บทที่ 2 ไอ้โรคจิต .....................................................................
เช้าวันเสาร์ วันหยุดที่ใครหลายคนควรได้นอนตีพุงอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ใช่กับเขมินทร์ คนธุระเยอะเช่นเขาไม่เคยได้รู้จักว่าวันพักผ่อนมันแสนสุขเพียงใด อย่างเช่นวันนี้ เขาขับรถคู่ใจออกมาแต่เช้า เป้าหมายคือบ้านกฤตภาคหลังงามที่รอเขาไปออกแบบสวนสวยให้ตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของ จอดรถคู่ใจทิ้งไว้หน้ารั้วบ้านเรียบร้อย เขมินทร์ก็ลงจากรถพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ ครั้งก่อนมาเก็บข้อมูลภายนอกไว้พอสมควร วันนี้จะเก็บข้อมูลในตัวบ้านเพิ่มอีกสักหน่อย รวมทั้งคัดเลือกพันธุ์ไม้ ที่คิดว่าเหมาะสมกับสภาพดิน น้ำ และอากาศของบ้านกฤตภาค
เขมินทร์ใช้กุญแจสำรองที่ได้รับจากคุณมณฑาไขเปิดประตูเล็กข้างรั้วใหญ่ พอให้เดินเข้าเขตของบ้านได้อย่างสบาย แทนการกดออดเรียกเจ้าของบ้านตัวน้อยอีกคนที่คาดว่ายังหลับปุยอยู่บนเตียง คุณมณฑาย้ำกับเขาตอนที่มอบกุญแจบ้านทั้งพวงให้ ว่าวันหยุด ลูกสาวของนางจะหลับมาราธอนยาวไปถึงบ่าย บางอาทิตย์ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ก็หลับลืมวันลืมคืน ตื่นมาอีกทีก็ได้เวลาอาหารเย็น ได้ฟังแบบนั้นเขมินทร์ก็เกรงใจ ไม่กล้ารบกวนคนที่กำลังหลับอย่างมีความสุข
นักออกแบบสวนเดินเก็บรายละเอียดนอกบ้านอีกเล็กน้อย แล้วแหงนหน้าขึ้นมองระเบียงห้องแต่ละห้องที่คุณมณฑาระบุว่าอยากได้ไม้ดอกสวยๆ แขวนประดับบ้าง ไม่ก็ขอไม้ใบกระถางเล็กๆ ให้ระเบียงของแต่ละห้องมีสีสัน ไม่ใช่จืดชืดจนน่าเบื่อหน่าย เขมินทร์ยกกล้องถ่ายรูปเก็บภาพระเบียงห้องชั้นสองจากสนามข้างตัวบ้าน หยิบปากกาและสมุดขึ้นจดยึกยือลงไปว่าระเบียงหันหน้าไปทางทิศใด เพื่อคำนวณว่าแสงแดดจะเพียงพอหล่อเลี้ยงชีวิตของบรรดาต้นไม้ดอกไม้หรือไม่ เก็บรายละเอียดด้านนอกเรียบร้อยดี ก็ใช้กุญแจพวงเดิมไขเปิดประตูใหญ่เข้าบ้านกฤตภาค เพื่อเก็บรายละเอียดด้านในตัวบ้าน
เพราะได้รับอนุญาตอย่างเต็มที่จากคุณมณฑาผู้เป็นเจ้าของ เขมินทร์จึงรู้สึกโล่งใจและเดินสำรวจบ้านกฤตภาคไปทั่วทุกห้อง เพราะมีเลือดนักออกแบบอยู่ในตัว ก็อดไม่ได้ที่จะตินู้นชมนี่ไปตามประสา เห็นมุมไหนดีก็ว่าดี มุมไหนไม่ถูกใจก็พยายามคิดออกแบบว่าหากเป็นอย่างที่เขาคิดน่าจะดีมากกว่า สำรวจห้องชั้นล่างที่มีห้องรับแขก ห้องน้ำสองห้อง ห้องครัวใหญ่ ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเรียบร้อย เขมินทร์ก็เดินขึ้นบันไดไม้สักเงาไปยังชั้นสองของบ้าน ข้อมูลที่ทราบจากคุณมณฑาคือ ชั้นสองมีห้องนอนใหญ่ทั้งหมดสามห้อง ห้องทำงานของมณิการ์ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องมิตติ้งที่คุณมณฑาใช้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง และห้องเก็บของที่ส่วนใหญ่จะรกไปด้วยข้าวของที่คุณมณฑาหอบหิ้วมาจากต่างประเทศ ได้ทัวร์ที่ประเทศอะไร ก็ขนซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ มาประดับบ้านตัวเอง พอมากเข้า ก็ย้ายที่เก็บไปนอนกองกันอยู่ที่ห้องเก็บของอย่างไร้ค่า จนมณิการ์คิดสนุกอยากรื้อมาเปิดท้ายขายให้รู้แล้วรู้รอดไป
