Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 7. vote ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตเอาลิงค์เก่ามาแปะนะคะ เนื่องจากมีนักอ่านเงาแวะมาอ่าน อิอิ แล้วเกิดชอบพระเอกของเราขึ้นมา เลยอยากหาตอนเก่า ๆ อ่าน ข้าพเจ้าเลยจัดให้น้องสาวซะหน่อย ;p

ตอน 1.  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12847798/W12847798.html

ตอน 2. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12861885/W12861885.html

ตอน 3. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12876280/W12876280.html

ตอน 4. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12890244/W12890244.html

ตอน 5. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12904313/W12904313.html

ตอน 6. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12922345/W12922345.html


.
.


7.

‘แต่งงานกันไหม..’

ประโยคแห่งความทรงจำยังคงตอกตรึงชัดเจนในจิตใจมั่นคง คำพูดที่กลั่นออกมาจากความรู้สึกรัก หวงแหน ต้องการครองคู่ดูแลซึ่งกันจนแก่เฒ่าฝังจำไม่เสื่อมคลาย

‘เก็บเงินได้ถึงห้าล้านแล้วหรือไง มาขอพรีมแต่งงาน’

เสียงหวานใสหัวเราะคิกคักแว่วดังวนเวียนในใจไม่เคยจางห่างแม้ซักวินาที ต่อให้เขาแสดงความจริงจังหนักหนาซักเพียงใด แต่ทุกเรื่องราวหญิงสาวยังคงเห็นเป็นเรื่องขบขันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

‘ถ้าผมบอกว่าเก็บได้ตามนั้นแล้ว คุณจะยอมแต่งงานทันทีเลยหรือเปล่า’

‘...’

‘ว่าไง..’

‘อื้อ... ก็สัญญาไว้ตามนั่นนิ กันย์ทำได้ พรีมก็ทำตามสัญญาเหมือนกัน’

หากทว่าความสุขไม่เคยอยู่กับใครได้นานเป็นสิ่งที่เตือนสติคนเคยรวดร้าวเสมอ มันมาเยี่ยมเยือนให้หัวใจพองโตแล้วลาจากฝากรอยเจ็บปวดที่ไม่อาจลืมเลือนได้แม้ซักวัน เคยพบเจอความสุขมากมายเพียงใด หากความทุกข์ตรมสาหัสยิ่งกว่านั้นหลายเท่าตัว แค่ชั่วข้ามคืนใจมนุษย์สามารถแปรเปลี่ยนได้รวดเร็วจากหน้ามือเป็นหลังมือ

‘ทำไมล่ะพรีม! ทำไมเราถึงต้องเลิกคบกัน’

‘พรีมจำเป็น...’

‘อะไรที่ว่าจำเป็น!’

‘พรีม.. พรีมจำเป็นต้องคบกับคนที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้.. เข้าใจพรีมนะกันย์.. พรีมรักกันย์.. ไม่เคยเลยที่จะเลิกรัก.. กันย์เข้าใจพรีมใช่ไหม..’

‘เพื่ออะไร.. คุณกำลังจะเลิกกับผม แต่กลับบอกว่ารักผม คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร!’

‘พรีมรักกันย์! เข้าใจพรีมบ้างสิ’

‘คุณไม่ได้รักผม.. และคงไม่เคยรัก..’


“ไอ้กันย์โว้ย! กลับมาแล้วหรือเอ็ง”

ความคิดหยุดกึกกลางทาง เสียงแหบห้าวของเพื่อนร่วมวงดนตรีส่งทักทาย การ์ดเชิญในมือร่วงหล่นพร้อมจิตใจหลุดลอยยังภาพฝันเมื่อซักครู่กลับมาอยู่ในปัจจุบันอีกครั้ง

“เออ.. ถ้าข้าไม่กลับเอ็งจะเห็นข้านั่งอยู่ตรงนี้เหรอไอ้วิณ”

“เออว่ะ! ถามได้โง่มาก”

เสียงประสานหัวเราะสนุกสนาน พาใจห่อเหี่ยวใกล้ตายเมื่อครู่กลับมามีชีวิตเกือบเป็นปกติได้อีกครา แม้จะมีเรื่องปวดใจหนักหนาแค่ไหน แต่สายใยสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนสามารถช่วยบั่นทอนให้เบาบางลงได้ราวปาฏิหาริย์

“ไอ้เกล้ายังไม่มาเหรอ..”

