Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้น "วิกิพีเดีย" vote ติดต่อทีมงาน

วิกิพีเดีย...
         เมื่อถึงยามเดือนสิบสอง ถ้าเป็นเมื่อก่อน และเป็นที่นี่ ผมจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่เริ่มจะเย็นลงจนถึงขั้นหนาวมาก ซึ่งเป็นไปโดยอัตโนมัติตามกลไกของฤดูกาล ลมที่พัดมาพร้อมเศษกรวดหิน ฝุ่นดินสีส้มแดงตลอดเส้นทางลูกรัง ยังเป็นสัญลักษณ์ของความแห้งแล้ง ต้นข้าวตอนนี้ เหลือแต่ตอฟาง อดนึกไม่ได้เหมือนกันว่ามันเติบโตขึ้นได้อย่างไรในพื้นดินน้ำน้อยเช่นนี้ ขณะที่ผมกำลังนั่งทอดสายตามองสองข้างทางอย่างครุ่นคิด รถกระบะสองแถวที่ผมนั่งกอดกระเป๋าแน่นอยู่นั้นจอดอย่างฉับพลัน
          ฝุ่นคลุ้งขึ้นตามล้อทั้งสี่ของกระบะ ทำให้ผมต้องรีบใช้มือเอื้อมไปจับตัวเจ้าลูกชายวัยสิบขวบไว้ ส่วนมือที่มีกระเป๋าเดินทางผมก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดจากอก เมื่อเป็นสัญญาณว่าถึงที่หมาย ผมรีบก้มเดินพร้อมจูงมือลูกชายตามหลังคากระบะเตี้ยๆ และเบียดกับชาวบ้านที่คาดว่าพึ่งกลับจากตลาดในตำบลใกล้ๆ
          รถแล่นออกไปช้าๆเพราะจำนวนคนทั้งโหน ทั้งแน่นเต็มคันรถ แล้วปล่อยเราสองคนไว้ทางเข้าหมู่บ้านที่ผมคุ้นเคย ซึ่งครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ก็เมื่อสองปีที่แล้ว นี่ถ้าไม่ใช่ช่วงปิดเทอมของลูกชายหรือมีธุระด่วนแล้วละก็ คงยากที่ผมจะทิ้งรายได้หลายพันบาทจากการทิ้งงานไปสองสามวันเพื่อมาที่นี่

“เดินเร็วๆหน่อยสิลูก มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ” ผมบอกลูกชายที่สมาธิจดจ่ออยู่กับเจ้าแท็บเล็ตเจ็ดนิ้วจนลืมสนใจสิ่งอื่น

“ว้า..แบตจะหมดแล้วครับพ่อ ที่บ้านปู่จะมีที่ชาร์ทไหม ผมลืมเอามาด้วย”

“ใช้ของพ่อก็ได้ มันอยู่ในกระเป๋า ถึงบ้านปู่แล้วค่อยชาร์ตโอเคไหม แต่ตอนนี้รีบๆเดินเลย เมื่อครู่นี้ยังบ่นว่าหิวข้าวอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

เจ้าลูกชายผมไม่ตอบแต่กลับถามผมกลับ “พ่อๆ นั่นเขาเล่นว่าวกันใช่ไหม แล้วทำไมมันมีเสียงอะไรด้วยอ่ะ”

         ผมมองตามนิ้วเล็กๆที่ชี้ไปยังเด็กกลุ่มสามสี่คนวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งกว้างแปลงนา ตอนนี้กลายเป็นตอฟางหมดแล้ว เด็กบางคนบ้างก็ดึงสายเชือกให้ว่าวลอยติดอยู่ในอากาศ บ้างก็ให้เพื่อนโยนตัวว่าวขึ้น แล้วตัวเองก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วเพื่อให้ว่าวลอยขึ้นฟ้า

         แม้จะมองไกลๆ แต่ผมก็สังเกตเห็นว่า แก้มของเด็กแต่ละคนแตกแห้งเป็นคราบเป็นรอยเพราะผิวขาดการบำรุงในช่วงอากาศหนาว มองเห็นใบหน้าเล็กๆเปื้อนด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นยามที่ตัวเองเอาว่าวลอยขึ้นสู่บนท้องฟ้าได้สำเร็จ

