 |
บทที่ ๒๐
เคมิน! โฆษกจากสหภาพแห่งชาติวายัณ! หลานชายนายพลคนดังของวายัณ!
เป็นคำซุบซิบที่สะท้อนไปมาในหมู่ผู้เข้าประชุมที่สนใจที่มาที่ไปของชายหนุ่มผู้เป็นตัวแทนจากกลุ่มปกครองตนเองในพม่าที่โลกทั้งประณามและให้ความสนใจ การปรากฏกายของเคมินในภาพลักษณ์ชายหนุ่มมาดเนี้ยบทำให้ผู้เข้าประชุมหลายคนคาดไม่ถึงและตกตะลึงไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาภาพพจน์ของวายัณคือชนกลุ่มน้อยชายขอบพม่าและเป็นมาเฟียใหญ่ในขบวนการค้ายาเสพติดแห่งสามเหลี่ยมทองคำ คือพวกนอกกฎหมายที่ทั้งโลกชิงชัง แต่วินาทีนี้..เคมินทำให้ทุกคนต้องเอ่ยชื่อสหภาพแห่งชาติวายัณด้วยความรู้สึกใหม่
วายัณส่งคนหนุ่มรุ่นใหม่ท่าทางดีขนาดนี้เป็นตัวแทนในการประชุมนานาชาติเชียวเหรอ?
แม้อราลีเองจะเคยคุ้นกับเคมินมาเป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ แต่การได้พบกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการในที่ประชุมที่ต่างคนต่างสวมสถานะตามตำแหน่งตนเองก็ทำให้เธอมองเขาแปลกไปจากเดิม ชายหนุ่มยังคงเป็นคนเดิมที่เธอเคยเห็นแน่ แต่สิ่งที่แผกไปจากเดิมคือท่วงท่าและมาดของ นายน้อยแห่งปางแก้ว ที่ดูจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน เขาก้าวเข้ามาในห้องประชุมอย่างไม่ขัดเขินต่อสายตานับสิบนับร้อยที่จ้องมองเขาอย่างสนใจ
และก็อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่.. ตำแหน่งที่องค์กรอราลีนั่งอยู่นั้นอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับเคมินและผู้เป็นประธานการประชุมพอดี พอร่างสูงในแจ้กเก็ตสูทดำนั่งลงประจำที่ หญิงสาวก็รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสายตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และถ้าไม่ได้คิดไปเอง เธอคิดว่าเคมินกำลังคลี่ยิ้มให้เธอน้อยๆ เช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้จับจ้องอย่างโจ่งแจ้ง อาจด้วยบรรยากาศของงานที่ไม่เอื้ออำนวยให้ทั้งคู่ได้สื่อสารกันทางสายตาเท่าไร
ชายชาวตะวันตกที่ดำรงตำแหน่งค่อนข้างสูงในองค์กรสหประชาชาติที่ว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมเป็นผู้เริ่มต้นเปิดงานในครั้งนี้ เขาก้าวขึ้นไปยังโพเดี้ยมและกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับความสำคัญของความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้น
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผมมีความยินดีมากที่พวกเรามีโอกาสมาร่วมหารือกันในครั้งนี้ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่เราจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ถูกโลกตะวันตกขนานนามว่าเป็นกลุ่มชนอันตรายที่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ถูกเอ่ยชื่อถึงมากที่สุดในสามเหลี่ยมทองคำเวลามีการหยิบยกเรื่องยาบ้าหรือเฮโรอีนมาถกเถียง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคำร่ำลือจากภายนอก ทว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมบอกได้เลยว่า.. นี่คือกลุ่มคนที่ถูกละเลยมากที่สุด และจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ นั่นเองทุกท่านจึงถูกเชิญมาในวันนี้
