ไหลย้อนขึ้นไปทักทายคุณ Shaolin boy นะคะ
สารภาพว่าช่วงก่อนหน้านี้เครียดมากค่ะ งานมารุมๆ และเขียนนิยายไม่ออก
พอบทจะเขียนออก ก็พลิกบทเสียเฮฮาไปเลย (มีคนเขียนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ^^')
อย่างที่บอกไว้ในความเห็นที่ 3 นะคะ ว่าเดี๋ยวก็ต้องปรับแก้ให้เป็นแนวจริงจังเหมือนเดิม
รวมถึงตอบคำถามของอาจารย์จีและคุณ nasa nasa ด้วย
จึงได้แก้ไขตอนปลายของบทนี้ ดังนี้ค่ะ ^____^
(เนื้อเรื่องจากความเห็นที่ 2 ฉบับปรับปรุงใหม่)
เครื่องปรับอากาศในรถของพัลลภดูจะปรับไว้ที่ระดับต่ำสุด อุณหภูมิในรถจึงเย็นเฉียบ นักนินนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับถึงกับต้องห่อตัวเพื่อรักษาความร้อนในร่างกาย ชายสูงวัยคงพอสังเกตได้จึงหันไปปรับระดับอุณหภูมิให้สูงขึ้นพร้อมกับหันมาถามเสียงอ่อนนุ่ม
หนาวหรือ
ค่ะ เอ้อ ไม่ค่ะ แค่รู้สึกว่าในรถจะเย็นไปหน่อย
ฮีตเตอร์มันไม่ค่อยดีน่ะ อาลองปรับให้แล้วนะ น่าจะดีขึ้น
ขอบคุณค่ะ
นักนินรับคำแล้วก้มหน้า กุมมือตัวเองวางบนตักพยายามนั่งนิ่งๆ และคอยมองออกไปนอกหน้าต่าง อยากให้ถึงบ้านของตัวเองโดยเร็วที่สุด
หิวหรือเปล่า อยากจะแวะทานอะไรก่อนไหม
ไม่เป็นไรค่ะคุณอา ขอบคุณค่ะ
หญิงสาวพูดน้อยคำ พัลลภลอบยิ้มอยู่ในหน้า ช่างไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก และขี้เกรงใจ ชายสูงวัยใช้มือข้างเดียวบังคับพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวรถ และเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าตรงข้างเบาะส่งให้หญิงสาว
งั้นนี่น้ำเปล่านะ ทานได้นะ ไม่ต้องกลัว แกะพลาสติกครอบฝาแล้วเปิดดื่มได้เลย
ขอบคุณค่ะ
นักนินรับน้ำดื่มในขวดพลาสติกมาแล้วพินิจดู มีพลาสติกครอบฝาขวดในรูปแบบที่ยังไม่ได้เปิดใช้จริงๆ พัลลภเพียงลอบมองด้วยหางตา ดีว่าเขาเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้พร้อมเสมอ ไม่ต้องรอเปิดฝาขวดแล้วหยอดยา วิวัฒนาการของเขาเวลานี้คือสามารถผลิตขวดน้ำลอกเลียนแบบแบรนด์ดังๆ ผสมสารเสพติดลงไป แล้วปิดผนึกฝาขวดคล้ายไม่เคยผ่านการเปิดใช้งานได้อย่างแนบเนียนแล้ว รอแค่เหยื่อหลงกลดื่มกินลงไปเท่านั้น...
