Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ นิยายรักเบื้องหลังวงการแพทย์ บทที่ 20 ปันนาประท้วงแบอหิงสา vote ติดต่อทีมงาน

ข้อมูลเบื้องต้น

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้





ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ หรือ ลิขิตรัก เสื้อกาวน์สีขาว

นิยายรักโรแมนติกในวงการแพทย์

เรื่องราวความรัก ความแค้นระหว่างอดีตนักศึกษาแพทย์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  ที่มีเหตุจำเป็นถูกใส่ร้ายจนเรียนไม่จบ ต้องจากไปต่างบ้านต่างเมือง จากหญิงคนรักที่ทำให้เขาเจ็บปวดสุดแสนสาหัส สิ้นรัก สิ้นอนาคต ชีวิตจะมีความหมายอะไร

หากหัวใจเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ

แต่แล้วสวรรค์ก็ลิขิตให้เขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในนามมหาเศรษฐีชาวจีน เพื่อกลับมาแก้แค้นหญิงคนรัก แต่บัดนี้ เธอกลายเป็นแพทย์อาชีพที่เขาเคยใฝ่ฝัน แต่เรียนไม่จบ

เขาจะทำให้เธอรักเขาอีกครั้งในสถานะใหม่ และทิ้งเธอไปเช่นที่เธอเคยทิ้งเขาไปในอดีต

แต่แล้วกลายเป็นว่า เขานั่นแหละกลับมาหลงรักเธออีกรอบ ไม่ใช่สิ เขาไม่เคยหยุดรักเธอเลยต่างหาก  และปมในอดีตที่ต้องการสะสางกลับค่อยเผยตัวมาทีละนิด

ขณะเดียวกันความเป็นหมอทั้งจิตวิญญาณของเธอกลับก่อความวุ่นวาย ทำให้เขาเดือดร้อน ต้องคอยตามช่วยเธอตลอด

แล้วนี่ เขาจะเอาเวลาที่ไหนมาแก้แค้นเธอกันล่ะ


เธอคืดว่าเธอเป็นผู้พิทักษ์ชาวโลกหรือไงกันนะ แถมไม่ใช่เธอคนเดียว ดันดึงเขาไปเอี่ยวด้วยทุกงาน

แล้วเป็นไง เวลาเธอเดือดร้อน ถูกฟ้องร้อง ถูกเข้าใจผิด ถูกสังคมตราหน้า แม้แต่คำว่าแพทย์ เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะใช้นำหน้าชื่อของเธอ


ก็เป็นเขา ที่คอยช่วยเหลือเธอตลอด แล้วไงล่ะ พอเธอรอดปลอดภัย เธอกลับสลัดนายเฉินฮ่าวหมิงเหมือนรองเท้าเก่าๆ

มัวแต่ไปคร่ำครวญถึงไอ้บ้าคนหนึ่งที่หายสาบสูญไปเป็นชาติแล้ว

เขาพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถดึงเธออกจากหมอนั่นได้

เรื่องคงไม่ยาก ถ้าไอ้บ้าที่เธอไม่เคยลืมก็คือเขาในอดีต 

เขาต้องกลายเป็นผู้ชายสองคนวิ่งสลับกลับไปกลับมา

ถ้าเธอไม่จับได้ก่อน เขาก็คงเหนื่อยตายไปเสียก่อน

แล้วเขาจะทำอย่างไรดี ปวดหัวจริงโว๊ย 

ยังไงเสีย เขาต้องตัดใครสักคนทิ้งไป

ไม่นายเฉินฮ่าวหมิง ก็ต้องเป็นนายเตชิต ใครสักคนต้องหายสาบสูญไป

แต่ที่แน่ ไม่ว่าจะเหลือใครไว้ เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอเป็นอันขาด
 


