Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ทอฝันเป็นรุ้งสวย: กรุงเทพเมืองโบราณ vote ติดต่อทีมงาน

ทอฝันเป็นรุ้งสวย: กรุงเทพเมืองโบราณ
          ขากลับจากการเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาชีววิถี      เราบินลัดเลาะมาตามชายฝั่งอ่าวไทย     มองเห็นทะเลเวิ้งว้างกว้างกว่าปกติที่เคยเห็น
      “เอ   ดูเหมือนว่าทะเลตอนนี้กว้างกว่าเดิมนะ”
      “ใช่ครับ    ภาวะโลกร้อน  น้ำแข็งขั้วโลกละลาย  น้ำทะเลก็เลยสูงรุกเข้าไปในแผ่นดิน    ผมว่าอ่าวไทยโบราณ๖  กำลังกลับมาอีกครั้งแล้วละครับ”  ศาสตราจารย์พรินปรารภขึ้นมา    
          ตอนหนึ่งเราบินเฉียดเข้าไปใกล้โบราณสถานที่สวยงามแห่งหนึ่ง   มนัสได้อุทานออกมาด้วยความฉงนว่า
                “เอ๊ะ! เรามีวัดพระแก้วแห่งที่สองด้วยหรือ”’
                “ก็วัดพระแก้วจริง ๆ แหละครับ         ท่านปู่ไม่รู้หรือว่าเรากำลังบินอยู่เหนือกรุงเทพมหานครในอดีตของเรา”
                 ไม่ทราบจริงให้ดิ้นตาย เพราะกรุงเทพฯที่ผมมองเห็นช่างรกครึ้มไปด้วยป่าไม้  ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งตระหง่านอย่างแออัด  หายไปเป็นจำนวนมาก  แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรว่า      นี่คือกรุงเทพมหานคร ศูนย์รวมของความเจริญในอดีต
                “อุ แม่จ้าว!  มันอะไรกันนี่“  มนัสร้องเสียงหลง  ผมเองก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน  แต่เฉไฉพูดขึ้นว่า
                “แต่ก็ดูแคบกว่าเดิมนะ ครับ”
                “แน่นอนนะซีครับ  น้ำทะเลรุกกินพื้นที่มาตั้งเยอะเลย   เลยต้องทำถนนกั้นกรุงเทพ ฯรอบในไว้ไม่ให้น้ำทะเลท่วมถึง”                  
                “คืออย่างนี้ค่ะคุณปู่ขา” เสียงคุณสลิลลาดังเสริมขึ้น
               “ หลังจากการสร้างระบบคูคลองเมื่อคราวเปลี่ยนประเทศไทยคราวนั้น    เรื่องราวของกรุงเทพฯอันเป็นเมืองหลวงที่มีจุดอ่อนหลายประการ  ได้แก่
-เป็นเมืองโบราณที่ไม่ได้วางผังเมืองให้เหมาะสมสำหรับชุมชนสมัยใหม่   ทำให้เกิดปัญหามากมาย  
                      -เป็นเมืองน้ำทะเลท่วม  เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้น้ำท่วมสูงขึ้น
                 พอปัญหาเรื่องการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำเบาบางลง  จึงได้มาพิจารณาย้ายเมืองหลวงออกจากกรุงเทพมหานคร   ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและทำประชามติ  ในที่สุดก็มีการกำหนดสถานที่ให้หนีน้ำขึ้นไปทางเหนือ   คาดว่าคงอยู่ได้อีกหลายปี  แม้ว่าไม่สามารถหนีพ้นอ่าวไทยโบราณ  ที่กล่าวมาแล้วได้   ซึ่งสมัยนั้นปากน้ำเจ้าพระยาขึ้นเหนือไปถึงลพบุรีเลยทีเดียว          แต่ก็คาดว่าจะอยู่ได้อีกหลายพันปีกว่าน้ำทะเลจะท่วมถึง    ต่อมาจึงมีการประกวดแบบผังเมืองหลวงใหม่       โดยประกาศเชิญชวนสถาปนิกออกแบบจากทั่วโลก    ให้ออกแบบผังเมืองหลวงใหม่  คัดเลือกได้แบบเห็นว่าดีที่สุด     จึงกล่าวได้ว่าเราได้เมืองหลวงใหม่ที่มีผังเมืองที่สมบูรณ์แบบทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โลจิสติกส์  