เขมินทร์เก็บข้อมูลแต่ละห้องนอนตามแผนที่ที่คุณมณฑาบอกไว้คร่าวๆ จนเกือบครบ จะเหลือก็แต่ห้องของมณิการ์ที่เขาไม่กล้าจะเข้าไปรบกวน แต่อีกใจก็บอกให้เขาละลาบละล้วง รีบเก็บข้อมูลที่ระเบียงห้องนอนของมณิการ์ให้เรียบร้อย จะได้วิเคราะห์เลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมเลยทีเดียว ไม่อยากให้คาราคาซัง และเขาไม่ชอบทำงานคั่งค้างเพราะรู้สึกไม่สบายใจยังไงชอบกล
เอาวะ ย่องให้เบาที่สุด คงไม่ทันได้ตื่นหรอก เขมินทร์ตัดสินใจกับตัวเองแล้วเลือกกุญแจดอกที่ใช่เสียบลงแล้วพยายามบิดอย่างเบามือ คุณมณฑาบอกอยู่เหมือนกันว่ามณิการ์ขี้เซา ลองได้หลับลึกไปแล้วก็ยากที่จะรู้สึกตัว แถมยังหงุดหงิดหัวเสีย หากถูกใครขัดจังหวะเวลานอน
หัวใจเขมินทร์เต้นตึกตักราวกับเขาต้องแฝงตัวเป็นแมวขโมย เข้าไปโจรกรรมในห้องของมณิการ์ ประตูถูกปลดล็อคพร้อมให้เขมินทร์บิดลูกบิดแต่เขายังสองจิตสองใจ
แล้วหากเขาตื่นขึ้นมาล่ะวะ จะไม่ซวยแย่เหรอ น่า
คงไม่ซวยขนาดนั้นหรอก คิดเองเออเองแล้วค่อยๆ บิดลูกบิด แง้มประตูให้เปิดออกเล็กน้อย แล้วแอบมองลอดผ่านช่องประตูที่แง้มไว้ เขมินทร์ไม่เห็นมณิการ์บนเตียงนอนก็รู้สึกโล่งใจ ได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำทำงาน ก็รู้ว่ามณิการ์กำลังอาบน้ำอย่างมีความสุข เพราะเธอฮัมเพลงคลอแข่งกับเสียงฝักบัวอย่างสบายอารมณ์ ไม่รอช้า รีบก้าวเข้าห้องของมณิการ์เดินเร็วไปที่ระเบียบ
เขมินทร์คิดว่า เขามีเวลาอีกสักพักในห้องนอนของนักออกแบบสาวที่บอกได้คำเดียวว่ามันดูหวานแหววขัดกับบุคลิกของมณิการ์อยู่เหมือนกัน ลวดลายบนผนังห้องคงเป็นฝีมือการรังสรรค์จากไอเดียบรรเจิดของมณิการ์เอง มันสวยจนอดไม่ได้ที่เขมินทร์จะกดบันทึกภาพไว้ ผนังหัวเตียงวาดลวดลายของตุ๊กตาหมีพิการ เขมินทร์เรียกแบบนั้น เพราะแต่ละตัวล้วนหัวโต ลำตัว แขน ขา เล็กไม่สมส่วน หน้าตาบ้องแบ๊วดูน่ารักน่าชัง เจ้าของไอเดียตุ๊กตาหมีพิการคงเป็นเจ้าหมีตัวปุยบนเตียงของมณิการ์แน่แท้ เพราะรูปร่างหน้าตา มิได้ผิดเพี้ยนไปจากจิตรกรรมบนฝาผนังนั่นเลยสักน้อย ย้ายจากผนังฝั่งเตียงนอนมายังมุมแต่งตัว ถูกรังสรรค์ให้เป็นดอกซากุระเมืองไทยหรือนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง กลมกลืนกับผนังห้องที่เป็นสีชมพูอ่อน สมแล้วที่เป็นนักออกแบบ ฝีมือขั้นเทพขนาดนี้ มณิการ์น่าจะรับวาดภาพตามผนังโบสถ์ควบคู่กับงานประจำไปด้วยจริงๆ