นิยายเรื่องนี้ เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
มิได้เอาเรื่องจริงของแพทย์ท่านใดมาแฉ
แต่เรื่องดีๆที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นชีวิตจริงของแพทย์บางท่าน
ที่เผยประสบการ์ณมาให้ผู้เขียนได้เรียบเรียงร้อยถ้อยคำเป็นเชิงนวนิยาย

และขอบคุณแพทย์ทุกท่านผู้เป็นเจ้าเของเรื่องดีๆ แพทย์ที่ต้องช่วยชีวิตคนไข้ แม้ตัวตายก็ไม่คำนึง

แพทย์ไม่ใช่อาชีพ แต่แพทย์ต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์ ความเป็นแพทย์ไม่มีเวลาพักร้อน ไม่มีวันหยุด ไม่ใช่เป็นแพทย์เฉพาะในโรงพยาบาล

หมอจะไปไหน เมื่อเจอคนเจ็บ จะไม่ปิดบังสถานะภาพของตนเอง ต้องรีบรุดไปให้ความช่วยเหลือ โดยไม่ต้องมาคำนึงว่า
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง แต่ดันเอากระดูกมาแขวนคอ
ในกรณีที่การช่วยเหลือไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และอาจถูกฟ้องร้องได้

แต่ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาอย่างไร แพทย์ก็คือแพทย์ ต้องยืนหยัดทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด  





นิยายชุด เสื้อกาวน์สีขาว
ลิขิตรักเสื้อกาวน์สีขาว หรือยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์

ปาฏิหาริย์รักเสื้อกาวน์สีขาว


สายใยรัก เสื้อกาวน์สีขาว






บทที่ 20

ขนาดตัวอักษร : เพิ่มขนาด | ลดขนาด
ภายในห้องนอนใหญ่ ปันนานั่งกอดตุ๊กตาหมีบนเตียง โดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนมาหยุดยืนที่หน้าประตู นิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนช้าๆจากไปอย่างเงียบเชียบ 
 
   หญิงสาวได้แต่เฝ้าถามตัวเอง  เหตุใดจึงอารมณ์พลุ่งพล่าน ควบคุมตนเองไม่ได้ จนทำอะไรบ้าๆเยี่ยงนั้นออกไปได้

  อายหรือเปล่า อายสิ อายจนแทบอยากจะมุดหัวลงดินเสียรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

  ผู้หญิงถูกผู้ชายตบหน้าถือเป็นการหมิ่นศักดิศรีอย่างหนึ่ง แต่ปันนาถึงจะเป็นหญิง แต่ก็ใจนักเลง รู้ว่าไปเหยียบหางเขาก่อน เขาเป็นถึงระดับอัครมหาเศรษฐี มีบริวารรอบตัว มีแต่คนให้ความเคารพยำเกรง อยู่ๆถูกคนวิ่งมาตบหน้าต่อหน้าธารกำนัล ต่อหน้าลูกน้องตัวเอง

  ซ้ำคนนั้นยังเป็นจำเลยคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในความผิดพลาดทำให้ภรรยาและลูกตัวเองอยู่ในภาวะวิกฤติจะเป็นจะตายหรือกลายเป็นผักชั่วชีวิต ยังไม่รู้ 

  เขาไม่ชักปืนขึ้นมายิงหล่อนตายก็บุญโขแล้ว  

หากเป็นละครน้ำเน่า ไปทำลูกเมียเขาถึงขนาดนี้ ปันนาอาจจะถูกจับมาปลุกปล้ำข่มขืนไปเรียบร้อย

  พอคิดถึงตรงนี้ หญิงสาวก็หน้าแดงกล่ำร้อนวูบวาบขึ้นมาเอง

  บ้า คิดอะไรบ้าๆ

  นั่นมันบทพระเอก นางเอกย่ะ 

  กล้วยจะเป็นนางเอกก็ต้องคู่กับพี่เตยคนเดียว

  คิดถึงละคร ปันนาเคยดูละครหลังข่าว ตัวเอกปลอมตัวมาเป็นอีกคนหนึ่ง ขณะที่คนดูดูยังไงก็คนหน้าเดิม เสียงเดิมชัดๆ แต่ตัวละครในเรื่องกลับดูไม่ออก จำไม่ได้ ยังนึกนินทาในใจว่า