ศูนย์ราชการ  ศูนย์ปฏิบัติศาสนกิจของทุกศาสนา        ส่วนกรุงเทพมหานครเองซึ่งกลายเป็นเมืองหลวงเก่า      ก็ตกแต่งภูมิทัศน์เตรียมให้เป็นเมืองท่องเที่ยว      เพิ่มแหล่งแสดงวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ    เช่นศูนย์ศิลปาชีพ   สำนักดาบพุทไธสวรรค์   สถาบันมวยไทย   ชุมชนเกาะเกล็ดและอื่น ๆ   รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ของ”ชนเผ่าไต”ที่ท่านศาสตราจารย์ทำงานอยู่     ทั้งยังทำการขยายและปรับปรุงคูคลองให้สวยงาม       มีน้ำใสดั่งตาตั๊กแตนจนเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว      สามารถพายเรือชมทิวทัศน์แบบเดียวกันกับนครเวนิส    ซึ่งกรุงเทพฯเองก็เคยได้รับสมญานามว่า     เวนิสตะวันออกมาก่อน       กอปรกับความงดงามของวัดวาอารามที่มีอยู่แล้ว  ทำให้เป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก       จนได้รับเกียรติจัดอันดับเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ ๑   ติดต่อกันหลายปี
            หลังจากที่ได้บรรยายเรื่องกรุงเทพฯกรุงเก่าแล้ว  เราบินไต่ระดับสูงขึ้นไปอีก   ผ่านคลองขุดมากมายหลายสาย    ผมสังเกตเห็นว่าคลองเหล่านั้น  ซึ่งมีแนวกอหญ้าที่ทราบภายหลังว่าคือหญ้าแฝกปลูกไว้ทั้งสองฟากฝั่ง   ทำไมถึงได้ตัดกันไปมาเป็นตาหมากรุก   ก็ได้รับคำตอบว่า  เป็นการสร้างแก้มลิงในแผนแม่บทการพัฒนาแหล่งน้ำระยะที่ ๒    อาศัยทฤษฎีการกระจายมวลน้ำออกสู่ชนบทที่ห่างไกลและแห้งแล้ง  แทนที่จะปล่อยให้น้ำไหลลง สู่แม่น้ำแล้วพยายามทำคันปิดกั้นกันไม่ให้น้ำล้นออกมาท่วมบ้านเรือนโดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจ   โดยไม่สนใจว่าจะเป็นการฝืนธรรมชาติของน้ำ   เพราะเมื่อมันถูกกักไว้ก็จะเกิดการยกตัวสูงขึ้น          จนล้นตลิ่งทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยร้ายแรง   ทีนี้หากเราจะมองในทาง ตรงกันข้ามกันบ้าง  แทนที่จะกั้นน้ำไว้เราก็ผันน้ำให้กระจายไปไกลถึงชนบท  สู่ถิ่นกันดารไกล ๆ   แบบช่วยกันท่วม  เฉลี่ยทุกข์ร่วมสุข  ปัญหาน้ำท่วมขังเป็นสองสามเมตรก็จะไม่มี   เปรียบเหมือนเรามีน้ำอยู่สักสิบปีบ   หากเทใส่โอ่งมังกรใบย่อมน้ำก็จะเต็มโอ่ง    แต่ถ้าเอาน้ำสิบปีบนั้นเทลงใส่ถังใหญ่ ขนาด  ๒,๐๐๐ ลิตรน้ำก็จะสูงขึ้นมานิดเดียว   ฉันใดก็ฉันนั้น    ดังนั้นในแผนแม่บทฉบับที่ ๒ จึงได้กำหนดให้มีการผันน้ำออกสู่ชนบทด้วยระบบคลองและท่อ    แม้จะเป็นการย้อนศรธรรมชาติของน้ำที่ไหลลงสู่ที่ต่ำบ้าง   แต่ด้วยเทคโนโลยีสูบน้ำด้วยพลังแสงอาทิตย์  บางทีก็สูบส่งขึ้นไปไว้บนภูเขาและตามถ้ำ     จึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำจะล้นเขื่อน   อีกต่อไป
           ในการเดินทางต่อ     ผมทนไม่ได้ที่จะถามว่า
             “เท่าที่สังเกตนะ   ทำไมแม่น้ำและคลองทุกสายจะต้องมีแนวป่าและถนนเดินคู่ขนานไปด้วย”