กรี๊ดดดดดดดด เสียงแสบแก้วหูดังลั่นห้อง เมื่อขาเรียวก้าวออกจากห้องน้ำกับสภาพที่ไม่สมควรจะมีใครได้เห็น เมื่ออยู่ลำพังในอาณาเขตส่วนตัว มณิการ์จะพันผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวปกปิดเรือนร่าง ไม่สวมชุดคลุมอาบน้ำเพราะมันเกะกะ และนี่คือห้องนอนของเธอ ไม่คิดว่าจะมีใครรุกล้ำเข้ามาอย่างเช่นตอนนี้
เฮ้ย! คุณ เขมินทร์ตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดเกือบเปลือย ตาคมของเขาเบิกกว้าง เสียมารยาทจ้องเรือนร่างของมณิการ์อย่างไม่สมควร เขมินทร์ไม่ได้ตั้งใจ แค่สัญชาตญาณลูกผู้ชายพาไป กว่าจะรู้ว่าเผลอทำสายตาลามกก็ถูกมณิการ์ตราหน้าให้แล้วเรียบร้อย
ไอ้โรคจิต! เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ มณิการ์ยกสองมือปิดเนื้อหนัง ปากยังไม่วายด่าตะเพิดคนโรคจิตที่ยืนขาแข็งไม่เขยื้อน
ฉันบอกให้ออกไปยังไงเล่า ไอ้คนโรคจิต ออกไปเดี๋ยวนี้นะ
มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณมณิการ์ เห็นมณิการ์หน้าเสียและเข้าใจเจตนาของเขาผิด ก็ก้าวเท้าเข้าไปใกล้หวังจะอธิบาย แต่หวังดีกลับกลายเป็นหวังร้ายไปเสียอย่างนั้น ทันทีที่เขาขยับเข้าหา มณิการ์รีบร้อนถอยหนีอย่างหวาดหวั่น เท้าเธอยังชื้น พื้นยังเปียก ไม่แปลกเลยที่การเคลื่อนไหวรวดเร็วจะทำให้มณิการ์ลื้นเสียหลัก
คุณ! เขมินทร์ร้องตกใจแล้วพุ่งตัวรับร่างที่กำลังจะหงายหลัง สองแขนรัดเอวขอดดึงมณิการ์เข้าแนบแผงอกกำยำได้ทันเวลา ลำแขนแข็งแรงสัมผัสผิวเนียนนุ่มนิ่ม กลิ่นแชมพูและครีมอาบน้ำโชยแตะปลายจมูกกระตุ้นให้หัวใจชายหนุ่มเต้นแรง ผู้หญิงในอ้อมแขนเขายังหลับตาปี๋ จมูกและแก้มแดงเป็นธรรมชาติ เขมินทร์ไม่ยอมปล่อยมณิการ์ให้เป็นอิสระแม้เธอจะทรงตัวยืนได้ดี กระทั่งได้ยินเสียงแสบแก้วหูหวีดขึ้นอีกครั้ง
กรี๊ดดด ลืมตาขึ้นแล้วเห็นหน้าคมของเขมินทร์อยู่ใกล้แค่คืบ มณิการ์ก็กรี๊ดลั่น ความคิดด้านลบว่าเขาลวนลามทำให้อาการแพ้คนหล่อกระเจิงหายไปสิ้น ปฏิกิริยาที่แสดงออกต่อเขายามนี้ต่างกันลิบกับครั้งแรกที่ได้พบกัน หญิงสาวรีบดันตัวเองออกจากอ้อมแขนที่รัดไว้แน่น มือหนึ่งจับปมผ้าเช็ดตัวเพราะกลัวหลุด ส่วนอีกมือชี้หน้าด่าคนโรคจิตไม่ยั้ง
ไอ้คนไร้มารยาท โรคจิต บ้ากาม ไอ้พวกชอบฉวยโอกาส ไอ้ๆๆๆ ไอ้หื่น ออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ
ฟังผมก่อนคุณมณิการ์ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแบบนั้น ผมมาทำงาน
โกหก ฉันไม่เชื่อนายหรอก ทำงานบ้างานบออะไรของนาย นายเข้ามาในห้องนอนของฉัน และฉันมั่นใจว่าไม่ได้ลืมล็อคห้อง ประตูบ้าน ประตูรั้ว ห้องครัวห้องน้ำ ฉันล็อคหมด บอกมาเดี๋ยวนี้นะ นายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติกันอีกแล้ว ถึงจะหน้าตาท่าทางดีก็เถอะ แต่นิสัยแย่แบบนี้ก็เกินรับไหว เขมินทร์ไม่ตอบแต่ยกกุญแจบ้านทั้งพวงขึ้นโชว์ มณิการ์ตาโตจ้องพวงกุญแจสำรองในมือใหญ่นั้นตาเขม็ง
นั่นมันกุญแจบ้านฉันนี่ นายไปเอามาจากไหน