         สายลมไม่ใช่แค่ช่วยให้ตัวว่าวว่ายวนไปมาอยู่บนนั้นเพียงอย่างเดียว มันยังทำให้เครื่องดนตรีที่ติดอยู่บนหัวว่าวนั้นส่งเสียงดัง “ตื๊อ ตึ่ง ตื๊อตึ่ง”อีกด้วย
         
         ตอนผมอายุเท่าเด็กพวกนี้ ผมมักจะอิจฉาพวกเพื่อนๆที่แข่งกันอวดเสียงของเครื่องดนตรีชนิดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำด้วยตัวเอง แต่ผมทำไม่เป็นหรอกนะ “เจ้าว่าวสะนู”เนี่ย
 
          มีครั้งหนึ่งตอนนั้นปู่เห็นผมร้องไห้แล้วถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกไปว่า ผมอยากได้สะนู อยากให้ว่าวมีเสียงแบบคนอื่นมั่ง ปู่ไม่พูดอะไรแต่เดินไปตัดไม้ไผ่ที่อยู่หลังกระท่อมปลายนามาท่อนหนึ่ง แล้วตัดมันออกเป็นสองชิ้น ยาวชิ้นละประมาณหนึ่งศอก ส่วนหนึ่งใช้ทำเป็นก้านสะนู ที่ส่วนปลายจะเหลาให้บางหน่อยเพื่อให้โค้งได้ ส่วนอีกชิ้นจะถูกเหลาให้บางเรียบมากที่สุดคล้ายกับเส้นพลาสติกแพ็คกล่องกระดาษ เจาะปลายทั้งสองด้าน ผูกด้วยเชือก แล้วค่อยนำเชือกอีกข้างขึงกับปลายทั้งสองด้านของส่วนที่เป็นด้ามสะนู ส่วนที่บางเรียบนี่แหละที่ทำให้เกิดเสียงยามต้องกับสายลม

         ผมเห็นปู่เม้มปากหลายครั้งเพราะต้องออกแรงมัดเชือกให้แน่นและตึง ตรงข้ามกับริ้วรอยบนใบหน้าที่หย่อนคล้อยตามกฏของธรรมชาติ ปู่ยกสะนูที่ทำเสร็จแล้วขึ้นมาพร้อมเป่าให้เกิดลม ไผ่บางหมุนบิดเกลียวไปมาจนเกิดเสียงดังขึ้น “พรึ่บๆ ” คล้ายเสียงแมลงปอกำลังกระพือปีกไปมา

         ปู่ยิ้มมุมปากนิดๆแล้วบอกว่า “เอ้า..เอาไป ตอนนี้มันเป็นเสียงพรึ่บๆ นะแต่ถ้าติดไว้ที่ว่าวแล้วลมแรงๆ มันจะดังอีกแบบหนึ่ง”

         ผมรับมาจากปู่แล้ววิ่งลงบันไดกระท่อมไปยังทุ่งกว้าง จับเจ้าสะนูต้านสายลมวิ่งวนไปมาคนเดียวรอบทุ่งกว้าง.....

         ผมหยุดเดินแล้วแหงนหน้ามองดูว่าวของเด็กๆ ได้ยินเสียงสะนูสองสามตัว คล้ายวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้น ถึงจะฟังได้ แต่ก็ดูเหงาๆ จากเดิมที่มีสมาชิกอยู่มากมาย ก็เริ่มขาดหายไปตามยุคสมัย ไม่รู้ว่าหมดนักดนตรีกลุ่มนี้แล้ว จะมีนักดนตรีหน้าใหม่รู้จักเจ้าสิ่งนี้อยู่อีกหรือเปล่า

“เฮ้ย!ไอ้ทิต เอ็งกลับมาแล้วเหรอ ได้ยินว่าตาไท จะย้ายไปอยู่กับเอ็งที่กรุงเทพเหรอว่ะ” เสียงตามี เพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของพ่อผม

“ใช่ลุง ก็น่าจะพรุ่งนี้เย็นๆล่ะ บอกรถตู้ไว้แล้วเดี๋ยวเขาแวะมารับ ไม่อยากให้พ่อนั่งสองแถวไปต่อรถในเมืองหน่ะลุง อ้อ แล้วนี่พ่อแกไปไหนล่ะลุง ผมถึงบ้านสักพักแล้วยังไม่เจอใครเลย”  

“คงอยู่ที่กระท่อมนู่นละมั้ง เหมือนแกจะนั่งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่หัววันละนะ เอ็งไปดูหน่อยสิ ข้าว่าแกคงไม่ค่อยอยากไป”

