ขนตาแพหนากระพริบขึ้นลงอย่างช้าๆ และเริ่มถี่ขึ้นเมื่อสัมผัสแรกที่เขามองเห็นคือเพดานสีขาวหลังจากที่เขา จำได้ว่าเพิ่งจะขับรถชนต้นไม้ใหญ่เข้าไปก่อนหน้านี้
สวรรค์หรืออย่างไรกัน... ชายหนุ่มค่อยๆ เบนสายตาจากเพดานเลื่อนลงมายังด้านข้างซึ่งมีใครคนหนึ่งกำลังนั่งสัปหง กอยู่บนเก้าอี้ข้างตัว และแน่นอนแม้ว่าจะเห็นเพียงแต่เส้นผมดำขลับมีไรหงอกแซมมาเล็กน้อยก็จำได้ว่า เธอคนนั้นคงจะเป็นมารดาของเขาไม่ผิดแน่
ต่อมาชายหนุ่มจึงเลื่อนสายตาไปยังด้านซ้ายมือของเขาเพื่อสำรวจหาสิ่งที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับตัวเองได้... เตียงนอนด้านข้างมีชายวัยกลางคนกำลังนอนหลับอยู่โดยมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางซึ่งนั่นคง ไม่ทำให้เขานึกออกหากว่าไม่เห็นหญิงสาวในชุดแต่งกายสีขาวถือหูฟังวัดความดันผ่านหน้าเขาไป... นี่เขาอยู่โรงพยาบาลงั้นหรือ นี่ตกลงเขาไม่ตายหรอกหรือ แล้วคนที่โดยสารมาในรถคันเดียวกันกับเขาละ... เธอจะเป็นอย่างไรบ้างบัดนี้
เอกภพเอื้อมมือข้างขวาที่ไม่มีเฝือกห้อยอยู่สะบัดผ้าห่มของตัวเองออกแล้วค่อยๆ เคลื่อนกายลงจากเตียงผู้ป่วย อย่างเบาเพื่อไม่ให้คนที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัวเสียก่อน เมื่อเท้าของตนสัมผัสเข้ากับพื้นเย็นเฉียบทำให้เจ้าตัว สะดุ้งเล็กน้อย แล้วใช้ปากของตัวเองคาบปลดสายน้ำเกลือที่ห้อยอยู่บนข้อมือของตัวเองออกด้วยความรำคาญเต็มทน
แม้ว่ามันจะเกิดอาการเจ็บแปลบแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกังวลใจมากไปกว่าความเป็นไปของเด็กสาวที่เป็นน้องสาว เพื่อนสนิทเขา... ชายหนุ่มเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยรวมแล้วหันซ้ายแลขวาเพื่อมองหาคนที่พอจะช่วยเหลือเขาได้
มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ พยาบาลสูงวัยท่าทางใจดีเอ่ยถามเด็กหนุ่มตรงหน้าซึ่งมีผ้าขาวพันอยู่ตรงศีรษะ และพลาสเตอร์ติดอยู่บนใบหน้าหลายจุด อีกทั้งเฝือกที่ห้อยอยู่ข้างซ้ายมือ ทำให้เขาอดรู้สึกสงสารไม่ได้ เพราะเด็กหนุ่มมีทีท่าเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่
เด็กหนุ่มพยักหน้าให้กับเธอแล้วจึงเอ่ยถามออกมา
ห้องผู้ป่วยหญิงอยู่ไหนหรือครับ ผมกำลังมองหาเด็กที่นั่งมาในรถกับผมก่อนเกิดอุบัติเหตุนะครับ
เดี๋ยวพอเธอออกไปด้านหน้าประตูให้เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอห้องพักผู้ป่วยหญิง
คนใจดีส่งยิ้มให้กับเด็กหนุ่มเล็กน้อยหลังจากตอบคำถาม จากนั้นจึงถือถาดยาเดินตรงไปยังด้านในซึ่งเขาเพิ่งจะผ่านออกมาเมื่อสักครู่
เอกภพค่อยๆ ก้าวเท้าเปล่าของตัวเองเดินตามคำบอกกล่าวของพยาบาลหญิงคนนั้น สายตาของเด็กหนุ่ม เดินผ่านแต่ละเตียงภายในห้องพักผู้ป่วยหญิงไปอย่างจดจ้องเผื่อว่าจะเจอคนที่เขาอยากจะเจอที่สุดในตอนนี้...
สภาพของผู้ป่วยที่ห้องนี้เลวร้ายไปไม่น้อยกว่าในห้องที่เขาพักอยู่เลย ในใจของเขาภาวนาให้กานต์รวี ไม่เป็นผู้ป่วยที่พักอยู่ในโรงพยาบาลนี้ เขาอยากให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
แต่แล้วคำภาวนาของเขาคงไม่เป็นผล เมื่อสายตาของเขามองเห็นใบหน้าคุ้นตาที่กำลังหลับตานิ่ง คล้ายกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บริเวณริมหน้าต่างของห้องผู้ป่วยแห่งนี้
เขาเพิ่งรู้สึกว่าเท้าของเขาก้าวออกไปข้างหน้านั้นยากเสียเหลือเกินเมื่อมั่นใจว่าเด็กสาวที่นอนอยู่นั้นคือ กานต์รวีน้องสาวของการันต์ไม่ผิดตัวแน่ และเมื่อมาหยุดยืนอยู่ปลายเตียงของเธอแล้ว สายตาของเอกภพค่อยๆ กวาดตามองร่างของเธอตรงหน้าเผื่อสำรวจว่าเธอบาดเจ็บตรงไหน...