แม่คุณให้ผมไว้ แล้วผมไม่ได้คิดเข้ามาทำไม่ดีไม่ร้ายคุณ ผมมาเก็บข้อมูลที่ระเบียงห้องคุณ แต่โอเค ยอมรับว่าผมผิดที่ถือวิสาสะเข้าห้องคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต ผมขอโทษแล้วกันนะครับ
ฟังคำของเขมินทร์ก็เกือบจะปรี๊ดแตก โกรธผู้เป็นแม่จนควันออกหู แม่ไว้ใจคนแปลกตา ถึงขั้นยกกุญแจบ้านทั้งพวงให้เขาไปได้หน้าตาเฉย เอ๊ะ หรือหมอนี่โกหก เป็นไปไม่ได้ แม่ไม่มีวันให้พวงกุญแจสำรองกับนายหรอก บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่านายเอาพวงกุญแจมาจากที่ไหน ขโมยมาใช่มั้ย
โธ่ คุณมณิการ์ครับ หากคุณไม่เชื่อ โทรถามแม่คุณดูก็ได้นะครับ ผมไม่ได้โกหก และผมขอโทษ ผมจะออกจากห้องคุณเดี๋ยวนี้ล่ะ เขมินทร์ยอมยกธงขาว ไม่รอให้มณิการ์อ้าปากด่าเขาต่อ รีบชิ่งเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เจ้าของห้องยืนอึ้งอยู่นานหลายนาที ก่อนสติจะกลับมา รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ลากชุดคลุมมาสวม แล้วกระแทกเท้าไปคว้าโทรศัพท์บนที่นอนต่อสายถึงมารดาอันเป็นที่รัก ................................................................................................................................
แม่ แม่ทำแบบนี้ได้ไงคะ แม่รู้มั้ยว่าวันนี้มัชต้องเจอกับอะไรบ้าง ทำไมแม่ถึงทำอะไรไม่ปรึกษามัชเลยสักคำ นักออกแบบสวนมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ทำไมถึงจ้างคนโรคจิตมาออกแบบสวนบ้านเราคะ ปลายสายกดรับไม่ทันได้เอ่ยอะไรสักคำ มณิการ์ก็แว้ดเสียงใสใส่เป็นชุดแบบไม่หยุดหายใจ มัช คือชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิด และเธอใช้กับคนในครอบครัว ตัวเล็ก คือชื่อที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันกำเนิดขึ้นมาจากไหน แต่ในหมู่เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ที่ทำงาน ก็พากันเรียกขานแบบนี้ทุกคน จนมันกลายเป็นอีกชื่อหนึ่งของเธอมานับสิบปี ใจเย็นๆ ยัยมัช นี่เกิดอะไรขึ้น ไปกินรังแตนที่ไหนมาเรา แล้วอะไร ใครโรคจิต ไหนอธิบายช้าๆ ชัดๆ อีกทีซิ มณฑาพยายามให้สติลูกสาว ฟังจากน้ำเสียงรู้ได้ทันทีว่ามณิการ์กำลังโมโหจัดจนควันออกหู
ก็นายนักออกแบบสวนของแม่ไงคะ เขานิสัยแย่มาก ไร้มารยาท ถือวิสาะสะเข้ามาให้ห้องนอนของมัช หากมัชกำลังนอนหลับอยู่ ป่านนี้ไม่โดนลักหลับไปแล้วเหรอคะ เลิกจ้างค่ะแม่ เดี๋ยวมัชหาคนมาทำงานแทนหมอนั่นเอง โรคจิตแบบนี้ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ
เพ้อเจ้อไปแล้วยัยมัช พ่อเขมเขาไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้นสักหน่อย แม่รู้จักเขาดี เขาไม่ได้แย่แล้วก็จิตทรามอย่างที่ลูกคิดหรอก ต่อให้นอนแก้ผ้าไม่รู้เนื้อรู้ตัว แม่ก็เชื่อว่าพ่อเขมเขาไม่ลวมลามมัช
แม่! นี่แม่เข้าข้างคนอื่นมากกว่าลูกตัวเองเหรอคะ มณิการ์ร้องลั่น ที่แม่พูดนั่น หมายถึงตาเขมของแม่นิสัยดี หรือเธอมันไร้ความเร้าใจ จนผู้ชายไม่แลกันแน่ แม่นะแม่ ทำกันได้ลงคอ
