Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ บทที่ 21 นิยายชุดรักโรแมนติกวงการแพทย์ นายเฉิ่มรู้ทันปันนาซะทุกอย่าง vote ติดต่อทีมงาน

"หมอปันนาลงมาพอดี" เสียงยายแจ๋วนั่นเอง เด็กสาวโผล่มาจากไหนไม่ทันสังเกต หล่อนจับแขนปันนาไว้ ท่าทางดีใจ "แจ๋วกำลังคิดว่าจะโทรตามหมอลงมาดีไหม กลัวจะไปรบกวนหมอกลางดึก" แล้วเด็กสาวก็ฉุดมือปันนาพาไปในห้องครัว "มาค่ะ พวกเรามีปาร์ตี้เล็กๆกัน"


ปันนาตาโต

ปาร์ตี้

แสดงว่าต้องมีของกินเยอะๆ

เสร็จตูแน่



เร็วเท่าความคิด หมอกล้วยรีบซ่อนห่อมาม่าไว้ด้านหลังอย่างว่องไว

เก๊กมาดเท่เดินตามหนูแจ๋วไปอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

ในครัวยามดึก มีคนรับใช้นั่งรอบโต๊ะอาหารกว่ายี่สิบคน แต่ละคนมีของเต็มปาก กินไป พูดคุยไปอย่างสนุกสนาน
ท่าทางน่าอร่อยจริงๆ

"คุณท่านใจดีออกไปหาของกินอร่อยๆมาเลี้ยง ส่งมาเป็นคันรถเลย" เสียงเด็กแจ๋วอธิบายเมื่อเห็นสีหน้างงกับตาโตๆของปันนา

ใครจะเอามาไม่สำคัญ

เหตุไม่สน สนแต่ผล

ตาแหลมคมปราดเปรียวอันเป็นคุณลักษณะพิเศษของหมอแลกราดไปทั่ว

ดูจากอาหารประดามีที่เห็น

นี่ไม่ใช่ปาร์ตี้เล็กๆแล้ว แต่เป็นระดับบุฟเฟต์ในภัตตาคารหรือโรงแรมนั่นเทียว

อาหารที่มีส่วนใหญ่เป็นอาหารอ่อนย่อยง่าย เหมาะกับการรับประทานยามดึก

มีข้าวต้มหลายแบบทั้งข้่าวต้มขาว ข้าวต้มเผือก ข้ามต้มกล้อง แถมเครื่องเคียงหลากหลายที่นิยมรับประทานพร้อมกัน เช่นเต้าหู้ยี้ เต้าหู้ทรงเครื่อง  หัวไชโป้ว กระเทียมโทน หนำเลี๊ยบ หมูหยอง ใบปอ

อาหารตระกูลไข่ก็มี ทั้งไข่เยี่ยวม้ากะเพราะกรอบ ไข่เค็ม ไข่เจียวปูฟูฟ่อง

อาหารจำพวกผัดก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งผัดผักกาดแก้ว ผัดถั่วงอก ผัดเห็ดเข็มทอง ผัดกะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้ง ผัดกุ๊ยช่ายขาว  


ประเภทปลามีทั้งปลาหิมะนึ่งบ๊วย  ปลาตะเพียนต้มเต้าเจี้ยว ปลาเค็มทอด ปลาข้าวสาร ปลาแก้ว ปลาสลิดทอด

แล้วนั่น

แก้วตาสีนิลของปันนาขยายกว้างเท่าลูกสตรอเบอรี่

ถังไอศกรีมขนาดใหญ่ ดึงดูดปันนาให้เดินเข้าไปชะโงกหน้าดู จนลืมเก๊กมาดคุณหมอเสียสนิท

ข้างในมีกล่องใส่ไอศกรีมหลากหลายรสชาติ ไอศกรีมช็อคโกแล็ต วานิลลา รสผลไม้มีทั้ง สตรอเบอรี่ ทุเรียน มะม่วง ไอศกรีมเชอร์เบทรสต่างๆทั้งส้ม องุ่น มะนาว และไอศกรีมซันเดย์ ที่ราดหน้าด้วยน้ำเชื่อมโรยด้วยลูกนัท

