Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 6. vote ติดต่อทีมงาน

.

6.

บรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารของสนามบินโดยรอบบริเวณ ดูวุ่นวายไปด้วยเสียงดังจอแจของผู้คนจำนวนไม่น้อย ต่างชุลมุนเดินสวนทางกันไปมาขวักไขว่เร่งรีบ พลุกพล่านจนน่าเวียนหัว รวมทั้งเสียงป่าวประกาศส่งดังตามสายต่อเนื่องเป็นระยะ บ่งบอกให้รู้ถึงสังคมเมืองที่ดูโกลาหลไม่จบสิ้น

“แล้วก็รอดด่านตรวจมาได้ สบายใจจริงๆ”

“หึ.. ถูกจับได้คงหัวเราะไม่ออก โดนหลายกระทงเลยนะ ทั้งปลอมแปลงเอกสาร ทั้งลักลอบเข้าเมือง พานางเงือกเข้าประเทศ ได้ติดคุกหัวโตก็งานนี้ล่ะ ไอ้แฟรงค์”

รอยยิ้มเหยียดปรากฏมุมปากพร้อมเสียงหัวเราะเย้ยหยันในลำคอ เหล่สายตามองเพื่อนข้างๆ ที่ส่งยิ้มทะเล้นสบายใจราวยกภูเขาออกจากอก เมื่อสองบุรุษหนึ่งพรายเดินผ่านจุดตรวจตราของเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินมาได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล ไม่ได้แสดงพิรุธใดๆ

“ฝีมือระดับข้า เส้นใหญ่โว้ย เอ็งอย่ากลัวไปเลยไอ้กันย์”

“เออ.. เอ็งเก่ง”

น้ำเสียงประชดประชันแขวะดังพลางปลายสายตามองยังหญิงสาวด้านข้าง ที่เดินเยื้องย่างอ้อยอิ่งคล้ายพลังงานในร่างกายใกล้หมดเต็มที

“เป็นไงบ้างครับนีลาน่า หายเมาเครื่องบินหรือยัง สีหน้ายังดูแย่อยู่เลย”

ว่าแล้วเจ้าตัวที่ส่งเสียงถามไถ่อาการ ก้าวเดินรีบรุดขนาบข้างช่วยประคองพาร่างบางหาที่นั่งพักก่อนจะเป็นลมล้มพับหมดสติ นีลาน่ารู้สึกเคร่งเครียดกับอาการแปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทั้งวิงเวียน ทั้งพะอืดพะอม เมืองทั้งเมืองที่นางยืนอยู่หมุนติวหลายตลบ ร่างกายเบาหวิวชอบกล

“นางเงือกขึ้นเครื่องบิน เกิดมาเพิ่งเคยเจอ”

กันยวัฒน์ยืนกอดอกนิ่ง มองดูพรายสาวที่ใบหน้ามีแต่ความซีดขาวไร้สีสันของเลือดฝาด ยาดมหลอดจิ๋วถูกยื่นส่งให้ตรงหน้า แต่นีลาน่าเบือนหนี นางไม่ชอบเอาเสียเลยกับกลิ่นแปลกๆ ที่วนเวียนป้วนเปี้ยนแถวจมูกพาลหายใจไม่ออก จนอาการกำเริบหนักกว่าเดิม

“เห้ย! ไอ้กันย์ ก็รู้ว่านีลาน่าไม่ชอบกลิ่นยา ยังจะเอามาให้ดมอยู่อีก”

“ไม่ดมแล้วมันจะหายได้ไง เสียเวลา นี่ถ้ามากันสองคนป่านนี้ถึงบ้านไปแล้ว”

“ไอ้กันย์.. นี่เอ็งเป็นคนประมูลเธอมานะ แล้วอีกอย่างเอ็งอยากจะเกลียดผู้หญิงหน้าไหน หรือต่อให้เกลียดทั้งโลกก็ตามใจ แต่กับนีลาน่าข้าขอว่ะ เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เอ็งเคยเจอนะเว้ย”