แม่ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่แม่พูดไปตามจริง แม่ยืนยันได้นะมัช ว่าพ่อเขมไม่ใช่คนนิสัยแย่แบบนั้น ลูกกำลังเข้าใจเขาผิด
มัชไม่ได้เข้าใจผิด นอกจากหมอนั่นจะเข้าห้องมัชโดยไม่ได้รับอนุญาต เขายังขโมยกุญแจสำรองแล้วอ้างว่าแม่ให้เขาเอาไว้อีก แบบนี้แม่จะว่ายังไงคะ
ก็แม่ให้เขาไว้จริงๆ นี่นา น้ำเสียงของแม่ดูไม่ทุกข์ร้อนผิดกับลูกสาวที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แทบตะคอกใส่ผู้เป็นแม่อย่างลืมตัว
แม่! นี่แม่อย่าบอกนะ ว่าแม่เอากุญแจสำรองทั้งพวงให้คนแปลกหน้า ทำไมถึงไว้ใจหมอนั่นมากขนาดนี้คะ เขาแค่รับจ้างออกแบบสวนให้เรานะคะ หากเขาแอบเอากุญแจบ้านเราไปปั๊มแล้วพาพวกมายกเค้าบ้านเราทั้งหลัง จะทำยังไงกันคะ โอ๊ยยย มัชอยากจะบ้าตาย จู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้ มาเดินเพ่นพ่านเข้าออกบ้านเราได้สบายใจเฉิบ แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เคยมีประวัติอาชญากรรมบ้างรึเปล่า แต่แม่กลับไว้ใจเขาเนี่ยนะคะ มณิการ์ยีหัวจนผมยุ่งไปหมด หากคนที่สนทนาด้วยในขณะนี้ไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิด เธอคงไม่ยุติการเทศนาสั่งสอนลงง่ายๆ คิดแล้วโมโหนัก โกรธแม่ที่ทำอะไรโดยพละการ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเขมินทร์ร่ายมนต์อะไร แม่เธอถึงไว้ใจและปกป้องเขานัก หรือหมอนั่นจะเล่นของ!
คิดเยอะไปแล้วยัยมัช พ่อเขมน่ะ เป็นหลานชายของเพื่อนสนิทแม่ หากเขาพาพวกมายกเค้าบ้านเราจริงๆ แม่ก็ไปไล่บี้ให้เพื่อนแม่รับผิดชอบ แต่เพราะแม่รู้จักพ่อเขมมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก ไม่ใช่เพิ่งจะเคยเห็นหน้าคร่าตากันเสียหน่อย แม่ไว้ใจหลานเพื่อนสนิท ไม่ได้รึไงฮึ มณฑารู้จักกับเขมินทร์มาตั้งแต่เขายังเด็ก แวะไปหาเพื่อนสนิททีไรก็เจอเขมินทร์อยู่บ่อยๆ เคยพูดคุยกันอยู่บ้าง รู้จักนิสัยใจคอกันบ้าง ได้ฟังจากเพื่อนเล่าบ้างก็รู้ได้ว่าเขมินทร์เป็นคนยังไง แรกทีเดียวที่คิดอยากออกแบบสวนให้บ้านกฤตภาค ก็ได้แม่เพื่อนสนิทนั่นแหละแนะนำหลานชายให้มาช่วยและคิดราคาไม่แพง ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน นางเองก็อยากสนับสนุนเขมินทร์ เพราะเห็นว่ารับทำเป็นงานเสริม ก็อยากให้หลานของเพื่อนมีรายได้พิเศษ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป แต่เพราะไม่ได้บอกรายละเอียดให้มณิการ์รู้ วันนี้ก็เลยเกิดเรื่องเกิดราว
แต่แม่ไม่เคยบอกมัชเลยสักคำ มัชจะรู้กับแม่มั้ยคะ ว่าหมอนั่นเป็นใครมาจากไหน นึกว่าแม่หลงคารม หลงความหล่อของหมอนั่นซะอีก ถึงยกกุญแจบ้านให้เขาทั้งพวงแบบนั้น
ดูพูดเข้ายัยมัช แม่ไม่ใช่พวกบ้าคนหล่อเหมือนเรานะ และไม่ใช่แค่กุญแจบ้านหรอก แม่คิดจะยกมัชให้พ่อเขมเขาด้วยรู้รึเปล่า มณฑาแหย่ลูกสาวเล่น และมันได้ผล เพราะมณิการ์บ่นยาวต่ออีกเป็นกระบุงอย่างแสนโกรธ
