เวลาผ่านไปสองชั่วโมงพายุจึงสงบลง ร่างสูงของชายหนุ่มโงนเงนขณะค่อยๆลุกขึ้นยืน รู้สึกงุงงงไปหมด เขาหลับตาแน่นและกระพริบถี่สองสามครั้งพร้อมทั้งสะบัดศีรษะอย่างแรงเพื่อคลายอาการมึนชา กว่าร่างกายจะปรับตัวได้ใช้เวลาอยู่เกือบสิบนาที
เราอยู่ที่ไหนว่ะเนี่ย ตรัยพึมพำถามตัวเอง จะหันไปมองทางไหนก็เห็นแต่ความเวิ้งว่างว่างเปล่า กับแสงสุดท้ายแห่งวันที่ใกล้จะลาลับขอบฟ้าไป
บาลีไปไหนนะ บาลี! นายอยู่ไหน บาลี! ตรัยลองตะโกนเรียกหา หันรีหันขวางไปรอบตัว ไม่พบใครอื่นเลยนอกจากเขาเพียงคนเดียวที่อยู่แถวนี้
โอ้ย สงสัยพายุคงพัดบาลีหลงกับเราแล้วสิ เขาคิดอย่างท้อแท้ ก้มตัวลงพร้อมถอนใจเฮือกใหญ่ คิดไม่ตกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
เมื่อไม่มีคนนำทาง ไม่มีอูฐหรือพาหนะใดมาช่วย จำเป็นต้องเดินเท้าไปเอง โชคดีอยู่อย่างที่ตรัยเดินพบกระเป๋าสะพายหลังประจำตัวไม่ไกลจากที่ตัวเองสลบอยู่ ข้าวของทุกอย่างอยู่ครบแต่จะใช้การได้หรือไม่นั้นคงต้องหาสถานที่สักแห่งเปิดดู
ยิ่งผ่านไปนานเท่าใด แสงสว่างที่ใช้เดินทางเริ่มน้อยลงทุกที ขาสองข้างของตรัยก็เริ่มล้าและก้าวช้าลง ทั้งเหนื่อยและรู้สึกกระหายน้ำ ลำคอแห้งผากแทบเป็นผุยผง แต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบใครสักคนเดินผ่านมาเพื่อขอความช่วยเหลือ
นี่มันบ้าอะไรวะ ทำไมสวรรค์ถึงต้องลงโทษฉันแบบนี้ ให้ใครมาฆ่าฉันให้ตายยังจะดีกว่า! ตรัยตะโกนเสียงดังก้องเป็นการระบายอารมณ์หงุดหงิด หนีจากการจับกุมมาได้แล้วก็จริง แต่กลับต้องมาเจอเรื่องน่าตกใจกว่า เขาจะต้องมาพบจุดกลางทะเลทรายแห่งนี้จริงหรือ ไม่มีแม้แต่คนจะสั่งเสียดูใจ กระทั่งศพเขาคงจะไม่มีใครหาพบ
เสียงอะไรนะ ชายหนุ่มชะงักเมื่อได้ยินเสียงคล้ายน้ำไหลอยู่ข้างหน้า
เมื่อนึกถึงว่าเป็น น้ำ ตรัยแทบอยากจะกระโดดลอยตัวไปให้ถึงแต่มีแค่แรงเพียงน้อยนิดเท่านั้น เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริง พอโผล่พ้นเนินทรายก็พบกับความเขียวขจีเบื้องหน้า ถัดไปเป็นผืนน้ำอยู่ข้างหลังแนวไม้
ต้องเป็นโอเอซิสที่บาลีบอกมาแน่ ชายหนุ่มไม่รอช้า ตรงดิ่งเข้าไปที่ริมน้ำพร้อมเหวี่ยงกระเป๋าวางพื้นลงไปวักน้ำดื่มด้วยความกระหาย การได้ความชุ่มฉ่ำของสายน้ำมาช่วย ทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาก กำลังวังชาเริ่มกลับมา
ใกล้ค่ำแล้ว สงสัยเราคงต้องนอนพักที่นี่ก่อน แต่หิวชะมัดเลย ตรัยลุกขึ้นยืนพร้อมกวาดสายตาสังเกตทั่วบริเวณ ไม่มีต้นไม้ต้นไหนพอจะให้ผลกินได้ ถ้าเป็นป่าดงดิบในเมืองไทย อย่างน้อยก็ยังมีพวกกล้วยป่าช่วยประทังชีวิต
ทะเลทรายนี่แห้งแล้งเสียจริงวุ้ย กระทั่งจะหาแมลงกินสักตัวยังไม่มี เขาบ่นเป็นบ้าเป็นบอ พระเจ้าให้เขารอดตายมาได้ด้วยการให้พบแหล่งโอเอซิส ทำไมถึงไม่ประทานอาหารมาให้เขาด้วย
