Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 9. vote ติดต่อทีมงาน

.

.

9.

นางฟ้าจำแลงคงมีอยู่จริงบนโลกกลมใบนี้ โฉมงามผู้มากับชุดเดรสเกาะอกสั้นระดับเข่าชายกระโปรงสอยขอบพองทรงบอลลูนสีขาว ดูเก๋ไก๋บนความราบเรียบและคงความอ่อนหวานสมวัย เครื่องประดับแต้มติดบนศรีษะ หนีบรวบไรผมหลวมๆ เพื่อไม่ให้บดบังใบหน้านวลเนียน ด้านหลังปล่อยยาวสยายเงางาม บนคอยาวระโหงประดับด้วยสร้อยมุขจี้รูปหยดน้ำเปล่งประกาย คงมีเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่ปรากฏให้เห็นยังดินแดนแห่งนี้

ยิ่งมองยิ่งน่าหลงใหล ความงดงามพาดผ่านสายตามนุษย์ทุกผู้ที่อยู่ยังงานเลี้ยง ต่างจ้องมองตามกันจนเหลียวหลังไม่มีกะพริบ ไม่ว่าด้วยสายตาทอดมองโดยตรงหรือมองผ่านทะลุเลนส์กล้อง พาพรายสาวที่ถูกมองถึงกับประหม่าก้มหน้าก้มตาราวตนเองตกเป็นตัวประหลาด สายตาหวาดๆ เหลือบมองบุรุษด้านข้างที่นำนางมายังสถานที่แปลกตาไม่คุ้นเคย

“ทำไมคุณมาอยู่นี่!”

กันยวัฒน์ส่งเสียงเข้มงวดตั้งคำถามเมื่อจับสติสัมปชัญญะกลับมา ร่างสูงลุกยืนเต็มตัวเดินเข้าหาพรายสาวเบื้องหน้า นีลาน่าเบี่ยงกายหลบเข้าแผ่นหลังกว้างของแฟรงค์เกนสไตล์คล้ายกำแพงคุ้มกัน เจ้าโลกันต์คงโกรธเคืองไม่น้อยที่นางขัดคำสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน ครั้งนี้อาจเป็นความผิดมหันต์สำหรับนาง

“เฮ้ย! ไอ้กันย์ใจเย็น”

เพื่อนซี้ร่างใหญ่ยกมือขึ้นห้ามปรามเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนเกลอดูผิดปกติ สายตาดุดันจ้องมองยังหญิงสาวที่เขาพามาราวกับไม่พอใจอย่างหนักหนา

“ผมถามว่าทำไมคุณมาอยู่ที่นี่!”

“ข้าพาเธอมาเอง ก็แค่เปิดหูเปิดตา เอ็งจะอะไรหนักหนาว่ะ”

กันยวัฒน์ไม่ฟังเสียงใดๆ รีบรุดก้าวเท้ายาวคว้ามือบอบบางพาเดินออกนอกงานเลี้ยงทันที นีลาน่าจำใจต้องเดินตามตัวปลิว เวลานี้จะสายตากี่คู่ที่จับจ้องไม่ได้มีความหมาย คำตอบเท่านั้นที่เขาต้องการจากปากนาง เมื่อกันยวัฒน์ลากพรายสาวออกห่างจากงานหมั้นจนพอใจ เขาจึงหยุดยืนนิ่งยังบริเวณสวนดอกไม้ขนาดย่อมด้านหน้าโรงแรมหรูหราไร้ซึ่งผู้คนเดินผ่านไปมา บุรุษหนุ่มยอมปล่อยมือบางให้เป็นอิสระก่อนจับไหล่กลมกลึงสองข้างหันหน้าเผชิญเข้าหากัน

“ผมบอกไม่ให้คุณออกไปไหน! ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่!”

“สหายเจ้าชวนเรามา..”

“ไอ้แฟรงค์มันชวน.. คุณก็ต้องตามใจมันว่างั้น.. คุณรู้ไหมถ้าคนอื่นรู้ความจริงเรื่องคุณไม่ใช่มนุษย์อะไรมันจะเกิดขึ้น..”

นีลาน่าหลบเลี่ยงสายตาคมกริบที่มองมาอย่างคาดคั้นต้องการคำตอบ นางไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาภายหลังแม้แต่น้อย สาเหตุเดียวคืออยากเปิดหูเปิดตา ไม่ต้องทนอยู่กับคำว่าเบื่อหน่ายก็เท่านั้น

“เราแค่เห็นว่าไม่น่ามีปัญหาใด.. ในเมื่อเจ้าสั่งห้ามเราไม่ให้พูดจากับใคร เราก็จะไม่เอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น”

“แต่ห้ามออกนอกบ้าน.. คุณกลับขัดคำสั่งผม..”