รอยเขียวช้ำที่ปรากฏอยู่บริเวณท่อนแขนและขาของเธอทำเอาเขารู้สึกจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก แต่คงไม่มีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแย่เท่ากับบริเวณศีรษะของเธอถูกโพกไว้ด้วยผ้าก๊อซพันเช่นเดียวกันกับเขา โดยมีรอยเลือดซึมปรากฏออกมาด้านนอก เอกภพค่อยๆ ยกฝ่ามือของตัวเองปัดเส้นผมยาวที่บดบัง ใบหน้าของเธออยู่เล็กน้อยโดยไม่ละสายตาออกไปจากใบหน้าของคนที่นอนอยู่เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์
แต่แล้วก็ได้ยินเสียงของใครสักคนนึงเอ่ยออกมากับเขาทำให้เด็กหนุ่มต้องหันหน้าไปฟัง
อาการไม่ดีเลย พยาบาลวัยสักยี่สิบกว่าปีเอ่ยกับเด็กหนุ่มด้านข้างเป็นการชวนคุยขณะที่ กำลังยกสายน้ำเกลือออกมาเพื่อเปลี่ยนถุงใหม่
เมื่อสักครู่ป้าของเธอเข้าไปคุยกับคุณหมอ เห็นว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างรุนแรง อาจจะมีผลต่อความทรงจำของเธอ น่าสงสารทีเดียว...
เอกภพได้ยินเช่นนั้นก็ลดมือของตัวเองที่สัมผัสอยู่บริเวณไรผมของเธอลง ฝ่ามือของเขากำลังสั่นด้วย ความหวาดกลัวประกอบกับความกังวลใจ เมื่อคิดว่าสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นนั้น กลับเกิดขึ้นอย่างหลีกหนีไม่พ้น
น้องชายเป็นคนรู้จักกับเธอหรือ
พยาบาลสาวเอ่ยถามเด็กหนุ่มด้านข้างที่กำลังจ้องมองคนไข้ของเธอเขม็งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
หมายความว่าเธอจะจำเรื่องต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นไม่ได้ใช่มั้ย...ครับ
พี่ก็ตอบอะไรไม่ได้มากเหมือนกัน คงจะต้องรอดูอาการเธอเมื่อฟื้นขึ้นมาว่าเป็นเช่นใด คนไข้ที่เคยมีอาการเช่นนี้ ก็มีตั้งแต่จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง หรือบางทีโชคดีหน่อยก็จำไม่ได้เฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้สะเทือนใจมากๆ พี่ขอตัวก่อนนะจ๊ะเดี๋ยวต้องไปวัดไข้เตียงด้านหน้าก่อน
เอกภพพยักหน้ารับคำแล้วลากเก้าอี้ข้างเตียงมานั่งลง มือขวาข้างที่ยังใช้การได้ของเขานั้นเลื่อนออกไป สัมผัสมือของเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับกุมเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหายไปหากเขาไม่จับเธอเอาไว้
หากน้องจำเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นไม่ได้ก็คงดีเหมือนกัน... พี่จะเป็นคนเก็บความลับทุกอย่างให้กับเธอเอง พี่สัญญา
เขาพูดพลางเลื่อนสายตาขึ้นไปจับจ้องใบหน้าเรียวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มเหมือนคนมีความสุข
หายตัวไปไหนมาหรือลูก รู้มั้ยว่าแม่เป็นห่วงขนาดไหน นี่ก็บอกให้พยาบาลช่วยกันตามหาตัวแทบจะทั้งโรงพยาบาล
คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงร้อนใจเมื่อมองเห็นพ่อตัวดีเดินกลับมาด้วยใบหน้าที่คล้ายกำลังแฝง ไปด้วยความทุกข์ แต่เมื่อมองเห็นคนเป็นแม่ก็ทำให้เด็กหนุ่มค่อยๆ เหยียดยิ้มออกมาให้คนตรงหน้าสบายใจ
ผมไปห้องน้ำมาครับคุณแม่ แต่หลงทางก็เลยกลับมาช้าสักหน่อย
แล้วทำไมถึงถอดสายน้ำเกลือออกเล่า เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไประหว่างทางเข้า แม่จะไปเรียกพยาบาลให้มาเสียบสายน้ำเกลือให้ลูกใหม่
คนเป็นแม่ค่อยโล่งอกเมื่อเห็นลูกชายของตนเดินกลับมานอนบนเตียงเช่นเคย ค่อยทำตัวให้สมกับเป็นคนป่วยหน่อย