ข้างๆยังมีเครื่องปั่นไอศกรีม มีทั้งไอศกรีมสายรุ้งสีสวยสดใส ไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ

ยัง ยังไม่หมด ยังมีขนมหวาน สาคูแคนตาลูป ลอดช่องไทย ลอดช่องสิงคโปร์

โอ๊ย แล้วนี่ ชั้นจะมีปัญญากินหมดได้ยังไงกัน

อีตาบ้า เอามายั่วน้ำลายคนอื่น ฮือฮือ

แล้วเจ้าตัวก็ต้องรีบกัดลิ้นตัวเอง เพราะมันกำลังจะยื่นหน้าแหลมๆออกมาเลียแผลบๆรอบริมฝีปาก

อย่านะ อย่าเจ๋อออกมาเชียวล่ะ

เสียลุคหมอหมด แค่นี้ก็ฟอร์มไม่ค่อยจะเหลือกับใครเขาแล้ว


"เชิญคุณหมอให้เกียรติมารับประทานอาหารร่วมกับพวกเราด้วยนะคะ" ป้านิ่มหัวโจกใหญ่ที่สุดในห้องครัวรีบเชื้อเชิญด้วยสีหน้ายินดี "เมื่อตอนเย็นก็ไม่ได้กินอะไรด้วย"

คนถูกเชิญรีบเอาซองมาม่ายัดไว้ใต้ขอบกางเกงด้านหลัง โชคดีเป็นยางยืด จึงรัดซองบะหมี่ไว้กับตัวได้

แต่ด้านหน้า วางมาดเท่ นิ่งสงบ

"ที่นี่มีงานเลี้ยงรอบดึกบ่อยๆหรือคะ" แอบสอบถาม กดเสียงให้ราบเรียบเหมือนไม่ได้สนใจจริงจัง แต่หูคอยจับคำพูดทุกคำ

หวานคอนางแร้ง ถ้ามีปาร์ตี้รอบดึกบ่อยๆ ต่อให้ต้องอยู่เป็นปี หมอปันนาก็ไม่เกี่ยง

"ไม่หรอกค่ะ ทุกทีที่ท่านมา ก็ไม่เคยเห็นซื้อมาเลี้ยงขนาดนี้ คราวนี้คงเพราะท่านเลี้ยงต้อนรับคุณทอฝันหรือไม่ก็คุณจางเหม่ยหลินล่ะมังคะ"

"หมอไม่ค่อยชอบกินอาหารรอบดึกเสียด้วยสิคะ กลัวนอนไม่หลับ" เล่นตัวเสียหน่อย

พูดไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้

แล้วไอ้ที่โผล่ลงมายืนตรงนี้นี่แปลว่าหลับสบายดีงั้นสิ

แต่ช่างกระไร สวรรค์ช่างไม่ให้ความร่วมมือรักษาหน้าปันนาเล้ย

"เมื่อวานคุณหมอก็ไม่ได้กินข้าวเย็น คุณหมอก็ไม่เห็นนอนหลับเลย ไม่งั้นจะเดินลงมาข้างล่างทำไม"

เสียงใครคนหนึ่งพูดทะลุกลางปล้อง ทิ่มแทงใจหมอปันนาตรงๆ

ปันนารีบหันไปดู เด็กสาวที่ชื่อลำดวน คนซักรีดเสื้อผ้าประจำตัวของปันนานี่เอง

กล้านะยายนี่


หนอยแน่ะ ดันมาดักคอเจ้านายตัวเองซะได้

เดี๋ยวเถอะ จะแกล้งใส่เสื้อผ้าวันละสี่ชุด ชุดเช้า ชุดกลางวัน ชุดเย็น แถมรอบดึกอีกรอบ