“อืม.. ว่าแต่วันนี้จะขึ้นเล่นดนตรีเลยหรือเปล่า”

“ยัง.. ข้าต้องรีบกลับบ้านพอดีมีธุระ แต่มีคนฝากไอ้นี่ไว้ให้”

การ์ดเชิญถูกชูอวดเพื่อนเกลอ พร้อมยิ้มเหยียดเปลี่ยนสายตาเป็นเย็นชารวดเร็ว หลักฐานของการย่ำยีจิตใจถูกถ่ายทอดออกมาเป็นกระดาษเล็กๆ หนึ่งแผ่น มันช่างตอกย้ำซ้ำเติมความรู้สึกให้จมลึกสู่ขุมนรกอเวจี

“เห็นไอ้แฟรงค์บอก พาสาวสวยกลับมาด้วยนิหว่า เอามาโชว์ตัวในงานเลยดิวะ ไม่ต้องไปถนอมน้ำใจผู้หญิงพันธุ์นั้น”

“ไอ้วิณ.. เอ็งยังไม่รู้อะไร..”

กันยวัฒน์ยกฝ่ามือขึ้นปิดหน้า กุมขมับ ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากพาเงือกน้อยออกงานราตรีใหญ่โตระดับประเทศ คงได้งามหน้ากันก็งานนี่ แม้แต่การก้าวเดินยังต้องสอนสั่ง นับภาษาอะไรกับงานหรูหราอลังการ ชาตินี้ทั้งชาตินางคงไม่เคยได้เจอะเจอ

“รู้อะไรวะ..”

“เปล่า.. ช่างเหอะ ไงข้ากลับก่อนแล้วกัน ฝากบอกไอ้แฟรงค์ด้วย มันหายหัวไปไหนไม่รู้”

“เออได้.. ว่าแต่เพลาๆ บ้างนะเหล้าอ่ะ เอ็งดูโทรมไปเยอะเลย แล้วอย่าลืมที่บอก คิดดีๆ อยากแก้เผ็ดจัดมาเลยสาวสวย รับรองมีคนอกแตกตาย โชคดีนะเว้ย..”

เสียงตะโกนไล่หลัง พาคนฟังหลุดขำ ระบายยิ้มจางบนใบหน้า ขยันหาเรื่องให้เสียจริง กันยวัฒน์นึกในใจ ถึงแม้เขาจะรวดร้าวเพียงใด หรือแสดงออกอย่างไม่ใยดีแค่ไหน มันเป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันตนเองจากความเจ็บปวดและเสียใจเท่านั้น การหักหาญจิตใจคนเคยคุ้นและยังรักมั่นให้ต้องเจ็บปวดเช่นเดียวกัน ไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองแม้แต่น้อย ในเมื่อเวลาผ่าน สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลง ทางเดียวที่เขาสามารถหยิบยื่นให้เธออันเป็นที่รักได้ คงมีเพียงความยินดีอย่างใจจริง แม้มันจะขัดต่อความรู้สึกลึกๆ ในใจ แต่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อคนที่รักได้พบกับทางสว่าง เขาเองต่างหากที่ควรพยายามตัดใจต่อไป แม้ว่าจะนานสักแค่ไหนก็ตาม


++++


สถานที่คุ้นเคยภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรร บ้านเดี่ยวหลังใหญ่มีพื้นที่กว้างขว้าง ความห่างของบ้านแต่ละหลังระยะไกลกันพอสมควรจึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบไร้ซึ่งความวุ่นวาย ยิ่งเป็นช่วงหัวค่ำอย่างเวลานี้ยิ่งหายห่วง เงียบสงัดราวกับอยู่ในป่าช้าก็ไม่ปาน ที่พักอาศัยแห่งนี้เป็นสมบัติของบิดามารดาที่ยกให้โดยท่านทั้งสองหลบไปใช้บั้นปลายชีวิตอยู่กับกิจการส่วนตัวยังต่างจังหวัด หวังเพียงลูกชายคนเดียวได้อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องไปอาศัยหลับนอนยังห้องเล็กคับแคบอย่างคอนโดหรูหราสูงลิบหลายสิบชั้น    

