไป   “เอ้อ...แต่ฉันยังไม่เคยมีแฟนนะคะ เลยไม่รู้ว่าเวลางอนขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า” คนถามพยักหน้าที่ดูเผิน ๆ อาจเข้าใจว่าเขาจบประโยคคำถามทั้งหมดแล้ว หรือพยักหน้าเพราะความพอใจในคำตอบ แต่ซานหลงรู้ดีว่านั่นคือสัญญาณบอกให้กรรมการซึ่งใหญ่ที่สุดและเป็นผู้มีสิทธิขาดในการตัดสิน หากไม่มีนายใหญ่ซีเอ็มกรุ๊ปอยู่ด้วยให้รู้ว่า จางเหม่ยหลิน คือ “ผู้ชนะ” แล้ววิสัยทัศน์ของคุณชายก็ถูกต้อง งานโฆษณาชิ้นแรกของจางเหม่ยหลินประสบความสำเร็จล้นหลาม และยังได้รับการโหวตว่ามีริมฝีปากที่สวยเซ็กซี่ที่สุดในเอเชีย พลอยทำให้ลิปสติกที่หล่อนเป็นพรีเซ็นเตอร์โด่งดังเพียงชั่วเวลาไม่นาน สาว ๆ ทั้งหลายต่างอยากมีริมฝีปากสวยเย้ายวนอย่างตัวพรีเซ็นเตอร์   หลังจากนั้นด้วยความสามารถของตัวเองและแรงผลักดันเพียงเล็กน้อยของเจ้านาย จางเหม่ยหลินก็เข้ามาเดินในเส้นทางนางแบบ นักแสดง พรีเซ็นเตอร์ยอดนิยม จนประสบความสำร็จเป็นราชินีจอแก้วฮ่องกงจนได้   ซานหลงอยากเชื่อว่าจางเหม่ยหลินคือรักแรกพบหรือ   Love at first sight ของเจ้านาย แต่ไม่ใช่รักแรก หรือ First Love   จากความใกล้ชิดเฉินฮ่าวหมิง และการได้ยินเสียงทะเลาะกันระหว่างคุณชายกับทอฝันด้วยภาษาไทยที่เขาฟังออกบางประโยค เขาเชื่อว่าเฉินฮ่าวหมิงมีรักแรกอยู่ที่ไหนสักแห่ง และเจ้านายของเขาเคยอกหักมาก่อน และคงจะหักจนแตกละเอียดไม่มีชิ้นดีมาแล้วด้วย        “นั่น! คุณชายทำอะไร?” กำลังคิดเพลิน ซานหลงก็ตาเหลือกเมื่อเห็นคุณชายของเขาลุยน้ำทะเลห่างออกไปเรื่อย ๆ และจมหายไปต่อหน้าต่อตา   ในเสื้ยววินาทีนั้น เขาเกือบจะขัดคำสั่งคุณชายออกมาจากรถ หากเขาจะไม่รู้จักคุณชายดีพอว่า 1. คุณชายไม่มีเหตุผลจะฆ่าตัวตาย แม้ว่าจะมีหลายคนที่อยากฆ่าตัวตายเพราะคุณชาย    2. คุณชายเป็นนักดำน้ำที่แข็งแกร่งและอึดที่สุดคนหนึ่ง        3. คุณชายดูแลร่างกายตัวเองดี ตะคริวไม่มีสิทธิ์เข้ามาจิ๊จ๊ะ เพราะฉะนั้นดูสถานการณ์ต่อไปดีกว่า ดีกว่าจะทะเล่อทะล่าวิ่งออกไปแล้วหน้าแหกถูก (เจ้านาย) สับแหลก โทษฐานเอาความคิดโง่ ๆ มายัดเยียดให้กับประธานใหญ่ซีเอ็มกรุ๊ป แล้วความคิดของซานหลงก็ถูกต้องเมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เฉินฮ่าวหมิงก็โผล่พรวดขึ้นมาเอง คราวนี้ชายหนุ่มเดินลุยน้ำดุ่ม ๆ กลับเข้ามาทั้งที่ผมเปียกลู่ปิดหน้าปิดตา ทิ้งตัวคุกเข่าบนหาดทราย หันหน้าเข้าหาทะเล พร้อมกับตะโกนก้องด้วยคำพูดที่ซานหลงไม่ได้ยิน สักพักเขาก็เห็นเจ้านายยกกำปั้นข้างหนึ่งฟาดลงไปบนทรายอย่างแรงติด ๆ กันนับครั้งไม่ถ้วน ราวกับเคยมีเรื่องแค้นเคืองกับเม็ดกรวดเม็ดทรายมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เฉินฮ่าวหมิงกำลังเจ็บปวดและโกรธตัวเองอย่างหนัก เพียงแต่คนขับรถอย่างซานหลงไม่อาจรู้ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ เรื่องงาน? หรือเรื่องคน? แต่ที่ซานหลงรู้แน่คือกำปั้นข้างนั้นเป็นข้างเดียวกับที่เจ้านายเพิ่งใช้ฟาดเต็มแรงไปบนแก้มใส ๆ ของใครคนหนึ่งเมื่อเช้านี้   [ ค้นหาเว็บบอร์ดทุกโรงเรียน แวะไปล่างสุดโฮมเพจ Dek-D ] ขอบคุณสำหรับกิ้ฟจาก คุณ มาโซคิส, คุณรุริกะ, คุณนารีจำศีล, คุณรพิชา และคุณpsycho man ที่แวะมาพูดคุย จากคุณ : mamahuhu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 13:39:42