“แล้วมันผิดมากมายงั้นหรือ! ในเมื่อเราออกมากับสหายเจ้า ไม่ได้ไปไหนลำพัง”

นีลาน่าเสียงแข็ง ทำเอากันยวัฒน์หยุดคำพูด ถอนใจทิ้งหนักหน่วง เขาคงคิดมากไปเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่หวาดกลัวหากแต่ยังไม่เกิดขึ้น ดวงตากลมกลิ้งจ้องมองหนักแน่น นางยอมรับผิดทุกประการ เพียงแต่เรื่องราวมันเลยเถิดมาจนป่านนี้จะให้นางกลับที่พักอาศัยเวลานี้คงยาก

“เอาล่ะ.. ผมจะยอมคุณสักครั้ง หวังว่าคุณคงไม่ดื้อจนเกิดเรื่องวุ่นวายนะ และข้อสำคัญคุณต้องอยู่ใกล้ผมตลอดเวลา ห้ามห่าง เข้าใจไหม.. ใครถามอะไรก็ห้ามพูด ห้ามคุย ตกลงหรือเปล่า..”

นีลาน่าคลี่ยิ้มกว้างอวดริมฝีปากอิ่มชมพูระเรื่อ แววตาดูตื่นเต้นดีใจ พยักหน้ารับทันควัน งานรื่นเริงยังแดนมนุษย์จะเป็นอย่างไร จะแตกต่างจากโลกบาดาลมากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่นีลาน่าอยากสัมผัสรับรู้

“เจ้าไม่โกรธเราแล้วใช่หรือไม่..”

นีลาน่าถามไถ่ระหว่างทางเดินกลับเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลอง

“อืม.. จะว่าไปผมไม่ได้โกรธ มันก็แค่กังวล กลัวความลับเรื่องคุณเป็นเงือกพรายหลุดก็เท่านั้น ว่าแต่.. ใครแต่งหน้าแต่งตัวให้คุณ..”

สิ่งที่ยังค้างคาตั้งแต่เห็นแวบแรก ถูกตั้งคำถามกลับเมื่อนึกขึ้นได้ ไอ้แฟรงค์คงไม่เก่งขนาดนั่งจับนางพรายแต่งหน้าแต่งตาได้งามงดขนาดนี้ กันยวัฒน์คาดเดา

“สหายเจ้าพา สตรีนางหนึ่งมาจับเราแต่งเช่นนี้”

“อืม.. ก็ดี..”

ความรู้สึกโล่งอกเกิด เนื่องจากคิดไปไกลจนเตลิด กลัวเพื่อนสนิทล่วงเกินสมบัติส่วนตัว เริ่มรู้สึกระแวงขึ้นมาตงิดเกี่ยวกับท่าทีเอาอกเอาใจ รับใช้บริการเป็นพิเศษจนออกนอกหน้านอกตา    

“นีลาน่า! มาแล้วเหรอครับ ไอ้กันย์มันทำอะไรคุณหรือเปล่า..”

บุรุษร่างใหญ่รีบรุดเข้าหาพรายสาวที่เขาตั้งใจพามาร่วมงานอย่างกระตือรือร้นถามไถ่ คำตอบที่ได้รับมีเพียงส่ายหน้าเบาๆ พร้อมส่งยิ้มกว้างให้ราวมีเรื่องดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ กันยวัฒน์ปรายตามองเพื่อนสนิทคล้ายจ้องจับผิดพิรุธ

“คนนี่ใช่ป่ะไอ้แฟรงค์ ที่เอ็งบอกว่าไอ้กันย์พามาจากเมืองนอก”

“เออ.. นี่ล่ะ นีลาน่า”

เจ้าของชื่อส่งยิ้มหวานพยายามระแวดระวังไม่ให้หลุดเสียงพูดจากออกมา การแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เกิดขึ้นยังวงสนทนาของกลุ่มเพื่อนสนิท รอยยิ้มยินดีพร้อมสายตากรุ้มกริ่มส่งตรงยังกันยวัฒน์ที่ยืนตีสีหน้านิ่งเรียบ พลางมองสมบัติของตนไม่วางตา ในใจหวาดหวั่นเกรงจะเกิดเรื่องปั่นป่วนให้ปวดสมองจนเริ่มจิตตกกังวล

“ไอ้กันย์เด็กเอ็งเป็นใบ้หรือเปล่าว่ะ ยังไม่เห็นพูดซักแอะ”

เสียงกระซิบกระซาบพาคนฟังหลุดยิ้มอย่างลืมตัว ในเมื่อเขาเองที่สั่งห้ามไม่ให้นางพูดจา คงต้องปล่อยให้เรื่องราวดำเนินต่อไปตามนั้น