          พ่อผมอยากบริจาคที่ดินผืนนี้ให้วัดหากต้องไปจากที่นี่ พรุ่งนี้เช้าเจ้าหน้าที่จากที่ดินจะมาทำการวัดพื้นที่ปลายนาหลังบ้านแล้วให้เซนต์บริจาค พ่อไม่อยากขายที่นี่ให้ใคร เพราะแกบอกว่าอย่างน้อยวันนึงถ้าเป็นวิญญาณกลับมาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองมีบ้าน

         แสงยามเย็นฉาบท้องฟ้าเป็นสีส้มแดง ขณะดวงอาทิตย์คล้อยตกเหลือเพียงครึ่งเดียวก็จะลับขอบฟ้า ผมเดินไปหาชายแก่ๆที่กำลังนั่งทำอะไรสักอย่างที่แคร่ใต้กระท่อมปลายนา
         ผมหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าชายผู้นั้น เห็นริ้วรอยบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยกระของชายสูงไว เขากำลังใช้มือสองข้างสั่นๆ ออกแรงขึงเชือกให้เป็นสะนู ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจกับผลงานตัวเองนักเพราะทำอย่างไรมันก็ไม่ตึงพอ

         “พ่อ ผมช่วยเอง” ผมใช้แรงที่มากกว่าขึงสายเชือกประกอบไม้ไผ่เป็นรูปสะนูเหมือนที่เคยรู้จัก

          “ลูกแก วิ่งมาถามข้าว่า ไอ้เด็กพวกหน้าหมู่บ้านนั่นมันเล่นอะไร ทำไมมีเสียงแปลกๆ มันอยากเล่นบ้าง ข้าก็เลยเดินมาทำให้มัน เออ ฝากเอาไปให้มันด้วยละกัน เดี๋ยวข้าเดินไปหาตามีก่อน ”

          ผมรับสะนูมาจากพ่อแล้วผมชูมันขึ้น ต้านสายลมแรงที่กำลังพัดจากทางเหนือไปใต้ หลับตายืนนิ่งฟังเสียงของมันสักครู่ พลางถอนหายใจ

          เจ้าลูกชายนั่งเล่นแท็บเล็ตอย่างสบายใจจนลืมว่าเมื่อกี้ พึ่งจะร้องขออยากได้ของเล่นใหม่

      “พ่อ อะไรอ่ะ” แท็บเล็ตของผมเองที่หิ้วมาจากกรุงเทพถูกเปิดขึ้น สัญญาณแบตเตอรี่เหลือขีดเดียว ผมรีบใช้มันถ่ายรูปพร้อมกับเอานิ้วมือสัมผัสหน้าจอ กลั่นกรองความรู้สึกทั้งหมดพรั่งพรูออกมาเป็นตัวอักษรมากมาย แล้วบันทึกมันลงในหน้าวิกิพีเดียไทย สารานุกรมออนไลน์ที่ใครก็สามารถฝากข้อมูลได้ทั้งเรื่องจริงและเรื่องแต่ง

         “มันเรียกว่าสะนูเองเหรอพ่อ ไม่เห็นมีลูกศรเลย(คงนึกว่าเป็นธนู) แล้วมันมีเสียงได้ไงอ่ะ”

          สัญญาณอินเตอร์เนตอาจจะช้าไปบ้าง แต่ก็ค่อยๆปรากฏข้อความและรูปภาพของเจ้าสิ่งที่ผมพยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง เพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นมันจริงๆ และผมเองก็ไม่สามารถทำมันขึ้นมาได้อย่างที่พ่อผม     หรือปู่ผมทำ ในยามที่เจ้าหลานตัวแสบอยากได้ เสียงของสะนูจากว่าวสองสามตัวยังบรรเลงอยู่ทั้งคืน ปีหน้าสายลมของฤดูกาลก็คงพัดมาเหมือนอย่างเคย เพราะมันพัดมาทำให้รู้สึกหนาวแล้วก็ผ่านไป

ศิวาวุธ วันนา

ฝากเรื่องสั้นเรื่องแรก ติชมวิจารย์ได้เลยนะครับ

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 16:07:59

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 16:03:33

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 16:01:17

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 16:00:10

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 15:59:02

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 15:58:19

จากคุณ : โกรงเกรง
เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 15:56:18




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com