คำเตือนเชิงร้องขอหลุดออกมากระแทกจิตใจรวดเร็วและรุนแรง จนต้องนิ่งเงียบ รู้สึกผิดขึ้นมาในสามัญสำนึกส่วนดี มันจริงอย่างเพื่อนว่าไว้ ถึงอย่างไรนางตรงหน้าก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่โลกนี้สร้างขึ้นมาใกล้เคียงกับเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น นางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหญิงใดในโลกนี้แม้แต่น้อย เสียงถอนใจหนักหน่วงถูกพ่นออกมาพลางเก็บยาดมของความหวังดีลงกระเป๋ากางเกง พร้อมทรุดกายลงนั่งข้างๆ ส่งสายตาจ้องมองนีลาน่าด้วยแววอาการเป็นมิตรขึ้นมาบ้าง    

“ไหวหรือเปล่าคุณ เอาเป็นว่าผมขอโทษ ที่พูดจาไม่ดีใส่คุณเมื่อกี้”

นีลาน่าเหลียวลูกตากลมโตมองยังวงหน้าคมคาย พร้อมส่งยิ้มบางๆ ให้ ถึงแม้เวลานี้นางจะอ่อนแอซักเพียงใดแต่คำว่าขอโทษเปรียบเสมือนกำลังใจทำให้มีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง ถึงอย่างไรเจ้ามนุษย์โลกันต์ยังมีส่วนดีให้เห็นอยู่ไม่น้อย

“ใช่.. พูดถึงเรื่องขอโทษ ผมก็ต้องขอโทษนีลาน่าด้วยอีกคน เพราะผมไม่ได้บอกว่าบ้านในความหมายของผมคือประเทศไทย ไม่ใช่เมืองบาดาลอย่างที่คุณเข้าใจ คุณคงไม่โกรธนะครับ”

น้ำเสียงสำนึกผิดของชายร่างใหญ่ ดึงดูดให้นีลาน่ามองตามพร้อมยิ้มเจื่อน ส่ายหน้าเบาๆ เพื่อบอกว่าไม่เป็นอะไร นางเองต่างหากที่เข้าใจผิด คิดเองเออเองแต่แรก

“ป่ะ เรารีบกลับกันดีกว่า คุณจะได้ไปนอนพักผ่อน มาผมช่วย..”

กันยวัฒน์ลุกยืนพร้อมประคองนีลาน่าให้ลุกตามช้าๆ ชุดกระโปรงสีหวานมีความยาวระดับเข่าทำให้นางพรายพอเดินถนัดถนี่ พยุงตนเองย่างก้าวไปเรื่อยๆ สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องมองมายังสองบุรุษหนึ่งพรายสาวไม่วางตา ทำคนถูกมองเริ่มประหม่าเล็กๆ ขึ้นมาอย่างรู้ตัว

“เห้ย! ไอ้กันย์ คนอื่นมองพวกเราทำไมวะ”

น้ำเสียงกระซิบกระซาบกวาดสายตาไปรอบบริเวณ รู้สึกถึงความผิดปกติที่แปลกไปชัดเจน

“จะไปรู้เหรอ อยากรู้ก็ไปถามเขาสิ”

กันยวัฒน์ต่อว่าคู่ซี้เป็นนัยๆ หากทว่าสายตากลับเหลือบมองตามจุดสนใจเช่นกัน หญิงสาวที่ตนกำลังช่วยเหลือหอบพยุงคือตัวการล่อเป้าให้สายตาทุกคู่มองตามไม่กระพริบ แม้นางจะดูซีดเซียวสิ้นเรี่ยวแรงเพียงใด แต่ยังคงความงดงามผุดผ่องผิวขาวเนียนส่องประกายสะท้อนกับแสงไฟยิ่งนัก เวลานี้เขาไม่แปลกใจเลยทำไมใครต่อใครต่างพากันมองตามสิ่งสวยงามไม่ละสายตา

“กันย์! แฟรงค์!”