รถหรูคันงามจอดสนิทสิ้นเสียงเครื่องยนต์เมื่อเข้าขอบเขตของที่พักอาศัย กันยวัฒน์พาร่างกายตรงดิ่งเข้าบ้านมุ่งหน้าขึ้นชั้นบนทันทีไม่รอช้า หากทว่าใจกระตุกวูบเมื่อเบื้องหน้ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ ประตูห้องนอนที่นีลาน่าพักผ่อนถูกแง้มเปิดออก เขาจำได้ไม่ผิดแน่ก่อนออกจากบ้านประตูบานนี้ถูกปิดสนิทด้วยฝีมือของเขาเอง เหตุใดจึงเปิดทิ้งไว้ หรือเพราะนีลาน่าตื่นจากหลับไหล นางจึงเปิดออกมาเดินเพ่นพ่าน ว่าแล้วสองเท้ารีบเดินคว้าประตูออกกว้างมองหาพรายสาวอย่างร้อนรน

เอาอีกแล้ว.. เงือกน้อยก่อเรื่องอีกจนได้ นี่นางหายตัวไปไหน สภาพห้องว่างเปล่าปราศจากร่างงามของอมนุษย์ที่พากลับมา กันยวัฒน์สาวเท้าถี่รัวตามหาทุกซอกมุมเกือบทั่วบ้าน

“นีลาน่า!!”

กันยวัฒน์พยายามส่งเสียงเรียกให้พรายสาวรู้ตัวถึงการกลับมาของเขา หาเรื่องให้ปวดสมองอีกจนได้ เงือกอะไรดื้อเป็นบ้า ความคิดต่อว่าผุดเป็นดอกเห็ดในใจ

“นีลาน่า คุณอยู่ไหน!!”

บ้านทั้งหลังก็ไม่ได้มีที่ซ่อนมากมาย ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะตามหาหญิงสาวคนเดียวไม่เจอ ไม่เข้าใจเหตุใดจึงหาเรื่องป่วนประสาทให้กลุ้มใจแบบนี้ กันยวัฒน์พยายามย้อนลำดับเหตุการณ์ก่อนเปิดประตูรั้วเข้ามา คงไม่มีทางเป็นไปได้ถ้านีลาน่าจะเดินออกจากบ้าน เนื่องจากประตูรั้วปิดล๊อคสนิทเรียบร้อยไม่ต่างจากตอนที่เขาจากไป แล้วนี่นางหายตัวไปอยู่แห่งใดกัน

เสียงฮัมเพลงแผ่วเบาลอยปะทะโสตประสาท ทำให้กันยวัฒน์วิ่งตามเสียงนั้นทันทีไม่รอช้า ทันเท่าความคิดเพียงอึดใจเขาพาร่างกายหยุดยืนชั้นบนสุดของบ้านเปรียบเสมือนระเบียงพักผ่อน มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างประดับประดาไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ด้านข้างมองเห็นสระบัวขนาดใหญ่ ซึ่งกันยวัฒน์เคยแต่งเติมให้บริเวณนี้เป็นสวนหย่อมขนาดย่อม เนื่องจากเขาเองเป็นคนรักธรรมชาติคนหนึ่งจึงเสกสรรเนรมิตจำลองขึ้นมา

นีลาน่าดำผุดดำโผล่ยังบ่อน้ำที่กว้างพอให้นางลงไปเกลือกกลิ้งได้อย่างสบาย ส่งเสียงหวานใสคลอเพลงดังแว่วราวร่ายเวทมนต์ กันยวัฒน์ยืนอิงขอบประตูกอดอกมองอย่างโล่งใจ ที่แท้ก็แอบหนีมาเล่นน้ำอยู่นี่เอง นางคงมีความสุขที่ได้กลับกลายเป็นเงือกพรายตัวตนจริง ไม่จำเป็นต้องฝืนกายฝึกเดินในคราบมนุษย์โลก สายตาคมกริบแฝงความอ่อนโยนไว้ภายในจับจ้องมองนางพรายที่ขับร้องเพลงนั่งมองดวงจันทร์ส่องสะท้อนแสงน้ำอย่างมีความสุข ปล่อยให้พรายสาวเก็บสัมผัสดีๆ ซักพักใหญ่ นางคงคิดถึงถิ่นแดนที่เคยอาศัยเหลือเกินแล้วเวลานี้ วงหน้าคมคายเกิดรอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นราวเอ็นดูความงดงามเบื้องหน้าที่มีจริงไม่ใช่แค่ในนิทานปรัมปราดั่งเคยรู้มา

“นี่คุณ! ตื่นตอนไหน แล้วทำไมหนีมาอยู่ตรงนี้”

น้ำเสียงขึงเข้มพานีลาน่าสะบัดสายตาหันตามอย่างหวาดระแวงเล็กๆ นี่นางทำผิดไปอีกแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าบุรุษโลกันต์ถึงใช้คำว่าหนีกับนางอีกเป็นครั้งที่สอง

“คือ.. เรา..”

