Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปกณิการ์ :: งามชบา - บทที่ 20 vote ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12909829/W12909829.html

บทที่ 20

บังเกิดลมร้อนกระโชกวูบวาบขึ้นกะทันหัน กว่าที่ทุกคนทั่วลานประลองจะทันรู้สึกตัว ร่างนางพญาก็พลิ้วลอยออกไปพร้อมกับสะบัดแส้เข็มขัดเป็นทางยาว ประกายรัตนชาติเปล่งเจิดจ้าพร่างพราวคละเคล้ากับหมู่โลหะตอกตึง มองผิวเผินดั่งว่าสายรุ้งย้ายลงมาจากฟากฟ้า

"บังอาจยิ่ง จิตสารเลวเช่นเจ้า สมควรให้ท่านศมะต้องนอบน้อมเกรงใจหรือ เจ้าองครักษ์ชั่ว"

เสียงตวาดสดใสก็จริง แต่พลังดุดันแข็งกร้าวกลับทำให้ทุกคนที่ได้ยินพากันอกสั่น ประชาชนเริ่มเคลื่อนคลื่นตามประสาหวาดกลัว แต่ด้วยอำนาจบารมีของแม่นางกณิการ์นั่นล่ะ ที่ยังสะกดตรึงสองขาให้ไม่กล้าผละกระจายในทันที

เสียงเนื้อโดนบาดเฉือนด้วยแส้คมพร้อมกับเลือดกรีดกระจายเป็นฝอยยิ่งสร้างความครั่นคร้ามหนักหน่วง องครักษ์ประเดหน้าหงายตัวแอ่นเพราะเจ็บจริง ซ้ำยังแผดร้องลั่นลานประลอง

แม้จะกุมดาบคู่ใจไว้แน่น แต่มือใหญ่ก็เริ่มสั่น ยิ่งได้เห็นแม่นางผู้เกรียงไกรสาดทอประกายดุร้ายลึกออกมาจากดวงตาเรียวทรงอำนาจ ก็ยิ่งขวัญกระเจิง

พระครูลาพุชน้ำตาซึมเพราะสงสารหน่อเนื้อที่ค่อยๆ ทรุดลง ร่างกำยำไม่เคยทรุดฮวบให้เห็นเช่นนั้นมาก่อน เคยออกรบทำศึกขยายดินแดนเคียงบ่าเคียงไหล่แม่นางน้อยมาหลายต่อหลายครั้ง

แน่นอน บาดแผลจากการศึกมันก็ต้องมีหลีกหนีไม่พ้น แต่ก็ไม่เคยล้มประหนึ่งคนตายเช่นนั้น อยากเข้าไปประคอง แต่ไม่สะดวกว่าแม่นางเจ้าฟ้ากำลังอาละวาด

ท่านยังเห็นปลายแส้ฟาดแผ่นหลังหน่อเนื้อเต็มแรง เลือดข้นกรีดกระจายเป็นวงกว้าง หากแต่สีของเลือดกลับดำคล้ำประหนึ่งเจือพิษร้าย

เจ้าฟ้าธุวชินก็หน้าแห้งเจื่อน เป็นเพราะมองข้ามความเกรียงไกรดั่งคำเล่าลือนั่นเอง เจ้าฟ้าเขยจึงดูแคลนปรามาสฝีมือแม่นางเจ้าฟ้า คิดตามประสาชายว่าเก่งยังไงก็แค่แม่นางคนหนึ่ง หุ่นหรือก็อรชรอ้อนแอ้น หากประชาชนจะยอมก้มหัวศิโรราบ ก็น่าจะมาจากบารมีเจ้าฟ้าจ่างที่ตกทอดถึงเสียมากกว่า

หากแต่ยามนี้ เห็นเต็มสองตาหวั่นแล้ว แม่นางเคลื่อนไหวกระฉับกระเฉง และดูออกเลยว่าเชี่ยวชาญการรบยิ่ง องครักษ์ประเดอาจดับสูญในเงื้อมมือเดือดดาล แม้ไม่อยากปะทะโดยตรง แต่ก็จำเป็นต้องออกหน้าช่วยเหลือกันก่อน