เสียงหวานใสตะโกนไล่หลัง  ดึงดูดความสนใจให้เจ้าของชื่อแฟรงค์หันกลับมองตามทันที มีเพียงกันยวัฒน์เท่านั้นซึ่งยังจำได้ดีว่าเสียงนั้นเป็นของใคร ทำให้ต่อมรับรู้หยุดชะงักนิ่งราวโดนสาปให้เป็นหิน ใจเต้นรัวสั่นไหว เจ็บปวดข้างในอกลึกๆ จนต้องเก็บอาการ

“ว่าไงพรีม คิดว่าไม่มาซะแล้ว”

“ไม่มาได้ไง กันย์กับแฟงค์กลับมาจากเมืองนอกทั้งที พรีมก็ต้องมารับสิ”

กันย์วัฒน์ตีหน้านิ่งเฉย แต่ในใจกลับสะเทือนหวั่นไหวตรงกันข้าม มือไม้สั่นจนนีลาน่าเหลือบสายตามองยังใบหน้าคมเข้มก่อนหันมองตามยังต้นเหตุของเรื่องราวที่ทำให้บุรุษผู้นี้แปรเปลี่ยนทีท่ากะทันหัน

“...”

“กันย์.. จะไม่ทักพรีมหน่อยเหรอ อุตส่าห์มารับทั้งที”

“...”

“ไอ้กันย์..” มือเพื่อนสนิทเอื้อมตบบ่าเบาๆ เพื่อเรียกสติรับรู้

“ขอบใจ แต่ทีหลังไม่ต้อง”

“อย่าเพิ่งไปสิ..”

หญิงสาวเสียงใสก้าวเท้ายาวคว้ามือแข็งแรงไว้ก่อนจะได้เดินหนีไปไหน ความอบอุ่นคุ้นเคยแผ่ซ่านเข้าถึงหัวใจคล้ายพิษงูอันตรายวิ่งผ่านตามเส้นประสาททำลายหัวใจให้พังซ้ำซากไม่เหลือชิ้นดี กันยวัฒน์ตั้งสติสะบัดมือหนีการเกาะกุม โดยไม่แม้แต่จะปรายสายตากลับมามองหญิงสาวเบื้องหลัง

“เราคงไม่มีอะไรต้องคุยกัน”

น้ำเสียงเย็นชา ไร้ความรู้สึก สะกดอารมณ์หวั่นไหว บุรุษหนุ่มรีบรุดคว้าข้อมือบอบบางด้านข้างกระชากให้เดินตามอย่างรวดเร็ว ทุกคนในวงสนทนาพากันตกตะลึงยืนนิ่งอึ้งตามกัน สีหน้าหญิงสาวสลดวูบชัดเจน เธอคงคิดผิดไปแล้วจริงๆ ที่มายืนอยู่ตรงนี้

พรีมาดา.. คุณหนูไฮโซหน้าตาดูดีเข้าขั้นสวยงาม หุ่นสูงโปร่งผอมเพรียวราวนางแบบมืออาชีพ เพียบพร้อมไปด้วยฐานะร่ำรวยเงินทอง เนื่องจากเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลเศรษฐีมีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของประเทศ เคยคบหาดูใจกับกันย์วัฒน์เนิ่นนานจนกระทั่งสัมพันธ์รักต้องตัดขาดเพียงเพราะวงการธุรกิจของครอบครัวที่เธอเองไม่อาจขัดใจต่อต้าน และชายหนุ่มที่ผู้ใหญ่หมั้นหมายออกแววดูดีมีระดับไม่น้อยหน้ากันทำให้เธอไม่คิดจะปฏิเสธการคบหาดูใจ ทุกอย่างจึงเป็นเหตุผลที่กันยวัฒน์คงไม่อาจญาติดีกับเธอได้อีกต่อไปแม้อยากจะฝืนแค่ไหนก็ตาม

“อย่าถือสามันเลยนะพรีม มันยังทำใจไม่ได้ เรื่องพรีมจะหมั้นน่ะ”

“เหรอ.. อืม.. ในเมื่อแฟรงค์ว่าไม่ต้องถือ พรีมก็จะไม่ถือ” รอยยิ้มหวานๆ คลี่ออกจางๆ