  ทำไมโง่ยังงี้ฟะ  

  แล้วตอนนี้ หล่อนกำลังสงสัยว่าตัวเองจัดอยู่ในประเภทไหน

  ความคิดฟุ้งซ่านสะเปะสะปะ แล้วก็หนีไม่พ้นเจ้าตุ๊กตาหมีต้องมารับงานหนัก ตกเป็นที่ระบายอารมณ์

  ปันนาใช้มือข้างหนึ่งจับหัวเจ้าหมีน้อยขึ้นมา อีกมือหนึ่งตบเบาๆที่หน้าเจ้าหมีหน้อยสองสามครั้งติดๆกัน


  นี่แน่ะ นี่แน่ะ

นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหมีถูกตบ

 ฮ่าวหมิงจะใช่เตชิตหรือไม่ ขอเอาคืนเตชิดน้อยก่อน

 "อยู่เฉยๆมาตบหน้าพี่ทำไม" เจ้าหมีน้อยทำหน้าสงสัย

“เกลียดผู้ชายเจ้าชู้” หล่อนกระแทกเสียงตอบ “หึง เข้าใจไม๊ว่าหึงขึ้นสมอง คอยดูเเถอะ ฉันยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก นายเฉินฮ่าวหมิง ขอบอก คนอย่างฉันไม่มีวันเป็นตัวเอกแสนโง่ในละครน้ำเน่าแน่”
 
  
  ร่างสูงใหญ่นอนพักหลับตา ท่ามกลางกลิ่นหอมอบอวลของฟองสบู่และแชมพู ศีรษะที่มีผมดกหนา ยาวระต้นคอพาดอยู่เหนือเบาะรองบนขอบอ่างน้ำวนขนาดใหญ่ภายในห้องพักส่วนตัว ที่ไม่เคยอนุญาตให้สตรีใดๆได้ขึ้นมากล้ำกราย จวบจนต้องให้ปันนามาอยู่ด้วยนี่แหละ เขาจึงต้องเปลี่ยนคนงานทำความสะอาดจากชายกลายเป็นหญิงเพื่อความปลอดภัยของหล่อน


  ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หากก็รู้ว่าเจ้าของร่างยังไม่ได้เข้าสู่นิทรารมย์แต่ประการใด นอกจากมือข้างเดียวกับที่ใช้ฟาดคืนไปบนใบหน้านวลเกลี้ยงเกลาเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้กำแน่นจนข้อนิ้วโปนแล้ว ยังมีการขยับขึ้นลงของทรวงอกหนา เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงและไรขนสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่มีอาการเหมือนทอดถอนหายใจยาว แรง ด้วยสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจจนแทบจะระเบิด

  ทั้งที่บอกตัวเองว่า ความเจ็บช้ำครั้งนั้นรุนแรงเกินกว่าเขาจะอภัยให้หล่อน

  แต่เพียงแค่การตบหน้า ได้เห็นรอยเลือดกลบปากจิ้มลิ้ม ปากเดียวที่เขาเคยประทับจูบจับจองตั้งแต่หล่อนยังแบเบาะ  เขากลับแทบทนไม่ได้ เผลอตัวจะผวาเข้าไปกอดปลอบขวัญน้องน้อยเช่นที่เคยทำ ต้องใช้ความพยายามบังคับตัวเองมากมายเพียงใดที่จะให้ยืนนิ่ง ส่งสายตาพิฆาตไปให้