แม่! เลิกคิดพิเรนทร์แบบนั้นเลยนะคะ มัชไม่เอาด้วยหรอก มีอย่างที่ไหน ยกลูกสาวตัวเองให้ผู้ชายโรคจิต นี่แม่ไม่รักมัชเลยรึไง เรื่องอื่นมัชยอมแม่ได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องหัวใจ มัชขอค่ะ มัชหาของมัชเองได้ แม่ไม่ต้องจัดสรรค์ให้มัชหรอกค่ะ อารมณ์ยังเดือดปุดๆ มณิการ์ไม่มีกะจิตกะใจจะคิดอะไรกับใคร โดยเฉพาะกับเขมินทร์ เริ่มไม่ชอบใจตรงที่แม่เธอคอยถือท้าย โอ๋เอาใจเสียยิ่งกว่าลูกในไส้ ทำอะไรก็ไม่ผิดไปเสียหมด
งั้นก็พิสูจน์ซิว่ามัชหาเองได้ แม่รอดูหน้าลูกเขยมานานแล้วนะ ก็ไม่เห็นมัชจะพาผู้ชายเข้าบ้านสักคน จำไว้เลยนะมัช หากแม่ทนรอมัชหาเองไม่ไหว แม่จะหาลูกเขยด้วยตัวของแม่เอง มณฑาหยอกเล่นไปตามประสาแต่ในใจก็แอบคิดตาม แหย่ลูกสาวขี้โวยวายมันก็สนุกดีพิลึก
นี่แม่พูดจริงหรือพูดเล่นคะ เรื่องตาเขมอะไรนั่น มณิการ์เริ่มใจสั่นเพราะน้ำเสียงของแม่ดูจริงจังพิกล แม่วางแผนหนีไปเที่ยวเกาหลีเป็นเดือนๆ แถมยังว่าจ้างนายเขมินทร์มาออกแบบสวนที่บ้าน หรือแม่ต้องการจะยกเธอให้เขาจริงๆ
พูดจริงซิ แม่ยกเราให้พ่อเขมไปแล้ว
แม่!
ล้อเล่นน่า แม่แค่ฝากให้พ่อเขมช่วยดูแลมัชจนกว่าแม่จะกลับ ในฐานะที่เขาแก่กว่าลูกถึงสี่ปี ดังนั้น พ่อเขมมีสิทธิ์ดูแลมัชในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง และเขาสามารถเข้าออกบ้านเราได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจากมัชเพื่อทำงานของเขาให้ลุล่วง
ได้ไงกันคะ
นี่แม่ทำเพื่อมัชนะลูก ลองคิดดูซิ มัชออกไปทำงาน แต่พ่อเขมต้องมาออกแบบสวนที่บ้านเรา ยังไงเขาก็ต้องมีกุญแจสำรอง เพราะมัชคอยอยู่ต้อนรับเขาไม่ได้ วันหยุดมัชก็นอนตื่นสายเพราะอยากพักผ่อน หากต้องลุกมาเปิดประตูให้พ่อเขมแต่เช้า ก็จะเสียเวลานอน เสียสุขภาพจิต และที่สำคัญ เสียอารมณ์ แม่ไม่อยากให้มัชลำบาก แม่ถึงตัดปัญหาให้กุญแจบ้านเขาไว้ชั่วคราว เข้าใจหรือยังยัยเด็กโง่ของแม่ พูดจบก็หัวเราะคิก เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของลูกสาวเฮือกใหญ่ เพราะต้องเลี้ยงดูมณิการ์มาลำพังตั้งแต่สามีจากไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว จึงสนิทสนมกับลูกสาวเป็นพิเศษ พูดคุยกันบางครั้งก็เหมือนพี่เหมือนน้อง เหมือนเพื่อนที่รู้ใจกัน แจ่มแจ้งแล้วค่ะ แต่ขอสักเรื่องนะคะแม่ ไม่ต้องให้ใครมาดูแลมัช มัชดูแลตัวเองได้ ฟังคำอธิบายของมารดามณิการ์ก็เถียงไม่ออก ที่แม่พูดก็จริงทุกคำ วันหยุดคือวันแห่งความสุขที่มณิการ์รอคอย หากไม่มีงานเร่งด่วนต้องรีบตื่นขึ้นมาสะสาง เธอจะนอนยาวให้อิ่มหนำสำราญ และรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งหากถูกขัดเวลานอน