"ไหนๆลงมาแล้ว ขอเชิญคุณหมอมาทานด้วยกันเถอะค่ะ" ป้านิ่มรีบตัดบทก่อนหมอจะหน้าแตกยับไปกว่านี้ "อาหารมากมาย เดี๋ยวจะเสียของเปล่าๆ ถือเป็นการต้อนรับคุณหมอไปด้วยในตัว"

เปิดทางอย่างนี้ก็สะดวกบริบาลสิ

ปันนาไม่เสียเวลาเล่นตัวอีกต่อไป

ยามหิว เรื่องกินเรื่องหลัก  ศักดิศรีเป็นรอง

หล่อนเดินด้วยมาดองอาจสง่างามตรงไปที่...

ถังไอศกรีมก่อนเพื่อน

แต่แล้วก็มีเสียงของหล่นตกลงไปที่พื้นใกล้ตัว

ดัง 'ปุ'

เสียงก็แสนจะเบ้าเบา แต่ทำไมสามารถดึงดูดสายตาหลายสิบคู่ย้ายมาหยุดที่ปลายเท้าปันนาได้โดยพร้อมเพรียงกันก็ไม่รู้

ปันนาเอี้ยวตัวมองตาม

ไอ้หยา

ซองมาม่า!



รุ่งอรุณของวันใหม่ ปันนาตื่นแต่เช้าอีกตามเคย แม้ว่าเมื่อคืนจะนอนหลับไม่สนิทนัก อาหารและไอศกรีมที่รับประทานเข้าไปกลางดึก กว่าจะย่อยเสร็จเรียบร้อยก็ปาเข้าไปค่อนคืน แถมที่สำคัญดันหน้าแตกให้คนอื่นจับได้เรื่องมาม่า ปาป้านั่นเสียอีก

หากความเคยชินที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาราวด์วอร์ดก็เหมือนในตัวมีนาฬิกาคอยปลุก ให้ลุกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

หลังจากปฏิบัติภารกิจประจำวันในตอนเช้าเรียบร้อย หญิงสาวก็เดินลงมาข้างล่าง สิ่งแรกที่ทำคือเข้าไปในห้องทอฝัน หลังจากที่เมื่อวานหนีไปทำธุระส่วนตัวจนวุ่นวายไปทั้งบ้าน

ที่ห้องคนป่วย พยาบาลเวรกะดึกกำลังส่งเวรให้กะเช้าที่เพิ่งมาถึง ทั้งสองต่างส่งยิ้มทักทายให้ปันนา

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ หมอปันนา เมื่อคืนเหตุการณ์สงบเรียบร้อยดี คนไข้ไวตัลไซน์ปกติ ไข้ไม่มี ปัสสาวะก็ออกดี อาหารรับได้ไม่มีคอนเทนต์เหลือ"

คุณแพมพยาบาลเวรกะดึกรายงานความเป็นไปของคนไข้ให้หมอฟัง

ปันนาพยักหน้ารับรู้ พลางสวมหูฟังลงมือตรวจคนไข้ด้วยตัวเอง

"อาหารสายยาง พี่เตรียมให้ถึงมื้อกลางวัน คุณท่านอยากให้เตรียมครั้งละสองมื้อ ไม่อยากให้แช่ตู้เย็นทั้งวัน"

หล่อนรายงานเพิ่มเติมเมื่อปันนาถอดหูฟังออก

"ก็ดีค่ะ ถ้ามีเวลาทำ" หมอได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย

หากในใจ นึก เวอร์จริงๆ

อาหารทางสายยางเตรียมทีกินได้ทั้งวัน ไม่เห็นเป็นไร แถมยังมีชนิดสำเร็จรูปให้เลือกตั้งหลายแบบ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำเอง ปั่นเองเลย เสียเวลาเปล่าๆ

"มื้อเย็นกับดึก หนูเป็นคนเตรียมเองค่ะหมอ"

พยาบาลกะเช้าที่เพิ่งมาทำงานเป็นวันแรกรับอาสา เรียกแทนตัวเองว่าหนู ทั้งที่อายุไม่น่าจะห่างจากปันนาเท่าไรนัก หรืออาจสูงวัยกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ

"สูตรอาหาร พี่เก็บไว้ในลิ้นชักข้างเตียง" คุณแพมชี้มือไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียงคนป่วย ก่อนจะหยิบกระเป๋ามาสะพายไหล่ เตรียมตัวเดินทางกลับ "เรียบร้อยแล้ว พี่ไปก่อนนะคะหมอกล้วย น้องสม เจอกันพรุ่งนี้...อ้อ" หล่อนอุทานเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ "นักกายภาพบำบัดรอบเย็นจะมาสายสักครึ่งชั่วโมง เห็นว่าไปรับพ่อกลับบ้าน"

"สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณหมอ" เสียงป้านิ่มทักที่หน้าประตูก่อนจะพาร่างอวบท้วมตามเข้ามา "เช้านี้จะรับอะไรเป็นพิเศษไหมคะ"

"เห็นจะไม่ล่ะค่ะ" ปันนารีบโบกมือปฏิเสธ

"งั้นเช้านี้จะร่วมโต๊ะกับคุณท่านไหม?"
นางรีบถามไว้ก่อน

"เมื่อคืนยังย่อยไม่หมดเลย" หล่อนบอกเป็นเชิงปฏิเสธกลายๆ

"แต่วันนี้อาหารเช้า ท่านให้เลื่อนช้าไปเป็นสองโมงแล้วนะคะ"

"หมอขอรวบยอดไปมื้อกลางวันเลยดีกว่า"

"งั้นป้าจะได้เรียนท่านให้ อ้อ วันนี้คุณเหม่ยหลินก็มาทานมื้อเช้าด้วย"

"พอดีเลย หมอจะได้ไม่ต้องไปเป็นก.ข.ค"

"แน่ใจนะคะว่าไม่หิวขึ้นมาอีก"
ปันนายิ้มแหยๆ รู้ว่าป้านิ่มประชดเรื่องเมื่อคืนนี้

"ทีหลังหมอไม่ต้องเกรงใจนะคะ อยากทานอะไร ต้องบอก ห้ามแอบเอามาม่า ยำยำมาทำกินเองในบ้านนี้นะ ป้าเสียใจนะคะ แสดงว่าเราดูแลอาหารการกินหมอไม่ดีพอ"
ป้านิ่มอดเหน็บแนมกึ่งน้อยใจไม่ได้

"ไม่อีกแล้วค่ะ" หล่อนให้สัญญา กลัวคนแก่น้อยใจ
อ๊ะ ทำเป็นเล่นไป คนแก่เปราะบางจะตาย ขัดใจนิดๆหน่อย ถึงตายบ่อยๆ

"นี่ดีนะ ที่คุณท่านไปรับคุณเหม่ยหลิน ไปเจอของดีๆมา ถึงได้เอามาเผื่อพวกเรารอบดึก ไม่งั้นก็ไม่มีใครรู้"

อ้อที่แท้งานปาร์ตี้เล็กๆในครัวเมื่อคืน หล่อนได้อานิสสงค์มาจากคุณจางเหม่ยหลินนี่เอง

แสดงว่าเมื่อคืนห้องเขาดับไฟมืด เจ้าของห้องคงไปอยู่ที่เรือนไทยด้านหลังอีกตามเคย

สถานที่หวงห้าม ห้ามไปทำไรมิทราบ

เขารู้กันทั้งเมืองแล้ว

"เอาเป็นว่า ถ้าเกิดหิวขึ้นมากลางดึก หมอจะไปปลุกป้าถึงที่นอนเลยแล้วกัน"

"ป้าไม่ถือเป็นการรบกวนนะ ยังไงหมออยากทานอะไร บอกได้ตลอด" ป้านิ่มรีบเสนอตัว และถามต่อทันทีว่า "แล้วนี่ จะไปไหนหรือเปล่าคะ"