            “อ๋อ  เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหม่และใหญ่เอามาก ๆ        ต้องมีการต่อสู้ทางความคิดระหว่าง  กลุ่มหัวอนุรักษ์วิถีชีวิตโบราณกับคนรุ่นใหม่อยู่นานทีเดียว      โดยกลุ่มอนุรักษ์ ฯบอกว่ามันเป็นการขัดต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมที่เคยดำเนินกันมาอย่างเป็นสุขตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด      แต่กลุ่มคนหัวสมัยใหม่ก็โต้ว่าทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เหมาะสม           ในเมื่อเรายังต้องใช้รถยนต์แทนเกวียน    ใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงกันอยู่เช่นนี้     เราก็จำเป็นต้องปรับตัวให้ได้สิ่งที่ดีสำหรับการดำรงชีวิตที่เป็นสุข   อีกประการหนึ่ง   แม่น้ำลำคลองถือเป็นสถานที่สาธารณะ          จึงไม่สมควรที่ใครจะถือครองเป็นสมบัติส่วนตัว     ในที่สุดเหตุผลของฝ่ายหลังเป็นฝ่ายชนะ       จึงมีการการตราพระราชบัญญัติ          ว่าด้วยการจัดการบริเวณโดยรอบคูคลองและแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น หนอง บึง เป็นต้น    โดยกำหนดว่า
           “บริเวณโดยรอบของแหล่งน้ำสาธารณะ ๒๐ เมตร   จะต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆอยู่  ยกเว้นสิ่งก่อสร้างเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น ศาลาท่าน้ำ สถานที่จัดแสดงดนตรีและการแสดงอื่นใด  แต่จะต้องมีการจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลอย่างเคร่งครัด   ในบริเวณ  ๒๐  เมตรที่กันไว้นี้  จะต้องปลูกต้นไม้เป็นแนวกว้าง ๑๒ เมตร    แล้วล้อมรอบด้วยถนน กว้าง๘ เมตร    และเพื่อให้เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่เดิม  มีเวลาเตรียมขยับขยายหาที่พักอาศัยใหม่  พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงจะมีผลบังคับใช้ อีก๑๐ ปีข้างหน้านับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษานี้  เป็นต้นไป”
             “คุณปู่มีความเห็นอย่างไรสำหรับเรื่องนี้” คุณสลิลลาถาม  
             “เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์เทียวล่ะ แม่คุณ   แหล่งน้ำสาธารณะจะได้สะอาดและเป็นสมบัติของประชาชนทุกคน  ใช่ไหม  “  ทุกคนต่างหันหน้ามามองกันแล้วยิ้ม
          “ นี่ก็คงจะอยู่ในแผนแม่บทฉบับที่สองอีกละซีครับ” คุณมนัสเสริมขึ้นมาบ้าง
          “  ใช่ครับ ใช่ “ ผงกศีรษะพร้อมคำตอบ

          เป็นเวลาเย็นมากแล้ว     ยานลอยเลื่อนไปช้า ๆ    ผมเฝ้ามองดูดวงตะวันที่ใกล้จะลับขอบฟ้า   ความมืดกำลังจะเข้ามาเยือน   ดวงดาวเริ่มพราวแสงระยิบ  ความมืดกำลังแผ่กระจายไปทั่ว   แสงไฟส่องระยิบระยับอยู่เบื้องล่ง  และจะเป็นอยู่อย่างนี้  จนกว่าแสงอรุณจะกลับมาเยือนอีกครั้งในวันใหม่       ท้องฟ้าย่อมมีมืดและสว่างสลับกันอยู่อย่างนี้     ชั่วนิรันดร์   นครสายรุ้งก็พลอยสงบเงียบไปด้วย       สภาพของบรรยากาศทำให้ทุกคนสงบปากคำ   ผมเองได้แต่เฝ้าคิดอิจฉาชาวนครสายรุ้งอยู่ในใจว่า    ในช่วงชีวิตของผมจะได้มีโอกาสสัมผัสความสงบสุขอย่างนี้บ้างไหมหนอ

จากคุณ : โนนิน
เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 20:32:06




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com