“เออ.. เป็นใบ”

กันยวัฒน์ได้แต่ขำในใจ คงจะดีกว่าถ้าเปลี่ยนเงือกพรายช่างเจรจาซักถามให้เป็นใบ้พูดจาไม่ได้ ดีเสียอีกจะได้ไม่มีใครหน้าไหนมาวุ่นวายถามโน้นถามนี่ คงขัดใจพิลึกหากต้องคอยระแวงความลับรั่วไหล

งานสังสรรค์ฉลองความรื่นเริงยังคงดำเนินต่อตลอดค่ำคืนที่ยาวนาน แขกเหรื่อผู้ร่วมงานทั้งหลายต่างส่งเสียงจอแจ คึกคัก ไม่ขาดสาย ใครใคร่เจรจาก็จับกลุ่มสนทนาออกรสออกชาติตามประสางานสังคม ใครใคร่ดื่มก็หยิบยกครื่องดื่มที่ประเคนเสิร์ฟให้ถึงมือแก้วต่อแก้วสนุกสนาน ค็อกเทลสีสวยถูกยกส่งยังนีลาน่าเมื่อบริกรเดินให้บริการรอบงานเลี้ยง น้ำในแก้วถูกหยิบจิบดื่มทีละนิด รสชาติหวานๆ ขมๆ นุ่มลิ้นลื่นไหลลงคอ ใบหน้าขาวเนียนเริ่มมีสีแดงระเรื่อระบายข้างแก้มจางๆ

“ไอ้แฟรงค์เบาๆ เดี๋ยวคุณเธอก็เมาพอดี”

“เหอะน่า.. ให้ลองของแปลกๆ มั้งเหอะ เพิ่งแก้วที่สองเอง เอ็งนี่ห้ามโน้น ห้ามนี่ ห้ามอยู่ได้”

นีลาน่าส่งยิ้มราวกับนางคือผู้ชนะ คงจะเสียนิสัยก็คราวนี้ มีคนให้ท้ายจนเริ่มเคยตัว กันยวัฒน์ส่ายหน้าเอือมระอา เวลาของเข็มนาฬิกาเดินผ่านพร้อมความรื่นรมย์วนเวียน รสชาติหอมหวานของแอลกอฮอล์หลากสี ยิ่งดื่มยิ่งเพลิน ยิ่งเยอะยิ่งเริ่มมึนเมา แก้วแล้วแก้วเล่าถูกส่งให้พรายสาวไม่มีหย่อน ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งมอมเมาแบบดีกรีอ่อนๆ แต่สำหรับนางคงคอพับคออ่อนในไม่ช้า

“เห้ย! ไอ้แฟรงค์.. นีลาเมาแล้ว พอเหอะ!”

กันยวัฒน์ส่งเสียงปรามเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ส่อเค้าไม่น่าไว้ใจ แก้วเครื่องดื่มที่เพื่อนสนิทประเคนให้นีลาน่าเขาคว้าดื่มแทนจนหมด ตัดปัญหาไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวาย

“ขอโทษนะครับ..”

เสียงทักทายของมนุษย์แปลกหน้าพาทุกคนในวงที่ยังมีสติหลงเหลือหันมองตามกัน บุรุษมาดดีดูสำรวมกิริยามารยาท ส่งยิ้มทักทายพลางเหลียวสายตามองยังสาวหน้าหวานที่เริ่มคุมสติตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก่อความสงสัยใคร่รู้ให้กันยวัฒน์อย่างหนักหนา

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

สายตาคมกริบจ้องมอง พยายามหาคำตอบว่าบุคคลเบื้องหน้าต้องการสิ่งใด

“เอ่อ.. พอดีผมเป็นช่างภาพมืออาชีพนะครับ ส่งเสริมนางแบบหน้าใหม่ เห็นน้องสาวคนนี้ขึ้นกล้องมาก เลยอยากเชิญไปลองเทสหน้ากล้องดูครับ เผื่อเธอสนใจรับงานถ่ายแบบ”

“ไม่สนใจครับ.. ผมเป็นผู้ปกครอง ไม่อนุญาต ขอโทษด้วยครับ”

น้ำเสียงเย็นเยือก ตอบแทนเจ้าตัวแบบไม่ต้องคิดหน้าพะวงหลัง ส่อแววไม่เป็นมิตรชัดเจน กันยวัฒน์รู้สึกหงุดหงิดในใจ ผู้หญิงในงานเลี้ยงมีอีกเป็นสิบเป็นร้อย เหตุใดต้องจำเพาะเจาะจงนีลาน่า

“เอ่อ.. งั้นหรือครับ โอเค ไม่เป็นไรครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะลองติดต่อเธอดูอีกที ขอบคุณครับ”

