อภิเศกยอมวางสายตามที่พริกแกงบอก ทั้งที่เขายังมีเรื่องที่ต้องการพูดกับเธอ เกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งทราบมาจากท่านพงษ์ เขาอยากบอกเรื่องนั้นกับเธอด้วยตนเอง ดีกว่าให้เธอรู้จากคนอื่น แต่เมื่อเธอปฏิเสธก็เป็นอันไม่ได้พูดกันในคืนนี้
เวลานี้อภิเศกนั่งทบทวนหลายเรื่องที่หญิงสาวชื่อ พริกแกง ทำให้เขาต้องประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องที่ไอ้เจ้าวันชัยไปหาเธอถึงหน้าห้อง ซึ่งถ้าเขาไม่โทรศัพท์ไปบอกคุณแพรว่า แฟนหนุ่มของเธอชักจะนอกลู่นอกทางเสียแล้ว ก็ไม่รู้ว่านายคนนั้นจะทำอะไรกับเธอต่อไป หรือการที่เธอเดินมาหาเขาถึงห้องพักเพื่อตามลูกชายสุดที่รักคืน ก็ดูจะเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นมากอยู่สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาหาผู้ชายแปลกหน้าถึงห้อง ซึ่งเวลานั้นเขาก็ยังอยู่ในห้องนั่นแหละ เพียงแต่สั่งให้ลูกน้องบอกกับหญิงสาวไปว่า เขาไปเข้าเวรแล้ว แล้วยังเรื่องเมื่อเช้าวันนี้ที่สาวเจ้าออกปากกับเขาว่า ถ้ามีใครสักคนชวนเข้าโรงแรม เธอก็จะยอมไป รวมถึงเรื่องเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาที่เจ้าตัวยืนประชันจูบกับเขาอย่างไม่ลดละอีกล่ะ เขาอยากจะคิดว่าทั้งหมดเป็นความซนแก่นเหลือร้ายของหญิงสาวมากกว่าอย่างอื่น อภิเศกถามตัวเองอย่างไม่แน่ใจ แต่เรื่องที่เขาตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจ คือ เขาคงจะรักหญิงสาวชื่อเผ็ดคนนี้เข้าเสียแล้ว
แต่เรื่องที่เขาเป็นกังวลอยู่เวลานี้ก็คือ เรื่องที่ทำให้เขาถูกเรียกตัวเอาไว้ก่อนจะกลับตึกของตนเอง
แขก มาหาลุงก่อน
มีอะไรหรือครับ อภิเศกถามเมื่อนั่งลงต่อหน้าคุณลุงของเขา
เห็นนี่หรือยัง อภิเศกรับกระดาษแผ่นหนึ่งจากมือท่านพงษ์มาอ่าน มันเป็นภาพข่าวที่พิมพ์ออกมาจากเว็บไซด์หนังสือพิมพ์หัวสีชื่อดัง
ลูกชายท่านทูตอดิศาพาสาวเข้าโรงแรมแต่เช้าตรู่ ไม่รู้ว่านัดกันมารับประทานอาหารเช้าหรืออยู่ด้วยกันทั้งคืนกันแน่นะ
นี่เล่นถึงพ่อผมเลยหรือ อภิเศกบ่นอย่างหงุดหงิด
แล้วไปทำอะไรเข้าล่ะ ลุงของเขาถาม ชายหนุ่มถอนใจยาวก่อนนั่งลงบนโซฟาแล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คุณลุงของเขาฟัง เมื่อฟังจนจบท่านพงษ์ก็พูดขึ้นว่า
ทำใจแล้วกัน คิดซะว่า เราเป็นคนดังก็อย่างนี้แหละ
ผมไม่อยากดังอย่างนี้หรอกนะครับ อภิเศกตอบเนือย ๆ
แล้วอีกคนเขารู้หรือยัง ท่านพงษ์คงหมายถึงหญิงสาวที่เป็นข่าวกับเขา อภิเศกถึงได้รีบขอตัวออกมาเพื่อบอกข่าวนี้ให้หญิงสาวฟัง แต่ยังไม่ทันได้พูดถึงเรื่องนี้ พริกแกงก็วางสายไปเสียก่อน