นึกแล้วก็พาลโมโหโชคชะตาตัวเอง แต่จะมาท้อตอนนี้ไม่ได้ในเมื่อเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ถึงจะพบทางตันก็ต้องหาทางอื่นต่อไป ตรัยหันกลับมามองทางแหล่งน้ำอีกครั้ง เขาเป็นลูกน้ำประมง จึงมั่นใจว่าที่ไหนมีน้ำที่นั่นย่อมมีสัตว์น้ำอยู่
เอาวะ ได้ปลาประหลาดสักตัวมาเป็นอาหารก็ยังดีว่าแล้วชายหนุ่มก็ลงมือถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ขณะกำลังจะลงน้ำ ได้ยินเสียงเหมือนฝีเท้าคนอยู่ไม่ไกลจากที่เขาอยู่
มีคนอื่นอยู่แถวนี้อีกหรือ เขาลองเงี่ยหูฟัง เสียงมาจากขวามือหลังพุ่มไม้สูง จึงลองเดินเข้าไปใกล้แล้วแหวกดู
เฮ้ย อุ๊บ ตรัยแทบปิดปากตนเองไม่ทัน เพราะคนที่เขาเห็นตรงหน้าในเวลานี้เป็นผู้หญิงกำลังเล่นน้ำอยู่เพียงคนเดียว หน้าตาเธอสวยคมสมวัย ผิวพรรณเนียนนวลชวนมอง ตรัยก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น เวลาเห็นสาวสวยเปลือยกายอาบน้ำอยู่ตรงหน้า ก็อดระงับใจตนเองไม่ได้
ไม่ได้ๆ เราต้องเป็นสุภาพบุรุษวุ้ย พอคิดได้รีบหันหน้าหนีออกมา
กรี๊ด
เสียงร้องจากข้างหลังทำให้เขาลืมตัว หันหลังกลับไปอีกครั้งพร้อมกระโจนผ่านพุ่มไม้ เห็นเธอคนนั้นยืนหน้าซีดเซียว ริมฝีปากสั่นระริกคล้ายกำลังตกใจสุดขีด แต่ที่ทำให้ชายหนุ่มแทบหัวใจวายไปในนาทีนั้นก็คือภาพร่างเปลือยเปล่าที่ปรากฎตรงหน้าเขา
เขาเห็นหมดทุกอย่างแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่รูปร่างสวยมากคนหนึ่ง ผิวพรรณเนียนละเอียดผุดผ่องไปทั้งเรือนร่าง ทรวงอกอวบอิ่มอมชมพูน่าสัมผัส ตรัยเกือบมองต่ำกว่านี้แต่ยังรู้จักยับยั้งใจได้ทัน หล่อนเหมือนจะรู้ตัวด้วยว่ากำลังยืนเปลื้องผ้าต่อหน้าผู้ชาย รีบเดินไปหลบตรงหลังพุ่มไม้ที่ใกล้ที่สุด
ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาเห็นคุณในสภาพนี้ แต่ได้ยินเสียงร้องของคุณ คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ กว่าจะเอ่ยปากถามได้ ปากเขาก็หนักคล้ายมีอะไรถ่วงไปหลายนาที ตรัยสื่อสารกับเธอด้วยภาษาอังกฤษ ก้มหน้ามองไปทางอื่น
งู มันอยู่ตรงนั้น
ไหนครับ
นั่นไง อยู่ทางขวามือคุณ
ชายหนุ่มเอี้ยวตัวมองตามมือเธอที่ชี้ไปข้างหลังเขา เห็นอสรพิษร้ายกำลังแผ่แม่เบี้ยขู่ฟ่ออยู่ ตรัยอ้าปากค้างตกตะลึง พยายามคุมสติให้มั่นคง ก้าวเท้าไปอยู่กลางระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับงู
ไปซะ ถ้าเจ้ากับเราไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ขออย่าได้มาทำร้ายกันเลย เราต่างคนต่างอยู่เถอะ
ลุงของตรัยเคยเป็นหมองูเก่าและได้ถ่ายทอดมนต์ไล่งูง่ายๆให้ เขาไม่รู้ว่างูทะเลทรายกับงูทางใต้บ้านเกิดจะเข้าใจภาษาคนเหมือนกันหรือไม่ แต่สักพักใหญ่ อสรพิษร้ายก็ยอมสยบลงแล้วเลื้อยหนีหายลงไปในน้ำ
ตรัยถอนใจโล่งอกที่ไม่มีใครต้องโดนงูกัด หันหลังกลับมาอีกที พอนึกได้ว่าหล่อนกำลังเปลือยเปล่าอยู่ก็ผลุบหน้าลงต่ำมองเท้าตัวเอง ผมว่าคุณไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยดีกว่านะ
เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองจึงไม่รู้ว่าเธอเดินไปทางไหน ห่างกันไม่กี่นาทีเขาได้ยินเสียงฝีเท้าคนมาจากหลังและเสียงหวีดร้องของหล่อนดังลั่นตามมา
อย่า !จามิลตรัยยังไม่ทันหันกลับไปมอง ชำเลืองหางตาเห็นเงาของอะไรสักอย่างจากด้านข้าง
ผลัวะ
เสียงตุ๊บดังก้องเข้าไปในหู ความเจ็บปวดเกิดขึ้นมาฉับพลันตรงบริเวณท้ายทอยด้านหลัง เขารู้สึกได้ว่าโลกกำลังหมุนติ้ว เหมือนมีอะไรหนักๆมาถ่วงศีรษะ จากนั้นไม่นานทุกอย่างก็ดับวูบลง
พี่นีวาพี่เป็นไงบ้าง ไอ้บ้านี่มันทำอะไรพี่เปล่า คนทำร้ายตรัยโยนไม้ทิ้งรีบวิ่งข้ามร่างที่นอนสลบอยู่ พร้อมทั้งถอดเสื้อนอกคลุมร่างเปลือยเปล่าให้เธอ นีวายืนหน้าซีดเผือด มองชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอไว้ด้วยสายตากังวล
จามิล เจ้าทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม เธอหันมาดุน้องชาย
ทำอะไรหรือพี่นีวา ก็ช่วยพี่จากไอ้บ้าหื่นกามตัวนี้ไง
เจ้านี่มันวู่วามอย่างที่ท่านพ่อบอกไว้จริง
นีวาเดินเข้าไปนั่งข้างร่างที่นอนหมดสติอยู่ด้วยอาการร้อนใจ หันมาเรียกให้น้องชายช่วยกันพลิกร่างเขาขึ้นมา
เขายังไม่ตาย แต่บาดเจ็บสาหัส เราต้องพาตัวเขากลับไปรักษา เธอใช้มือจับที่ต้นคอชายหนุ่ม โล่งอกที่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
อะไรนะพี่นีวา จะพาไอ้นี่กลับไปที่บ้านเรา ข้าเห็นมันกำลังจะเข้ามาไม่ดีไม่ร้ายพี่นะ แล้วพี่ยังเอ่อ จามิลมองร่างพี่สาวแวบหนึ่งแล้วรีบเมินหน้าหนีทางอื่นเช่นกัน ถึงจะเป็นสายเลือดเดียวกันแต่เขาก็เป็นผู้ชาย
ใช่ เพราะเจ้าทำร้ายเขาจนสลบ ส่วนไอ้ที่เจ้าเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะ แล้วพี่จะเล่าให้ฟังทีหลัง จามิลรีบอุ้มเขาใส่หลังม้า เดี๋ยวพี่จะไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน เราต้องพาเขาไปถึงมือหมอก่อนจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้
จามิลไม่มีทางเลือกจำต้องทำตามคำสั่งพี่สาวแม้จะไม่ค่อยอยากช่วยไอ้หมอนี่ก็ตาม สองพี่น้องช่วยกันพาร่างของชายหนุ่มแปลกหน้ามาถึงมือหมอที่โรงพยาบาล
หมออังเดรคะคะ อาการเขาเป็นไงบ้างนีวาถามชายวัยกลางคนในชุดกราวที่เพิ่งออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยน้ำเสียงร้อนรน หลังจากบุรุษพยาบาลเข็นร่างของชายหนุ่มเข้าห้องไปเมื่อเกือบชั่วโมงที่ผ่านมา เธอแทบไม่รู้ว่าคนข้างในจะยังมีชีวิตอยู่ตายไปแล้ว
เขาไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่อ่อนเพลียเท่านั้น ส่วนอาการบาดเจ็บที่ศีรษะด้านหลังหมอได้ทำแผลให้แล้ว เราคงต้องลองเขาฟื้นก่อนถึงจะรู้ว่ามีอย่างอื่นแทรกซ้อนไหม
อย่างอื่นแทรกซ้อน หมายความว่ายังไงคะหมอ
หมอไม่แน่ใจนะ อาจมีเลือดคลั่งในสมองจนจำเป็นต้องผ่าตัด หรือไม่เช่นนั้นอาจมีผลต่อความทรงจำของเขา
อะไรนะคะ ถึงขนาดความจำเสื่อมเลยหรือคะ