“ดูท่าจะหายดีแล้วสินะ”

ใบหน้านวลเนียนสลดลงเล็กน้อย หลบสายตากลมโตมองต่ำราวรู้สึกผิดในใจ การกระทำของนางคงดีแต่สร้างปัญหาให้กับมนุษย์บุรุษผู้นี้จนเอือมระอาเป็นแน่ เขาจึงตีสีหน้าดุใส่ได้ตลอดเวลา ไม่แม้ซักครั้งที่จะเห็นรอยยิ้มตั้งแต่ได้อยู่ร่วมกันมา

“...”

“เอาล่ะ หายดีก็ดีแล้ว ผมจะได้หมดห่วง ขนมกับนมไอ้แฟรงค์เตรียมไว้ให้ก็ไม่เห็นคุณแตะซักนิด ว่าแต่ตอนนี้คุณขึ้นจากสระบัวก่อนดีกว่าไหม ไม่คันเนื้อตัวบ้างหรือไง น้ำดำออกขนาดนั้น ผมไม่ได้ทำความสะอาดมันมาเป็นเดือนแล้วนะ”

นีลาน่าเหลือบมองตามประโยคเจรจา เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ยังคงงุนงงเล็กๆ บ่อน้ำแห่งนี้ไม่เห็นมีอะไรแปลกประหลาด นางกลับรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาดีกว่าเดิม อาการแปลกๆ ที่รุมเร้าเกือบตายก่อนหน้านี้หายสิ้น นางพรายกระพริบตาปริบๆ ดวงตากลมกลิ้งมองตามหลังร่างสูงที่เดินหายวับไปชั่วครู่ก่อนกลับมายืนให้เห็นในสายตาอีกครั้ง

กันยวัฒน์ย่างก้าวยังขอบสระบัวพร้อมผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวสะอาด ยื่นส่งให้นีลาน่าเพียงต้องการให้พรายสาวเลิกเวียนว่ายและขึ้นจากน้ำโดยเร็ว

“เราขออยู่เช่นนี้ได้หรือไม่”

“ไม่ได้.. มันดึกแล้ว ขึ้นมาให้ไว เร็วๆ”

นีลาน่าได้แต่ส่งสายตาละห้อย เอื้อมมือคว้าผ้าขนหนูที่บุรุษหนุ่มยื่นให้ห่อหุ้มพันเรือนร่าง พรายสาวพยุงกายขึ้นนั่งยังขอบสระ หางงามแปรเปลี่ยนเป็นขาเรียวตามเดิม ร่างบางค่อยๆ ลุกเดินตามกันยวัฒน์เข้ายังในบ้านอย่างว่าง่าย แม้จะขัดใจเล็กๆ ก็ตาม

“เจ้าโลกันต์..”

มือบอบบางเอื้อมดึงชายเสื้อเชิ้ตให้ร่างสูงหยุดยืนนิ่งคล้ายมีบางสิ่งบางอย่างอยากเจรจา

“นี่ก็อีกเรื่อง.. เมื่อไรจะเลิกเรียกไอ้ชื่อบ้าๆ ซะที ผมชื่อกันย์ ไม่ใช่โลกันต์”

“ก็เจ้าบอกให้เราเรียกอย่างไรก็ได้”

เสียงถอนใจหนักหน่วง จนในคำพูดตนเองจนได้สิน่า นางพรายตนนี้ร้ายกาจยิ่งนักจดจำรายละเอียดทุกสิ่งทุกอย่าง ความจำช่างดีเหลือเกิน

“โอเค.. งั้นผมขอเรียกชื่อคุณสั้นๆ บ้าง จะได้เท่าเทียมกัน เปลี่ยนเป็นนีลาแล้วกัน”

“ไม่.. เราชื่อนีลาน่า”

“นีลา.. ต่อไปนี้คุณอยู่กับผมต้องชื่อนี้”

มนุษย์โลกจอมบงการ ข่มขู่ บังคับจิตใจสารพัด ไม่เคยคิดเลยว่าความเผด็จการไม่ได้มีให้เห็นแค่ในแดนบาดาล แม้แต่เขตมนุษย์โลกแห่งนี้ยังมีคล้ายกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“...”