พริกแกงฟาดหนังสือพิมพ์ในมือลงกับโต๊ะทำงานอย่างหัวเสีย ทำให้ทั้งอาหนิงและนายเล็กได้แต่มองหน้ากันแล้วทำตาปริบ ๆ เวลานี้คนทั้งออฟฟิศคงรู้ข่าวนี้กันทั่วแล้ว มิน่าล่ะ ตอนเช้าที่พริกแกงเข้ามาในสำนักงานถึงได้พบกับสายตาแปลก ๆ ตลอดทาง
ตาดีนักนะ อย่าให้รู้นะว่าใคร
แล้วแกไปอยู่กับเขาได้ยังไง คนเป็นอาออกปากถาม เพราะคิดว่าหลานสาวคงไม่หัวเสียมาถึงตน พริกแกงทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ เรียบเรียงความคิดว่าจะเล่าเรื่องที่ผ่านมาอย่างไรให้เข้าใจได้ง่าย และตรงประเด็นมากที่สุด
ก็ที่แกงไปทำสกู๊ปเรื่องวันลอยกระทงน่ะค่ะ พริกแกงเริ่มเล่าไปเรื่อย ๆ แล้วช่วงหนึ่งนายเล็กก็ขัดขึ้นอย่างตกใจ
ฮ้า พี่แกงตกเรือ โห รอดมาได้ไงเนี่ย
ไอ้น้องบ้า ก็รอดสิ ไม่งั้นจะมานั่งอยู่นี่เหรอ พริกแกงแหว
เขาช่วยแกไว้เหรอ พ่อบอดี้การ์ดของแกน่ะ อาหนิงถาม พริกแกงก็พยักหน้ารับ
ก็เขาเป็นทหารเรือไงพ่อ เลยว่ายน้ำเก่ง นายเล็กเสริม
เออ เข้าทีเว้ย ให้เขาสอนเราว่ายน้ำสิ เราจะได้ว่ายน้ำเป็นซะที อาหนิงแนะ ก่อนจะถามต่อ แล้วไอ้รูปนี้มันมายังไง
ถ้าแกงรู้ว่าใครถ่ายนะ แกงจะฆ่ามัน พริกแกงพูดอย่างไม่หายโมโห
ไม่ใช่อย่างงั้น อาหมายถึงว่า ทำไมถึงไปอยู่กับเขาอย่างในรูปนี้ได้ พริกแกงดูภาพนั้นอีกครั้ง แล้วก็อยากจะเอามือเขกศีรษะตัวเองนัก ภาพนั้นเป็นภาพตอนที่เธอลงจากรถแท็กซี่มากระเซ้าเขาเรื่องโรงแรมนั่นเอง ถ้าเธอขึ้นรถแล้วออกไปยังจุดหมายปลายทางเสียเลยก็ไม่เกิดเรื่องแล้ว
น่าตีจริง ๆ นะพริกแกง หญิงสาวบอกกับตัวเอง
คุยอะไรกันอยู่ครับ มีอีกเสียงดังขึ้นนอกวงสนทนา สามคนในที่นั้นมองไปยังต้นเสียงเป็นตาเดียว ชายหนุ่มรูปหล่อสไตล์เมโทร หน้าขาวปากแดง ในเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขายาวสีครีม ตัดกับเข็มขัดหนังสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งถ้ามองไปถึงรองเท้าก็จะรู้ว่ามันเป็นสีเดียวกัน เดินมาเกาะคอกทำงานของพริกแกง
ผมเอาเช็คมาจ่ายครับ วีร์นั่นเอง คุยอะไรกันเอ่ย ดูซีเรียสเชียว วีร์เดินมาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นดู แล้วก็พูดขึ้นว่า
อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง วีร์เห็นข่าวนี้ทีแรกก็แปลกใจนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าน้องสาวร่วมคณะของเขาจะตกเป็นข่าวซุบซิบทำนองนี้ได้
พี่คิดแล้วว่าคุณอภิเศกเขาต้องไม่ใช่เพื่อนใหม่ธรรมดา ๆ วีร์หันมามองพริกแกงแล้วพูดต่อไปว่า มิน่า เขามองพี่เหมือนจะกิน
เจอกันแล้วหรือครับ นายเล็กส่งเสียงถาม
ครับ เจอกันที่ร้านเมื่อวานนี้ วีร์หันไปตอบยิ้ม ๆ
เดี๋ยวคุณ ที่คุณบอกว่า เขามองคุณเหมือนจะกินนี่ยังไง คราวนี้อาหนิงถาม