บุรุษผู้มีนามว่าอัลเฟร็ดเอ่ยขึ้นอย่างมีจังหวะจะโคนและเกลี่ยสายตามองรอบห้องอย่างทั่วถึง ทุกคนรับฟังเขานิ่ง
วันนี้ที่เราต้องหยิบยกเรื่องแผนการปราบปรามยาเสพติดและการพัฒนาในเขตปกครองพิเศษวายัณ เพราะนี่คือสิ่งที่ควรทำควบคู่กันเพื่อเข้าถึงแหล่งต้นตอของปัญหายาเสพติดระดับโลก ปัญหาของวายัณไม่ใช่เพียงปัญหาเล็กๆ ในระดับท้องถิ่น แต่เป็นปัญหาที่กระทบถึงโลกในวงกว้าง และเราต้องการผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเพื่อมาระดมความคิด เพื่อจะแก้ปัญหาอันซับซ้อนนี้ด้วยกัน
จากนั้น บุรุษสูงวัยผู้มีตำแหน่งในองค์กรระดับโลกก็เอ่ยถึงความสำคัญของปัญหาที่จะต้องแก้ไข เนื่องจากยุทธศาสตร์เดิมของการแก้ปัญหายาเสพติดในดินแดนวายัณมีเพียงการพยายามปรามปราบดักจับยาเสพติด แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเพราะเมื่อทลายแหล่งผลิตยาในเขตวายัณ โรงงานก็ย้ายไปที่แห่งใหม่ที่ไกลจากเขตปกครอง นอกจากนี้ ชีวิตคนรากหญ้าวายัณที่เคยพึ่งพาการปลูกฝิ่นก็ต้องได้รับการแก้ไข พวกเขาต้องการความรู้ในการปลูกพืชทดแทน ต้องการสุขอนามัยที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็หาได้ยากในท้องที่ชนบทอันกันดารของวายัณ
หน่วยงานสหประชาชาติที่ว่าด้วยยาเสพติดเพียงอย่างเดียวยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาทั้งปวง.. จำต้องใช้การพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและล้าหลังของคนรากหญ้าเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อที่พวกเขาจะเลิกปลูกฝิ่นถาวร
และในวันนี้ ถือเป็นโอกาสดีมากเพราะเป็นครั้งแรกของการประชุมแผนแม่บทโครงการพัฒนาในวายัณ และก็เป็นครั้งแรกที่เราได้รับเกียรติจากตัวแทนสหภาพแห่งชาติวายัณมาร่วมพูดคุยกันในครั้งนี้ เอาล่ะ.. ผมว่าทุกท่านคงอยากพบกับเขาแล้วเพราะดูท่าพวกท่านจะสนใจ แขกพิเศษ ของงานนี้ไม่น้อย และเขาก็พร้อมจะให้คำอธิบายทุกท่านหลังจากนี้ด้วย ผมขอมอบพื้นที่ตรงนี้ให้แก่.. เคมิน โฆษกพิเศษของสหภาพแห่งชาติวายัณ
คราวนี้ ชายหนุ่มผู้ถูกเอ่ยชื่อปรายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยท่วงท่าเหมือนราชสีห์ อราลีซึ่งคุ้นเคยกับเคมินดีรู้ว่านี่คือมาดประจำของนายน้อยที่กำกับดูแลผู้คนมากมายในปางแก้วของเขา แต่สำหรับหลายคนในที่ประชุมแห่งนั้น บุคลิกลักษณะของเคมินทำให้บางคนยังเบิกตากว้างไม่หายเลยทีเดียว
ขอบคุณมากครับ อัลเฟร็ด ขอบคุณทุกท่าน..ที่ให้โอกาสผมได้ขึ้นมาพูดตรงนี้ ให้ผมได้พูดในฐานะตัวแทนจากวายัณ ชนกลุ่มน้อยในพม่าที่พวกท่านอาจไม่เคยพบเห็นด้วยสายตาตัวเอง แต่ผมเชื่อว่า.. พวกท่านคงได้ยินชื่อเสียงเรามาบ้าง แม้ว่าจะเป็นชื่อเสียงในทางลบก็ตาม
ภาษาอังกฤษที่อยู่ในระดับค่อนข้างดีของเขาทำให้หลายคนนิ่งฟังอย่างสนใจ ชายหนุ่มเองก็ดูจะควบคุมจังหวะจะโคนตัวเองได้ดีพอสมควรในการเอ่ยสุนทรพจน์ครั้งนี้
