37 พิเศษ – จบ
“สวัสดีค่ะพ่อ
ขอโทษค่ะที่รินไม่ได้ติดต่อพ่อเลย ช่วงที่ผ่านมามีหลายเรื่องต้องทำ รินก็เลยรอให้ทุกอย่างมันลงตัวก่อนถึงได้ส่งเมล์ฉบับนี้มาหาค่ะ
พ่อสบายดีไหมคะ รินสบายดีค่ะ วันนี้ครบหนึ่งปีกับสามเดือนพอดีที่รินมาอยู่ที่นี่ ตอนนิ้รินทำไร่ชาอยู่ที่เชียงราย เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี ได้วิชมาช่วยเลยทำอะไรเพิ่มได้หลายอย่าง แต่ก็ยังเพิ่งเริ่มต้นนะคะ คงอีกพักใหญ่กว่าจะเก็บยอดขาย ตอนนี้เก็บแต่ของเก่าที่คนที่รินให้เช่าเขาทำไว้ขายไปพลาง ๆ ก่อน
รินส่งรูปมาให้พ่อดูด้วย วิชเป็นคนถ่ายค่ะ (จะเห็นพื้นที่ตรงที่ยังไม่ได้ปรับค่ะ คงค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ)
ตอนนี้น้องนารถคงช่วยงานพ่ออยู่ ขอให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นนะคะ รินขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พ่อให้ริน ขอให้พ่อสุขภาพแข็งแรง แล้วรินจะเขียนมาหาใหม่ค่ะ
อ้อ ลืมเล่าไป เจ้าตัวเล็กในท้องรินเป็นเด็กผู้หญิงค่ะ กำหนดคลอดวันที่ยี่สิบ เมล์ฉบับหน้าคงได้เห็นหน้าตากัน
ริน”
แรกเริ่มที่เห็นชื่อคนส่งอีเมล์ก็ตื่นเต้นแล้ว ประโยคลงท้ายทำให้ตื่นเต้นกว่า เท่าที่รู้มาเลา ๆ ปัญวิชช์ไปอยู่กับนภัสรินทร์แล้ว เขาพอจะรู้ว่าเธอกลับบ้านเดิม พยายามส่งเมล์หา แต่นภัสรินทร์ตอบกลับมาว่าไม่พร้อม ก็ได้แต่เฝ้ารอ จนกระทั่งวันนี้ได้รับเมล์จากเธอ เธอส่งข่าวมาหาเขาแสดงให้เห็นว่าความผูกพันสิบกว่าปียังคงอยู่ เขาดีใจ
เขาคลิกดูรูปถ่าย มีภาพไร่ชาในมุมกว้าง ภาพนภัสรินทร์กับบ้านของเธอ และภาพสุดท้ายหญิงสาวกับปัญวิชช์ ชายหนุ่มกอดเธออยู่เบื้องหลัง ยืนยันข้อความว่าหญิงสาวท้องอยู่จริง ๆ
รังสรรค์รู้สึกตื้นต้น รอยยิ้มของบุคคลทั้งสองเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอคงมีความสุขอย่างแท้จริงเสียที ชีวิตที่ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัติของใคร ไม่ต้องมีคนรู้จัก ไม่ต้องมีคำซุบซิบไล่หลัง
“พ่อคะ”
นีรนารถเคาะประตูและเดินเข้ามา เขาขยับตัว ไล่อารมณ์บางอย่างให้กลับลงไป หญิงสาวถือแฟ้มมา
“ดูอะไรอยู่เหรอคะ”
เขานิ่ง ก่อนจะหมุนจอคอมพิวเตอร์ให้ดู นีรนารถยกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึง แต่ไม่ได้แสดงอาการกราดเกรี้ยวอะไร ตรงกันข้าม พอดูจบก็ยักไหล่
“ท่าทางมีความสุขดีนะคะ ดีแล้วค่ะ คุณพ่อจะได้สบายใจซะที”
นีรนารถพูดถูก บางคราวเขายังคิดถึงลูกเลี้ยงคนเก่ง แต่ไม่ใช่แนวที่อยากได้เธอกลับมา แค่อยากรู้ความเป็นไป อยู่อย่างไร ทำอะไร เท่าที่เห็นอย่างที่นีรนารถบอก คราวนี้เขาคงสบายใจเสียที แถมยังมีเรื่องให้ได้ยินดี หวังลึก ๆ ว่าคงมีโอกาสได้เห็นหน้าหลานสาวตัวน้อยคนนั้น
“ว่าแต่นารถมีอะไร”
หญิงสาววางแฟ้มงานให้ เลื่อนเก้าอี้ตรงกับข้าม และสองพ่อลูกก็คุยกันเรื่องงาน
ปัญวิชช์เดินออกจากห้องน้ำ นภัสรินทร์จึงเก็บเน็ตบุ๊คไปวางบนโต๊ะหัวเตียง ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยก็ขึ้นมานอนด้วย
“พ่อว่าไงบ้าง ตอบเมล์หรือเปล่า”
นภัสรินทร์พยักหน้า “ตอบมาสั้น ๆ ว่าดีใจด้วย พ่อบอกว่านารถทำงานเก่งขึ้นเยอะ”