กันยวัฒน์มองตามหลังคู่เจรจาที่เดินจาก ด้วยอารมณ์คุกรุ่นในใจ ยังจะหาโอกาสติดต่อเป็นรอบที่สอง อย่าหวังได้เข้าใกล้หากเขายังอยู่ตรงนี้

“ไอ้กันย์.. ไอ้แฟรงค์มันก็เมาไม่รู้เรื่องแล้ว ข้าว่าพาเด็กเอ็งกลับบ้านเหอะ เดี๋ยวไอ้นี่ข้ากับไอ้เกล้าพากลับเอง ปล่อยไว้นานๆ เดี๋ยวแมวมองเดินมายุ่งวุ่นวายอีกรอบ ดูเอาเหอะจ้องกันตาเป็นมัน”

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เพื่อนสนิทแนะนำความคิดเห็น สมควรแล้วแก่การยุติ ไม่รอช้ากันยวัฒน์ตัดสินใจลุกประคองนีลาน่าก่อนที่นางจะเผลอหลุดคำพูดออกมา เพราะฤทธิ์น้ำเมาเปลี่ยนนิสัยคงไว้ใจไม่ได้เลย เคยมีแสดงให้เห็นออกบ่อย เมื่อมันผ่านเข้าปากลงลำคอ จากคนเจรจาไม่เก่งยังทำให้พูดจนลิงหลับมาแล้วถมไป

ร่างบางถูกพยุงพาเดินออกจากงานเลี้ยง โดยกันยวัฒย์พยายามเรียกสติให้เงือกสาวตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้สะดวกกับการก้าวเดินของนาง หากทว่าทุกย่างก้าวของบุรุษหนุ่มและโฉมงามอยู่ในสายตาเคลือบแคลงสงสัยของพรีมาดาตลอดเวลา คำถามผุดขึ้นในใจเหตุใดต้องดูแลกันดั่งเช่นคนสำคัญกับแค่เด็กกะโปโลที่เคยกล่าวอ้างเท่านั้น ความขุ่นคล่องก่อตัวในความคิด


++++


รถยนต์ขับเคลื่อนถูกเร่งความเร็วทยานบนท้องถนนทอดยาวเป็นสาย อีกไม่กี่อึดใจคงถึงที่หมายเสียที กันยวัฒน์ได้แต่เหลียวสายตามองอมนุษย์ด้านข้างที่นั่งอิงเบาะ ปิดเปลือกตาสนิท

“นางเงือกก็ขี้เมาเป็นเหมือนกันเว้ย เกิดมาเพิ่งรู้”

กันยวัฒน์พร่ำบ่นพึมพำ แต่มันคงดังพอทำให้ร่างบางข้างๆ ขยับกายเคลื่อนไหวยกมือขึ้นปิดปากท่าทางกระอักกระอ่วน ลุกลี้ลุกลนชอบกล นีลาน่าส่งภาษามือชี้นิ้วสะเปะสะปะ คล้ายต้องการอะไรสักอย่าง

“คุณเป็นอะไรของคุณ..”

กันยวัฒน์งุนงงในท่าที แต่ยังไม่วายชะลอความเร็วและสังเกตุพรายสาวต่อจนพอจับใจความได้ว่านีลาน่าต้องการให้จอดข้างทาง รถยนต์จอดสนิทริมฟุตบาทระหว่างเข้าหมู่บ้านได้ครึ่งทาง สัญญานไฟสีส้มเปิดกะพริบบ่งบอกพักจอดขอเวลานอกชั่วคราว ประตูรถถูกดึงเปิดและผลักออกรวดเร็ว นีลาน่าวิ่งพรวดลงจากรถอย่างไม่คิดชีวิต ก้มๆ เงยๆ ท่าทางผิดปกติ จนกันยวัฒน์จำต้องก้าวตามลงมาดูอาการใกล้ชิด

“เป็นไงบ้างคุณ เห็นไหมอยากดื่มดีนัก แหวะออกมาหมดไส้หมดพุงเลยสิ”

กันยวัฒน์ส่ายหน้า พลางเอื้อมมือลูบไล้แผ่นหลังเบาๆ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นเหียนอาเจียน บุรุษหนุ่มดูแลจนพรายป่วยเริ่มมีอาการดีขึ้น เขาจึงเดินกลับยังรถยนต์ส่วนตัวหยิบขวดน้ำเปล่าติดมือกลับมาหานีลาน่าอีกครั้ง น้ำใสๆ ถูกยกดื่มกลั้วคอบ้วนปาก พร้อมเทล้างหน้าล้างตาจนพรายสาวมีอาการดีขึ้นตามลำดับ

“ดีขึ้นไหม..”