ผมไม่ปฏิเสธกับชื่อเสียงร้ายๆ ที่โลกภายนอกมอบให้วายัณ เพราะดินแดนของเราเป็นพื้นที่ห่างไกลที่เคยถูกตัดขาดจากการรับรู้ของผู้คน คนของเราเคยพึ่งพาการปลูกฝิ่นเพื่อยังชีพเพราะพื้นที่หลายแห่งของเราไม่อุดมสมบูรณ์พอจะปลูกพืชอย่างอื่น สมัยก่อนฝิ่นคือพืชสามัญสำหรับการเยียวยารักษา แต่ต่อมา..ฝิ่นถูกนำไปผ่านกรรมวิธีกลายเป็นยาเสพติดที่มีอานุภาพรุนแรง เป็นสินค้าทำเงินมากมายให้แก๊งค์ค้ายาเสพติดในโลกอิทธิพลมืด นั่นเองทำให้เราได้รับรู้ว่า.. ฝิ่นนำมาซึ่งความเศร้าโศกต่อเราในที่สุด
ทั้งห้องประชุมนิ่งเงียบอย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อชายหนุ่มผู้เป็นตัวแทนจากวายัณปรายสายตาคมของเขาไปรอบห้อง
ผมมาที่แห่งนี้ ไม่ได้เพื่อจะบอกทุกท่านว่าเรายังคงผลิตฝิ่น เรารู้เช่นเดียวกับที่พวกท่านรู้ว่าการเลิกผลิตฝิ่นเป็นสิ่งจำเป็นต่อสังคมโลก ในขณะที่หลายคนอาจคิดว่าเรายังคงปลูกฝิ่นและค้ายาเป็นล่ำเป็นสัน แต่ผมอยากจะขอชี้แจงว่าในขณะนี้.. สหภาพแห่งชาติวายัณมีมติออกมาแล้วถึงแผนระยะยาวในการขจัดยาเสพติดจากเขตปกครองของเรา คือแผน Drug Source Free Zone ซึ่งเราวางแผนไว้สำหรับสิบห้าปี และในขณะนี้ เราอยู่ในระยะที่หนึ่ง
คำอภิปรายอันชัดเจนเรื่องแผนขจัดยาเสพติด ทำให้หลายคนเลิกคิ้วอย่างสนใจ
เราแบ่งแผนระยะยาวนี้เป็นสามระยะ ระยะละห้าปี ระยะแรกคือการเริ่มต้นประกาศการเลิกปลูกฝิ่นในพื้นที่ชั้นในที่เราสามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ มีการกำหนดโทษชัดเจนหากมีผู้ใดฝ่าฝืนหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด ต่อจากนั้น แต่ละระยะเราจะขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และเพิ่มความช่วยเหลือทางการเกษตรให้แก่ชาววายัณที่เคยพึ่งพาการปลูกฝิ่น ในขณะเดียวกันเราก็จะเพิ่มความเข้มข้นในการลงโทษหากมีผู้ใดฝ่าฝืน
อราลีฟังแล้วก็หวนนึกไปถึงวันที่เขาเคยพาเธอไปดูทุ่งดอกฝิ่น.. ห้าปีที่เขาว่าคือระยะแรกในการเริ่มต้นนี่เอง!
แต่กระนั้น ผมก็ต้องยอมรับว่าเราพบอุปสรรคและปัญหานานาประการ ทุกท่านคงจะทราบ ดินแดนแถบสามเหลี่ยมทองคำนั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้งของชนกลุ่มต่างๆ อีกทั้งเราต้องยอมรับว่ามีผู้มีอิทธิพลมากมายในละแวกนี้ที่ไม่ต้องการให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นผลสำเร็จ วายัณอาจจะแก้ปัญหาได้อย่างหนึ่งในเขตแดนของเรา แต่มันก็กลับนำมาสู่อีกปัญหาหนึ่ง และสิ่งนี้อาจหนักหนาเกินกว่าที่เราจะรับมือได้ นั่นคือระหว่างที่เราเตรียมแผนเลิกการปลูกฝิ่นนั้น ปัญหายาเสพติดอีกรูปแบบหนึ่งเช่น ยาบ้า ก็ทวีความรุนแรงเข้ามาแทนที่
เคมินยังคงควบคุมทั้งห้องประชุมได้ด้วยน้ำเสียงทุ้มมีจังหวะและท่วงท่าแสดงความจริงจังของเขา
ก่อนอื่นหลายท่านคงสงสัยในประเด็นยาเสพติด ผมก็ขออธิบายก่อนเรื่องปัญหาหลักสองส่วนคือ ฝิ่น ที่นำไปสกัดเป็นสารเสพติดที่อันตรายจำพวกมอร์ฟินและเฮโรอีน และปัญหาใหม่ที่เราเผชิญคือโรงงานผลิตยาบ้าหรือ ATS amphetamine-type stimulants ยาจำพวกแอมเฟตามีน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศโดยเฉพาะในไทย ผมอยากให้ทุกท่านมองให้ชัดว่าสองปัญหานี้มีความต่างกัน ดังเช่นรายงานของ UNODC ที่บอกไว้ว่า แก่นแท้ของฝิ่นคือปัญหาความยากจน แต่ต้นตอของยาบ้าคือความโลภ *