เขาดูหวงน้องแกงน่ะครับ คงคิดว่าผมจีบน้องแกงละมั้ง ชายหนุ่มตอบแล้วก็หันไปยิ้มกับน้องสาวคนสวย แล้วสามหนุ่มในที่นั้นยิ้มหัวกันอย่างร่าเริง คงเพราะรู้สึกยินดีที่ทั้งหลานสาว พี่สาว และน้องสาว ขายออก แต่หญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้นไม่ได้ร่าเริงไปกับหนุ่ม ๆ ด้วย พริกแกงจึงหมุนตัวกลับไปเช็คตารางงานของวันนี้ แล้วก็เกิดอาการเพลียไม่อยากไปทำงานขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นเวลาปกติพริกแกงคงจะร่าเริงไม่น้อยที่ได้ออกมาทำข่าวแล้วก็ยังมีโอกาสสูงที่จะได้พบกับท่านราชองครักษ์อภิเศก แต่วันนี้วันที่พริกแกงตกเป็นข่าวเสียเอง ทำเอาเธออารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้า ทำให้หลังจากลงทะเบียนผู้สื่อข่าวและตรวจกล้องถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว พริกแกงก็หลบมายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่มุมหนึ่ง เพราะเธอไม่อยากเจอกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนนักข่าวอื่น ๆ ที่มองมาที่ตน
สวัสดีครับคุณแกง ดีใจจังที่เจอคุณ เสียงทักทายอย่างยินดีของชายหนุ่มที่ชั่วระยะเวลาไม่กี่วันเท่านั้น เธอกลับคุ้นเคยกับเสียงนี้ แต่วันนี้เธอไม่อยากได้ยินเสียงของเขาเท่าไหร่
ค่ะ พริกแกงตอบเท่านั้นก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง
เดี๋ยวสิครับ อภิเศกยื่นมือออกมาตั้งใจจะรั้งเธอไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะแค่เรียกพริกแกงก็หยุด แล้วหันมามองเขา
รู้เรื่องแล้วใช่มั้ย ผมตั้งใจจะบอกคุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่... อภิเศกหยุดพูดไปแค่นั้น
ค่ะ ทราบแล้ว พริกแกงตอบแค่นั้นเช่นกัน
คุณโอเคนะ ชายหนุ่มถาม
หมายความว่ายังไง ฉันควรจะยินดีที่ได้เป็นข่าวงั้นเหรอ พริกแกงย้อนถาม ชายหนุ่มดูอึ้ง ๆเหมือนไปต่อไม่ถูก พริกแกงยักไหล่ก่อนจะตอบเขากลับไปเสียเองว่า
ช่างเถอะ ฉันไม่ใช่คนดังอะไร เดี๋ยวคนเขาก็ลืม แต่คุณไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉันมากก็ได้ เดี๋ยวใครไม่รู้เขาจะคิดว่ามันจริงตามข่าว คราวนี้อภิเศกยิ้มนิด ๆ และรี่เข้ามาใกล้หญิงสาว แทนที่จะถอยออกไปตามที่พริกแกงท้วง
ก็เราอยู่ด้วยกันจริง ๆ ไม่ใช่หรือครับ ชายหนุ่มถามอย่างตั้งใจจะหยั่งเชิง ว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอะไร
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นไง หญิงสาวพูดแล้วก็ถอนใจอย่างอารมณ์ไม่ดี
ก็ใช่ เราไม่ได้กินเช้าด้วยกันซะหน่อย อภิเศกพึมพำ