“ว่าแต่เมื่อกี้คุณเรียกผมทำไม”

“เราขอขึ้นมายังท้องน้ำแห่งนี้ ทุกค่ำคืนได้หรือไม่”

“ยังจะต่อรอง.. ดูตัวคุณซะก่อน คราบขี้ดินเต็มไปหมด เหม็นก็เหม็น ผมว่าคุณไปอาบน้ำดีกว่านะ”

นีลาน่าก้มสำรวจร่างกายที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยผ้าขนหนูผืนขาว พยายามสูดกลิ่นภายในเรือนร่างหาสิ่งผิดปกติตามบุรุษหนุ่มว่าไว้ กันยวัฒน์ได้แต่ปรายตามองพร้อมหลุดขำเบาๆ ในลำคอ คำสั่งสอนทุกๆ อย่าง นางสามารถจดจำขึ้นใจโดยละเอียดถี่ยิบ แม้แต่คำว่าดมกลิ่นคงฝังใจกับยาดมแก้มึนเมาเมื่อครั้งลงจากเครื่องบิน จริงๆ แล้วเขาแกล้งหยอกนางเล่นเท่านั้น กลิ่นเหม็นใดๆ ไม่มีแม้แต่น้อย กลิ่นหอมหวานต่างหากเมื่อเวลาเข้าใกล้ทีไรลอยมาเตะจมูกเสียทุกที  

“เอาล่ะเลิกหากลิ่นได้แล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าซะที ผมหิวแล้ว อ่อ.. แล้วอย่าเล่นน้ำเพลินล่ะ ผมรู้นะว่าคุณชอบให้หางโผล่”

นีลาน่านิ่วหน้าขมวดคิ้ว เหล่สายตาขัดใจเล็กน้อยมองยังคู่สนทนา ก่อนเดินตรงยังห้องน้ำ หากยังทบทวนทุกสิ่งที่กันยวัฒน์แนะนำทุกขั้นตอน โดยมีสายตาคมกริบคอยมองจนนางเดินหายลับไป ระหว่างรอคอยให้นีลาน่าได้ชำระล้างร่างกายกันยวัฒน์ตัดสินใจเดินเข้าห้องครัวเพื่อลงมือทำอาหารมื้อค่ำง่ายๆ คงไม่ต้องหาเมนูอาหารที่พิถีพิถันมากนัก เนื่องจากท้องไส้ปั่นป่วนร้องเรียกหาอาหารกันเกรียวกราวแล้วเวลานี้

โต๊ะรับประทานอาหารทรงกลมถูกจัดวางด้วยข้าวผัดสองจานสีสันน่าจัดการนำใส่กระเพาะเสียให้รู้แล้วรู้รอด เมนูถนัดที่ทำง่ายและรวดเร็วที่สุดแล้วสำหรับบุรุษเพศผู้แสดงฝีมือ นีลาน่าค่อยๆ เยื้องย่างเดินออกจากห้องน้ำหลังทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อย ชุดนอนแบบกระโปรงยาวแค่เข่าสีชมพูหวานสดใสถูกมือบางกำช่วงเอวไว้อย่างเก้ๆ กังๆ ออกอาการยังไม่ชิน กันยวัฒน์เหลือบสายตามองเมื่อเห็นบางสิ่งเคลื่อนที่เข้าใกล้เต็มที

“มาเร็ว อาหารพร้อมแล้ว”

นีลาน่าทรุดกายลงตามมือแข็งแรงตบเก้าอี้เบาๆ บ่งบอกสัญญาณนำให้นั่งลง สายตากลมกลิ้งมองยังเบื้องหน้าที่มีสิ่งแปลกตาวางอยู่

“นี่คือสิ่งใดกัน..”

“ข้าวผัด.. ลองดู..”

กันยวัฒน์หยิบช้อนชูขึ้น ตักข้าวในจานตนเองเข้าปาก เคี้ยวบดอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อแสดงเป็นตัวอย่างให้พรายสาวทำตาม นีลาน่าจ้องมองอยู่พักใหญ่นางจึงจัดแจงลองทำดูบ้าง รสชาติที่สัมผัสลิ้นเกิดความแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง

“เป็นไงบ้าง..”