ยาบ้าไม่เหมือนสิ่งเสพติดจากฝิ่น ยาเสพติดจากฝิ่นนั้นขึ้นกับสภาพดินฟ้าอากาศและเกี่ยวข้องกับเกษตรกรยากจนที่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง แต่ยาบ้าเกิดจากกลุ่มนายทุนที่มีเงินและอำนาจโดยตรง ยาบ้าผลิตได้ทุกที่ด้วยการสังเคราะห์ของสารเคมีหัวเชื้อเท่านั้น โรงงานจึงสร้างขึ้นได้ง่ายๆ สารเคมีหัวเชื้อก็ไม่ได้ผลิตในเขตวายัณเหมือนฝิ่น แต่เป็นการนำเข้าจากภายนอก สิ่งที่พวกเขาต้องการคือพื้นที่ปลอดอำนาจรัฐในการผลิตยา สำหรับเขตปกครองพิเศษวายัณแล้วยาบ้าก็เป็นสารอันตรายอย่างหนึ่งที่เราต้องการกำจัด แต่ข้อจำกัดของเราก็คือ.. เขตของเราเป็นเพียงเขตเล็กๆ และเราไม่มีอำนาจนอกเหนือพื้นที่เรา
สายตาของชายหนุ่มทอดมองผู้คนในห้องประชุมราวจะขอความร่วมมือ
ผมจึงมาที่นี่ เพื่อจะบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายว่า ขณะนี้..พวกเรากำลังเจออุปสรรคครั้งใหญ่ในแผนการขจัดยาเสพติดของพวกเรา เพราะขณะที่เราพยายามช่วยให้คนของเราเลิกปลูกฝิ่นและหันไปปลูกพืชทดแทนอย่างอื่น นอกจากเราเจอปัญหาในด้านเกษตรที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือแล้ว เรายังเจอกับปัญหาการทะลักเข้ามาของโรงงานผลิตยาบ้าที่ระบาดไปทั่วชายแดนพม่า โดยเฉพาะละแวกสามเหลี่ยมทองคำ ในขณะที่เราเป็นเพียงชนกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจมากพอจะต่อสู้กับอิทธิพลมืดเหล่านั้น แต่เราก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นวงจรเลวร้ายนี้ให้จงได้
เราต้องการให้พวกท่านรับรู้ความตั้งใจของเราที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป แม้มันอาจเป็นการยากที่ชาวบ้านในวายัณจะเลิกผลิตฝิ่น แต่เราก็พร้อมจะพยายามอย่างที่สุดในเมื่อนี่คือผลประโยชน์ของเราเองและผลประโยชน์ของทั้งโลก และพร้อมจะร่วมมือกับทุกท่านในการแก้ไขปัญหานี้ ชาววายัณก็คือคนธรรมดาที่ต้องการการพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน ที่ผ่านมาเราตระหนักดีว่าชาววายัณได้ตกเป็นทาสของขบวนการยาเสพติดมานานพอแล้ว และถึงเวลาแล้วที่เราจะปลดแอกตนเองจากการเป็นทาส เราต้องการชีวิตที่ดีขึ้น.. ชีวิตที่ปราศจากยาเสพติด..
คำปราศรัยของเขาทำให้หลายคนในห้องแทบลืมหายใจ ทว่าถ้อยคำสุดท้ายของเขาคือคำร้องขออันบริสุทธิ์ใจ
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย ที่ผ่านมาโลกภายนอกเคยมองเราอย่างไม่เป็นมิตรเพราะเราถือฝิ่นอยู่ในมือ แต่ตอนนี้..เราอยากแจ้งแก่สังคมโลกว่าเรากำลังจะโยนฝิ่นนั้นทิ้งแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องการคือความเชื่อมั่นและความร่วมมือจากพวกท่าน จริงอยู่ที่เราเคยตกเป็นทาสการค้าฝิ่น.. แต่ตอนนี้เราต้องการอิสรภาพ และเราตระหนักดีว่าเราไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง เราก็เหมือนคนติดยาที่ต้องการใครสักคนผลักดันให้เราก้าวพ้นจุดนี้ และพวกท่านคือปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะทำให้พวกเราก้าวพ้นทุกสิ่งได้