ดังนั้น ลานประลองจึงคึกคักเข้มข้นด้วยว่าเจ้าฟ้าคู่ครองเผชิญหน้าในระยะประชิด แม่นางกณิการ์แยกเท้ายืนหยัดในท่วงท่าพร้อมจู่โจมหรือตอบโต้ สองมือกระชับแส้อ่อนมั่นคง

หากเจ้าฟ้าสามีคิดออกหน้าปกป้ององครักษ์แห่งตน ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องแตกหัก ไม่ใช่ว่าเข้าข้างองครักษ์ศมะ แต่เพื่อกำราบคนเลวไม่ให้กำแหงในคามดารกะที่แม่นางปกครองมาอย่างสงบและร่มเย็น

"น้องจะกำราบคนเลว เจ้าพี่กรุณาอย่าขวางภารกิจ เชิญให้หลบไปด้านข้างก่อน"

"องครักษ์ประเดเป็นองครักษ์คู่ใจเจ้าพี่ หากเจ้าน้องประสงค์เช่นนั้น ก็ต้องกล่าวถึงโทษให้ชัดเจนก่อน"

พอสิ้นคำเท่านั้นแหละ แม่นางเจ้าฟ้าก็พลันเดือดดาลหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีก กิตติศัพท์ความดุร้ายมันไม่ใช่แค่คำเล่าอ้าง เพราะที่ลือกันไปเพียงว่าสะท้อนภาพที่เห็นกับตาแท้จริง ยามนี้ ก็ให้เจ้าฟ้าแห่งธุมาธารได้ประจักษ์สักครั้งเถอะ

ลมร้อนที่วูบฉวัดเฉวียนเหนือศีรษะ บังคับให้เจ้าฟ้าธุวชินต้องแหงนหงายโดยอัตโนมัติ ใจหายวาบเมื่อเห็นร่างแม่นางกณิการ์ลอยผ่าน แล้วแก้วหูก็พลันก้องอื้อด้วยเสียงตวาดกร้าวดุดันปะปนกับเสียงฟาดหนักหน่วงของปลายแส้

องครักษ์ประเดมีอันเกลือกกลิ้งไปบนลานอย่างเจ็บปวด แขนข้างหนึ่งเกิดแผลฉกรรจ์เหวอะ เลือดชโลมย้อมจนแดงฉาน เจ้าฟ้าต่างคามแทบไม่ได้ปกป้องอะไรเลยนอกจากเบิกตาโพลงตะลึงงันไปกับฤทธิ์ร้ายของแม่นาง

"คามดารกะเราไม่เคยอบรมประชาชนให้เป็นคนเลว องครักษ์นักรบแห่งคามทุกคนต่างมีจิตใจนักรบครบถ้วน ไม่ลอบทำร้ายลับหลัง ไม่มากอุบายยามประมือ แต่เจ้ากลับเผยสันดานหยาบแห่งคามตนมาระรานประชาชนแห่งคามเรา"

"แม่นาง ได้โปรดฟังเราก่อน เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำไมแม่นางเอนเอียงเช่นนี้ องครักษ์นักรบของแม่นางฝีมืออ่อนด้อย ทุกสายตาในที่นี้ก็เห็นเป็นประจักษ์ แต่ โอ๊ย"

ไม่ทันกล่าวกลิ้งกลอกจบความ แม่นางก็ปราดมาตบฉาดซ้ายขวา จิกผมแล้วลากมาโยนเบื้องหน้าเจ้าฟ้าสามี ตวัดแส้คู่บารมีเกรี้ยวกราด เสียงเนื้อถูกกรีดมันดังน่าขนลุกไม่ได้น้อยหน้าเสียงกรีดร้องโหยหวนขององครักษ์ใจหยาบ อกใหญ่เกิดแผลฉกรรจ์อีกแผลแล้ว