“แล้วงานหมั้นจัดเมื่อไหร่ล่ะ”

“อีกสองวัน แล้วพรีมจะบอกอีกทีนะ ว่าแต่.. ผู้หญิงคนนั้นที่กันย์ดึงไป ใครเหรอแฟรงค์”

สายตาใคร่รู้ละจากคู่สนทนามองตามหลังคนคุ้นเคยจดจ่อ ถามไถ่เพียงเพราะต้องการรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อย่างไรเธอก็เคยขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักเก่า สิทธิ์ในการอยากรู้อยากเห็นจึงยังมีในฐานะคนเคยผูกพัน

“เอ่อ.. อ๋อ.. เด็กบ้านนอก พอดีมีคนเอามาขายให้ไว้ใช้งานหน่ะ ไอ้กันย์เลยเอากลับมาเป็นคนใช้ที่บ้าน”

“ล้อเล่นใช่ไหมแฟรงค์.. เดี๋ยวนี้กล้าโกหกพรีมแล้วเหรอ เด็กบ้านนอกอะไร หน้าตาดูดีสวยงามอย่างกับเจ้าหญิงเลยนะ”

“เด็กบ้านนอกจริงๆ พรีมอย่าสนใจไปเลย นะ นะ”

“อย่าบอกนะว่าแฟนใหม่กันย์”

“เห้ย! ไม่ใช่ ผมกำลังตามจีบอยู่ พรีมก็รู้ไอ้กันย์มันรักพรีมคนเดียว มันเคยมองใครที่ไหนล่ะ แล้วยิ่งเวลานี้ พรีมทำให้มันเสียใจปางตาย มันยิ่งเกลียดผู้หญิงทั้งโลกเข้ากระดูกดำ เด็กกะโปโลคนนั้นอย่าหวังว่ามันจะมอง”

สายตาสลดวูบไหวอีกครั้ง ถึงแม้ความรู้สึกดีๆ ยังมีอยู่จนล้นหัวใจ แต่หน้าที่และครอบครัวต้องนำหน้ามาก่อนความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้แม้ซักทาง พรีมาดาได้แต่มองตามคนรักเก่าจนลับสายตา

++++

ถนนริมฟุตบาทนอกอาคารที่พักของสนามบินแออัดไปด้วยรถยนต์หลากหลายชนิดจอดเรียงรายรอคอยผู้โดยสาร บ้างมารับมิตรสหาย บ้างทำมาหากินรับลูกค้าเพื่อนำส่งยังที่หมาย กันยวัฒน์ยังคงก้าวเท้ายาวเดินต่อไปไม่หยุดหย่อน อารมณ์หงุดหงิดยังคงวนเวียนในจิตใจโดยลืมไปว่าเผลอดึงร่างงามติดมือมาด้วยอีกหนึ่งนาง

นีลาน่าฝืนทนกัดฟันเดินตาม สองเท้าก้าวรัวแทบจะกลายเป็นวิ่ง ในใจนึกต่อว่าต่อขานบุรุษโลกป่าเถื่อน ไม่แม้แต่จะคิดสงสารนางพรายบอบบางที่เริ่มหมดแล้วซึ่งเรี่ยวแรง จะโกรธเคืองสิ่งใด ใยต้องมาพาลโมโหใส่ ทำให้นางรับเคราะห์กรรมติดร่างแหไปด้วย ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย มือบอบบางพยายามกระชากกลับกระตุ้นเตือนส่งสัญญาณให้บุรุษหนุ่มรับรู้

“ว่าไง..”

ร่างสูงยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย ปล่อยให้นางพรายกระตุกมืออยู่อย่างนั้น จนในที่สุด ความอดกลั้นหมดลง

“...”

“มีอะไรก็ว่ามา!”

คิ้วเรียวขมวดยุ่งเหยิง สีหน้าหงุดหงิดขัดใจ หยุดยืนนิ่งพร้อมเหวี่ยงสายตาดุดันมองยังนางพรายข้างๆ ที่มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มใบหน้านวลเนียน

“เราเหนื่อย.. ขอพักก่อนได้ไหม..”