นีลาน่าพยักหน้าเบาๆ ก่อนเงยหน้ามองฟ้าสูดอากาศยามดึก รับรู้สัมผัสความเย็นเฉียบเสียดผิวกาย ดวงตากลมโตจ้องมองดวงจันทร์พาลนึกถึงแดนอาศัยยังโลกบาดาลขึ้นมา

“คืนเดือนเพ็ญ.. เวลานี้เราควรอยู่ยังงานสมรส.. ป่านนี้ใต้บาดาลจะเป็นอย่างไรบ้าง.. คิดถึงเหลือเกิน..”

กันยวัฒน์ทรุดกายลงนั่งใกล้ๆ มองยังเสี้ยวหน้าด้านข้างของพรายสาว นัยน์ตาเศร้าสลดพาใจกระตุกสั่นไหว นางคงทุกข์ใจอย่างถึงที่สุด ณ เวลานี้ เหตุเพราะต้องจากบ้านจากเมือง ไหนต้องจากครอบครัวและคนรักมาอยู่อีกแดนโลกโดยไม่อาจรับรู้เลยว่าพวกพ้องจะอยู่สุขสบายหรือเสียใจกับการจากไปของนางอย่างไรบ้าง  

“ผมว่าเรากลับกันเถอะ มันดึกมากแล้วนะ”

ด้วยจิตใจอ่อนไหว ไม่อาจหาวิธีปลอบใจนางด้านข้างได้เลย เขาจึงพยายามเบี่ยงประเด็นให้นางลืมความโศกเศร้า คงจะเหมาะสมที่สุดแล้วกับเวลานี้

“เราขอเดินกลับได้หรือไม่.. เราไม่อยากมีอาการเช่นนั้นอีก..”

“จะเดินทำไมกัน อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว ทนหน่อยเถอะ นั่งรถแปบเดียวเอง”

“ไม่.. เราขอเดิน เจ้ากลับไปเถอะ”

นีลาน่าพยุงกายลุกยืนโซเซ พยายามก้าวเดินให้มั่นคงเนื่องจากเท้าทั้งสองข้างจะพันเข้าหากันเสียให้ได้ ร่างบางออกเดินเชื่องช้า เอียงซ้ายเอียงขวา ส่ายไปมาคล้ายจะปลิวตามกระแสลมโชยเอื่อย บุรุษหนุ่มเห็นท่าไม่ดีต้องรีบคว้าจับไว้ก่อนนางจะล้มลง

“นี่คุณ! อย่าดื้อน่า ไปขึ้นรถ”

“ไม่! เราจะเดินเอง เจ้านั่นล่ะไป..”

เสียงหวานเริ่มออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อโดนเซ้าซี้บ่อยเข้า นี่ล่ะฤทธิ์น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย กันยวัฒน์ปล่อยแขนนีลาน่าให้เป็นอิสระ จำยอมปล่อยนางเดินตามแต่ใจต้องการ เอาไงก็เอา จะเดินก็เดิน รถจอดทิ้งไว้เดี๋ยวค่อยกลับมาเอาคงไม่น่าจะหายไปไหน บุรุษหนุ่มกดล๊อครถยนต์จากรีโมทในมือเรียบร้อย จึงก้าวต่อเพื่อเดินตามหลังพรายสาวให้ทันในระยะใกล้ชิด อยากดูคนอวดเก่งจะเดินได้ซักกี่น้ำ ร่างบางเซไปเซมาพาคนเดิมตามใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ กลัวเงือกน้อยขี้เมาจะล้มพับกลางอากาศ ไม่ทันไรพรายสาวเกิดขาอ่อนขาพับแทบล้มทั้งยืน ยังนับว่าโชคดีถูกมือแข็งแรงคว้าไว้ได้ทันท่วงที

กันยวัฒน์ถอนหายใจ ยกมือกุมขมับเอือมระอา จะต้องเหนื่อยใจอย่างนี้อีกนานแค่ไหน หากปล่อยให้นางเดินกลับเองคงถึงที่หมายได้ยาก เผลอๆ คงได้นอนสลบเหมือดอยู่บนถนนเป็นแน่ ว่าแล้วเขาจึงย่อกายลงต่ำ ทรงตัวตั้งมั่น ดึงร่างบางให้ค่อมไปบนแผ่นหลังกว้าง ช่วยเหลือพรายขี้เมาด้วยการแบกไว้ด้านหลังเพื่อนำนางส่งถึงห้องนอนโดยเร็วที่สุด

“นี่คุณ..อย่าดิ้นนักสิ ตกจากหลังผมไม่รู้ด้วยนะเอ้า..”