  เป็นไปได้อย่างไร เขายังอาลัยอาวรณ์หล่อนอยู่เช่นนั้นหรือ

   กี่ครังแล้วที่เขาก้มดูมือตัวเอง มือที่ทำร้ายหล่อน เขาทำมันได้อย่างไร ฉวยโอกาสที่หล่อนทำร้ายเขา ฝังความแค้นเก่าๆในอดีตลงไปในน้ำหนักมือที่ฟาดไปเต็มแรงบนใบหน้าขาวเนียนเกลี้ยงเกลา

  คนที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยให้คำมั่นสัญญาว่า

  ต่อให้หล่อนทำร้ายเขา ทำเขาเจ็บปวดเพียงใด

  พี่จะไม่มีวันลงมือต่อเธอ

  หล่อนเจ็บ เขาเจ็บยิ่งกว่า

  เหมือนบาดแผลสาหัสสากรรจ์นั้นมันด้านชา จนเจ้าของแทบจะไม่รู้สึกเสียแล้ว

  หากเป็นเช่นนี้ต่อไป คนที่จะต้องเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล้าก็จะเป็นเขาอีกเช่นเคย

  ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา แววตาจัดจ้าหมายมาดกลับคืนมาอีกครั้ง

  กำปั้นที่มีรอยแตก เลือดซึมนิดๆ ทำให้คิดได้ ถ้ายังใจอ่อน ไม่ลงมือทำอะไร เขาก็จะเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่ต่างกัน

 

สำรับอาหารทั้งคาวหวานตั้งไว้เรียบร้อยบนโต๊ะได้พักใหญ่ๆ หากยังไม่มีทีท่าว่าเจ้านายที่ทำท่าเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนอยู่จะออกคำสั่งให้เริ่มเสิร์ฟข้าวเพื่อรับประทานเสียที
 

  ป้านิ่มและลูกมือสองสามคนที่ยืนสงบรอรับคำสั่งอยู่ด้านหลัง ได้แต่แอบสบตากันไปมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครพูดหรือถามอะไร จนกระทั่ง

  "ป้านิ่มบอกเขาหรือเปล่าว่า ที่นี่ เรากินข้าวเย็นตอนกี่โมง"

  คราวนี้ป้านิ่มไม่ต้องย้อนถามให้เสียเวลาว่า เขาที่ว่า นั้นหมายถึงเขาไหน

  "บอกแล้วค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าปกติไม่รับอาหารเย็นค่ะ"

  นายท่านเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ท่าทางหงุดหงิดชัดเจน

  "บอกเมื่อไหร่?"

  "ตอนบ่ายแก่ๆนี่เองค่ะ พอดีคุณหมอลงมาดูคุณทอฝัน ป้าเลยถามว่าจะรับอะไรพิเศษใหม"

  "จะหลบหน้าหรือจะประท้วงกันแน่?" เสียงพึมพำกับตัวเองก่อนจะพับหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ ในลักษณะเกือบจะโยนเลยทีเดียว พลางพยักหน้าให้เด็กรับใช้เสิร์ฟอาหารได้

  ทุกคนจึงถึงบางอ้อ ที่แท้รอหมอปันนานั่นเอง

  พรุ่งนี้เห็นจะต้องบอกหมอปันนาให้ลงมาเร็วหน่อยเสียแล้ว

  ป้านิ่มเตือนตัวเองในใจ แล้วก็อ้าปากค้าง เมื่อคุณท่านรวบช้อนส้อม ทั้งที่เพิ่งตักกินไปไม่ถึงสองคำ เลื่อนเก้าอี้ครูด ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องอาหารไป

  "กลับมาคราวนี้ ท่านเป็นอะไรไปคะป้านิ่ม ดูแปลกๆ เหมือนคนผีเข้าผีออก"

  เด็กแจ๋วคนรับใช้ประจำตัวปันนาหันมาถาม แล้วก็ก้มหัวหลบทัพพีป้านิ่มที่ยกเงื้อสูงขึ้น

  "เดี๋ยวเถอะ มานินทาเจ้านายได้ยังไง"

  "ก็ไม่จริงหรือ เมื่อกลางวันก็เดินตัวเปียกมะลอกมะแลกขึ้นห้อง เย็นนี้ก็..."