อาจจะเป็นไปได้นะ แต่เราต้องรอเขาฟื้นมาก่อนถึงจะรู้ หมอขอตัวไปสั่งยาให้คนป่วยก่อนนะ
นีวายืนอึ้งนิ่งราวับถูกใครตรึงไว้กับที่ จนจามิลที่เพิ่งเข้ามาต้องไปช่วยเขย่าแขนพี่สาวให้รู้สึกตัว
พี่นีวาฮะ พี่นีวา
คนถูกเรียกหันหน้าเคร่งเครียดไปทางน้องชาย แย่แล้วล่ะ จามิล ผู้ชายคนนั้นเขา..
เขาเป็นอะไรพี่นีวา อย่าบอกนะว่าตายแล้ว
ไม่ใช่ แต่ยิ่งกว่าอีก ตอนนี้เราคงต้องกลับบ้านก่อน เดี๋ยวท่านพ่อจะเรียกหาแล้วพี่จะเล่าให้ฟัง ส่วนทางนี้พี่จะจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลไปก่อน ไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาดูอาการเขาใหม่
ได้พี่นีวา ข้าขอโทษนะที่ข้าใจร้อนไปหน่อย พี่เลยต้องเดือดร้อน ข้าไม่รู้นี่นา ก็ข้าเห็นเขากำลังยืนจ้องพี่แก้ผ้าอยู่
นีวารู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีที่ได้ย้อนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
พี่นีวาเป็นอะไรไป ทำไมหน้าแดงๆ ฮั่นแน่ อายละสิ จามิลสังเกตอาการของพี่สาวได้จึงแกล้งพูดหยอกล้อเล่น
อายอะไรกัน พูดอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ไปรอพี่ที่รถเลยเดี๋ยวพี่จัดการทางนี้เอง เสร็จจะตามไป
กลัวว่าจะถูกจับสีหน้าได้อีก จึงทำเป็นเสียงแข็งเอ็ดใส่แล้วรีบเดินหนีไปเสีย จามิลอมยิ้มขำ พี่สาวตัวเองท่าจะเขินจริงจนถึงกับไม่กล้าอยู่ให้น้องชายกระเซ้าแหย่ต่อ
หมออังเดรอนุญาตให้ผู้ป่วยใหม่ออกจากห้องฉุกเฉินไปพักรักษาตัวห้องคนไข้ธรรมดาได้เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอาการอื่นผิดปกติอีก แต่ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด
ร่างบางทรุดตัวลงข้างเตียง นั่งเฝ้ามองคนบนเตียงที่นอนหลับสนิทอยู่ นีวาเพิ่งมาเห็นหน้าเขาชัดๆ ตอนนี้เอง ดูไม่น่าใช่คนในเมืองเซอร์ไบ คงเป็นคนต่างถิ่นหรือไม่ก็นักท่องเที่ยว เสียงประตูห้องถูกผลักเปิดเข้ามา นีวาหันไปเห็นจามิลเดินเข้ามาในห้อง
เขาเป็นอย่างไรบ้างฮะ
ยังไม่ฟื้นเลย หมออังเดรบอกว่าถ้าเขาตื่นขึ้นมาแล้วให้รีบไปเรียกหมอมาดูอาการทันที แต่ป่านนี้ยังหลับอยู่ ไม่รู้จะอีกนานแค่ไหนนะ หรือว่าจะไม่ฟื้นเลยนะ
ใจเย็นๆ พี่นีวา เขาคงไม่เป็นอะไรมากหรอก คำพูดของจามิลดูเหมือนจะปลอบใจตัวเองมากกว่า ที่จริงเขาก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่วู่วามเกินไป
หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่งั้นเราสองคนคงบาปไปตลอดชีวิต
ข้าคนเดียวที่บาป พี่ไม่บาปหรอก ข้าเป็นคนตีหัวเขาจนสลบไป โดยไม่ดูให้ดีเสียก่อน
ช่างเถอะ จะมาโทษว่าใครผิดใครบาปคงไม่ได้แล้ว สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ก็คือ ทำยังไงเขาถึงจะรู้สึกตัวเสียที พี่กลัวเหลือเกินจามิล กลัวว่าพอพื้นขึ้นมาอาจความจำเสื่อมก็ได้นะ
คงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นมั้งฮะ พี่นีวา
