Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เขี้ยวรัตติกาล Fang of the Dark shadow (2) vote ติดต่อทีมงาน

15 ปี ผ่านไป

ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

นักเรียนนายร้อยตำรวจหลายคนต่างหอบหิ้วสัมภาระส่วนตัว เดินออกมาจากตึกที่พัก เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้านในช่วงวันหยุด บางคนมีญาติพี่น้อง บางคนมีแฟน หรือเพื่อนฝูงมารอรับ แต่ก็มีบ้าง ที่ยังอยู่ในโรงเรียนไม่ออกไปไหน

นักเรียนนายร้อยตำรวจสรัล แสงเจิด ขยับเร่งฝีเท้าก้าวตามเพื่อนที่เดินทิ้งห่างเขาไปแล้วช่วงหนึ่ง เมื่อเร่งตามจนหอบหายใจหนักได้ที่ สรัลจึงตัดสินใจตะโกนเรียกให้ชะลอฝีเท้าลงบ้าง

“ไอ้นพ นายเดินช้าๆ หน่อยได้มั๊ยวะ? เห็นใจคนขาสั้นกว่ามั่งสิโว้ย”

แม้จะได้ยินเสียงประท้วงของเพื่อน แต่ร่างสูงก็ยังไม่หยุดความเร็วของระดับฝีเท้า นรต.สรัลจึงต้องพยายามซอยเท้าถี่ไวขึ้น จนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง เพื่อที่จะไล่ให้ทันคนข้างหน้า

จนเมื่อเร่งไปเคียงข้างคนร่างสูง นั่นแหละ สรัลจึงได้ยินคำขอโทษจากเขา

“ขอโทษ...ฉันกำลังรีบ”

ร่างสูงกล่าวเสียงทุ้ม เอียงหน้านิดๆ มองเพื่อน ริมฝีปากหยักได้รูปมีรอยยิ้มขำมุมปาก เมื่อเห็นอาการหอบหายใจของเพื่อน เขาชะลอฝีเท้าลงให้คนที่ร่างเล็กกว่าได้เดินเคียงทันกัน

หมวกที่เขาสวมอยู่ทำให้สรัลมองไม่เห็นดวงตาที่ซ่อนใต้เงาปีกหมวกใบนั้น แต่ที่เด่นชัดก็คือสันจมูกตรงที่รับเหมาะเจาะกับปลายคางเรียวยาวของคนร่างสูง

นรต.สรัลส่งค้อนน้อยๆให้เพื่อน อาการเสแสร้งแกล้งเล่นเช่นนั้น ทำให้ร่างสูงแทบจะหัวเราะก๊าก หากไม่ติดที่พยายามจะเร่งฝีเท้าเพื่อเดินเลี้ยวตัดไปอีกทาง

“เอ๊ะ...ทำไมมาเดินออกตรงนี้?”

นรต.สรัล อดที่จะสงสัยไม่ได้ เมื่อเพื่อนรัก เดินลัดเลาะไปอีกทางซึ่งเป็นทางอ้อม ไม่ใช่ทางตรงที่มุ่งไปสู่ประตูทางออก

“เหอะน่า ตามมาเถอะ อย่าสงสัยเลย เดี๋ยวเราก็วนไปทางออกน่ะแหละ”

นักเรียนนายร้อยตำรวจนพณัฐตอบ ช่วงขายาวก้าวฉับๆ ไปข้างหน้าค่อนข้างเร็วกว่าเดิม ดวงตาคมที่หลบใต้เงาปีกหมวกเหลือบแว่บมองไปยังบริเวณลานพบญาติและเพื่อนฝูงผู้มาเยี่ยมนักเรียนนายร้อยตำรวจ

“อ้อ...จะหนีสาวๆที่มาดักงั้นสิ?” นรต.สรัลมองตามสายตาของเพื่อน ก็ถึงบางอ้อทันที อดที่จะหัวเราะขำไม่ได้

นั่นก็เพราะว่า นรต. นพณัฐคนนี้เป็นคนไม่กลัวใคร กล้าหาญชาญชัย สู้ฟ้า ลุยดิน ถึงขั้นได้รับการแต่งตั้ง เป็นหัวหน้าหมวด แต่จุดอ่อนของเขาคือเขาขยาดกลัวผู้หญิงตามตื้อมากๆเลย

เดินไปไม่ไกล ก็วนไปทางประตูออกของโรงเรียนได้ ทั้งสองใช้ความสามารถเผ่นหนีสาวๆ ออกมาจนถึงนอกโรงเรียนได้ในที่สุด ต่างก็รีบโบกขึ้นรถโดยสารนั่งไปพร้อมกัน แต่มาแยกกันอีกที ตอนที่เข้ามาถึงใจกลางเมืองกรุงเทพฯ นรต. สรัล จะต้องแยกกลับบ้านที่ฝั่งธนบุรี แต่ นรต. นพณัฐ ขึ้นรถเมล์ต่อไปอีกนิด เพื่อจับรถไฟไปอยุธยา