ในฐานะตัวแทนของชาววายัณ ผมขอให้ทุกท่านโปรดรับฟังและให้ความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ชาววายัณ โปรดยื่นมือช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากพันธนาการยาเสพติด โปรดเห็นใจอุปสรรคมากมายที่เราพบเจอ โปรดรับรู้ว่าพวกเรากำลังเผชิญกับอะไรบ้าง และที่สุดแล้ว.. โปรดช่วยให้วายัณไปถึงอิสรภาพนั้นสักที
ทันทีที่เคมินค้อมศีรษะเป็นการจบสุนทรพจน์ที่ตราตรึงผู้ฟังได้ทั้งห้องประชุม เสียงปรบมือก็ดังขึ้นกึกก้องเหมือนนี่คือคำปฏิญาณตนอันศักดิ์สิทธิ์ หลายคนในห้องประชุมยังคงอึ้งเหมือนได้รับฟังบางสิ่งที่ไม่คาดฝัน
เขาพูดได้ดีมาก! ไบบาหันมาเอ่ยกับหญิงสาว ซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากใครหลายคนในที่ประชุม อราลีเป็นคนหนึ่งที่ปรบมือให้เคมินอย่างเต็มใจยิ่ง
จากนั้น เคมินก็ดูจะถูกจับจ้องเป็นพิเศษของเหล่าสื่อมวลชนหลายชาติที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ เมื่อจบคำปราศรัยอันจับใจนั้นแล้วมีการเปิดโอกาสสำหรับการตั้งกระทู้ถาม ก็กลายเป็นว่ามีคนยกมือขึ้นเฝ้ารอถามเขากันพรึ่บพรั่บ แต่ชายหนุ่มตัวแทนวายัณก็ไม่มีท่าทีระย่อ
"ได้ยินว่าในอดีตชาววายัณเป็นพวกชอบล่าหัวมนุษย์? จริงหรือไม่? คำถามแรกออกแนวย้อนประวัติความเป็นมา แต่ก็เป็นคำถามที่ทุกคนฟังแล้วสนใจแต่ก็แอบขนลุกไม่ได้
เคมินคลี่ยิ้ม ก่อนจะอธิบายทีละขั้นอย่างใจเย็นว่า
"ขออธิบายว่าการล่าหัวมนุษย์ของวายัณ ถูกเอาไปพูดปากต่อปากจนเพี้ยน ล่าหัวในที่นี้คือการล่าหัวในยามรบ นักรบวายัณมีหน้าที่พิทักษ์หมู่บ้านตนเองหากศัตรูเข้ามาย่างกราย คนวายัณโบราณมีกฎว่ารบกับใครต้องฆ่าให้ตายโดยการตัดหัว..ไม่ต้องรอดชีวิตอย่างพิการ แต่ไม่ใช่ว่าใครผ่านมาก็ตัดหัวหมด อีกอย่างหนึ่งเผ่าเรามีหลายกลุ่ม กลุ่มที่ทำจริงจังก็มีเพียงไม่กี่กลุ่ม และเราก็ได้เลิกวิธีนี้ไปนานมากแล้วตั้งแต่ไม่มีภัยสู้รบแบบชนเผ่า แต่ก็ยอมรับว่า..วิธีแบบป่าเถื่อนนี้ออกจะกลายเป็นตำนานของวายัณ การขึ้นชื่อเรื่องล่าหัวดูจะทำให้คนกลัวเราไปเยอะ เราเองก็ได้อาศัยข่าวลือนี้ทำให้สงบสุขไปนาน"
"แต่ผมเคยอ่านประวัติช่วงล่าอาณานิคม เขาว่าวายัณพยายามล่าหัวคนอังกฤษ ทำให้เจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับวายัณ วายัณจึงไม่ถูกใครปกครอง" คนเดิมยังถามต่อ เคมินถอนใจเล็กน้อยเมื่อตอบว่า
"ผมคิดว่าในดินแดนห่างไกลอย่างนั้นใครจะทำอะไรก็คงไม่มีใครรู้ ทำไมไม่คิดว่าตอนนั้นจีนตอนใต้ไม่ต้องการให้อังกฤษเข้ามาย่างกราย การใช้ข่าวลือเรื่องนักรบล่าหัวของเผ่าเล็กๆ มาทำสงครามประสาท และอาจเป็นสิ่งที่ใช้ได้ผล อย่างน้อยการที่อังกฤษปล่อยวายัณในช่วงล่าอาณานิคม ทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับวายัณและพื้นที่แถบสามเหลี่ยมทองคำไปค่อนข้างนาน"
คำตอบของเขาทำให้ผู้ตั้งคำถามครุ่นคิดตาม ไม่ต่างจากหลายคนในห้องประชุม จากนั้นชายอีกคนหนึ่งจึงขอถามขึ้นว่า