"ทุกสายตาในที่นี้ก็เห็นเป็นประจักษ์ว่าเจ้าไม่มีฝีมือเอาเสียเลย ทุกท่วงท่าที่เจ้าใช้ มันเหมาะจะฝึกเล่นในลานฝึกลานประลองเฉยๆ ลองว่าให้เจ้าออกรบ อ้อ ให้เราทายเอาไหมเจ้า ว่าเจ้าไม่เคยออกรบแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากสั่งการในกระโจมอย่างวางก้ามในฐานะองครักษ์คู่ใจเจ้าฟ้าธุวิชนใช่ไหมเจ้า"

"เจ้าน้อง ได้โปรดอย่ากล่าวดูหมิ่น.. "

"ถามว่าใช่ไหมเจ้า" แม่นางไม่แยแสวาจาไม่พอใจของเจ้าฟ้าสามี ยังคงตวาดเกรี้ยวกราดปนดุร้ายเค้นคำตอบต่อไป "เราแม่นางเจ้าฟ้าถามอยู่ จงตอบออกมาดังๆ ตอบ"

"จะ.. เจ้า.. เจ้าข้า"

แม่นางโกรธจัดนักหนา ฝ่ายโน้นตอบตะกุกตะกักตามบัญชา แต่แม่นางกลับตวัดมือตบไปสองฉาด เลือดกบปากยังพอว่า บางส่วนยังกระเซ็นเปรอะแก้มเจ้าฟ้าสามีอีก

"เจ้าลอบกัดอะไรองครักษ์ศมะ"

อ้อ ไม่เพียงอ้ำอึ้ง แต่ยังส่งสายตาไปประสานพิรุธกับเจ้าฟ้าเจ้าชีวิตด้วยหรือ ในเมื่อถามด้วยปากแล้วไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร แม่นางจะถามด้วยมีดสั้นคู่ใจก็แล้วกัน มันซ่อนอยู่ในผ้าคาดเอวนี่เอง แม่นางดึงฉับแล้วปักฉึกลงต้นแขน

ท่วงท่าและน้ำหนักบอกชัดว่าไม่ออมแรงปรานี จึงไม่ผิดปกติเลยถ้าองครักษ์ประเดจะแผดร้องลั่น ร่างกำยำกระตุกกึกๆ ก่อนจะดิ้นพล่าน และยิ่งดิ้นพล่านก็ยิ่งเจ็บ เพราะแม่นางยังตามติดไปกรีดลากอย่างไม่ลดละ จากแผลทิ่มแทงก็กลายเป็นแผลกรีดเป็นทางยาว

"เราไม่ต้องการคำตอบของเจ้าเลย" แม่นางเค้นเสียงเย็นเยียบ "แค่ว่าเหลือหนทางและโอกาสให้เจ้าได้กลับเนื้อกลับตัว แต่ดูท่าว่าเจ้ากำลังเมินจิตไมตรีที่เราหยิบยื่น"

พอสิ้นคำกร้าวเย็นเยียบ มีดสั้นลงอาคมก็ถูกดึงกลับแล้วตวัดจ่อลำคอใหญ่ แต่เจ้าฟ้าธุวชินคงไม่ยอม ร่างสง่าจึงปราดไปปัดพร้อมกับยื่นมือหมายตบหน้าขัดขวาง

แต่ก็อย่าหมายว่าการเคลื่อนไหวเพียงเท่านั้นจะทัดทานฤทธิ์เดือดดาลของแม่นางได้ แล้วก็อย่าได้ทะนงตนว่าเป็นเจ้าฟ้าสามีแล้วแม่นางจะยำเกรงไว้หน้า

เสียง 'ทึบ' ดังไม่หนักหน่วงนัก แต่ทุกคนในบริเวณนั้นก็เห็นหมดว่าเจ้าฟ้าธุวชินโดนแม่นางเจ้าฟ้าถีบยอดอกพร้อมกับพลิ้วตัวลอยคว้างขึ้นไปบนอากาศก่อนจะคล้อยลงหมุนกายเหวี่ยงแส้ไปพันรอบคอองครักษ์ประเด ตั้งใจกระชากให้กระดูกหักคอห้อย