พรายสาวนิ่งเงียบ หาคำพูดจะเอ่ยออกมาไม่เจอ เนื่องจากนางไม่รู้จะอธิบายออกมาได้อย่างไรกับความรู้สึกที่เพิ่งเคยพบเจอครั้งแรกในชีวิต นีลาน่าไม่พูดพร่ำทำเพลงตักข้าวเข้าปากคำต่อคำ พาคนมองจ้องนิ่งไม่คาดฝันว่าเงือกพรายจะรับประทานอาหารฝีมือตนเอง ดูท่าการเรียนรู้ที่จะให้นีลาน่าปฎิบัติและดำรงชีวิตในแบบมนุษย์จะสำเร็จไปอีกขั้น

“คงจะอร่อยสินะ”

นีลาน่าได้แต่จดจำสัมผัสรับรู้เช่นนี้คืออร่อย นางพยักหน้ารับเบาๆ พลางตักข้าวในจานใส่ปากต่อเรื่อยๆ พาคนทำแอบปลื้มอยู่ในใจ ฝีมือทำอาหารคงใช่ย่อยขนาดเงือกพรายยังรับประทานคล้ายถูกปากกับรสชาติยิ่งนัก


++++


ดึกดื่นค่อนคืนเป็นเวลาโดยทั่วไปที่มนุษย์ทุกคนให้ความใส่ใจกับการนอนหลับพักผ่อน หากทว่าคงไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป สำหรับบางคนที่ยังคงง่วนอยู่กับการทำกิจส่วนตัว ด้วยอาศัยอยู่คนเดียวลำพังมานานงานบ้านงานเรือนจึงจำเป็นยิ่งที่ต้องเรียนรู้และหัดจัดทำด้วยตนเองทั้งหมด กันยวัฒน์บรรจงรีดเสื้อผ้ากองโตที่ห่างหายไม่ได้จับแตะตั้งแต่เดินทางยังต่างประเทศ ส่วนใหญ่ช่วงค่ำคืนคงหาโอกาสได้ยากที่จะมานั่งรีดเสื้อผ้าเองเช่นนี้ เนื่องจากต้องไปทำงานเล่นดนตรีกว่าจะได้กลับยังที่พักอาศัยเกือบรุ่งเช้า หน้าที่เหล่านี้จึงตกเป็นของร้านซักรีดประจำที่ฝากฝังให้จัดการแทน

“โลกันต์.. เจ้ากำลังทำสิ่งใด”

นีลาน่าละสายตาจากจอทีวีมองสำรวจอาการแปลกๆ ที่บุรุษหนุ่มกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างตั้งใจ มนุษย์โลกนี่ช่างมีอะไรประหลาดพิลึกพิลั่น เมืองบาดาลไม่เห็นต้องมานั่งถูนั่งไถ่เสื้อผ้าอาภรณ์เฉกเช่นบุรุษผู้นี้ทำ สายตาคมกริบเลื่อนมองคนถามเชื่องช้า ส่ายหน้าเบาๆ คล้ายหงุดหงิดในใจเล็กน้อยที่ต้องมาคอยตอบคำถามเงือกพราย หลายสิ่งแล้วที่นีลาน่าสงสัยใคร่รู้ไม่หยุดหย่อนและเขาเองก็อธิบายรายละเอียดเกือบหมดทุกอย่าง

“รีดผ้า.. เบื่อดูทีวีแล้วหรือไงถึงสนใจอย่างอื่น เมื่อกี้ยังเห็นคุณจ้องทีวีตาไม่กระพริบ”

หนึ่งบุรุษหนึ่งพราย เริ่มคุ้นเคยด้วยเวลาที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยกันนานหลายชั่วโมงเห็นจะได้ นีลาน่าค่อยๆ ศึกษาสิ่งต่างๆ ที่นางไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยไหวพริบดีและมีความจำแม่นยำทำให้นางสามารถเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆ ที่กันยวัฒน์สอนได้ขึ้นใจ

“สอนเราบ้างสิ เราอยากลองทำ”

“แน่ใจเหรอว่าจะทำได้ มันยากนะคุณ และที่สำคัญมันร้อนมาก”

นีลาน่าคลี่ยิ้มกว้าง ส่งตากลมโตแววใสมองบุคคลเบื้องหน้าด้วยรู้สึกยินดี พยักหน้าหงึก คงไม่มีสิ่งใดยากเกินความสามารถนางไปได้หรอก นีลาน่านึกคิดในใจ

“เราอยากหัด..”