สัมผัสรับรู้อบอุ่นเมื่อร่างกายทั้งสองประกบชิดติดกัน พาคนมีสติครบถ้วน ใจหวั่นไหวแปลกๆ แขนบอบบางสองข้างโอบกอดรอบคอ ใบหน้านวลเนียนเอียงแนบซบซุกลงบนบ่ากว้าง ปรือตาที่หนักอึ้งแทบไม่ขึ้น หากสติยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้างแต่ช่างน้อยเต็มที

“โลกันต์..”

“หืม..”

“เจ้ารู้ไหม.. เราคิดถึง.. แดนบาดาล..”

“รู้สิ.. คุณบ่นถึงที่นั้นตลอดทาง แล้วคุณก็บอกอีกด้วยว่าวันนี้คุณต้องแต่งงานใช่ไหม ผมได้ยินหรอกน่า”

“ใช่.. คืนเดือนเพ็ญเราต้องสมรส.. แต่เจ้ารู้ไหม.. เรากลับดีใจ.. ที่ไม่ต้องเข้าพิธี.. แต่เราคิดถึงท่านพ่อ.. คิดถึงพี่อียาน่า.. คิดถึงนาจา.. คิดถึงสหายทั้งหลายยังแดนบาดาล..”

“...”

“โลกันต์..”

เสียงหวานเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ แทบจะกลายเป็นกระซิบให้ได้ยิน

“อืม.. ว่าไง”

“เจ้ายิ้มเป็นบ้างหรือไม่..”

ใจกระตุกสะเทือนไหว แค่คำที่เอ่ยออกมาไม่กี่คำ ทำไมถึงปั่นป่วนในอกได้เพียงนี้

“...”

“เหตุใดเจ้าจึงยอมเสียน้ำตาอันมีค่า........ เรา...... ห่วง..”

ความเงียบควบคุมยึดพื้นที่รอบบริเวณ กันยวัฒน์รู้สึกเบาหวิวในใจ แต่ทุกสิ่งกลับสงบนิ่งพาบุรุษหนุ่มแปลกใจชอบกล

“คุณ..”

“...”

“นีลา..”

“...”

“หลับซะแล้ว..”

รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นมุมปาก กันยวัฒน์ส่ายหน้าเล็กน้อยรู้สึกขำขึ้นมาในใจ คออ่อนปวกเปียกริอาจดื่มของมึนเมา มีโอกาสจะจัดการกับตัวยุยงส่งเสริมบังอาจชี้โพรงให้กระรอกหัดทำในสิ่งไม่สมควร และไม่เหมาะอย่างยิ่งกับอิสตรีเช่นที่หลับคาบ่าอยู่เวลานี้


ร่างบางถูกวางราบบนเตียงนอนอย่างเบามือ เมื่อโดนแบกหามเข้ายังที่พักอาศัยเรียบร้อย กันยวัฒน์จัดแจงหยิบผ้าห่มคลุมกาย คืนนี้คงต้องปล่อยให้นางนอนหลับไปในสภาพนี้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน คงไม่เหมาะแน่ถ้าจะให้เขามานั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เงือกพรายอีกเป็นครั้งที่สองของชีวิต ใบหน้านวลเนียนดึงดูดสายตาให้จ้องมองเนิ่นนาน คำว่า ‘ห่วง’ ผุดขึ้นในความคิด เอาอีกแล้ว.. ใจหวิวอีกแล้ว.. นี่เขาเป็นอะไร.. ทำไมช่วงนี้รู้สึกจิตใจอ่อนแอชอบกลเพียงแค่ได้ใกล้นาง.. นีลาน่า..


++++


ลึกลงใต้ท้องมหาสมุทรดินแดนลับแลแห่งเมืองบาดาล.. ถึงแม้จะผ่านพ้นเรื่องราวเศร้าโศกได้ไม่นาน หากมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยถ้าชะตากรรมเป็นผู้กำหนดไว้ ในเมื่อว่าที่เจ้าสาวสูญหาย แต่ขนบธรรมเนียมของงานมงคลไม่อาจร้างลาได้เช่นการสูญเสีย ดังนั้นพิธีมงคลที่เคยจัดเตรียมแต่แรกคงยกเลิกไม่ได้ และจำเป็นยิ่งที่ต้องจัดต่อไปเพื่อไม่ให้กระทบกับหลายฝ่าย

ไฮโรเทนจำยอมฝืนใจทำให้งานสมรสบรรลุความต้องการของผู้ใหญ่และสานต่อเป้าหมาย แม้จะไม่เต็มใจรับเจ้าสาวที่เกิดเปลี่ยนตัวกะทันหัน แต่ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้าทำให้พรายบุรุษยอมทนเพื่ออนาคตที่จะตกอยู่ในกำมือ ในอีกไม่ช้า..