ทำไมวายัณจึงเป็นเขตปกครองตนเองพิเศษ? วายัณต่างจากชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในพม่ามาก พวกคุณดูมีอำนาจมากกว่าใคร ทำไมคุณจึงบอกว่าพวกคุณไม่มีอำนาจในการต่อสู้กับยาเสพติด? คำถามตรงเป้านี้ยิงตรงมาจากสำนักข่าวตะวันตกแห่งหนึ่ง
ผมอยากบอกว่าเราเองก็เป็นชนกลุ่มน้อยพวกหนึ่งที่ได้รับการปฏิบัติไม่ต่างจากชนกลุ่มอื่น แต่เราได้รับโอกาสนี้เนื่องจากยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทางการคงไม่ต้องการเปิดศึกหลายทางกับชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในรัฐฉาน การเลือกให้พวกเรามีอิสระระดับหนึ่งก็เพื่อถ่วงดุลกับชนกลุ่มอื่น และบังเอิญว่าผู้นำของเราก็สามารถตกลงได้ว่าเราไม่ต้องการแยกตัวเองเป็นประเทศอิสระ เรารู้ว่าเราทำไม่ได้ เราเพียงต้องการอำนาจปกครองตนเองบ้างเท่านั้น และในส่วนของการต่อสู้กับยาเสพติด ผมบอกได้เลยว่ามาเฟียค้ายาคือกลุ่มติดอาวุธหนักที่มีแสนยานุภาพ เราอาจต่อกรกับพวกเขาได้..แต่ก็ไม่เต็มที่นัก
มาเฟียค้ายาที่คุณว่าคือใคร? วายัณเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อยใช่หรือไม่? นักข่าวคนเดิมยิงคำถามต่อ
ถ้าอย่างนั้นคุณตอบคำถามผมได้ไหมว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดในโลกนี้ มีคนชนชาติไหนไม่เกี่ยวข้องบ้าง? เคมินถามกลับด้วยสายตาคม ยาเสพติดจะออกจากสามเหลี่ยมทองคำไปถึงที่ต่างๆ ได้ เกิดจากเครือข่ายอิทธิพลมืดที่กว้างขวาง ผมไม่อาจปฏิเสธว่าอาจมีคนวายัณเกี่ยวข้องเพราะเราอยู่ใกล้กับต้นตอของปัญหาขนาดนั้น แต่ผมก็บอกได้เลยว่าวายัณเพียงลำพังไม่สามารถกระจายยาเสพติดได้ขนาดนี้ ถ้าประเทศไหนมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ก็ต้องมีคนในของที่นั่นร่วมมือด้วยเสมอ
คุณกำลังจะบอกว่านี่คือเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ?
ผมคิดว่าคุณน่าจะพอรู้อยู่แล้ว เคมินตอบขณะจ้องดวงตาอีกฝ่ายแบบไม่หวั่นเกรง โลกยุคนี้คือหมู่บ้านโลก ยุคโลกาภิวัตน์ เครือข่ายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่มานานแล้ว เพียงแต่ใครจะทำอะไรพวกเขาได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง
นักข่าวคนดังกล่าวพยักหน้าแบบคร่าวๆ ในขณะที่มีผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่งยกมือขึ้น เคมินพยักหน้าให้เขาเป็นการตอบรับ
ถ้าอย่างนั้น ผมขอถามในประเด็นเรื่องยาบ้า ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้สื่อข่าวเอเชียเอ่ยขึ้น ทางคุณบอกว่าพรรควายัณเองก็กำลังพยายามปราบปรามยาบ้า แต่เท่าที่รู้ ยาบ้ายี่ห้อดังที่เป็นที่รู้จักในตลาดมืดคือยาบ้าที่ปั้มตัวอักษร WY บนนั้น ซึ่งเชื่อกันว่าย่อมาจากคำว่า วายัณ ไม่ก็ วายัณยาบ้า คุณจะอธิบายอย่างไร?
เคมินยิ้มเย็นทีเดียวเมื่อเจอคำถามเช่นนี้
ถ้าอย่างนั้น ผมคิดว่าวายัณเราคงจะโง่มาก ที่เอาชื่อตัวเองไปติดหราอยู่บนยาเสพติดเพื่อให้พวกคุณรู้ว่าเราทำ
คำตอบสั้นของเขาทำเอาคนร้องฮือกันครึ่งห้อง
ถ้าอย่างนั้น เป็นฝีมือใคร ใครเป็นคนทำ?