“เฮ้อ! คุณนี่จริงๆ เลย มาๆ อยากทำก็มาลองดูซักตั้ง”

นีลาน่าลุกเดินไม่รีรอ ตรงดิ่งยืนข้างบุรุษหนุ่มที่ลุกจากเก้าอี้ ยื่นส่งเตารีดไอน้ำให้กับนาง กันยวัฒน์อธิบายให้นีลาน่านั่งลงที่เก้าอี้ในท่าสบายๆ โดยปรับความสูงของขาตั้งที่รีดผ้าให้ลดระดับลงเนื่องจากความสูงของนางเทียบสู้เขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มือบอบบางค่อยๆ ทำตามคำพูด จับเตารีดนาบลงบนเสื้อเชิ้ตสีดำที่ยังคงยับยู่ยี่รอการถูไถ พรายสาวทำหน้าตื่นเหมือนเจอเรื่องอัศจรรย์ เพียงแค่จับเจ้าสิ่งที่เรียกว่าเตารีดลากผ่านบนผ้าความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น จากเสื้อที่มีร่องรอยปรากฏเมื่อครู่เวลานี้หายวับไปกับตา นีลาน่าส่งยิ้มดีใจ ความสามารถนางไม่แพ้มนุษย์ตนใดในโลกนี้เช่นกัน

“เห็นไหม เราทำได้”

“ครับ! คุณเก่งมาก จะทำต่อไหม ปรับความร้อนให้เบาลงอีกนิด แช่เตารีดไว้แบบนั้นเดี๋ยวผ้าก็ไหม้พอดี”

คำตักเตือนสอนสั่งนางพรายจดจำทุกคำพูดขึ้นใจ จะงานบ้านชนิดไหนนางได้สัมผัสมาเกือบหมดทุกสิ่งแล้วสำหรับวันนี้ ไม่ว่าจะล้างจาน กวาดบ้าน ถูพื้น ทำความสะอาด ปัดเช็ดไรฝุ่น สารพัดสารเพ จนเวลาผ่านเข็มนาฬิกาเดินทางเข้าสู่วันใหม่ นีลาน่ายังคงสนุกสนานเพลิดเพลินกับสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม

ตั้งแต่นีลาน่าฟื้นขึ้นมา ทุกสิ่งอย่างกันยวัฒน์จัดแจงทำความเข้าใจกันเสร็จสรรพ เพื่อทุกอย่างจะได้ลงตัวเสียทีกับสิ่งที่นีลาน่าต้องจัดการในการดำรงชีวิตอยู่ให้ได้อย่างปกติแบบที่มนุษย์โลกปฎิบัติกัน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องการใช้ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ทุกอย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ราวสอนเด็กแรกเกิดหัดเดินและเรียนรู้ชีวิตตนเอง ยังดีที่นีลาน่าเรียนรู้ได้เร็วไวเขาจึงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทุ่มเทซักเท่าไหร่

“ตีสองกว่าแล้ว ผมว่าคุณไปนอนดีกว่า ไว้ผมจัดเก็บบ้านอีกแปบก็จะอาบน้ำนอนเหมือนกัน”

“เราไม่เหนื่อย ไม่เพลีย จะนอนอย่างไรกัน”

“หัดสิครับ.. ล้มตัวลงนอนแล้วหลับตา เดี๋ยวมันก็หลับเองนั่นล่ะ”

นีลาน่าจ้องมองวงหน้าคมคายไม่กระพริบคล้ายมีบางสิ่งขัดสายตา ด้วยเกิดข้อข้องใจนางจึงไม่ยอมที่จะเก็บความสงสัยเคลือบแคลงไว้กับตนเอง

“เราเห็นแววตาเศร้าสร้อยของเจ้า เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”

กันยวัฒน์ชะงักกึก หลบสายตาวูบไหวแสร้งหันมองทางอื่น ช่างน่าอับอายดันแสดงความอ่อนแอให้เงือกพรายเห็นจนได้ คิ้วเข้มขมวดผูกโบ ตีสีหน้าขึงขังทันที

“ผมบอกให้ขึ้นไปนอนไง ยืนตรงนี้มันเกะกะขวางทาง!”