เพราะเหมือนมีลางสังหรณ์ จะต้องถูกเจ้านายถามแน่นอน

"จะออกไปเดินสำรวจ เอ้อ ถือว่าย่อยอาหารรอบๆบ้านไปในตัว"

ที่โต๊ะอาหารเช้า เฉินฮ่าวหมิงจึงไม่พบปันนาอีกตามเคย
ครั้นเมื่อเอ่ยถาม
คำตอบที่ได้คือ

"คุณหมอออกไปเดินเล่นข้างนอกตั้งแต่เช้ามืด เห็นว่าจะไปเดินย่อยอาหาร"
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ท่าทางเริ่มจะหงุดหงิดอีกแล้ว

เขาอุตส่าห์เลื่อนเวลาอาหารมื้อเช้าไปหนึ่งชั่วโมง เพราะรู้ว่าเมื่อคืนหล่อนคงร่วมวงสำรับที่เขาหิ้วมาฝาก โดยอ้างจางเหม่ยหลินบังหน้า เข้านี้หล่อนยังไม่ยอมมาร่วมโต๊ะอีก

หากคำบอกเล่าของป้านิ่มต่อมาทำให้สีหน้าชายหนุ่มคลายความตึงเครียดลง

"เมื่อคืน หมอปันนาก็ลงมาร่วมสังสรรค์ด้วยนะคะ ไม่น่าเชื่อ เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้เถอะ กินเก่งน่าดู  โดยเฉพาะไอศกรีม คนเดียวเกือบค่อนถัง”

เพียงแค่ได้ยินประโยคนี้ ก็ทำให้พายุอารมณ์สงบราบคาบโดยพลัน แม้จะปราศจากรอยยิ้มโจ่งแจ้ง แต่ก็รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ดี

แต่กระนั้นก็ไม่อาจรอดพ้นการจับสังเกตของเหม่ยหลินที่นั่งอยู่ข้างๆไปได้
หล่อนนึกสงสัยในใจ ไม่เข้าใจว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้เขาเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้รวดเร็วปานนั้นได้ ทั้งที่เพิ่งทำท่าเหมือนคนอารมณ์เสียแหมบๆ

ปันนากินไอศกรีมเก่งมาก
คำพูดนี้สะดุดใจหล่อน
ถึงหล่อนจะกินไอศกรีมตอนอารมณ์ไม่ดีแต่หล่อนก็ไม่ถึงขนาดแฟนพันธ์แท้อย่างปันนา

"ดูคุณสบายใจดีนะคะอลัน มีอะไรบอกให้ฉันรู้บ้างสิคะ"
ถึงจะคบหากันมานาน แต่เหม่ยหลินก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นท่าทางผ่อนคลายของฮ่าวหมิงบ่อยนัก ความอยากรู้ถึงสาเหตุจึงมากทวีคูณ

"จะมีอะไรน่ายินดีเท่ากับการที่มีคริสตี้มาร่วมโต๊ะอาหารเช้าด้วยกันเล่า"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่เหตุใด คนฟังจึงไม่รู้สึกว่า นั่นมีไว้สำหรับหล่อน

ถึงอยู่ที่ฮ่องกง เขากับหล่อนจะพบกันได้ก็เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่เมื่อมาที่เมืองไทย การพบกันถูกหย่อนคลายลง ไม่เข้มงวดเฉกเช่นในอดีต

นี่เป็นสิ่งที่นางแบบสาวน่าจะพึงพอใจ แต่กลับรู้สึกยิ่งห่างเหินกันมากขึ้น

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

สัญชาติญาณบอกหล่อนแค่นั้น

"เมื่อวานเป็นไงบ้าง ถ่ายโฆษณาเรียบร้อยดีไหม"

ชายหนุ่มเปลี่ยนบทสนทนาทันที ราวกับเอาใจใส่หล่อน

"เรียบร้อยดีค่ะ เหลือแค่ซีนสุดท้าย แล้วฉันก็มีเวลาพักถึงหนึ่งอาทิตย์เชียวนะคะ"