“คงตั้งใจมากเลยล่ะ” เขาพูด นึกภาพนีรนารถที่พยายามเต็มความสามารถเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หญิงสาวสองคนนี้มีบางมุมเหมือนกัน มั่นใจ ถือตัว และไม่ยอมใครง่าย ๆ
ปัญวิชช์สลัดความคิดนั้นทิ้ง เคลื่อนตัวเข้าไปหาหญิงสาว ลูบท้องนูนโตที่มีอีกชีวิตอยู่ในนั้น ซบหน้าส่งสัมผัสแห่งรักและพูดคุยด้วยความเชื่อว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน
“อีกไม่กี่วันเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ ลูกสาวพ่อจะสวยเหมือนแม่หรือเปล่าน้า”
นภัสรินทร์ยิ้ม ตั้งแต่วันแรกที่รู้ตัวว่าจะเป็นพ่อ ชายหนุ่มดีใจจนแทบจะวิ่งไปบอกคนทั้งไร่ เขายิ่งทะนุถนอมเธอ เธอก็รักเขามากขึ้น ที่เคยสูญเสียโดยไม่ได้ตั้งใจถูกเก็บไว้ลึก ๆ ในใจและแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัว จากสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เริ่มเติบใหญ่และรอวันลืมตาขึ้นมาดูโลก ทั้งสองยิ่งตื่นเต้น
“แน่นอน ลูกสาวก็ต้องสวยเหมือนแม่อยู่แล้ว” เธอเชิดหน้าภูมิใจ
“แต่อย่าเจ้าเล่ห์เหมือนแม่นะ”
“ว่าใครเจ้าเล่ห์” นภัสรินทร์ตีแขนเพี๊ยะ ปัญวิชช์สะดุ้งโหยง ร้องโอ้ยทำหน้าเจื่อน “หมายถึงอยากให้ฉลาดต่างหาก”
“ฉลาดกับเจ้าเล่ห์ไม่เหมือนกันนะ” เธอแหว เขายิ้มแฉ่ง หอมแก้มเอาใจ และกอดเธอเหมือนอย่างเคย
“รินคิดเอาไว้หรือเปล่าว่าอยากมีลูกกี่คน”
หญิงสาวเป่าปาก “ไม่เลย คนเดียวก็เลี้ยงให้รอดก่อนเถอะ”
“วิชอยากมี...สักสี่คน วิ่งเล่นกันคนสนุกน่าดู”
นภัสรินทร์ร้อง “บ้าเหรอ คิดว่าเมียอายุยี่สิบหรือไง จะได้คลอดลูกได้ตั้งสี่คน”
“ทำไมล่ะ รินยังไม่แก่เลยนี่” ชายหนุ่มลากเสียง “ฝรั่งอายุสี่สิบกว่าเขายังมีลูกได้เลย”
“ก็รินไม่ใช่ฝรั่ง” เธอลอยหน้า ปัญวิชช์บีบจมูกเธอด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู
“เป็นอะไรไม่รู้ รู้แต่เมียวิชนี่เถียงเก่งจริง ๆ”
“อย่ามาว่ากันนะ”
ชายหนุ่มหัวเราะลุกไปปิดไฟห้อง เหลือเพียงโคมไฟหัวเตียง พอกลับขึ้นมานอนกอดอีกครั้งอยู่ดี ๆ นภัสรินทร์ก็หัวเราะออกมา
“อะไร หรือเปลี่ยนใจจะมีลูกสี่คนแล้ว”
“ไม่ใช่” เธอว่า “รินเพิ่งคิดขึ้นได้ ชีวิตนี้รินได้ใส่จุดเจ้าสาวตั้งสองหน แต่ไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานเลย แล้วนี่ดูสิ พอไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย อีกสองสามวันจะคลอดลูกแล้ว มันตลกดีนะ”
คนฟังยกคิ้ว เห็นด้วยดังที่เธอบอก แล้วก็ยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจ เพราะนั่นแปลว่าเขาเป็นคนสำคัญที่สุดกว่าใคร เป็นคนสุดท้ายในชีวิตเธอ
“คลอดแล้วมาใส่ชุดแต่งงานก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวให้เจ้าตัวเล็กถือชายกระโปรงให้แม่ เก๋เวอร์”
เขาพูดพลางทำหน้าทะเล้น นภัสรินทร์ทำหน้าแหย
ทั้งสองหยอกล้อกันครู่หนึ่งก่อนที่นภัสรินทร์จะตัดบท “ปิดไฟเถอะ ง่วงแล้ว”
ปัญวิชช์ทำตามที่บอก เขามีแผนการณ์ในใจเกี่ยวกับลูกไว้มากมาย เดี๋ยวค่อย ๆ คุยกันไปก็ได้ ถึงตอนนี้มีแต่เรื่องดี ๆ รอเวลาเห็นหน้าเจ้าตัวน้อยคนนี้ก่อนแล้วกัน
“คุณป้าคะ พี่วิช! พี่วิช!”