ถ้าผมตอบคุณได้ ผมก็ควรนำคำตอบนี้ไปบอกหน่วยปราบปรามยาเสพติดด้วยจะดีกว่า เคมินตอบติดตลก อย่างที่ผมบอกคุณ ยาบ้าเกิดจากความโลภและมันก็ไร้สัญชาติ โรงงานยาบ้าสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกแห่ง ใครจะร่วมมือกันก็ได้ ขอเพียงสถานที่ที่พวกเขาผลิตได้อย่างสะดวกโยธิน แม้ผมจะอยู่ในวายัณ ผมอาจไม่รู้ก็ได้ว่าใครคนไหนกำลังผลิตยาอยู่บ้าง แต่ถ้าคนไหนที่ผมรู้ว่าเขากำลังทำผิดในเขตวายัณ ผมเล่นงานเขาแน่ แต่ถ้านอกเขตของเรา คุณคงรู้.. เราไม่มีอำนาจ และพ่อค้ายาเหล่านั้นก็อาศัยช่องโหว่นี้หลบหนีไปยังที่ที่พวกเราตามเขาไม่ได้
คราวนี้นักข่าวสาวใหญ่ชาวตะวันตกคนหนึ่งยกมือแล้วเอ่ยพรวดว่า
คุณกำลังจะบอกว่าวายัณกลายเป็นแพะรับบาปของขบวนการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำรึเปล่า?
ผมขอให้พวกคุณตัดสินใจเอง เพราะเราเองมีทั้งคนดีและไม่ดี..เหมือนคนทุกชาติ ชายหนุ่มส่ายหน้าอาดๆ ถึงขบวนการยาเสพติดจะเป็นเรื่องเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ แต่วายัณดูจะอยู่ใกล้แหล่งเกิดเหตุมากที่สุดและพวกเราก็ดูจะมีแรงจูงใจมากที่สุด จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เราทั้งหมดจะถูกมองเหมารวมว่าเป็นผู้ร้ายค้ายา
งั้นแสดงว่าคุณไม่ปฏิเสธเรื่องมีการปลูกฝิ่นและผลิตยาเสพติดในพื้นที่วายัณ" ผู้ร่วมประชุมคนหนึ่งถามคลางแคลง
"ผมคงเปลี่ยนสีดำให้เป็นขาวสะอาดไม่ได้ เพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการปลูกฝิ่นในอดีต แต่สิ่งที่เรากำลังทำคือค่อยๆ ขจัดมันออกจากสังคมเรา แต่ก็รู้ว่าคุณคงทำใจให้เชื่อได้ยากถ้าจะบอกว่าการเสพยาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่เราด้วยซ้ำ และอยากให้ทราบว่าชาวบ้านเราทุกคนไม่ได้เป็นอาชญากร พวกเขาคือประชาชนตาดำๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ"
ท่าทางเคมินจะเนื้อหอมต่อไปไม่หยุด เพราะนักข่าวยังคงรุมทึ้งเขาด้วยสารพันคำถามต่อไป
ได้ยินว่าคุณตาของคุณ.. นายพลซอหม่องลู เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายปราบปรามยาเสพติดของวายัณมาก่อน? คำถามนี้ทำให้เคมินยิ้มกว้าง
ขอบคุณมากครับที่ให้ความสนใจกับประวัติและงานของคุณตาของผม ครับ..คุณตาของผมเคยทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของสหภาพแห่งชาติวายัณ ซึ่งคงเป็นตำแหน่งที่คุณไม่เชื่อว่าวายัณเราจะมีการต่อต้านยาเสพติดด้วย แต่..ผมบอกได้เลยว่าคุณตาผมได้ทำงานมาอย่างหนักเพื่อเขตปกครองวายัณ และนี่คือตำแหน่งที่ยากที่สุด เพราะเป็นการต่อต้านยาเสพติดจากใจกลางดินแดนที่เต็มไปด้วยเชื้อเพลิงของยาเสพติดทีเดียว
แล้วคุณคิดว่า วายัณจะทำได้หรือไม่? ในเมื่อคุณเองก็บอกว่าวายัณเต็มไปด้วยปัญหาอย่างนั้น?