รถไฟเคลื่อนช้า ออกจากสถานี จนได้ระยะพอสมควร ก็เร่งสปีดเร็วขึ้นอีกหน่อย

นพณัฐได้ที่นั่งติดริมหน้าต่าง ตลอดทางที่รถไฟวิ่งฉึกฉักไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้ใส่ใจมองดูผู้โดยสารคนอื่นๆในขบวนรถไฟสักเท่าไหร่ เขารู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินกว่า เมื่อทอดสายตามองทิวทัศน์ข้างทาง ดีที่รถไฟขบวนนี้ ไม่มีผู้โดยสารแออัดมากนัก นพณัฐจึงไม่ต้องลุกให้เด็ก ผู้หญิง และคนชรานั่ง เหมือนบ่อยครั้งที่เดินทาง

กว่าจะเข้าเขตชานชลาของสถานีรถไฟในจังหวัดอยุธยา ผู้โดยสารที่จะลงสถานีนี้บางคน ก็เริ่มขยับกายล้า ทั้งที่ยังมีผู้โดยสารอีกหลายคนในขบวนรถไฟ ต้องเดินทางต่อไปอีก ในระยะที่ไกลกว่า

ขณะที่ล้อเหล็กเสียดสีเอื่อยเฉื่อย ลากยาวกับรางรถไฟ เพื่อชะลอความเร็วเข้าจอด นพณัฐก็เริ่มขยับตัว เตรียมที่จะลงจากรถไฟ และเมื่อรถไฟจอดนิ่งสนิท เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วรอจังหวะเพื่อก้าวออกจากที่นั่ง เมื่อแถวผู้โดยสารที่เดินมาจากด้านใน เพื่อออกจากรถไฟซาลงไป

แต่ในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังก้าวขาเดินตรงไปที่ทางออกของรถไฟ ร่างสูงของเขาก็มีอันต้องถลาไปข้างหน้าเล็กน้อย เมื่อถูกปะทะจากหญิงสาวร่างท้วมผิวขาวที่อยู่ข้างหลัง

แอปเปิ้ลบางลูกหล่นจากถุงกระดาษใบใหญ่ที่เธอหอบมาด้วยในวงแขน มันร่วงพลูลงพร้อมกัน หญิงสาวร้องวี๊ดว้าย มืออวบอูม ไขว่คว้าในอากาศหวังจะจับลูกแอ๊ปเปิ้ล นพณัฐช่วยยื่นมือไปรับไว้ได้ทันหนึ่งลูก แต่อีกสามลูกหล่นกลิ้งหลุนๆลงไปใต้ที่นั่ง ผู้โดยสารที่นั่งแถวนั้น จึงช่วยหยิบส่งคืนให้เจ้าของ

“ยัยเปิ้ล เธอทำแอปเปิ้ลหล่นจนได้นะ”

เสียงหวานใสบ่นมาจากข้างหลัง ทำให้นพณัฐหันไปมอง เพราะนึกขำการพูดของเธอ ที่เน้นชื่อ...เปิ้ล และแอปเปิ้ล

ณ วินาทีนั้น ชายหนุ่มสะดุดตากับหญิงสาวเจ้าของเสียงหวานใสคนนี้เข้าอย่างจัง เพราะรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเธอ ใบหน้ารูปไข่ คางเรียว ดวงตาสวยคมแวววาวแจ่มใส ร่างเพรียวบางของเธออยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าสด กางเกงยีนส์ทรงเดฟ ผมยาวสีน้ำตาลถูกรวบสูง เปิดวงหน้าผุดผาดผิวละเอียดผ่อง ริมฝีปากอิ่มเรียวปรากฏรอยแย้มยิ้ม กำลังขำเพื่อนร่างท้วมของเธอที่ยืนงงอยู่ข้างหน้า

“คุณนายร้อยคะ” หณิงสาวเสื้อฟ้ายื่นหน้าผ่านต้นคออวบไขมันของเพื่อน เพื่อส่งเสียงเรียกนพณัฐ ทำเอาเขาสะดุ้งในใจนิดหนึ่ง เหมือนตื่นจากภวังค์

“คุณจะถือแอปเปิ้ลลูกนั้นอีกนานมั๊ยคะ?” เธอถามเขาด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ...ขอโทษครับ” นพณัฐรู้สึกเหมือนใบ้กิน รีบยื่นลูกแอปเปิ้ลคืนให้เพื่อนของหญิงสาวที่ชื่อ เปิ้ล

แต่ก่อนที่เปิ้ลจะยื่นมือรับลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดจากมือเขา หญิงสาวเสื้อฟ้าก็ขยับกายเบียดเพื่อนสาวร่างอวบ แล้วเขยิบมาข้างหน้า เธอแตะรั้งมือเพื่อนเธอเอาไว้ ไม่ให้รับแอปเปิ้ลจากชายหนุ่ม

นพณัฐแปลกใจ ขมวดคิ้วเรียวเข้ม ทำสีหน้าเชิงถามหญิงสาว...เหตุใดเธอจึงไม่ให้เพื่อนสาวรับแอปเปิ้ลจากเขา? แต่หญิงสาวคนสวยก็ยื่นมือเรียวบางของเธอ แตะลูกแอปเปิ้ลที่เขาถือออกอย่างนุ่มนวล แล้วกล่าวว่า