หญิงสาวแกะพลาสติกครอบฝาออกอย่างไม่ได้เอะใจอันใด แต่ระหว่างเปิดฝาขวดนั้น สายตาพลันเหลือบไปเห็นกระจกมองหลัง เห็นว่ามีเงาคนนั่งอยู่บนเบาะของผู้โดยสารอยู่สองคนชายหญิง เงานั้นคุ้นตานัก
หญิงสาวเย็นหลังวาบและหันขวับไปดู เงาร่างของทั้งสองคนก็หายไป
มีอะไรหรือ
พัลลภถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มขุ่นมัว
ปะ เปล่าค่ะ
นักนินหันมาตอบ พยายามข่มเสียงให้เป็นปรกติ แต่เมื่อหันมาดูขวดน้ำในมือตน น้ำภายในขวดนั้นกลับเป็นสีแดงฉานและขุ่นคลั่กคล้ายมวลของหยดเลือดมารวมกัน
ฮึก...
หญิงสาวเกือบเผลอทำขวดน้ำหล่นจนกลายเป็นพิรุธ เธอใคร่ครวญจนค่อนข้างปักใจแล้วว่ารมดวลกับบุญเทือนมิได้ตั้งใจมาทำร้าย และสารที่พวกเขาต้องการส่งต่อ ก็ควรจะสมบูรณ์แล้ว แต่แล้วภาพเมื่อครู่คืออะไรเล่า...
นักนินกำขวดน้ำแน่น แต่ไม่ยอมเปิดดื่ม เธอหันออกไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทิวทัศน์สองข้างทางกลับดูเปลี่ยนไป กลายพื้นที่รกร้างในถนนสายเปลี่ยว หลอดไฟบนเสาบางต้นไม่ทำงาน และทิ้งระยะห่างของแสงสว่างออกไปเรื่อยๆ
คุณอา มาผิดทางหรือเปล่าคะ
ทำไมล่ะ
ครานี้พัลลภตอบกลับมาด้วยเสียงห้วนสั้น
นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของหนูน่ะค่ะ ถ้าคุณอาจะแวะไปที่ไหนก่อน รบกวนส่งหนูที่ถนนใหญ่ได้ไหมคะ หนูขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเองก็ได้ค่ะ
ไม่เป็นไร อาไม่ได้จะแวะที่ไหน
ชายสูงวัยตอบพร้อมกับเร่งความเร็วของรถขึ้น นักนินมองขวดบรรจุของเหลวในมือก็พบว่ายังเป็นสีแดงขุ่นข้นคลั่ก นี่ไม่ใช่การตามมาหลอกหลอน แต่เป็นสัญญาณอันตรายต่างหาก ชั่วขณะนั้น เครื่องบันทึกความทรงจำในสมองเหมือนเพิ่งจะเริ่มทำงาน
ขอโทษครับอา ที่โทรมาดึกๆดื่นๆ
....
คือผมมีเรื่องด่วนจะขอความช่วยเหลือครับ คือผมทำตามที่อาบอกแล้วครับ ... ครับ แต่เผลอกรอกยาหนักมือไปหน่อย
เสียงของภาคิมที่คุยโทรศัพท์ขณะที่เธอกำลังอยู่ในความเป็นความตาย และปลายสายนั้นเป็นใครไปเสียไม่ได้ นอกจาก
คุณอา...
ยังไม่กินน้ำอีกหรือ
คุณอา... ไม่จริงใช่ไหมคะ
คำถามสุดท้ายถูกพัลลภหันมาตวาดกร้าว
กูบอกให้กินไง!!!
ประโยคนั้นตะโกนลั่นจนนักนินสะดุ้งสุดตัว
ตายช้าๆ ไม่ชอบ ชอบแบบที่ตายไวๆ ใช่ไหม ได้ พ่อจะสนองให้
พัลลภบังคับรถให้ไถลลงไปข้างทาง ตั้งใจหาที่จอดเหมาะๆ แล้วหมายจะหาทางจัดการกับพยานสำคัญให้เด็ดขาด แต่ในบัดนั้นก็เกิดสิ่งที่ผิดความคาดหมาย ยังมีรถอีกคันหนึ่งขับตามหลังมาอยู่ไม่ไกล นักนินรีบหันไปตะโกนขอความช่วยเหลือ
ช่วยด้วยค่ะ ช่ว...