หากแต่เจ้าฟ้าสามีก็ไม่วายยื้อด้วยมีดสั้นแก่กล้าอาคมเช่นกัน ปรากฏควันขาวขุ่นแตกกระจายดั่งมวลหมอกยามเช้าตรู่ ปลายแส้ก่อเกิดประกายแปลบแต่คมกริบ

มันดีดสะท้อนย้อนพุ่งเข้าหาตัวแม่นางที่หลบไม่ทัน หัวไหล่เจ็บหนึบขึ้น ร่างซวนเสียหลักให้เห็นเล็กน้อย เจ้าฟ้าธุวชินไม่รอให้ตั้งตัวก็รีบปราดมาพร้อมกับรวบแส้พันเกลียวกับท่อนแขน

"เราเสียหน้ามากแล้ว ที่ออมชอมอ่อนน้อมใช่ว่าเราจะยำเกรงแม่นางเจ้าฟ้านักหนา ศักดิ์แห่งเราคือเจ้าฟ้าสามี เขยแห่งคามดารกะ ไม่ใช่ประชาชนที่แม่นางจะบังอาจข่มบารมีให้หมองลงได้"

วาจาคุกรุ่นด้วยลำพองในศักดิ์ชายเกรี้ยวกราดขึ้น ฝ่ามือเงื้อง่าพรักพร้อมเมื่อร่างกำยำปราดถึงตัวว่องไว สายแส้ในท่อนแขนโดนกระตุกบังคับให้เจ้าของปลิวขยับเข้ามาในรัศมีกำราบ

หากเป็นแม่นางอ่อนด้อยในเชิงรบก็อาจเพลี่ยงพล้ำแก้มช้ำด้วยฝ่ามือนั้น แต่บังเอิญว่าแม่นางกณิการ์กรำศึกอย่างอาจหาญมาแต่วัยเยาว์ ร้อยพันคมดาบกระบี่ก็เหวี่ยงไหวหลบหลีกได้คล่องแคล่วนักหนา ประสาอะไรกับแค่หนึ่งฝ่ามือที่ไม่เคยอยู่ในสายตา

ดังนั้น ทันทีที่ร่างประชิดถึงและฝ่ามือเหวี่ยงต่ำลงสู่เป้าหมาย แม่นางเจ้าฟ้าก็พลันเอนกายหงายหลัง จังหวะม้วนตลบเท่ากับบังคับให้ร่างกำยำไถลตามมา พอย่างเหยียบพื้น มีดสั้นก็ตวัดกรีดอาภรณ์แถวหน้าท้องขาดวิ่น

แม่นางไม่ตอบโต้เพียงเท่านั้นหรอก ยังหมุนเกลียวเหวี่ยงศอกแหลมคมกระแทกยอดอกใหญ่ และหมุนเกลียวซ้ำอีกรอบเพื่อผลักดันแรงดีดจากปลายเท้าเข้ากระทบปลายคางบึกบึน

ฝ่ายตรงข้ามเจ็บร้าวจนหลุดเสียงร้อง 'โอ๊ะ' พร้อมกับร่างที่เซสะบัดรุนแรง แม่นางจึงค่อยพลิ้วห่างไปแยกขากางแขนหยัดร่างมั่นคงและพร้อมจะตอบโต้ด้วยท่วงท่าต่อไป พลางร้องออมชอมเสียงกังวานออกไปว่า

"อย่าบังคับให้เราสองต้องแตกหักเลยเจ้าพี่ ยุติความดึงดันหน้าอายไว้เพียงเท่านี้เถอะ"

แม่นางไม่สนใจเลยว่าเจ้าฟ้าสามีจะตอบโต้ยังไง นอกจากปราดกลับไปประคององครักษ์ศมะด้วยความห่วงใย มีดสั้นคู่ใจลงอาคมขลังกรีดซ้ำบนแผ่นหลังที่ชโลมด้วยเลือดข้นดำ