“ฉันให้คุณละกัน ถือซะว่า เป็นการขอโทษที่ยัยเปิ้ลซุ่มซ่ามเดินมาชนคุณ”

“เอ่อ...แต่ว่า...” นพณัฐยังลังเล...เขาไม่ได้ต้องการให้เธอมาขอโทษ เรื่องนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุเล็กๆ และเขาก็ไม่ได้เจ็บอะไรจากการถูกชน

“แอปเปิ้ลนี่เอามาจากสวนที่บ้านค่ะ อร่อยมากนะคะ ทั้งหอมหวาน กรุบกรอบ รสหวานฉ่ำ คุณลองทานสิ”

เปิ้ลยื่นหน้ามาบอกสรรพคุณที่ฟังดูน่ารับประทานยิ่งนัก

“แหม...ฟังแล้วน่าทานจัง งั้นผมไม่ปฏิเสธล่ะครับ ขอบคุณมากครับ” นพณัฐยิ้ม สบสายตากับหญิงสาวเสื้อฟ้า

เสียงประกาศย้ำให้ผู้โดยสารขาขี้นเตรียมตัว นพณัฐจึงก้าวเดิน แต่เขาก็ไม่วายชำเลืองแลไปข้างหลัง แอบมองใบหน้าสวยคมของหญิงสาวเสื้อฟ้าอีกครั้ง เขารู้สึกพอใจกับสายตาและรอยยิ้มของเธอที่มองดูเขาอย่างชื่นชมเปิดเผย

“นี่ ยัยณิ เห็นหนุ่มหล่อไม่ได้เชียวนะยะ”
เปิ้ลหันไปแขวะหญิงสาวเสื้อฟ้าเล่น เมื่อเห็นเธอมองตามหลังร่างสูงสง่าในชุดเครื่องแบบนักเรียนนายร้อยตำรวจคนนั้น

“บ้า ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นซะหน่อย ฉันแค่...ฝันอยากเป็นแบบเค้าเท่านั้นแหละ ฉันอยากใส่เครื่องแบบอย่างนั้นบ้าง”

ณิ หรือชื่อเต็มว่า ณิชารีย์ มองตามเครื่องแบบที่คนร่างสูงข้างหน้าใส่อย่างชื่นชม ดวงตาของเธอมีประกายแห่งความมุ่งมั่น จนเปิ้ลเห็นแล้วต้องทอดถอนใจ

“เธอก็รู้ ว่าฉันอยากเป็นตำรวจ” ณิชารีย์ย้ำเจตนาของตัวเอง

เธอไม่ได้แก้ตัว เธอไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าชู้ ที่พอเห็นชายหนุ่มรูปงามแล้วจะตามกรี๊ดกร๊าด ส่งสายตาราวนางแมวล่อเหยื่อ เพียงแต่สิ่งต้องตาเธอ กลับเป็นเครื่องแบบของชายหนุ่มผู้นั้นตะหาก

“จ้ะ เธอบอกฉันครั้งที่พันแล้วล่ะมั๊ง? ยัยคุณหนูลูกสาวท่านนาย พณ.ตำรวจ...”

เปิ้ลเน้นเสียง ลอยหน้าประชดเพื่อน แต่ก่อนที่เปิ้ลจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีมือขาว แข็งแรงยื่นยาวมาสะกิดข้างหลังเธอ

“รีบเดินลงจากรถเถอะ รถไฟใกล้เคลื่อนขบวนแล้วนะ”
เขา...ผู้ที่เดินตามหลังณิชารีย์ เป็นชายหนุ่มผิวขาว ร่างสูง อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวลายสก็อต และกางเกงยีนส์ เขาเอ่ยเสียงทุ้มสุภาพ เพื่อเตือนเพื่อนสาวทั้งสอง ที่ดูเหมือนว่า จะเดินโอ้เอ้โต้เถียงหยอกกันอีกนาน

สิ้นคำเตือนของชายหนุ่ม ทั้งเปิ้ล และณิชารีย์ก็รีบกระวีกระวาดเดินลงจากรถไฟ ก่อนที่จะถูกแถมป้ายไปลงสถานีข้างหน้า
นรต.นพณัฐลงจากรถไฟ แล้วไปนั่งรถสามล้อ ขณะที่รถสามล้อเคลื่อนช้าๆออกไปจากบริเวณสถานีรถไฟ ชายหนุ่มก็หันหน้ากลับมามองหญิงสาวเสื้อสีฟ้าคนนั้นอีกครั้ง เห็นเธอกำลังหัวเราะหยอกล้อกับเพื่อนอีกสองคน หนึ่งนั้นเป็นชายหนุ่มสะอาง ผิวพรรณหน้าตาดี ทำให้นพณัฐอดฉุกคิดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ ว่าชายหนุ่มคนนั้น เป็นแค่เพื่อนของหญิงสาวเสื้อฟ้า หรือว่าเป็นคนรักของเธอกันแน่?

จากคุณ : รัก รมิดา
เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 18:00:02 A:124.122.57.122 X: TicketID:381725




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com