  "เรื่องของเจ้านาย แกเป็น( ^o^ ) ไม่ต้องมายุ่ง เดี๋ยวเหาจะกินหัว"

  "เหาจะกินหัวก็ยังดีกว่าจะไม่มีเงาหัว" เด็กรับใช้อีกคนที่กำลังช่วยเก็บโต๊ะพูดแทรกขึ้นมา

  "พวกแกนั่นแหละที่จะไม่มีเงาหัวเพราะชอบแอบนินทาเจ้านายนัก" ป้านิ่มโยนลูกกระจายไปให้ทั่วกัน
 

   "ทำไมต้องรอกินพร้อมหมอก็ไม่รู้ ฉันว่าคุณหมอคงอึดอัดไม่อยากลงมากินกับท่าน ท่าทางไม่ชอบหน้าท่านเท่าไหร่" อีกคนตั้งข้อสังเกตบ้าง
 

  "ไม่ใช่ไม่ชอบ แจ๋วว่าเกลียดเอาเชียวล่ะ ไม่งั้นอยู่ดีๆจะวิ่งไปถวายผางทำไม" เด็กแจ๋วออกความเห็น
 
  "นี่ยายแจ๋วว่างนักก็ช่วยเก็บถ้วยชามไปล้างหน่อยสิยะ ยืนเฉยๆทำไม" เด็กรับใช้วัยไล่เลี่ยหรือแก่กว่ากันไม่มากประท้วง

  เด็กแจ๋วรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

  "ได้ไง ท่านให้ฉันมีหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้คุณหมอ ไม่ได้ให้มาช่วยแกล้างจาน"
 

  "หนอยแน่ะ พวกคางคกขึ้นวอ มีเจ้านายของตัวเองแล้วทำจองหองเชียวนะ" คนถูกปฏิเสธกระแนะกระแหนอย่างไม่จริงจังนัก
 

  "อ้าว พี่นา ไหงเอาฉันไปนับญาติกับคางคกล่ะ" คนถูกเปรียบกับคางคกโวย "ป้านิ่ม ลุงโชติจะเดือดร้อนด้วยนะนา" เด็กแจ๋วรีบโยงป้านิ่มพี่สาวแท้ๆของบิดามารดาหล่อนและนายโชติน้องชายป้านิ่มเข้ามาเอี่ยว และก็ได้ผล
 

  "ไม่ต้องพูดมาก ยายนาเก็บจานไม่กี่ใบทำบ่น" ป้านิ่มเตือน
 

  เด็กแจ๋วยิ้มเยาะ ขี้หรือจะดีกว่าใส้

   
  "คิดแล้วเสียวสันหลังไม่หาย ตอนนั้นแจ๋วนึกว่าหมอปันนาตายแน่" เด็กสาวจึงมีอารณ์คุยโม้ต่อ
 

  "ขนาดนั้นยังไม่แย่อีกหรือ มือท่านน่ะหนักไม่เบาเชียวนะ ไม่เห็นหรือ ผางเดียว เลือดกลบปาก ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า"

  "แค่นี้ยังเบา ขืนเป็นพวกเราไปทำอย่างนี้ ป่านนี้คงไม่เห็นเงาหัวแล้วมั๊ง"
 

  "นี่พวกแก จะนินทาเจ้านายไปอีกนานไหม เก็บถ้วยเก็บชามไปล้างเข้า อ้อเดี๋ยวแบ่งส่วนหนึ่งเก็บไว้ในตู้เย็นด้วยก็แล้วกัน เผื่อมีใครหิวขึ้นมา" ปิดท้ายด้วยเสียงดุของป้านิ่ม



 !

แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 14:05:54

แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 14:03:40

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 13:56:05




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com