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจามิล แต่หมออังเดรบอกกับพี่แบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ นีวาหันกลับไปดูชายหนุ่มอีกครั้ง เขายังคงหลับสนิทอยู่ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น แล้วถ้าเขาจำอะไรไม่ได้จริง จะทำยังไงดีล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
แต่ข้ารู้แล้วว่าเขาเป็นใคร แล้วมาจากไหน
เจ้ารู้หรือว่าเขาเป็นใคร เจ้ารู้จักเขากันมาก่อน
ไม่ใช่ ข้าไม่คิดว่าข้าควรจะไปทำความรู้จักกับเขา ไอ้นี่ต่างหากบอกข้าว่าเขาเป็นใคร
เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดยื่นสมุดเล่มเล็กเล่มหนึ่งออกมาตรงหน้า หนังสือเดินทางของผู้ชายคนนั้น เขาชื่อแม๊กซ์คิม เป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา ข้าเจอมันในกระเป๋าเขา อ้อเห็นมีคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กด้วย แต่ข้าเปิดมาแล้วมีรหัสผ่านเลยเข้าไม่ได้ แต่แค่หนังสือเดินทางเล่มเดียวก็พอแล้ว
นีวาทำหน้านิ่วขณะยื่นมือออกไปรับมาดู จามิล นี่เจ้าแอบค้นกระเป๋าของเขา ทำไมถึงได้ละลาบละล้วงของของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
เราจำเป็นนี่พี่นีวา เกิดเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมาจะได้ส่งทางการเสียเลย
แล้วใช่ไหมล่ะ
ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี แต่เราก็รู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
ถึงอยากจะดุด่าว่ากล่าวอะไรมากกว่านี้ แต่คำพูดของน้องชายฟังดูก็มีเหตุผล ช่างเถอะ เอาหนังสือเดินทางเก็บที่เดิม แล้วเอากระเป๋าของเขามาให้พี่ เดี๋ยวพี่เก็บเอาไว้ให้เอง
ตามใจพี่แล้วกัน พี่จะกลับบ้านพร้อมข้าเลยไหม เมื่อวานท่านพ่อถามหา ข้าบอกว่าพี่ไปซื้อของในเมืองกลับค่ำเลยต้องค้าง ถือว่ารอดตัวไปวัน แต่ถ้าวันนี้พี่ไม่กลับบ้านอีก พ่อต้องสงสัยแน่
แล้วผู้ชายที่ชื่อแม๊กซ์คิมนี่ล่ะ จะปล่อยเขานอนคนเดียวแบบนี้หรือ
เขาไม่ได้นอนคนเดียวสักหน่อย เราก็จ้างพยาบาลพิเศษเหมือนเดิมสิ พี่ไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วนะ เป็นห่วงตัวเองบ้าง
นีวาลังเลใจ หันไปมองชายหนุ่มอีกเป็นครั้งสุดท้าย เธอเป็นห่วงเขามากเกินไปหรือเปล่า ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ไปเถอะพี่นีวา แค่คืนเดียวคงไม่ตายหรอกมั้ง จามิลคะยั้นคะยอพี่สาว นีวาจำต้องยอมตามน้องชายไป เอาเถอะเผื่อพรุ่งนี้เขาอาจจะฟื้นขึ้นมาก็ได้ จะได้รู้กันเสียทีว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่
สองพี่น้องออกไปจากห้องพักผู้ป่วย เมื่อพยาบาลพิเศษมาถึง ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคนที่พวกเขากำลังกล่าวถึงอยู่ได้ยินทุกอย่างที่ทั้งสองคุยกันจนหมดสิ้น ตรัยเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่จามิลเข้ามาในห้องแล้ว แต่เปลือกตาอันหนาหนักของเขาทำให้ไม่สามารถลืมตาตื่นขึ้นมาโดยทันที แต่หูได้ยินทุกเสียงที่อยู่รอบกาย