เขาหมดสติแล้ว เหงื่อที่ผุดเม็ดเป้งทั่วหน้ามีสีแดงขุ่น ในทรวงแม่นางพลันพลุ่งพล่านด้วยแรงเดือดดาล ไม่นึกเลยว่าการออมชอมนอบน้อมขององครักษ์คนดีจะชักนำเภทภัยมาสู่

"เจ้าเข้มแข็งมาแต่วัยเยาว์ เรารู้จักเจ้าดี เราไม่เชื่อว่าเจ้าจะดับสูญสังเวยพิษชั่วเพียงเท่านี้"

น้ำตาคับแค้นรื้นขึ้น หากแต่ดวงตาเรียวที่แดงก่ำนั้นกลับแผ่รังสีอาฆาตดุร้ายนัก หากองครักษ์ในอ้อมแขนดับสูญลงจริง คามธุมาธารต้องได้เห็นดี แม่นางกณิการ์จะเปิดศึกก่อสงครามสร้างตำนานทวงแค้นให้คนรุ่นหลังได้ประจักษ์แล้วเล่าขานอย่างไม่รู้จบ

"ท่านศมะ ได้ยินเสียงเราไหม ลืมตาให้เราสบายใจสักเล็กน้อยเถอะ ท่านศมะ"

"แม่นางเจ้าข้า รีบพาเขากลับไปที่พักเถอะ เราจะดูอาการของเขาเอง"

พระครูลาพุชค่อยมีโอกาสแทรกเข้ามาหลังจากที่รีรอให้สองเจ้าฟ้าคู่ครองล่าถอยจากศึกโทสะ องครักษ์นักรบกลุ่มหนึ่งเข้ามาช่วยแบกร่างหมดสติออกจากลานประลอง

จังหวะนั้น แม่นางกณิการ์จึงค่อยทันเห็นว่าต้นแขนองครักษ์หนุ่มดำคล้ำคล้ายโดนไฟเผา จึงรีบปราดมาประชิด กรีดคมมีดสั้นลงเป็นแนวยาว เลือดดำก็พลันทะลักชโลมน่าขนลุกขนพอง

แม่นางเห็นอย่างนั้น ก็ไม่อาจสะกดกลั้นน้ำตาเคียดแค้น แจ่มแจ้งในทันทีว่าทำไมองครักษ์ศมะถึงได้หมดสติดั่งตาย เพราะเขาโดนลอบทำร้ายด้วยพิษอุบาทว์ถึงสองครั้งนี่เอง

"จงสำรวมและสงบความพลุ่งพล่านให้จงหนักเถอะแม่นาง อย่าให้เพียงหนึ่งชีวิตขององครักษ์ต่ำต้อยมาก่อความบุ่มบ่ามในอารมณ์จนเสียการณ์"

"ท่านไม่รู้จักนิสัยเราหรอกหรือพระครูลาพุช" แม่นางปรายตาร้อนดุร้ายพลางขัดขึ้นด้วยเสียงกร้าวเย็น "เราเป็นหน่อเนื้อเจ้าฟ้าจ่างผู้อารีก็จริง แต่เลือดในกายเราครึ่งหนึ่งเป็นของเจ้าฟ้าชายาแม่นางอชินีทายาทนักล่า พระครูท่านเคยเห็นแม่นางอชินียอมความให้กับความชั่วสักครั้งหรือไม่"

"แม่นางเจ้าข้า" พระครูใจหายควบคู่ไปกับยำเกรงลึก

"อย่ามาอบรมสั่งสอนเราในเวลาที่หน่อเนื้อแห่งท่านกำลังจะดับสูญ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราจะเอาผิดแก่ท่านที่ละเลยหน้าที่ ประวิงเวลากระทั่งความตายมาเยือนองครักษ์แห่งเรา"