พัลลภรีบจอดรถและคว้าตัวนักนินมาปิดปากไว้ หมายใจจะให้รถคันดังกล่าวขับผ่านไปแล้วค่อยดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อ
เป็นความผิดพลาดอีกครั้งซ้ำสอง เมื่อรถคันดังกล่าวชะลอความเร็วลงและหยุดอยู่ตรงตำแหน่งขนานกันกับรถของพัลลภพอดี
บุคคลสองคนที่เดินลงมาจากรถเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ฝ่ายหญิงเดินลงมากอดอกแล้วเอียงหน้าประหนึ่งนางแบบหยุดหมุนตัวขณะโชว์ชุดฟินาเล่ สายตาระยิบระยับแพรวพราวนั้นคือฮานาโกะเป็นแน่แท้
เฮ่ย
พัลลภอุทานเสียงห้าว ปล่อยมือนักนินและรีบควานหาอาวุธและคิดทางหนีทีไล่
ชายหนุ่มอีกคนเดินลงจากรถของตนและอ้อมมาเปิดประตูรถให้กับนักนิน เขาคือเกนโซ พระเอกขี่ม้าขาวคนเดิมอีกแล้ว
พวกคุณตามมาได้ยังไง
เกนโซดึงมือของนักนินมากุมไว้ สมบัติพัสถานเพียงชิ้นเดียวที่ติดตัวเธออยู่ในคืนนี้ ก็คือโทรศัพท์มือถือของเกนโซที่เธอเผลอถือติดมือมานั่นเอง
ขะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจขโมยของคุณมา
ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจยกให้คุณอยู่แล้ว ที่สำคัญ เจ้าเครื่องนี้ช่วยชีวิตคุณไว้ได้ด้วยนะครับ
เกนโซพูดพลางหันไปมองฮานาโกะที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่เมื่อเห็นพัลลภกำลังดิ้นกุกกักเหมือนกำลังควานหาอะไรบางอย่างอยู่ในรถ ก็รีบเอี้ยวตัววิ่งไปหาพี่ชาย เกนโซพาฮานาโกะและนักนินเดินหนีออกมา ระหว่างนั้นก็พยายามสรุปที่มาให้นักนินฟังสั้นๆ
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น คือเกนโซเดินออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับฮานาโกะ ชายหนุ่มครุ่นคิดและเผลอถอนใจอยู่หลายครั้งระหว่างที่เดินไปขึ้นรถ
เป็นอะไรคะพี่ชาย
ทั้งสองสนทนากันเป็นภาษาญี่ปุ่นเมื่ออยู่เพียงลำพัง
ผู้ชายคนนั้น พี่รู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้ใจอย่างบอกไม่ถูก
อือ แล้วทำไมปล่อยให้นักนินไปกับเขาล่ะคะ
พี่อยากให้เธอปฏิเสธเขาเอง แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ
พี่ชายนี่ล่ะน้า... เอาไงล่ะทีนี้
พี่อยากตามเขาไป
อ้าว แล้วจะตามยังไงล่ะคะ
เอาเครื่องของเธอมาสิ
ฮานาโกะตาโต เมื่อเกนโซเปิดอุปกรณ์ในมือใช้ได้อย่างคล่องแคล่วเช่นกัน...
ผมใช้โปรแกรมในเครื่องของฮานาโกะเพื่อติดตามหาโทรศัพท์มือถือของผมด้วยดาวเทียม ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ถ้ายังไม่ปิดมือถือ พิกัดและทิศทางที่คุณไป ก็จะอยู่ในสายตาผมตลอด
เน่!
ฮานาโกะฟังภาษาไทยไม่ออก แต่รู้ว่าพี่ชายกำลังพยายามอธิบาย ก็ได้แต่เป็นลูกขุนพลอยพยัก ส่วนนักนินก็ได้แต่พยักหน้า รอฟังต่อ
เราสองคนขับตามมาตลอด แต่ปิดไฟหน้ารถเอาไว้ไม่ให้มีพิรุธ พอเห็นรถที่คุณนั่งมาเริ่มเลี้ยวเข้าทางเปลี่ยว ผมและฮานาโกะก็...