นีลาน่าขยับกายเคลื่อนหนีเล็กน้อยเมื่อบุรุษหนุ่มดูแปรเปลี่ยนพฤติกรรมกะทันหัน เหวี่ยงอารมณ์ใส่ด้วยการเดินแทบจะชนนางเสียให้ได้ พรายสาวได้แต่มองตาปริบๆ ไม่เข้าใจเหตุผล แค่ถามด้วยความห่วงใย เหตุใดกลับขับไสไล่ส่งนางไปเสียให้พ้นหน้า นีลาน่าจึงแบกรับสิ่งที่ครุ่นคิดในใจเดินหายขึ้นชั้นบนพร้อมเสียงประตูห้องถูกปิดสนิทลงเบาๆ


++++


แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องสะท้อนกระทบกระจกหน้าต่างบ่งบอกเวลาของวันใหม่ นกตัวน้อยต่างส่งเสียงร้องทักทายความสดชื่นของอากาศอบอุ่นกำลังดี นีลาน่าไม่ได้นอนทั้งคืน เนื่องจากช่วงเวลาที่นางอยู่ยังถิ่นบ้านเกิดไม่เคยต้องหลับไหลเฉกเช่นที่นี่ ใต้ท้องน้ำมหาสมุทรไม่มีเวลาย่ำรุ่งย่ำค่ำ ไม่มีสัมผัสอบอุ่นให้รับรู้ มีเพียงความมืดมิดและความเวิ้งว้างกว้างใหญ่เท่านั้นที่ปรากฏเห็นแก่สายตา พร้อมความเยือกเย็นที่ถูกสร้างไว้คู่กัน ณ แดนบาดาล

นีลาน่าก้าวเดินยังริมหน้าต่าง มือบอบบางดึงสลักกลอนที่ฝังอยู่ในหลุมขึ้นและผลักบานหน้าต่างออกกว้าง ส่งมือยื่นออกสัมผัสความละมุนอบอุ่นของแสงตะวันที่นางหลงใหลเสียเหลือเกิน เสียงฮัมเพลงคลอเบาพานกน้อยทั้งหลายบินเกาะที่ฝ่ามืออ่อนโยน เชื่องราวกับโดนเวทมนต์เสกใส่ หากเวลานี้นางได้เวียนว่ายอยู่ในท้องน้ำก็คงจะดี

“นีลา.. คุณตื่นหรือยัง”

เสียงคุ้นเรียกหาดังพร้อมเคาะประตู พาเจ้าของชื่อสะดุ้งร่างจนนกน้อยที่เกาะพักพิงเมื่อสักครู่บินหนีอย่างตกใจ นีลาน่าเหลียวมองตามต้นเสียง หากนางยังทำเป็นอืดอาดยืดยาดคงได้เห็นเจ้ามนุษย์ผู้นั้นตีหน้ายักษ์อีกเป็นแน่ ไม่ลังเลพรายสาวก้าวเดินรวดเร็วเปิดประตูห้องออกอย่างกระตือรือร้น

“เจ้าเรียกเราด้วยเหตุใดกัน..”

“ผมเตรียมอาหารให้แล้ว ยังไงคุณจัดการตามผมสอนได้เลยนะ ผมจะออกไปทำธุระคงกลับดึก หวังว่าคุณคงอยู่คนเดียวได้นะ แล้วอย่าลืม.. ใครเรียกห้ามเปิด ไม่ต้องคุยกับคนแปลกหน้า เข้าใจไหม..”

สายตาส่อแววหวาดหวั่นไม่แน่ใจ พลางพยักหน้ารับอย่างลังเล ลองดูซักตั้งคงไม่มีปัญหาใดที่ลูกสาวสุดท้องของจ้าวสมุทรจะทำไม่ได้ ดวงตากลมโตมองตามหลังร่างสูงที่เดินดิ่งลงชั้นล่างหายลับไป นีลาน่าก้าวเดินชะโงกหน้ามองยังราวบันไดดูให้แน่ใจว่าบุรุษหนุ่มจากไปแล้วจริงๆ เพื่อที่นางจะได้เริ่มต้นฝึกฝนและเรียนรู้การเป็นมนุษย์โลกต่อไปเสียที

ประตูห้องถูกปิดสนิทอีกครั้ง สองเท้าก้าวเดินยังโต๊ะเขียนหนังสือ ‘คุณต้องหัดเขียนให้เป็น’ ประโยคฝังใจ คำพูดที่บุรุษหนุ่มเคยเสี้ยมสอนไว้ นีลาน่าหยิบสมุดบันทึกพร้อมปากกาขึ้นมาขีดเขียนเรื่อยเปื่อย อักษรแต่ละตัวที่ได้ฝึกหัดและศึกษาส่วนใหญ่ยังคงไม่เข้าใจความหมาย แต่คงต้องเก็บเกี่ยวฝึกฝนต่อไป เวลาเท่านั้นคงช่วยให้อะไรดีขึ้นได้เองในไม่ช้า


++++


โปรดติดตามตอนต่อไป

แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 13:34:00

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 03:08:37




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com