Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวียงนาคินทร์ 35 vote ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1-18 อ่านได้ในบล็อกเลยนะคะ 

ตอนที่ 33-34 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12906549/W12906549.html



ตอนที่ 35

อาคันตุกะ

 

         "วิมุตติกำลังจะมาถึง" เสียงทรงอำนาจนั้นดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยื้อนบางๆ  สรวงมองคนตรงหน้าอีกครั้งก็อดถามตัวเองมิได้ว่านี่เรื่องจริงหรือ?

 

         เมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้เขาเพิ่งลงจากเครื่องบินไฟท์เชียงใหม่  เพื่อมาเยี่ยมบุตรชายที่กรุงเทพ ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถ   ชายวัยกลางคนก็รับรู้ถึงสภาวะไม่ปรกติบางประการ   บ้านริมน้ำที่ซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อนยังคงลักษณะโอ่อ่าสง่างามเช่นที่เคยเป็นมาเสมอ  เพราะได้รับการดูแลอย่างดี 

 

 ทว่าสายลมเย็นจัดที่พัดออกมาจากตัวบ้านหอบเอาลางสังหรณ์มาด้วย  สรวงยังคงยืนนิ่งมิได้เข้าไปในบ้านทันที    อากาศรอบตัวชื้นเย็นเหมือนยามค่ำคืน   จริงอยู่ว่าบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ  อากาศก็ย่อมเย็นกว่าบ้านในเมืองใหญ่ที่แออัดเป็นแน่   หากแต่ในเวลาที่อาทิตย์ยังฉายแสงกล้า  รอบบริเวณกลับดูสลัวโรยแสงอีกทั้งอากาศยังเย็นยะเยือกผิดฤดูกาล   ด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดวิทยาธรเทพมาตลอด  ชายวัยกลางคนจึงระวังตัวเป็นพิเศษเมื่อมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้น  เขายืนนิ่งอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงคนขับรถที่กำลังขนกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาเข้าไปในบ้านร้องเอะอะโวยวายขึ้นมา

 

         "เฮ้ยยยยยย!!! "

         เสียงนั้นร้องด้วยความตระหนกตกใจ  อีกทั้งเจ้าของเสียงยังทิ้งกระเป๋าแล้วถอยกรูดไปอีกทาง   เมื่อมองไปยังต้นเหตุที่ทำให้นายสนิทคนขับรถตกใจ   พ่อเลี้ยงสรวงก็อุทานออกมาเมื่อเห็นว่าสิ่งใดขวางทางเข้าบ้านอยู่

 

         "งู!!?" 

 

         ร่างสีน้ำตาลไหม้จนเกือบดำเกล็ดเป็นเงามะเมื่อมเหมือนทาเคลือบไปด้วยน้ำมัน   ลำตัวอวบเท่าข้อแขนผู้ชาย   กำลังชูศีรษะขึ้นมาแผ่พังพานอวดตราดอกจันทร์บนแม่เบี้ย  ด้วยท่าทางดุร้ายพร้อมจะทำอันตรายทุกคนที่เข้าไปในรัศมีมัน   บิดาของวิมุตติยืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนใบหน้าซีดเผือดไปทันที  

 

         "พ่อเลี้ยงอย่าขยับนะครับ   เดี๋ยวมันจะฉกเอา  ค่อยๆ ถอยนะครับ"  นายสนิทเอ่ยด้วยน้ำเสียงพรั่นพรึง  แล้วหันไปคว้าเสียมที่วางอยู่โคนต้นไม้ใกล้ตัวขึ้นมาขู่เจ้าอสรพิษนั่น

 

         "แย่แล้ว...คุณวิมุตติก็ไม่อยู่เสียด้วยสิ   โอ้ย..ย ทำไงดีเนี่ย ? ฉันไม่อยากฆ่าแกนะเว้ย!! ไปชิ้วๆๆ"

 

         ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนั้น  สรวงกลับนึกขันขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของนายสนิท  แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากเย็นนัก  หากเป็นบุตรชายผู้มาจากเมืองฟ้าของตน  เพียงแค่โบกมือไล่เบาๆ เจ้างูเห่านั่นก็คงเลื้อยหายไปจากสายตา  แต่ในเวลาแบบนี้เจ้าอสรพิษดูจะไม่ยอมประนีประนอมกับใครเอาเสียเลย   ยิ่งนายสนิทชูเสียมขึ้นกวัดแกว่งกลายกลับเป็นยั่วยุมัน  เสียงฟ่อดังออกมาจากลำคอและตั้งท่าจะฉกทุกคนที่เข้าไปใกล้   งูร้ายทำทีประหนึ่งว่าบ้านหลังใหญ่นี้เป็นรังของมัน  จึงออกมาขับไล่ผู้ลุกล้ำอาณาเขต

 

         ".....ฉันเป็นพ่อของวิมุตติ  จะเข้าบ้านแกถอยไปซะ" สิ้นเสียงตวาดดังของนายจ้าง สนิทถึงกับเบิ่งตาค้างแล้วหันบอกผู้เป็นนายว่า

 

         "พ่อเลี้ยงครับ   งูมันฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ" สรวงไม่ตอบเพียงแต่เห็นว่างูเห่าตัวนั้นไม่ยอมถอยให้   อีกทั้งยังเลื้อยตรงมาหาเขาอย่างดุร้าย

 

         "ฉันเป็นพ่อของวิมุตติ  จะมาหาลูกชายไม่ได้มาร้าย!!" เขาพูดย้ำอีกครั้งในขณะที่นายสนิทพยายามดึงร่างนายจ้างหนีงู  แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา

 

         "ไม่ได้ยินที่เขาบอกรึ?"  อสรพิษสีน้ำตาลไหม้นั่นหยุดชะงักทันที 

 

         "ไปได้แล้ว"

 

         ราวกับว่ามันเป็นสุนัขที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี  เจ้าเห่าดงตัวนั้นและค่อยๆ หดพังพานแม่เบี้ยลง  และเลื้อยหายลับเข้าพุ่มไม้ไป  พ่อเลี้ยงสรวงกับนายสนิทคนขับรถพากันถอนหายใจโล่งอก  ก่อนหันไปมองเจ้าของเสียงเป็นตาเดียว    

 

         "คุณ....?!"

 

         ร่างสูงสง่านั่นอยู่ในชุดพื้นเมืองล้านนาสีเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง  ใบหน้างดงามเกลี้ยงเกลาราวสลักเสลา  จมูกโด่งเป็นสันเรียว  กรอบดวงตารียาวแต่ดวงแก้วภายในนั้นเป็นประกายกล้าแข็งทรงอำนาจ   ริมฝีปากบางเฉียบสีระเรื่อ  สีหน้านั้นฉาบไว้ด้วยความเฉยชาไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใดๆออกมา  

 

สรวงมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องโถงด้วยท่าทีราวกับเป็นเจ้าของบ้าน  ส่วนเขาเป็นแค่แขกผู้มาเยือนเท่านั้น  และด้วยความแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นคนตรงหน้ามาก่อน  ชายหนุ่มแปลกหน้าอยู่วัยไล่เลี่ยกับบุตรชายของเขา   แต่ท่วงท่าองอาจและหยิ่งทะนงอยู่ในที ทำให้เขาคาดเดาว่าเป็นคนที่เพิ่งถูกอุปโลกน์ขึ้นมาเป็นญาติสนิท

 

         "....เจ้าภูวิษะรึ ?"  คนถูกถามไม่ได้ตอบ  เพียงแต่มีรอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นมาบนดวงหน้าเป็นการตอบรับ

 

         "เชิญ"  เจ้าของนามนั้นกล่าวสั้นๆ แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้าน โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ซักถามสิ่งใดอีก

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 14:46:49




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com