เมื่อพยาบาลเสียบสายน้ำเกลือเข้าไปบริเวณข้อมือของเด็กหนุ่มแล้ว คนป่วยก็พยายามข่มตาหลับลงเหมือนว่า ต้องการพักผ่อน แต่แล้วก็ได้ยินคำพูดหนึ่งของมารดาที่เอ่ยออกมาซึ่งทำให้เขารู้สึกตั้งตัวไม่ทัน
อาทิตย์หน้าครอบครัวเราจะย้ายกลับไปพระนครแล้วนะลูก คุณพ่อถูกเรียกตัวให้ไปช่วยงานที่นั่นด่วน นี่ถ้าไม่ติดกับว่าลูกป่วยอยู่คุณพ่อท่านตั้งใจจะเดินทางกันวันมะรืนนี้ด้วยซ้ำ รีบหายเร็ววันเข้าละพ่อเอก การงานธุระของคุณพ่อจะได้ไม่ติดขัด
เอกภพถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่มีใครคิดจะบอกกับเขาเลยหรืออย่างไรกัน
ผมไม่ไปได้หรือไม่ครับคุณแม่ ผมไม่อยากย้ายโรงเรียน
ชายหนุ่มเอ่ยถามมารดาอย่างมีความหวังว่าท่านจะยอมอ่อนให้กับเขา
ไม่ได้จ๊ะพ่อเอก คุณพ่ออยากให้ลูกไปเรียนโรงเรียนดีๆ ที่นั่น จะได้มีอนาคตที่ไกลกว่าการมาจม อยู่กับเมืองซึ่งห่างไกลจากพระนครเช่นนี้ อีกทั้งแม่ยุพินพี่สาวของลูกก็ต้องไปเรียนต่อที่ปีนัง ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะอยู่ที่นี่กันต่อไป หรือว่าลูก...กำลังนึกถึงแม่เด็กสาวที่นั่งรถมาด้วยเมื่อคืนก่อนจนเกิดอุบัติเหตุ
คนเป็นมารดายิ้มแหย่ลูกชายคนโตของครอบครัวที่กำลังจ้องมาเขม็งด้วยความตกใจ
เธอคงเป็นคนที่ลูกกำลังคบหาอยู่ใช่หรือไม่... ลูกก็คิดเสียว่าหากเป็นคู่กันจริงสักวันนึงคงหนีกันไม่พ้นไปหรอก
เธอเป็นน้องสาวของการันต์
เขาพยายามแย้งคำพูดของมารดาว่าหาใช่เป็นไปอย่างที่ท่านกำลังคิด แต่เมื่อนึกว่าปล่อยให้คิดไปเช่นนั้น ก็คงจะดีเหมือนกัน เพราะจะได้ไม่ต้องซักไซ้ว่าเหตุใดถึงต้องนั่งรถมาด้วยกัน
การันต์... เพื่อนสนิทของลูกที่สอบได้ที่หนึ่งของระดับชั้นมาโดยตลอดนะหรือ
ยุพาผู้เป็นมารดานึกขึ้นมาได้ทันทีเมื่อลูกชายเอ่ยชื่อเด็กหนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งเธอรู้สึกถูกโฉลกด้วยตั้งแต่แรกพบ อย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผลการเรียนดี ท่าทางสุขุมเรียบร้อย มีหรือที่ผู้ใหญ่อย่างเธอจักไม่ชอบ เพราะเธอแน่ใจว่าอนาคตของเด็กคนนี้นั้นต้องไปได้ไกลแน่นอน
แม่ได้ข่าวอะไรของเขามาหรือเปล่าครับ เอกภพเอ่ยถามมารดาด้วยความอยากรู้ เพราะการที่เขาหลับไป สองวันเต็มๆ นั้นอาจมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ได้รับรู้เลย
คุณยุพาพยักหน้าช้าๆ พร้อมกับตั้งคำถามลูกชายของตนกลับมา
การันต์ถูกจับเข้าสถานพินิจข้อหาฆ่าคนตาย... ลูกคงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่
เอกภพส่ายศีรษะแทนคำตอบ เป็นผลทำให้มารดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งใจ แต่เมื่อได้ยินสิ่ง ที่ลูกชายตนเองพูดออกมาหลังจากนั้นก็แทบทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นชั่วขณะ
การันต์ไม่ได้ฆ่าคนตาย... ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดดี สักวันนึง... ผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับคุณแม่ฟังครับ
น้ำเสียงเย็นเฉียบของเอกภพทำให้คนที่นั่งอยู่อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้... เธอต้องรีบพาลูกชายออกไปให้ไกลจากที่นี่ โดยเร็วที่สุด เพราะเท่าที่ฟังนั้น เธอแน่ใจว่าเอกภพต้องมีส่วนรู้เห็นด้วยเป็นแน่
จากคุณ |
:
SAI_NANA
|
เขียนเมื่อ |
:
18 พ.ย. 55 15:23:43
|
|
|
|