"เจ้าข้า"

ยามบารมีแผ่พล่านด้วยไอร้อนแห่งโทสะ ใครก็อย่าหมายได้ทัดทานอารมณ์ของแม่นาง พระครูลาพุชจึงได้แต่รับคำแผ่วแล้วถอนใจกังวล

ยามเดินตามองครักษ์นักรบที่แบกร่างหน่อเนื้อกลับที่พัก ดั่งว่ามีบางอย่างดลใจให้เงยหน้าขึ้นจับท้องฟ้า แล้วฉับพลันก็สะดุ้งเฮือก ใจหน่วงหนืดพร้อมกับเย็นวาบประหลาดเมื่อสายตากระทบเข้ากับดาวอาสภที่เหิมเกริมมาปรากฏตอนกลางวัน

มันกำลังอวดแสงสีแดงเพลิงลี้ลับข่มขวัญ อีกทั้งสีแดงเพลิงนั้นก็เคลื่อนไหวอ้อยอิ่ง แลไปคล้ายดั่งเกลียวคลื่นแห่งเลือดสดที่พลิ้วส่ายอย่างมีชีวิตชีวากลางท้องทะเลมรณะผืนสยดสยอง




การประลองยุติลงอย่างไม่สวยงาม แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ต้องกลายเป็นประเด็นให้ประชาชนโจษขานกันไปตามกระแสความคิด

มันจะแตกแขนงต่อยอดไปไกลแค่ไหนก็ช่างมันเถอะ รู้เพียงว่าความชื่นชมศรัทธาในตัวเจ้าฟ้าเขยแห่งคามดารกะมีอันต้องหมองลงด้วยจุดด่างของความเคลือบแคลงเสียแล้ว

"เราคับแค้นใจยิ่ง"

เจ้าฟ้าธุวชินตบโต๊ะถีบเก้าอี้เกรี้ยวกราด แววตาดุร้ายฉายตัวตนภายใต้บุคลิกอ่อนโยนลุ่มลึกชัดเจน สาวใช้พากันหลีกหนีปลีกตัวไม่กล้าประสานรังสีอาฆาต

"แม่นางเจ้าฟ้าปฏิบัติต่อสามีเช่นนี้เองหรือ น่าโมโหจริงๆ เราเจ้าฟ้าธุวชินเป็นถึงหน่อเนื้อแห่งคามธุมาธาร แม้ไม่เกรียงไกรลือลั่นเท่าคามดารกะ แต่ก็มีประชาชนหนาแน่นเป็นปึกแผ่นไม่น้อยหน้า สมควรต้องยกย่องให้เกียรติบ้าง"

จบความอันเร่าร้อนด้วยไฟโทสะแล้ว ร่างกำยำก็พลันลุกปัดกวาดข้าวของด้วยกิริยาอาละวาด แม้แต่ม่านมุ้ง เจ้าฟ้าผู้เดือดดาลก็ฉีกทึ้งเกรี้ยวกราดนัก

"เราจะไม่ยอมจบเพื่อพยุงความเสียหน้าให้ราศีหมองตลอดไปเช่นนี้หรอก แม่นางกณิการ์ต้องหันหน้ามาเจรจากับเราให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว"

องครักษ์ประเดนั่งพิงแท่นหินประดับแจกันกระเบื้องเคลือบรูปทรงกลมแบน ดอกไม้สดหลากสีแข่งกันเบ่งบานและกระจายกลิ่นหอมอ่อนๆ

บาดแผลฉกรรจ์ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากองครักษ์นักรบคามเดียวกัน แต่ความระบมเจ็บปวดกลับทวีความหนักหน่วง กระทั่งไม่อาจเอ่ยวาจาใดๆ นอกจากฟังด้วยกิริยาอ่อนเพลีย

"เจ้ายังไหวอยู่ใช่ไหมท่านประเด"

"ไหวเจ้าข้า แต่ก็อดตะลึงใจกับฝีมือห้าวหาญของแม่นางเจ้าฟ้าไม่ได้ มิน่าเล่า.. "