เฮ้ย เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พริกแกงร้องตอบ อีกฝ่ายได้แต่เลิกคิ้วมองกลับมา หญิงสาวเลยพูดต่อแบบตะกุกตะกัก
ก็ใช่ไง คนเราจะมากินข้าวเช้าด้วยกันได้ยังไง ถ้าไม่ได้....เอ่อ
นอนด้วยกันน่ะเหรอ อภิเศกต่อให้ แล้วเขาก็ถูกหญิงสาวค้อนกลับมา ก่อนที่ทั้งสองจะพูดอะไรต่อไป ก็มีบุคคลที่สามเข้ามาในวงสนทนา
สวัสดีค่ะ น้องแกง ดีใจจังที่ได้เจอกัน วันชัยตั้งใจจะเข้ามาทักทายหญิงสาวคนสวยตั้งแต่เธอเข้ามาในงานนี้แล้ว แต่เขายังมีงานที่ต้องทำอยู่ เมื่อเสร็จธุระเขาก็รีบปรี่เข้ามาทักทายพริกแกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเธออยู่กับ นายแขก น้องชายตัวยักษ์ของคุณแพร
สวัสดีครับ วันชัยหันมาทักทายชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ที่นั้นด้วย
ผมขอตัวก่อนนะ อภิเศกหันมาบอกกับพริกแกง
เดี๋ยวสิครับ ไม่คุยกันต่อเหรอ วันชัยถามขึ้นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ว่า ตนเองเป็นคนที่แทรกเข้ามา อภิเศกเป็นคนตอบคำถามนั้น โดยหันมาถามพริกแกงว่า
เมื่อกี้เราคุยกันเรื่องอะไรนะคุณแกง อ๋อ...เรื่องที่ อะไรนะที่ตอมได้ แต่กินไม่ได้น่ะ มะม่วง ๆ อะไรเนี่ย จากที่กำลังอารมณ์ไม่ค่อยดี พริกแกงก็ต้องหัวเราะคิกจากคำถามของหนุ่มนักเรียนนอก
ไม่รู้แล้วแค่นจะพูด เขาเรียกว่า มดแดงแฝงพวงมะม่วง ประโยคท้ายพริกแกงพูดช้า ๆ ให้เขาฟังได้ถนัด ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายถามเรื่องนี้ทำไมในเวลานี้
นั่นแหละ มดแดงแฝงพวงมะม่วง พูดไม่พูดเปล่า แต่อภิเศกยังจงใจมองมายัง มด ตัวที่สูงแค่ไหล่ของเขา ที่เมื่อสักครู่ยังอยากทราบว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน แต่ตอนนี้ทำเป็นหูทวนลม
ผมคุยจบแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ อภิเศกยิ้มให้พริกแกง และหันมาก้มศีรษะนิด ๆ ให้กับวันชัย
น้องแกง วันชัยทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังมองชายหนุ่มที่เดินห่างออกไปไม่วางตา น้องแกง พี่ขอเตือนนะจ๊ะ พวกนี้ เจ้าชู้ทั้งนั้น พริกแกงหันกลับมามองหน้าคนพูด
ตอนที่แกงรู้จักกับพี่ น่าจะมีคนมาบอกอย่างนี้บ้างนะคะ วันชัยได้ยินแล้วก็เหมือนถูกตีแสกหน้าอย่างจัง หญิงสาวคนที่เขาหมายปอง หลุดจากมือเขาไปแล้วจริง ๆ โดยเฉพาะเมื่ออีกคนเพิ่มเข้ามา มันเป็นใคร มันเพิ่งจะมาแท้ ๆ กลับมาคว้าจูบของน้องแกงไปได้ แต่เอ๊ะ ใครคว้าจูบใครกันแน่ จากภาพที่เขาเห็นคนทั้งคู่เมื่อวานนี้ ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังจริง ๆ
จากคุณ |
:
ธ.ศ.ร. (Thomket)
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 55 10:10:32
|
|
|
|