หล่อนบอกอย่างดีใจ เป็นเชิงให้รับรู้และหวังลึกๆว่า เขาอาจจะหาเวลาว่าง ซึ่งแม้จะรู้ดีว่ายากยิ่งนัก เพื่อหล่อนบ้างสักนิดก็ยังดี

แต่ท้ายสุดก็ผิดหวัง เมื่อชายหนุ่มพูดว่า
"ก็ดี ผมเห็นคุณทำงาน ไม่ได้พักผ่อนเลย อยากไปไหน บอกอาห่าวได้เลยนะ เขาจะจัดการให้"

หญิงสาวก้มหน้าตักอาหารเข้าปาก เก็บความรู้สึกผิดหวังไว้เงียบๆ รู้ดีว่า หากเผลอทำทีเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฮ่าวหมิงเมื่อไหร่ หรือเรียกร้องมากกว่าที่ชายหนุ่มต้องการให้ เขาจะหายไปจากชีวิตหล่อนโดยทันที

ที่จริงก็ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรเลย แค่ทำอะไรก็ได้ ขอแค่ได้อยู่กับเขา เคียงข้างเขา หล่อนก็พอใจ

แม้จะเป็นแค่นอนเคียงข้างกันโดยไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

นับจากวันนั้น วันที่เขาได้รับข้อมูลสำคัญบางอย่างจากเมืองไทย เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวหล่อนอีกเลย นอกจากสัมผัสเล็กๆน้อยๆเพียงผิวเผิน

อยากจะคิดว่าบางทีข้อมูลนั้นอาจจะทำให้เขาเครียดมากก็เป็นได้ เครียดยิ่งกว่าเรื่องทอฝันกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเสียอีก
แต่บางสิ่งบางอย่างดูขัดแย้งในตัว เพราะตั้งแต่มาที่นี่ เหม่ยหลินมีโอกาสได้เห็นอารมณ์หลากหลายของฮ่าวหมิงหลายครั้ง แตกต่างจากเมื่อตอนอยู่ฮ่องกง

หน้าของเขาจะเรียบเฉย ดุดันเคร่งเครียดเป็นส่วนใหญ่

"ผมว่าจะหาเวลาว่างด้วยเหมือนกัน พาทอฝันไปเที่ยวปิดหูเปิดตาบ้าง ก็ไม่เลวนะ"

อยู่ๆ ฮ่าวหมิงก็เปรยขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้

"ดีกว่านอนอยู่เฉยๆในบ้าน หมอทางสมองบอกว่า ให้คนไข้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติให้มากที่สุด บางทีการซึมซับอากาศบริสุทธิ์อาจทำให้ทอฝันฟื้นเร็วขึ้น"

"ก็ดีสิคะ คริสตี้จะได้ไปช่วยดูแลคุณทอฝันด้วย"
เหม่ยหลินเสนอตัวอย่างเต็มอกเต็มใจ

ชายหนุ่มไม่ตอบ สีหน้าเขากำลังครุ่นคิดบางอย่าง ขณะก้มลงรับประทานอาหารข้างหน้า

"คริสตี้เคยมาถ่ายแบบกับโฆษณาที่เชียงใหม่ พัทยา อ้อ แล้วก็ภูเก็ตอีกแห่ง นอกนั้นยังไม่เคยไปเลยค่ะ คงมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะนะคะ ดูในรูปโปสการ์ดสวยๆทั้งนั้น"

"ไปพักที่เกาะซวงสงดีไหม" ชายหนุ่มหมายถึงรีสอรท์บนเกาะหมีแฝดของเขาแถบทะเลอันดามัน

"ก็ดีค่ะ บรรยากาศคงเป็นส่วนตัว ได้พักผ่อนจริงๆ"