"จงหยุดชื่นชมแม่นางต่อหน้าเราเจ้าฟ้าสามี เราไม่ต้องการฟัง"

องครักษ์ประเดกลืนน้ำลายครั่นคร้าม ตั้งแต่ถูกคัดเลือกให้เข้ารับตำแหน่งองครักษ์คู่ใจ ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในทุกภารกิจ ก็เพิ่งจะคราวนี้แหละที่ได้เห็นพระเพลิงพวยพุ่งอยู่ในทุกอณูกายกำยำ แต่ก็สมควรแล้ว ในเมื่อแม่นางกณิการ์องอาจฝีมือกล้าเสียขนาดนั้น

เขาจำได้ติดตากับภาพที่แม่นางกำราบเจ้าฟ้าสามีอย่างไม่ไว้หน้า แต่ก็รับรู้ได้ถึงพลังที่ยังปลดปล่อยออกมาเพียงเสี้ยวส่วน ใช่ มันเป็นเพียงเสี้ยวส่วนของทั้งหมด ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะอานุภาพมหาศาลแค่ไหน

แต่ก็ช่างไปก่อนเถอะ คิดแค่ตรงนี้ก็พอ ลำพังเพียงเสี้ยวส่วนยังเพลี่ยงพล้ำอับอายประชาชนทั่วลานเสียปานนั้น แล้วประสาอะไรจะไปคิดให้ไกล เพื่อให้จิตเสียวสยองเล่นเล่า

"บอกเรามา เจ้าองครักษ์ศมะดับสูญแน่ใช่ไหม"

ความคิดในสมองที่พองฟูด้วยคลื่นระบมหยุดไหลด้วยคำถามเจ้าฟ้าหนุ่ม องครักษ์ประเดรีบพยักหน้าตาปรือปรอยคล้ายง่วงเต็มที แต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงย้ำอย่างยโสเจือกระหยิ่มว่า

"พิษแห่งคามธุมาธารเป็นยอดพิษที่คามไกลใกล้พรั่นพรึงยิ่งไม่ใช่หรือเจ้าข้า ลำพังแค่ลูกดอกเดียวก็ไม่รอดอยู่แล้ว นี่มันโดนถึงสองลูกดอกเชียวเจ้าข้า"

"ใช่ ท่านศมะโดนถึงสองลูกดอกเชียว"

เจ้าฟ้าองครักษ์ต่างคามสะดุ้งพร้อมเพรียงด้วยเสียงทรงอำนาจของแม่นางกณิการ์ ร่างระหงก้าวปราดๆ มา ไม่พูดใดๆ อีก นอกจากตวัดปลายเท้าเตะเปรี้ยงเข้าปลายคางองครักษ์จิตชั่วและปากโสมม

"แม่นางกณิการ์" เจ้าฟ้าธุวชินเดือดดาลเกินกว่าจะข่มใจเรียกหาเป็นเจ้าน้อง

"เราขอแจ้ง" แม่นางกณิการ์ก็หันขวับประสานตาดุร้ายไม่ยำเกรง "หากท่านศมะแห่งเรามีอันเป็นไปด้วยสองลูกดอกอุบาทว์แห่งคามธุมาธาร เราแม่นางเจ้าฟ้าแห่งคามดารกะจะประกาศสงคราม"

สองชายพากันสะดุ้งเฮือกด้วยเสียงอันกร้าวก้อง การประกาศสงครามคือพลังหายนะที่ทุกคามไม่เต็มใจปะทะด้วย ถ้าเลี่ยงได้อย่างถึงที่สุดก็ต้องเลี่ยง บางคามยังต้องยอมเฉือนดินแดนไปบางส่วนเพื่อรักษาส่วนใหญ่ บ้างก็ใช้วิธีเชื่อมไมตรีผ่านหน่อเนื้อ