ตรัยไม่รู้ว่าคนที่กำลังพูดคุยอยู่ข้างเตียงเป็นใคร รู้แต่ว่าเป็นพี่น้องกัน คนเป็นพี่สาวชื่อนีวา ส่วนน้องชายชื่อจามิล จามิลเป็นคนทำร้ายเขาจนบาดเจ็บสาหัสแล้วยังรื้อค้นกระเป๋าของเขาเพื่อหาหลักฐาน ที่สำคัญหากเจอความลับเข้า ชีวิตของเขาต้องมีอันตรายแน่นอน
ชายหนุ่มค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา ธรรมชาติของร่างกายช่วยให้เขาปรับสายตาเห็นเพดานด้านบนชัดเจนทีละน้อย รู้สึกเจ็บที่ศีรษะแต่ยังสามารถทนได้
โอ้ย ปวดหัวชะมัด ตกลงเรายังไม่ความจำเสื่อมใช่ไหม ไอ้บ้านั่นแสบจริง อุตส่าห์ช่วยชีวิตพี่สาวไว้ ยังจะมาตีหัวกันอีก ตรัยเอามือจับที่ท้ายทอยที่มีผ้าผันแผลโพกอยู่ จำได้ว่าก่อนหน้านั้นอยู่ที่โอเอซิสกับผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นเหมือนมีอะไรหนักมากระแทกข้างหลัง แล้วหมดความรู้สึกไป
แล้วถ้าเราจำอะไรไม่ได้จริง ๆ พวกนั้นจะทำยังไงกับเรานะ ตรัยนึกอยากแก้เผ็ดขืน โทษฐานที่ทำให้เขาต้องมานอนจ็บตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด สองพี่น้องคู่นั้นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำกับเขา
มีคนเปิดประตูเข้ามา ตรัยรีบหลับตาลง แต่แอบหรี่มอง ไม่ใช่สองพี่น้องคู่นั้นแต่เป็นนางพยาบาลสาวสวยคนหนึ่ง เขาจึงทำเป็นว่าเพิ่งตื่นนอน
คุณรู้สึกตัวแล้วหรือคะ เสียงหวานของพยาบาลถามเขา ตรัยฝืนยิ้ม แกล้งไอเพื่อขอน้ำแต่ที่เขารู้คอแห้งจริง
สักครู่นะคะ นางพยาบาลหันไปเทน้ำจากเหยือกใส่แก้วแล้วเอาหลอดให้เขาจิบ ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อรับน้ำเข้าไป
ผมอยู่ที่ไหนครับ
คุณอยู่โรงพยาบาลค่ะ คุณหนูนีวากับน้องชายเธอพาคุณมาส่ง บอกว่าพบคุณถูกทำร้ายบาดเจ็บอยู่กลางทะเลทราย
นอกจากจะลงมือทำให้เขาต้องเจ็บตัวมานอนโรงพยาบาลแบบแล้ว ยังจะโกหกคนอื่นอีกด้วยว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด เขาน่าจะแกล้งคนพวกนั้นเสียหน่อยก่อนจะหาทางออกไปจากที่นี่
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ นางพยาบาลถามเมื่อเห็นผู้ป่วยหนุ่มเงียบไป
รู้สึกเจ็บๆที่หัวครับ
แล้วอาการอย่างอื่นละคะ เช่นเวียนหัว มึนงง อยากจะอาเจียนมีบ้างไหม
ไม่ครับ เขาโคลงศีรษะที่บาดเจ็บของตน แค่ยังเจ็บๆ อยู่แต่บางทีก็รู้สึกมึนงงเหมือนกัน
แล้วคุณพอจะจำอะไรได้ไหมคะ เอ่อคุณชื่ออะไรคะ
ผมชื่อเอ่อ.. ตรัยลังเลใจว่าจะบอกชื่อไหนดี หรอว่าแกล้งทำเป็นจำไม่ได้อย่างที่พวกนั้นกลัวดีไหม ผม เอ่อ ทำไมผมจำไม่ได้นะว่าชื่ออะไร ผมชื่อ โอ้ย
แกล้งทำเป็นปวดหัวเพื่อให้สมจริง นางพยาบาลสาวทำหน้าตื่นตกใจ รีบดึงตัวผู้ป่วยลงนอน