เสียงใสสั่นเครือ หอบเหนื่อยแทบขาดใจ พาคนฟังหงุดหงิดมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เวรกรรมอะไรนักหนาที่ตามรังควานไม่หยุดหย่อน พยายามหนีห่างหญิงสาวใจร้ายให้พ้นๆ แต่ดันมาถูกหญิงสาวอีกคนฉุดรั้งไว้จนใจอ่อนยวบ อารมณ์โหดร้ายหยุดลงเมื่อเห็นแววตาใสซื่อส่งมาราวขอร้องอ้อนวอน

“ไปพักบนรถแล้วกัน”

กันยวัฒน์ยกมือโบกสะบัดเรียกรถยนต์โดยสารที่จอดรอลูกค้าให้รับรู้คำขอใช้บริการ คนขับเจ้าของรถเดินดิ่งตรงช่วยหิ้วกระเป๋าเดินทางพร้อมก้าวนำยังรถที่จอดรออยู่ ประตูถูกกระชากเปิดพร้อมร่างกายขึ้นนั่งยังเบาะด้านหลังคนขับเป็นที่เรียบร้อย นีลาน่าหอบแฮ่กหายใจถี่รัวราวใกล้ขาดใจ เมื่อไหร่จะพ้นช่วงเวลาโหดร้ายไปเสียทีสำหรับนางผู้ไม่เคยขึ้นรถลงเรือแม้ซักครั้งในชีวิตของเงือกพราย

กันยวัฒย์เหลือบมองคนด้านข้างที่นำศรีษะอิงเบาะรถ หลับตาสนิท คิ้วขมวดชนกัน ดูท่าอาการย่ำแย่หนักกว่าเดิมหลายเท่า ชาตินี้ทั้งชาตินางพรายคงคุ้นเคยได้ยากกับการเดินทางไกล ทั้งขึ้นเครื่องบิน ทั้งนั่งรถ ดูน่าเวทนายิ่งนัก แต่จะให้ปลอบประโลมเวลานี้เห็นทีคงยากกับการปรับสภาพจิตใจของเขาให้เป็นปกติ มือแข็งแรงเอื้อมคว้าดึงศรีษะนีลาน่าให้อิงซบที่ไหล่กว้างเบาๆ เพื่อให้นางพักกายหายเหนื่อยก่อนถึงที่หมายในอีกไม่ช้า

++++

เตียงนอนกว้างใหญ่ถูกปัดเช็ดทำความสะอาดเมื่อเจ้าของเดินทางกลับยังที่พักอาศัยย่านชานเมือง โครงการบ้านเดี่ยวสวยหรูบรรยากาศเงียบสงบ นีลาน่าล้มกายลงนอนพักผ่อนเอาแรง เมื่อทำความสะอาดเสร็จสิ้นโดยมีกันยวัฒน์เป็นผู้ช่วยเหลือดูแลทุกกระบวนการ

“คุณนอนพักให้สบายนะ เดี๋ยวผมหาของรองท้องให้”

นีลาน่าได้แต่พยักหน้าเบาๆ พลางปิดเปลือกตาสนิทลง นางคงทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วกับอาการประหลาดที่ทำให้ย่ำแย่ขั้นปางตายเช่นนี้ กันยวัฒน์นั่งมองดูพรายสาวอยู่พักใหญ่เมื่อเห็นนางหลับสนิทเขาจึงลุกเดินออกจากห้องปล่อยให้นีลาน่าพักผ่อนเต็มที่หลังจากเดินทางไกลเกือบซีกโลกเป็นครั้งแรกในชีวิต ร่างสูงดึงประตูปิดเบาๆ พร้อมแผ่นหลังกว้างพิงแนบชิด พ่นลมหายใจออกทางปาก ทำไมอะไรมันช่างดูวุ่นวาย ตั้งแต่ถูกบั่นทอนจิตใจให้เจ็บช้ำยังไม่ทันหายดี ต้องมาคอยเลี้ยงดูอมนุษย์ร่างงามดั่งสมาชิกในครอบครัว ชีวิตต่อจากนี้จะดำเนินอย่างไรต่อไป