‘ข้าขอให้เจ้าทั้งสอง ครองคู่รักกันตราบนานเท่านาน’

งานมงคลสมรสจบลงเมื่อผ่านพ้นคืนเดือนเพ็ญ คำอวยพรยังคงฝังตรึงในจิตใจ หากแต่นางที่ยืนข้างกายไม่ใช่ดังที่หมายปองไว้ ไฮโรเทนเหม่อลอยหวนคิดถึงนางพรายในฝัน ป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ยังคงห่วงหาไม่เจือจาง

“ท่านไฮโรเทน ข้านำข่าวดีมาบอก”

“มีความคืบหน้าอย่างไรว่ามา..”

พรายบุรุษละทิ้งความคิดเมื่อครู่ หันมองยังบริวารข้ารับใช้ที่เคยไหว้วานจัดการทำสิ่งสำคัญ และเวลานี้คงได้รับฟังคำตอบเสียที

“ข้าตามหาภูตทำนายเจอแล้วท่าน”

“เจ้าจงนำทาง! ข้าต้องการพบเดี๋ยวนี้..”

ไฮโรเทนร้อนรน จิตใจวอกแวกไม่สงบนิ่ง เนื่องจากความหวังที่ตั้งใจตามหานีลาน่าเริ่มเคลื่อนเข้าใกล้มองเห็นแสงสว่างอยู่รำไรเบื้องหน้าแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม

“เจ้าจะไปแห่งใด ไฮโรเทน..”

ร่างกำยำชะงักกาย เหลียวสายตามองตามเสียงเบื้องหลัง อียาน่าสะบัดหางมุ่งหน้าขวางทางพรายบุรุษผู้ซึ่งผ่านพิธีมงคลสมรสยกระดับฐานะเป็นสามีหมาดๆ  

“อย่าขวางทางข้า อียาน่า”

“งานสมรสเสร็จสิ้นไม่ทันไร เจ้าคิดจะปล่อยข้าไว้ลำพังแล้วงั้นหรือ”

ไฮโรเทนตวัดสายตาดุดันมองนางพรายเบื้องหน้าเขม็ง พยายามสื่อให้อียาน่ารู้ตัวว่าเวลานี้ไม่ควรขัดใจหรือต่อต้านเขาเลยแม้แต่น้อย

“อียาน่าเจ้าจงหลีกทาง! อย่าเพิ่งวุ่นวายกับข้าตอนนี้!”

“ไม่!! ข้าจะไม่ให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น ข้ารู้เจ้าพยายามหาหนทางตามหานีลาน่า”

เพิ่งสมรสไม่ทันไร บังอาจขึ้นเสียงใส่ผู้นำที่เปรียบดังช้างเท้าหน้า ความโทสะเริ่มก่อตัว แผ่รังสีอำมหิตเตรียมปะทุอารมณ์โกรธเคือง

“เจ้าได้ในสิ่งที่ต้องการสมดังที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะนีลาน่าหรือข้า เจ้ายังอยากได้สิ่งใดอีกงั้นหรือ ความโลภที่มีอยู่ในจิตใจเจ้าไม่มากเกินไปหน่อยหรือนางพราย”

“ข้าเพียงต้องการให้เจ้ารักข้าบ้างก็เท่านั้น..”

ร่างงามระหงส์ขยับเข้าใกล้ เอื้อมสัมผัสไหล่บึกบึน สีหน้าแสดงออกอย่างหม่นหมอง นางหวังเพียงสายตาอ่อนละมุนที่มองราวกับนางเป็นที่รักบ้างก็เท่านั้น ไฮโรเทนยกมือขึ้นสัมผัสแขนบอบบางก่อนดึงและสะบัดทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย สายตาว่างเปล่ามองตรงยังเบื้องหน้าไม่มีแววอ่อนโยนให้เห็นแม้แต่น้อย ร่างกำยำสะบัดหางมุ่งหน้าห่างไกลออกไปจนลับตา อียาน่าได้แต่มองตามเหลียวหลังอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ชาตินี้หวังได้ครอบครองใจพรายบุรุษอันเป็นที่รักคงยากหากยังไม่สิ้นเสี้ยนหนามตำหัวใจ

“ท่านไฮโรเทน อย่าว่าข้าสอดเรื่องเจ้านายเลย แต่มันดีแล้วหรือที่ท่านจะปล่อยภรรยาไว้แบบนั้น หากต้องการตามหาบุตรสุดท้องของท่านไตรตรอนจริงคงใช้เวลามากโขกับการติดตาม”

ไฮโรเทนได้แต่นิ่งเงียบ ไม่มีสิ่งใดจะเอ่ย แต่ในเมื่อพรายบุรุษแน่วแน่ตัดสินใจลงไปแล้ว คงยากจะเปลี่ยนแปลง ร่างกำยำสะบัดว่ายรวดเร็วเพื่อต้องการให้ถึงที่หมายโดยไว