คามธุมาธารก็ไม่ต่างจากคามอื่น จำเป็นต้องปกป้องดินแดนให้เป็นอิสระ ไม่ต้องถูกรวบเข้าไปกลืนเป็นหนึ่งกับคามอื่น แม้ไม่เป็นทาสแต่ก็ไม่ปลาบปลื้มกับการถูกกลืนกินถิ่นเกิด

องครักษ์ประเดน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดสุดแสน รู้สึกเหมือนว่ากรามสั่นปนร้าว ยามนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับปาก ได้แต่ทนกล้ำกลืนรสเฝื่อนปนคาวของเลือดสดไว้อย่างอดสู อ้อ แต่ก็ยังไม่วายขอแก้ตัวกลิ้งกลอกด้วยเสียงแหบแห้ง

"แม่นาง"

"เจ้าไม่ต้องแก้ตัวใดๆ เราได้ยินทั้งหมด" แม่นางเจ้าฟ้าขัดด้วยเสียงชิงชัง "หรือถ้าไม่ได้ยินในยามนี้ ตอนอยู่ในลานประลอง เราก็พบเห็นอุบายหยาบด้วยตาเราเองแล้ว ไม่อย่างนั้น มีหรือที่เราจะกระโจนลงไปหักหน้าท่านศมะแห่งเรา"

"มันเป็นแค่องครักษ์นักรบต่ำต้อย" เจ้าฟ้าสามีสอดเสียง "เจ้าน้องต้องลดตัวลงปกป้องออกหน้าให้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ"

"ท่านศมะไม่เคยต่ำต้อยในคามดารกะ เจ้าพี่จงฟังให้ดี พระครูลาพุชคือโหรผู้รอบรู้ ในวัยหนุ่มคือองครักษ์นักรบที่ร่วมกรำศึกขยายดินแดนเคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าพ่อไม่เคยห่าง"

"ใช่ เรื่องนั้นเจ้าพี่ก็พอรู้"

"แล้วรู้อีกหรือไม่ว่าพระครูท่านยังออกหน้าเชื่อมความสัมพันธ์ให้เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ได้สมมาดในรัก"

"เรื่องนี้.. "

"เจ้าพี่รู้ยิ่งกว่านั้นไหมเล่าว่าท่านตาแห่งหมู่บ้านนักล่าไม่เต็มใจยกเจ้าแม่ขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าฟ้าชายา ถ้าไม่ใช่เพราะฝีปากคมคายของพระครู มีหรือวันนี้จะมีเจ้าพี่จงอร จะมีเราแม่นางกณิการ์"

"เจ้าน้อง คือเจ้าพี่.. "

"ในสายตาเจ้าพ่อ พระครูลาพุชคือมิตรที่ล้ำค่า เช่นเราแม่นางกณิการ์ที่ถือท่านศมะเป็นได้ทุกสิ่งอย่างเพียงยกเว้นคู่ครองไว้หนึ่งตำแหน่งเท่านั้น ถ้าเขามีอันเป็นไป เราสองต้องสังเวยให้ชีวิตเขาด้วยการแตกหักและตัดสัมพันธ์ถาวร"

เจ้าฟ้าธุวชินสะดุ้งเฮือกอีกหน พลางรีบเมินหลบแสงตาแข็งกระด้างปนดุร้าย แม่นางกณิการ์ในยามโทสะเป็นเจ้าช่างน่าสะพรึงกลัวดั่งนางพญาแห่งดินแดนปีศาจ

ในแววตามีพลังลี้ลับบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก แต่สัมผัสได้ด้วยใจที่ครั่นคร้ามว่าพลังขุมนั้นสามารถคร่าชีวิตและทำลายดวงวิญญาณให้ดับสูญไปพร้อมกันได้ในทันที

ท่วงท่าห้าวหาญที่กำลังครองอยู่นั้นเล่า ก็ช่างองอาจเกินชายอกสามศอก อาภรณ์กระโปรงงดงามช่างไม่กลมกลืนกับบุคลิกอันมากบารมีเช่นนั้นเลย

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 16:16:03




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com