แม่รู้ว่ามัชเก่ง แต่หากมัชมีปัญหาอะไร น้ำไม่ไหล ไฟดับ แอร์ไม่เย็น มัชก็ปรึกษาพี่เขาได้ เพราะถึงยังไงเขาก็ทำงานที่บ้านเราอยู่แล้ว อีกอย่าง มัชจะได้ไม่เหงานะลูก ลึกๆ ก็ห่วงลูกสาว จึงฝากฝังมณิการ์ไว้กับเขมินทร์ มิใช่ให้เขมินทร์คอยดูแลมณิการ์ตลอดเวลา หากแต่ยามที่มณิการ์เดือดร้อน ก็อยากขอน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากเขมินทร์แวะเวียนมาช่วยเหลือลูกสาวบ้าง ไหนๆ ก็ต้องทำงานให้กับกฤตภาคอีกนานนับเดือน
ค่ะๆๆๆๆ เข้าใจแล้วค่ะ แค่นี้นะคะแม่ มัชยังมีเรื่องที่ต้องสะสางอีกเยอะ มณิการ์ตัดบทแล้วกดวางโทรศัพท์ ปากบอกว่าเข้าอกเข้าใจ แต่อย่าหวังว่าคนอย่างมณิการ์จะยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ บ้านนี้เป็นของเธอ เธอเป็นเจ้าของ มีสิทธ์ออกคำสั่งกับคนนอกอย่างเขมินทร์เต็มตัว เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอและทรัพย์สินของบ้านกฤตภาค จึงไม่จำเป็นที่จะเชื่อฟังคำสั่งของมารดา สิ่งไหนไม่ถูกไม่ควรก็ต้องจัดระบบระเบียบเสียใหม่
ฉันขอกุญแจบ้านคืน แต่งตัวรวดเร็วด้วยความไวแสง เพราะใจร้อนอยากสะสางปัญหาคาอก มณิการ์เดินหน้าบึ้งมาหาเขมินทร์ที่กำลังวุ่นวายกับการวาดผังแบบด้วยวิธีโบราณ คือวาดลงสมุดแทนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ได้ไงคุณ หากไม่มีกุญแจ แล้วผมจะเข้ามาทำงานของผมได้ยังไง
แต่ฉันไม่ไว้ใจนาย เอากุญแจบ้านมาให้ฉัน มณิการ์ยื่นมือไปรอรับแต่เขมินทร์ยังยึกยักไม่ยอมโดยง่าย
แต่แม่คุณให้ผมไว้ใช้ ท่านอนุญาตแล้วนะคุณ
แต่นี่มันฉัน! ไม่ใช่แม่ฉัน ฉันไม่อนุญาตให้นายเข้านอกออกในบ้านฉันตามใจนายแบบนี้เด็ดขาด
แล้วผมจะทำงานได้ยังไง หากแม่คุณกลับมา สวนยังไม่เป็นรูปเป็นร่างตามที่แม่คุณต้องการ คนที่จะโดนด่าคือผมนะ ไม่ใช่คุณ เขมินทร์พยายามอ้างเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นบ้าง และดูเหมือนมณิการ์ก็เริ่มจะฟังเขาบ้างแล้วเช่นกัน
ก็มาทำวันที่ฉันอยู่บ้าน หรือตอนเย็นหลังฉันเลิกงาน
โหคุณ ใจคอจะไม่ให้ผมพักผ่อนเลยรึไง ให้ผมรอคุณเลิกงานไม่ไหวหรอก ทำสวนนะคุณ ไม่ใช่ส่องกบ จะได้ทำกันตอนกลางคืน หากจะให้ผมทำงานแค่วันหยุด ผมก็รอให้คุณตื่นไม่ไหวหรอกนะครับ นอนขี้เซาซะขนาดนั้น นี่ผมถามจริงเถอะนะ แม่คุณเล่าว่าคุณสามารถนอนต่อเนื่องกันยาวข้ามวัน มันเป็นเรื่องจริงรึเปล่า
นี่! นายไม่มีสิทธิ์มาวิพากวิจารณ์การนอนของฉันนะ ฉันจะนอนยาวข้ามวัน ข้ามสองวัน มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนายเลย มณิการ์โต้กลับไปรวดเร็ว หมอนี่เป็นญาติกับรชัชต์หรือไงนะ ปากคมเสียจริง จิกกัดเธอจนจะไม่เหลืออะไรดีอยู่แล้ว ไม่รู้แสร้งถามหรือหลอกด่ากันแน่ว่านอนกินบ้านกินเมือง