ฉันว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ ฉันจะไปตามหมอให้ ครับ ผมอยากนอนเหมือนกันรู้สึกง่วงเหลือเกิน ตรัยหลับตาลง ที่จริงอยากนอนนานๆเหมือนกันเพราะรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากเหมือนคนเดินทางไกลมาหลายวัน
หมออังเดรทำหน้าเคร่งเครียดขณะมองฟิลม์เอ็กซเรย์กะโหลกศีรษะมนุษย์ เขาเคยเจอผู้ป่วยเคสนี้มาแล้วตอนอยู่ปารีส แต่น้อยคนมากที่ผู้ป่วยถูกทำร้ายศีรษะจะลืมทุกอย่างในชีวิตไปหมดแม้แต่ชื่อตัวเอง หรือไม่ก็จะจำได้ในอีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมา
หมออังเดรคะ นีวารีบรุดเข้าในห้องเอ็กซเรย์อย่างรีบร้อน เมื่อได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เขาอาการหนักมากหรือคะ
หมอวัยกลางคนพยักหน้ารับพร้อมลอบถอนใจอย่างเสียไม่ได้ เป็นอย่างที่หมอเคยบอกเอาไว้ ว่าบางทีเขาอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนจนความทรงจำมีปัญหา
แล้วเราไม่มีทางรักษาเขาให้หายเลยหรือคะหมอ
ทางรักษาพอจะมีอยู่นะครับ คุณหนูนีวา แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย
นานแค่ไหนคะหมอ พอจะกะเวลาให้ได้ไหม
แล้วแต่อาการครับคุณหนู บางคนไม่กี่วันความทรงจำจะค่อยๆ กลับมา บ้างใช้เวลาหลายเดือน แต่ก็มีนะที่ความจำเสื่อมอยู่หลายปี นานแค่ไหนหมอเองก็ตอบไม่ได้
นีวายืนหน้าซีดขาวราวกับเลือดได้หายออกไปจากตัวหมด ไม่คิดว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอกลับต้องมาเจอกับโชคร้ายซึ่งมาจากน้องชายตัวเอง
หมอคะ ยังไงฉันขอให้หมอช่วยเขาเต็มที่นะคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ฉันเป็นคนออกเองค่ะ
หมอต้องทำแบบนั้นอยู่แล้วครับ แต่การที่จะให้ความทรงจำเขากลับมาหมด เราต้องช่วยไปกระตุ้นเขาด้วยนะ อย่างเช่นหาทางพูดคุยหรือหาสิ่งของของเขามาช่วยให้เขาจำได้มากขึ้น
ฉันจะพยายามทำตามที่หมอแนะนำอย่างสุดความสามารถค่ะ แล้วเขาจะออกไปจากโรงพยาบาลได้วันไหนคะ หรือต้องอยู่รักษาตัวจนกว่าความจำจะกลับมา
อีกไม่เกินอาทิตย์ครับคุณหนู คงไม่ต้องรอจนถึงวันที่ความทรงจำกลับมาหรอกครับ ไม่งั้นคงได้ใช้โรงพยาบาลเหมือนบ้านแน่เลยครับ เดี๋ยวหมอจะให้เขาจัดยาให้ก่อนกลับบ้านและนัดวันมาตรวจสมองใหม่
ขอบคุณค่ะ หมออังเดรที่ช่วยชีวิตเขาไว้
เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับ อย่าถือเป็นพระคุณเลย เอาเป็นว่าหมอจะรักษาเขาให้ดีที่สุด หมอขอออกไปข้างนอกก่อนนะ พอดีมีเคสผ่าตัดด่วน
ทั้งห้องเอ็กซเรย์ในเวลานี้เหลือเพียงแต่ร่างบางของดรุณีน้อยอยู่เพียงลำพังผู้เดียว บุตรสาวคนโตของชีคมูราคทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้สีขาว ทอดสายตามองไปยังฟิลม์เอ็กซเรย์ที่วางไว้ด้านบน
จากนี้ต่อไปที่เธอต้องทำ คือต้องรับผิดชอบชีวิตผู้ชายคนหนึ่งซึ่งได้รับเคราะห์จากตัวเองแท้ๆ
จากคุณ |
:
myjay
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 10:24:45
|
|
|
|