หญิงสาวเห็นด้วย

หากดวงตาคมกริบของคู่สนทนามีแววหมายมาด ขณะมองเหม่อเลยผู้ร่วมโต๊ะไปไกล




หลังกลับจากการไปเดินผึ่งพุงนอกบ้าน ปันนาก็หลบกลับเข้ามาทางหลังประตู ถึงจะเดาว่าเจ้าของบ้านน่าจะออกไปแล้วก็ตาม แต่เพื่อความไม่ประมาท หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยไม่จำเป็น ก็น่าจะดีที่สุด

อดไม่ได้ เอามือแตะแผลที่มุมปาก
ยังเจ็บอยู่เลย

หมอนี่ มือหนักจริงๆ สงสัยจะเส้นลายมือขาด

ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยถูกตบเป็นครั้งแรก

ถ้าไม่ใช่ความผิดของหล่อนเองล่ะก็

ถึงตายกันไปข้างหนึ่งแน่

แก้มป่องๆของหล่อนสงวนไว้ให้พี่เตยดึงเล่นคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีไว้ให้ใครฝากรอยนิ้วทั้งห้า

แล้วปันนาก็ได้ข่าวดี เมื่อเจอป้านิ่มที่หน้าห้องทอฝัน

"ท่านเพิ่งไปเมื่อกี้เอง ยังถามถึงคุณหมอเลย"
กลัวเราจะอู้งานล่ะสิ

"ไปไหนคะ"

ถามอย่างสนใจ สนใจมากด้วย ขอบอก
ไปไกลๆแถวขั้วโลกเหนือเลยยิ่งดี จะได้พ้นหูพ้นตาไปนานๆ

"กลับฮ่องกงค่ะ"
ว๊าก ใกล้แค่นี้เอง แต่แล้วใบหน้าปันนาก็ประดับด้วยรอยยิ้มกับประโยคต่อไป

"เห็นว่าต้องไปหลายวัน เพราะตอนนี้ท่านกำลังยุ่งกับเรื่องอุตสาหกรรมเครื่องบินอยู่"

เสียงคุณนิ่มนวลมีแววภูมิใจชัดเจน

"ท่านของป้ามาเมืองไทยบ่อยไหมคะ"

"นานๆมาทีค่ะ เรื่องธุรกิจที่นี่ ส่วนใหญ่คุณมารุตเป็นคนดูแล ถ้ามาก็มาเฉพาะมีงานประชุมใหญ่ๆ" ป้านิ่มเล่าไปเรื่อยๆ "บางทีมาประเดี๋ยวก็ต้องบินกลับ"

ที่จริงอยากถามเรื่องเฉินฮ่าวหมิงมากกว่านี้แต่ยังก่อน เดี๋ยวจะถูกเข้าใจผิดหาว่าสนใจเขา คนยิ่งหลงตัวเองอยู่

"แล้วป้าอยู่ที่นี่มานานหรือยังคะ"

"ป้าก็ตามท่านไปทุกที่แหละค่ะ ไม่ได้อยู่เป็นที่เป็นทางเหมือนกัน เพิ่งจะได้ปักหลักช่วงนี้เอง"

คำตอบของป้านิ่มสร้างความประหลาดใจให้ปันนา

ทำไมเขาต้องมีแม่บ้านตามไปทุกหนทุกแห่ง

"ไม่มีใครรู้รสนิยมของท่านได้ดีเท่าป้า"

เหตุผลของป้านิ่มเมื่อเห็นแววสงสัยในแก้วตาสีนิลของปันนา

นี่ก็เป็นข้อมูลที่แตกต่างจากพี่เตย

พี่เตยเป็นคนกินอาหารง่ายๆ อะไรก็กินได้ ยกเว้นเพียงสิ่งเดียว

"แล้วคนงานที่นี่ล่ะคะ ส่วนใหญ่อยู่ที่นี่กันหรือว่าตามมาจากเมืองจีนเหมือนป้า"

"คนอื่นก็อยู่กันที่นี่ค่ะ มีแต่เด็กแจ๋วหลานสาวแท้ๆของป้าเอง แล้วก็ลำดวนก็เป็นหลานห่างๆ สองคนกับคนงานใหม่ผู้หญิงอีกหลายคนที่เพิ่งเข้ามา"