เกี่ยวซิคุณ ผมต้องทำงานทำการนะ หากคุณนอนข้ามวัน ข้ามสองวัน ใครจะเปิดประตูให้ผมเล่า เขมินทร์ยังสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกับมณิการ์ ยัยตุ๊กตาแสนน่ารักที่ได้พบกันในวันแรกหายไปไหนเสียแล้ว วันนี้เห็นแต่ยักษ์ขมูขีตัวน้อย หน้าบูดบึ้ง แต่มันก็น่ารักน่ามองไปอีกแบบ จะยังไงก็ช่าง เอากุญแจบ้านคืนมาให้ฉันก่อน มณิการ์ยังไม่ยอมแพ้ เธอยื่นมือบางไปค้างไว้กลางอากาศ ใช้ตาดุๆ จ้องจนเขมินทร์ยอมล้วงพวงกุญแจออกจากกระเป๋าแล้วส่งคืนให้ เหนื่อยที่จะเถียงกับแม่สาวตัวเล็กที่ดูท่าจะโมโหเขาเอามากๆ เพราะโกรธจนหน้าแดงเป็นหย่อมๆ โดยเฉพาะสองแก้ม มันน่าจับหยิกซะให้เข็ด อายุก็น้อยกว่าเขาตั้งหลายปี ทำท่าทำทางก๋ากั่นเอาเรื่องเสียจริง หากงานไม่เสร็จ ผมจะบอกแม่คุณ ว่าคุณยึดกุญแจผมไป เขมินทร์บ่นอุบแล้วค้อนผู้หญิงที่ขยับมือยุกยิกกับพวงกุญแจที่เขาเพิ่งส่งคืนให้
เอ้า พอใจรึยัง มณิการ์ยัดกุญแจสีเงินสองดอกที่ติดสติ๊กเกอร์ว่าประตูรั้วใส่มือเขมินทร์ เก็บกุญแจที่เหลืออีกนับยี่สิบดอกใส่กระเป๋า แล้วสะบัดผมสั้นเดินกลับเข้าบ้านด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่น เดินไปก็บ่นแม่ไป บ่นเขมินทร์ไป ขยับปากไปตลอดทางอย่างกับหมีกินผึ้งก็ไม่ปาน
แม่นะแม่ หนีไปเที่ยวสบายใจเฉิบ แต่ทิ้งตาบ้านั่นไว้ให้มัช ไม่อยากให้มัชเหงาก็คงจะสมใจแม่แล้วล่ะ เพราะมัชปวดหัวกับหมอนั่นมาก ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้ เถียงคำไม่ตกฟาก อย่าคิดว่าหน้าตาดี มีแม่ถือท้าย แล้วฉันจะเคลิ้มไปกับนายง่ายๆ นะ ฝันไปเถอะ
มณิการ์หนีหน้าเขมินทร์แล้วขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง พยายามจะนอนให้หลับอีกสักงีบแต่ไม่อาจข่มตาลงได้เกินนาที วันนี้เป็นวันหยุดที่เธอตื่นเช้าเพราะครั้นเนื้อครั้นตัวอยากอาบน้ำ ตั้งใจว่าอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยจะออกไปหามื้อเช้ายัดลงกระเพาะ พออิ่มก็กลับมานอนต่อเอาแรง บ่ายๆ ค่อยลุกมาคิดแบบเครื่องประดับชิ้นใหม่ที่ทำค้างเอาไว้ สุดท้ายทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผนเพราะเขมินทร์คนเดียว ตอนนี้เธอไม่หิวอะไรเลย สมองมันรังแต่จะคิดถึงคนที่นั่งร่างแบบที่ศาลาไม้บนสนามข้างบ้าน หลับตาลงหน้าคมของเขมินทร์ตอนที่เขาโอบประคองเธอแน่นก็แว้บมาหลอกหลอน มณิการ์คว้าหมอนมาปิดหน้าสลัดศีรษะไปมา สั่งให้ลืมเสีย เธอไม่ควรฟุ้งซ่านคิดถึงผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะผู้ชายไร้มารยาทอย่างเขมินทร์ ที่ไม่มีอะไรดีเลิศ เทียบกันไม่ได้เลยกับพ่อเทพบุตรสุดหล่อในฝัน ใช่แล้ว! เธอควรคิดถึงคืนวันวาเลนไทน์อันแสนสุข ไม่ใช่เช้าวันหยุดที่แสนวุ่นวายกับผู้ชายนิสัยแย่ๆ
.......................................................................................................
มาตามลุ้นกันนะคะ ว่าพ่อเขมกับหนูตัวเล็ก เขาจะลงเอยกันได้จริงๆเหรอ ดูท่าหนูตัวเล็กของเราจะไม่ถูกชะตากับเขมินทร์เสียแล้ว
จากคุณ |
:
บ้านสายไหม
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 55 08:52:23
|
|
|
|