สองเท้าก้าวเดินลงยังชั้นล่างของบ้านเพื่อจัดเก็บสัมภาระที่วางเกลื่อนกลาดเต็มพื้นที่จนดูรกรุกรัง ภาพเหตุการณ์ของคนรักเก่าเมื่อชั่วโมงก่อนตามหลอกหลอนจิตใจ เหตุใดต้องมาทำให้เจอะเจอทั้งที่พยายามอย่างถึงที่สุดกับการลืมไม่ให้คิดถึงเธอ แต่ความพยายามที่สั่งสมมาทลายหายเพียงแค่ได้ยินเสียงและสัมผัสอบอุ่นคุ้นเคย แล้วเมื่อไรเขาถึงจะจบสิ้นเรื่องราวต่างๆ ได้เสียที

รถยนต์คันหรูพร้อมเสียงดนตรีดังกระหึ่มหยุดยังหน้าที่พักอาศัยพาความคิดทั้งหลายหายสิ้นกลางอากาศ เจ้าของบ้านหันเหความสนใจยังบุคคลผู้มาเยือน คงเป็นอื่นไม่ได้นอกเสียจากเจ้าเพื่อนตัวแสบที่เสนอตัวทำในสิ่งไม่ควรและไม่เคยเต็มใจร้องขอ

“ไอ้กันย์ ทำไมไม่รอข้าวะ พานีลาน่าหนีกลับมาแบบนี้”

แฟรงค์เกนสไตล์ แสดงสีหน้าพร้อมกระตุกน้ำเสียงขุ่นข้องใจเล็กๆ ต่อว่าเพื่อนซี้ที่ส่งสายตานิ่งเฉยมองมาราวไม่รู้สึกรู้สาหรือสะทกสะท้านต่อประโยคเจรจาซักเท่าใด กันยวัฒน์ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวเสมือนทุกอย่างไร้ตัวตนสำหรับเขา นิ่งเงียบไม่ตอบสนอง ปั่นป่วนโทสะคู่สนทนายิ่ง

“...”

“อ้าวไอ้นี่! คุยด้วยทำเงียบ ผู้ชายอะไรขี้งอนชิบ..”

“...”

“เห้ย! ข้าไม่ได้ตั้งใจบอกให้พรีมมาสนามบินนะโว้ย ก็พรีมขอร้องจะมาให้ได้ เธออยากเจอเอ็ง ข้าก็เลยไม่อยากขัด แต่ข้ารู้นะเว้ยว่าเอ็งไม่อยากเจอพรีม แต่มันก็ดีไม่ใช่หรือไงได้รู้ว่าเธอยังห่วงเอ็งอยู่ เรื่องหมั้นมันก็แค่ความจำเป็น เชื่อข้าดิไอ้กันย์ เดี๋ยวสองคนนั้นไปด้วยกันไม่ได้พรีมก็กลับมาหาเอ็งจนได้”

“...”

ประโยคปลอบใจไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น กลับยิ่งสร้างแรงปะทุให้ความหงุดหงิดใกล้ระเบิดออกจนต้องพยายามควบคุมเอาไว้ คนอย่างกันยวัฒน์สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดต้องทนรอ ยอมเป็นตัวสำรองเชียวหรือ ทำไมเขาต้องตกเป็นที่สองในตัวเลือกของบุคคลที่รักมากมาย มือไม้กำหมัดแน่น ยิ่งคิดยิ่งเสียอารมณ์ ความรู้สึกดีๆ หายสิ้น ทำให้เขายิ่งเกลียดผู้หญิงที่เห็นผู้ชายอย่างเขาเป็นของตาย

“ไอ้กันย์ ฟังข้าอยู่หรือเปล่าวะ”

“หยุด.. เลิกพูดเลยไอ้แฟรงค์ ข้าไม่อยากฟังและก็ไม่ขอรับรู้เรื่องของผู้หญิงคนนั้นอีก”

“เออๆ ข้าไม่พูดก็ได้วะ ว่าแต่.. นีลาน่าเป็นไงบ้าง เธออยู่ไหน”