ปันนาฉงน เด็กรับใช้ประจำห้องหล่อน เพิ่งมาอยู่ที่นี่

คงไม่ได้หมายความว่าเขาตั้งใจให้มารับใช้หล่อนโดยเฉพาะนะ "ก่อนหมอมา คนงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชายแต่ตอนนี้ ท่านให้ไปทำงานข้างนอกกันหมด มีแต่ผู้หญิงอยู่ในบ้าน อ้อ ยกเว้นเจ้าชิตน้องชายป้าอีกคน"

"แล้วคุณทอฝันลาะคะ ปกติก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่าคะ" ปันนาถามเรื่อยๆ เหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังนัก

"ถ้ามาเมืองไทย ก็มักอยู่ที่นี่แหละค่ะ ส่วนใหญ่อยู่ที่ตึกเล็กข้างๆ ข้างบนตึกจะมีแต่ท่านคนเดียว"

ปันนาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย

แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างเฉินฮ่าวหมิงกับทอฝันมิได้เป็นที่เปิดเผยอย่างที่คิดไว้จริงๆ

คนไข้ของหล่อนอาจมีสภาพเป็นแค่เมียเก็บ หรือนางบำเรอ

ผู้ชายคนนี้ร้ายนัก ขณะที่แม่ของลูกยังนอนป่วย ไม่รู้ตัว เขายังเอาผู้หญิงอื่นมานอนด้วยในบริเวณบ้านหน้าตาเฉย

ถึงเขาจะหน้าตาเหมือนพี่เตยแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ใช่พี่เตย และโชคดีเหลือเกินที่เขาไม่ใช่พี่เตยที่รักของหล่อน

ปันนายินดีจะทุกข์ทรมานกับการรอคอยพี่เตยต่อไป ดีกว่าจะให้เฉินฮ่าวหมิงกลายเป็นพี่เตย

เพราะหากเขาเป็นพี่เตยจริง การรอคอยอันยาวนานของหล่อนคงสิ้นสุดด้วยความสูญเปล่า

หล่อนปรารถนาจะฝังตัวเองอยู่กับความหวังลมๆแล้ง ที่ว่าพี่เตยยังรักหล่อนอยู่ เขาเพียงจากไปเพราะความเจ็บปวด

จากการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง แต่สักวันพี่เตยจะกลับมาหาหล่อนอีกพร้อมความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจ






วันนั้นทั้งวัน ปันนาแสนปลอดโปร่งโล่งหัวใจ
หมีควายไม่อยู่ หนูเริงร่า

ถึงจะเริงร่าอย่างไร หล่อนก็จำกัดตัวเองอยู่ในแต่ห้องทอฝัน นั่งคุยกับพยาบาล นักกายภาพบำบัดบ้างหรือไม่ก็นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุนที่ติดมาแต่ไหนแต่ไร แล้ว

ตั้งแต่วันแรกที่พบเฉินฮ่าวหมิงกับเหม่ยหลินที่เรือนไทยด้านหลังวันนั้น หล่อนก็ไม่กล้าไปเดินเพ่นพ่านที่ไหนอีก กลัวคนอื่นจะนินทาว่ามาไม่ทันไร รู้จักทุกซอกทุกมุม ราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง

“ข้างบนมีห้องสมุดใหญ่นะคะหมอ เคยขึ้นไปดูหรือยัง” ป้านิ่มโผล่หน้ามาถามหลังอาหารเย็น

“ยังเลยค่ะ”

“มีหนังสือเยอะนะคะ เห็นท่านเตรียมหนังสือตำราทางการแพทย์ให้คุณหมอด้วย"
ปันนาเลิกคิ้วสูง
เขาเตรียมหนังสือการแพทย์ให้หล่อนด้วย
อะไร คนอะไรจะใจดีปานนั้น

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 55 20:25:17

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 55 18:40:44

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 16:53:44




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com