แป้งถือโน๊ตบุ๊ควิ่งมาหาวิลาสินีตรงห้องรับแขก จึงถูกเปรมิกาดุที่ทำกิริยาไม่เรียบร้อยเพราะทรงพลก็นั่งอยู่ด้วย
“อะไรกันแป้ง วิ่งเป็นเด็กเลยนะ”
“พี่วิชค่ะ พี่วิช หมายถึง ลูกสาวพี่วิชคลอดแล้ว นี่ไงคะ อัพรูปขึ้นบนเฟสบุ๊ค”
“อะไรนะ! คลอดแล้วเหรอ”
คราวนี้เปรมิกาถลาเข้ามาทันที ลูกสาวหัวเราะเพราะแม่เองก็หลุดมาด วิลาสินีชะโงกหน้าไปมอง ภาพที่เห็นคือรูปปัญวิชช์อุ้มทารกน้อยในห่อผ้า สีหน้ายิ้มแย้มยินดี เทวินก็พลอยเข้ามามุงไปด้วย
ชายหนุ่มพิมพ์ข้อความไว้บนรูปภาพ น้องใบชา หนัก 3.2 กก.
“ใบชา ชื่อน่ารักจังเลย” เปรมิกาบอก
“พี่วิชบอกไว้ตั้งนานแล้วค่ะว่าจะตั้งว่าน้องใบชา แต่ชื่อจริงยังไม่ลงตัว ยังเถียงกับพี่รินอยู่มั้ง” หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะ
“มีภาพเดียวเหรอแป้ง” เทวินถาม
“ภาพเดียวเองค่ะ แต่เดี๋ยวถ้าอัพเพิ่มจะรีบเอามาให้ดู พี่วิชคงกำลังอัพอยู่”
วิลาสินีไม่พูดอะไร เธอหยิบโทรศัพท์ กดหมายเลข อีกฝ่ายรับแทบจะในทันที
“คลอดแล้วเหรอ ดีใจด้วยนะวิช”
“ครับ เห็นรูปกันแล้วใช่ไหมเนี่ย” น้ำเสียงเขาสดใส ผู้เป็นแม่ตอบว่าแป้งบอก “แข็งแรงปลอดภัยดีทั้งแม่ทั้งลูกครับ ตอนนี้รินหลับอยู่เดี๋ยวตื่นมาจะถ่ายรูปแม่ลูกไปให้ดูนะครับ”
“จ้ะ” วิลาสินียิ้ม น้ำตาคลอด้วยความยินดี สาเหตุที่ทั้งหมดไม่ได้ไปเฝ้าการกำเนิดของสมาชิกใหม่ก็เพราะ นภัสรินทร์เจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดสองวัน กำหนดการที่เตรียมไว้จากทางกรุงเทพจึงไปไม่ทัน พอคุยกัน ปัญวิชช์ก็บอกว่าให้แม่ของเขามาตามวันและเวลาเดิม เพราะถึงตอนนั้นหญิงสาวคงออกจากโรงพยาบาลพอดี
“ขาวเหมือนแม่เขาเลย แต่หน้าเหมือนผมนะ” เขาเล่าอย่างอวด ๆ วิลาสินีหัวเราะ พูดคุยกันอีกสองสามคำก็วางสาย ระหว่างนั้นแป้งก็เปิดรูปที่ระบบเพิ่งอัพโหลดให้ดู คราวนี้เป็นภาพในห้องคลอด และภาพน้องใบชาเดี่ยว ๆ
“หน้าตาน่าชัง คุณพ่อคะ”
เปรมิกาเรียกทรงพล ซึ่งทำเป็นเฉยท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน เพราะแม้แต่บรรดาคนใช้ คนขับรถก็ถูกเรียกมาดูด้วย
“แค่เด็กเกิด ตื่นเต้นอะไรกันมากมาย เด็กเกิดใหม่ ๆ ก็น่ารักทุกคนนั้นล่ะ” พูดเสร็จก็หันไปอ่านหนังสือต่อ เปรมิกา แป้ง เทวิน และวิลาสินีมองหน้ากันยิ้ม ๆ เทวินกระซิบ
“พนันร้อยหนึ่งไม่เอาสักบาท เดี๋ยวคุณปู่ต้องแอบมาถามจากแป้งแน่นอน”
บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮา
...
จากคุณ |
:
อุธิยา (BabyRed)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 16:16:00
|
|
|
|