“บนห้อง นอนพักไปแล้ว”

“เอ็งจะทำไงต่อไป กับเงือกน้อยแสนสวย”

กันยวัฒน์ได้แต่ครุ่นคิดในใจ เนื่องจากเขาเองก็ยังไม่เห็นหนทางจัดการเกี่ยวกับนางพรายได้เลย เหตุเพราะเวลานี้ความอ่อนแอเข้าควบคุมนีลาน่าจนไม่อาจพูดจาสื่อสารให้รับรู้อะไรได้แม้แต่น้อย

“ก็คงต้องรอให้ฟื้นก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

“ให้ข้ามาช่วยดูนีลาน่าได้หรือเปล่า”

  รอยยิ้มทะเล้น พาใจกระตุกวูบชั่วขณะ หรือเพื่อนสนิทเกิดความสนใจในสมบัติที่ได้มาโดยไม่ตั้งใจถึงแสดงความกระตือรือร้นช่วยเหลือจนผิดวิสัยไม่ชอบใส่ใจเรื่องของผู้อื่นมากมายเท่านี้มาก่อน

“มีอะไรต้องช่วย ก็แค่เปลี่ยนนางเงือกให้เป็นคน เอ็งจะยอมลำบากขนาดต้องมาดูแลเลยเหรอไอ้แฟรงค์”

“ข้ารู้ว่าเอ็งไม่สนใจนีลาน่าไง เดี๋ยวปล่อยปละละเลย แล้วเธอเป็นอะไรขึ้นมาจะว่าไง”

“นางเงือกคงไม่บอบบางขนาดนั้นหรอกไอ้แฟรงค์ อย่าห่วงไปเลย ข้าไม่ปล่อยให้เงือกน้อยของเอ็งนอนซมเป็นไข้จนตายหรอกรับรอง”

“ไอ้นี่จะเอาไงวะ ทำเป็นไม่อยากจะสนใจ แต่พอจะข้าจะขอดูแลเอง กลับทำหวงก้างขึ้นมาซะงั้น”

ประโยคกระตุกใจเล็กๆ นั่นสิ.. ทำไมเขาต้องรู้สึกหงุดหงิดหัวเสียขึ้นมา กับแค่เพื่อนอาสาสมัครดูแลสิ่งที่เขาเองก็ไม่คิดจะดูดำดูดีเท่าไร

“หวงบ้า หวงบออะไร ก็ไม่เห็นต้องใส่ใจอะไรเป็นพิเศษนี่ เออ.. ตามใจเอ็งแล้วกัน อยากมาก็มา”

กันยวัฒน์หอบหิ้วสัมภาระลุกหนีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่หรี่ตาเล็กตาน้อยมองคล้ายมีเลสนัยแอบแฝง บุรุษร่างใหญ่ผิวปากปล่อยอารมณ์สุนทรีย์ นั่งเหยียดขายาว ยกมือประสานท้ายทอย ในท่าสบายอกสบายใจ มองดูเพื่อนสนิทจัดเก็บทำความสะอาดบ้านหลังจากไร้ผู้อาศัยมาได้ซักระยะ

“วันนี้เอ็งจะไปทำงานเลยเปล่าไอ้กันย์”

“อาจแวะไปดึกๆ แต่ยังไม่ทำนะงาน อยากนอนวะ”

“พานีลาน่าไปด้วยไหม”

ไอ้เพื่อนคนนี้มันเป็นอะไรหนักหนา ชีวิตนี้จะสนทนาวนเวียนป่วนเปี้ยนอยู่กับนางเงือกน้อยเป็นอย่างเดียวหรือไงกัน สรรหาเรื่องอื่นมาเจรจาบ้างก็ได้ มีเรื่องอีกเป็นร้อยเป็นล้านให้เอ่ยถึง

“ทำไม..”