ระหว่างการเดินทางที่ใกล้ถึงปลายทางเต็มที บรรยากาศรอบด้านค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่ความมืดดำ ยิ่งดิ่งลึกยิ่งดูน่ากลัวจับใจ ผ่านความวังเวงมาได้ซักระยะภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏเห็นเป็นปากถ้ำดำทมิฬซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของภูตทำนายหยั่งรู้ตามข้ารับใช้บริวารบอกเล่าให้ฟังระหว่างทาง เหตุผลเดียวที่ไฮโรเทนออกค้นหาภูตทำนายคือตามหานีลาน่า เขาปล่อยเวลาให้ช้าต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ความน่าพิศวงของสถานที่ไม่ได้ทำให้พรายบุรุษหวาดกลัวแต่อย่างใด หากในอกรุ่มร้อนเป็นไฟอยากหาหนทางทำให้มันสงบลงโดยเร็ว

“มาแล้วงั้นหรือ.. ไฮโรเทน..”

เสียงกึกก้องคำรามสะท้อนดังทั่วบริเวณ พรายบุรุษชะงักกึกอยู่กับที่ จ้องมองผู้ทักทายเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงไม่คิดฝันว่าภูตทำนายจะล่วงรู้ถึงการมาเยือนของเขา และที่สำคัญชื่อเสียงเรียงนามไม่ต้องเอ่ยบอกหรือแนะนำให้รู้จักแต่อย่างใด พรายชราหลังค่อมผิวหนังเหี่ยวแห้งจนหุ้มกระดูก อายุอานามคงล่วงเลยหลายร้อยปี ดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิท เกร็ดหางสีนิลดูน่าเกรงกลัว แม้แต่ไฮโรเทนผู้มีจิตใจแกร่งกล้ายังยอมสยบให้ภูตทำนาย เนื่องจากรังสีอำนาจที่แผ่ออกมาทำให้เขาขนลุกขนพอง

“ใช่.. ข้าไฮโรเทน”

“เหตุใดถึงต้องการพบข้า หรือเพราะแม่บุตรสาวสุดท้องของจ้าวสมุทรใช่หรือไม่”

“ข้าต้องการตามหานาง..”

“นี่จ้าวสมุทรไม่ได้บอกอะไรเจ้าหรอกรึ เกี่ยวกับอนาคตพวกเจ้าว่าเป็นเช่นไร.. เหตุใดเจ้ายังกล้าฝืนคำสั่งดันทุรังมาหาข้าที่นี่”

“ข้าไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น!”

“เจ้าแน่ใจรึว่าไม่สนสิ่งใด.. แม้สาเหตุที่บุตรสาวจ้าวสมุทรต้องห่างไกลจากแดนบาดาลคือชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้ ส่วนชีวิตเจ้าก็เลือกเดินตามดวงชะตาที่ถูกกำหนดมาเช่นกัน”

“ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะเปลี่ยนแปลงอนาคตทั้งหมดด้วยมือของข้าเอง”

น้ำเสียงห้าวหาญหนักแน่นดูมั่นอกมั่นใจอย่างมาก จ้องมองภูตทำนายไม่วางตา

“เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการเช่นนั้นจริง หากอนาคตเบื้องหน้าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น”

“ข้าแน่ใจ!”

“งั้นเจ้ามีสิ่งใดตอบแทนให้แก่ข้า”

พรายชราเคลื่อนกายรวดเร็ววนเวียนรอบร่างกำยำของพรายบุรุษไฮโรเทน

“ตามแต่ท่านภูตทำนายต้องการ”

“งั้นข้าจะทำให้เจ้ามีพลังอำนาจยิ่งใหญ่เพื่อติดตามนางพราย และเมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ข้าจะบอกสิ่งที่ข้าต้องการจากเจ้าเช่นกัน”

“ท่านต้องการสิ่งใด ว่ามาได้เลย”

“ช้าก่อน อย่ารีบร้อน รับรองเจ้าได้ตอบแทนข้าแน่นอน”

“ท่านแน่ใจหรือภูตทำนาย ว่าท่านสามารถทำให้ข้าตามหานีลาน่าเจอ”

“ถ้าเจ้ามีความมุ่งมั่น เจ้าจะได้เจอนาง ข้าให้สัญญา แต่เจ้าต้องอดทนกับเวลาฝึกฝน และยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นทุกประการ”

“ข้าตกลง..”


++++


โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 13:09:03

แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 13:04:45

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 55 21:51:01

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 55 21:50:22

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 55 11:35:18

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 07:56:49




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com