นี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกแกจะไปไหนไม่ได้
ไม่ทันขาดคำ พัลลภดึงปืนออกมาจากใต้เบาะได้ ก็กระโจนลงมาจากรถและปิดประตูดังปัง เขายืนจังก้าและหันกระบอกปืนมาทางทั้งสามคนบนทางเปลี่ยว ปืนกระบอกนั้นบรรจุลูกกระสุนไว้พร้อมสรรพและพัลลภสามารถยิงได้ทันทีที่ทั้งสามขยับตัว แต่ทันใดนั้น แสงสว่างจากไฟหน้ารถตำรวจราวสี่ถึงห้าคันก็สว่างจ้า แสงไฟนั้นกราดเข้าม่านตาพัลลภจนมองอะไรไม่เห็น สัญชาตญาณทำให้วายร้ายเหนี่ยวไกยิงส่งเดชออกไปโดยไร้ทิศทาง หญิงสาวทั้งสองคนร้องกรี๊ดลั่นและเกนโซกางแขนโอบทั้งสองไว้และพาหนีลงไปข้างทาง ตำรวจกรูลงมาจากรถและใช้ประตูบังพร้อมกับใช้โทรโข่งขยายเสียงและตวาดลั่น
หยุด!! อย่าขยับ!! นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลดปืนลงเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าคุณขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้วยปริมาณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีปริมาณมากกว่า กระสุนเหลืออีกไม่กี่นัด และข้างกายก็ไร้ตัวประกัน พัลลภหยุดยิงและโยนปืนทิ้ง เขาเอามือวางไขว้เหนือศีรษะด้วยอาการตะลึงงัน
เป็นไปไม่ได้ ตำรวจมาได้ยังไง
พัลลภพึมพำขณะที่ตำรวจเดินเข้ามาประชิดตัวและจับใส่กุญแจมือ เกนโซบอกกับนักนินที่กลิ้งหลุนๆ มาอยู่ในอ้อมกอดว่า
พอเห็นรถที่คุณนั่งมาเริ่มเข้าทางสายเปลี่ยว ผมก็ให้ฮานาโกะโทรเรียกตำรวจ ผมพอจะมีเส้นสายตำรวจผู้ใหญ่อยู่บ้าง พวกเขาก็เลยมากันเร็วมาก
เน่!
ฮานาโกะที่อยู่ในอ้อมกอดอีกข้าง พยักหน้าอีกครั้ง ประหนึ่งว่าฟังรู้เรื่อง
ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมาก
นักนินผละจากอ้อมกอดและลุกขึ้นนั่ง ฮานาโกะก็เช่นกัน เธอต้องรีบจัดท่าและเสื้อผ้าให้สวยก่อนที่คุณตำรวจจะมาช่วยดึงมือให้ลุกขึ้น
อ้าว ลุกสิคะ พี่ชาย
ฮานาโกร้องบอกเกนโซที่ยังนอนนิ่งอยู่
ขอเวลาหน่อยนะ ดูท่าพี่จะลุกลำบาก
แสงสว่างจากไฟหวอตวัดวาบมาทางที่ชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ ขณะที่เกนโซฝืนตัวลุกขึ้น นักนินจึงได้เห็นรอยเลือดปื้นใหญ่อยู่บนหัวไหล่ทางด้านหลังของชายหนุ่ม
ชั่วขณะนั้น นักนินยกมือขึ้นปิดปากและรีบเข้าไปประคองเกนโซเอาไว้
ฝ่ายฮานาโกะร้องกรี๊ดๆ และล้มทรุดลงไปอีกคราวหนึ่ง
...
...
...
- โปรดติดตามตอนต่อไป