“เอ้า! จะปล่อยให้นีลาน่าอยู่ที่นี่คนเดียวหรือไงวะ อันตรายนะเว้ย”

“เออ.. ให้อยู่นี่ล่ะ หัดไว้คงไม่ตาย”

“ให้มันจริงเหอะว่ะ ทำเป็นไม่สนใจ”

กันยวัฒน์สะบัดหน้าหนีเสียงขำขันที่ดังแหย่อารมณ์ให้หงุดหงิดเล่น หางตาพลันมองเห็นตู้เย็นทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าในบ้านยังขาดข้าวของเครื่องใช้หลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับตนเองและผู้อาศัย คงได้เวลาจับจ่ายใช้สอยเสียที

“ไอ้แฟรงค์ ข้าจะไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ ไปช่วยข้าเลือกหน่อย”

“ไม่ไป! ขี้เกียจเดิน ข้าจะเฝ้านีลาน่า เดี๋ยวเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอใครจะทำไง”

“เร็วๆ อย่าเรื่องมาก นางเงือกของเอ็งคงไม่ตื่นง่ายๆ หรอกน่า”

น้ำเสียงดุดัน พร้อมสายตาคมกริบตวัดมองให้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่าได้ขัดเป็นอันขาด แค่มองตาก็เข้าใจกัน แฟรงค์เกนสไตล์ลุกยืนเต็มความสูงอย่างขัดใจ พร้อมเดินนำยังรถยนต์ที่จอดนิ่งสนิทหน้าที่พักอาศัย กันยวัฒน์ไม่ลืมสำรวจตรวจตราว่าปิดล็อคประตูสนิทดีแล้วหรือไม่ ก่อนก้าวขึ้นรถเพื่อจัดการภารกิจต่อไป

++++

แก้วน้ำทรงสูง มีควันอ่อนๆ ลอยฟุ้งบางเบาส่งกลิ่นหอมอ่อนของนมสดอุ่นๆ ถูกยกจากถาดรองวางลงบนโต๊ะใบเล็กๆ ข้างหัวเตียง พร้อมขนมเค้กช็อคโกแลตดูยั่วน้ำลายไม่ใช่เล่นวางคู่กัน เตรียมพร้อมรอนางพรายฟื้นตื่นขึ้นมา หลายชั่วโมงเข้าไปแล้วตั้งแต่เดินทางกลับมาถึงที่พัก นีลาน่ายังคงนอนสลบไสลไม่รู้สึกตัว

“เห้ย.. ไอ้กันย์ เมื่อไรนีลาน่าจะฟื้น แล้วนมอุ่นๆ กับขนมเค้ก นีลาน่าจะกินได้หรือวะ”

“ไม่รู้”

คำตอบเรียบง่าย สั้นๆ ได้ใจความตัดบทสนทนา พาคนถามยืนอึ้ง หมดประโยคจะเอ่ยต่อไป สองบุรุษยังคงยืนมองเงือกน้อยนิ่งๆ ความงดงามพาสายตาจับจ้องได้ไม่มีเบื่อ แม้ขณะหลับยังน่ามองถึงเพียงนี้ นางฟ้าชัดๆ ที่ตกสวรรค์ลงมา สายตาคงพาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเงือกพราย

“ไอ้กันย์.. เอาไงให้ข้าปลุกนีลาน่าขึ้นมากินอะไรก่อนไหม”

“ปล่อยไว้งี้ล่ะ ตื่นมาหิวเมื่อไรคงจัดการเอง ไปผับกันเถอะ”

กันยวัฒน์ปรามเพื่อนข้างๆ แต่สายตายังคงจับจ้องสิ่งสวยงามไม่วางตา รู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ หากปล่อยนางพรายไว้ตามลำพัง เกิดฟื้นขึ้นมาระหว่างไม่มีผู้ใดข้างๆ จะเป็นอย่างไร ความคิดหยุดกลางทางคงไม่น่ามีปัญหาอะไร ควรหัดไว้บ้างให้ช่วยเหลือตนเอง ร่างสูงทั้งสองพากันเดินออกจากห้อง ต่อเวลาให้พรายสาวได้พักผ่อนอีกซักหน่อยคงดี

++++

โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 55 07:03:31

แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 55 07:00:53

แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 55 06:59:32

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 04:30:15




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com