เรายอมรับว่าการให้ชาววายัณเลิกปลูกฝิ่นเป็นสิ่งยาก การจะต่อกรกับเจ้าพ่อค้ายายิ่งยากกว่า แต่เราก็พร้อมจะพยายาม เพราะถ้าพวกเราไม่ลุกขึ้นมาขจัดยาเสพติดอย่างนี้..ผมเชื่อว่าโลกภายนอกก็คงไม่อาจแก้ปัญหายาเสพติดได้เช่นกัน เคมิเอ่ยต่อด้วยสายตาประกายกล้า ดังนั้นถ้าผมเปลี่ยนคำถามนี้ของคุณได้ ผมอยากเปลี่ยนจากการถามว่า วายัณเราคิดว่าจะทำได้หรือไม่ เป็นคำถามว่า พวกเราทุกคน จะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้มากกว่า
ทุกคำถามคำตอบของเคมินเหมือนคมมีดกรีดไปมาในห้วงความคิดผู้เข้าประชุม สิ่งที่หลายคนเริ่มตระหนักเหมือนกันคือ พวกเขาเริ่มรับรู้ข้อมูลเบื้องลึกอย่างที่ไม่เคยนึกเฉลียวใจมาก่อน และชายหนุ่มผู้นี้ได้นำพาเอาความจริงจากแง่มุมที่ไม่เคยมีใครมองเห็นมาสู่โลกภายนอก
เอาละครับทุกท่าน ก่อนจะมีคำถามมากไปกว่านี้ ผมว่าเราควรเข้าสู่การประชุมสักทีนะครับ อัลเฟร็ดเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นตัดบทเมื่อเห็นว่ากองทัพสื่อมวลชนและผู้สนใจอีกหลายคนยังคงมุ่งตรงไปที่เคมิน ท่าทีเขาดูผ่อนคลายเมื่อเอ่ยว่าผมเข้าใจว่าทุกท่านคงตื่นเต้นที่ทางสหภาพแห่งชาติวายัณส่งตัวแทนที่ทั้งเก่งกล้าสามารถและ ดูดี ขนาดนี้มาร่วมงาน แต่ขอเวลาให้แขกคนสำคัญของผมคนนี้ได้พักยกบ้างเถอะครับ เคมินจะยังอยู่กับเราตลอดการประชุมนี้ ดังนั้นท่านที่อยากสัมภาษณ์พูดคุยกับเขา ไม่ต้องห่วงครับ เคมินบอกผมว่าเขาเต็มใจ
ชายหนุ่มในชุดแจ้กเก็ตสูทสีดำขลับยิ้มอ่อนๆ ให้ผู้เป็นประธานการประชุมที่ช่วยตัดบทให้เขาพ้นจากสารพันคำถามจากสื่อต่างชาติตรงนั้น เขาค้อมศีรษะน้อยๆ ให้ที่ประชุมแล้วเดินกลับมาประจำที่ของตัวเองพร้อมไม่ทิ้งมาดเดิมของนายน้อยแห่งปางแก้วที่องอาจ
อราลีเป็นคนหนึ่งที่ยิ้มให้กับเขา วูบหนึ่งที่เคมินเหลียวผ่านมายังเธอ อราลีคิดว่าเขากำลังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเช่นกัน นัยน์ตาเรียวของเขาดูเหมือนสงบนิ่ง ทว่าแววตากลับเพ่งเป็นเส้นตรงมายังเธอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ในระยะห่างที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ย.. หญิงสาวกำลังทักทายกับเขาทางสายตา
เคมิน.. คุณเปิดตัวได้เยี่ยมมาก และคุณก็ทำได้ดีมากเลยรู้ไหม..
เคมิน.. เธอเข้าใจเขาแล้วในทุกแง่มุม คุณตาของเขาคงรู้ว่าสักวันเมื่อท่านร่วงโรยลงไป คลื่นลูกใหม่จะต้องก้าวเข้ามาเพื่อสานต่อหน้าที่ในการปลดปล่อยชาววายัณจากพันธนาการแห่งฝิ่น และก็เป็นเคมินที่ท่านฟูมฟักเขามาด้วยหน้าที่นี้ เขาเปรียบเหมือนเพชรเม็ดงามที่ขุนพลเฒ่าซอหม่องลูเฝ้าเจียระนัยมานับนานเพื่อรอวันฉายแสงและรองรับการเปลี่ยนแปลงของวายัณ เป็นไพ่ตายใบสุดท้ายที่ขุนพลฝิ่นขาวแห่งวายัณทิ้งเอาไว้ในภารกิจเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของวายัณทั้งปวง
เจ้าชายฝิ่นขาว.. ต่อจากนี้ไปงานคุณคงจะหนักกว่าเดิมแล้วล่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
[*หมายเหตุท้ายบท UNODC= United Nations Office of Drugs and Crime สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ
แก่นแท้ของฝิ่นคือปัญหาความยากจน แต่ต้นตอของยาบ้าคือความโลภ Opium in essence is about poverty, whereas Yaba is about greed
กล่าวโดย UNODC country representative Jean-Luc Lemahieu (จากหนังสือ Trouble in the Triangle: Opium and Conflict in Burma เขียนโดย Martin Jelsma, Tom Kramer, and Pietje Vervest) ]
จากคุณ |
:
ณ พิชา
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 55 18:15:20
|
|
|
|
 |