Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จอมเวทไร้พลัง ตอนที่ 4 vote ติดต่อทีมงาน

“...ข้ารักษาเครื่องใน...”

     “...เลิกเดิมพันไหม...”

     “...เพราะข้า...”

     ท่ามกลางภวังค์ความมืดแห่งความเจ็บปวดของอิกริด เขาได้ยินเสียงคนกำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่ แต่ด้วยจำนวนคนที่น่าจะมากกว่าหนึ่งและไม่ได้พูดคุยกันเขาจึงจับศัพท์อะไรไม่ได้เลย ได้แต่นอนฟังด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น

     “...หากข้าชนะ เขาก็จะ...”

     “อิง! ตื่นได้แล้ว!”

     ในที่สุดหนึ่งในคนเหล่านั้นก็หันมาคุยกับเขา อิกริดค่อยๆเปิดเปลือกตาหนักอึ้งขึ้น ความเจ็บปวดที่ถมทวีค่อยๆผ่อนคลายลง เสียงพูดคุยหายไปราวกับภาพฝัน

     นี่มันเสียงแอนนานี่นา อิกริดคิด

     เป็นแอนนาจริงๆที่ปลุกเขาให้ตื่นขึ้น ลาเวนเดอร์ก็นั่งอยู่ข้างๆกำลังมองเขาด้วยความดีใจ ด้านหลังมีคนจำนวนหนึ่งกำลังมุงดูเขาอยู่ด้วยความสนใจใคร่รู้ เท่าที่อิกริดจำได้ เขาดันร่างของลาเวนเดอร์ให้หลบไปจึงโดนนกพุ่งเข้าใส่แทน จากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีก

     “เจ้าโดนนักยักษ์จิกลงบนช่องท้อง ตอนนี้ข้าทำได้แค่เพียงรักษาเครื่องในให้เท่านั้น” แอนนาวางมือบนท้องของเขาที่ชุ่มไปด้วยเลือด ว่าแล้วอิกริดก็หน้ามืดอย่างบอกไม่ถูก “วิเศษไปเลยนะดาบเล่มนั้น ขนาดเจ้าบาดเจ็บเจียนตายยังทำได้ขนาดนั้น” นางทำท่าจะพยุงเขาลุกแต่ลาเวนเดอร์เข้ามาช่วยเสียก่อน

     “ข้าไม่ขอโทษหรอกนะ ไม่ได้ขอให้เจ้าช่วยสักหน่อย”

     “แล้วนกตัวนั้นล่ะ” อิกริดพูดด้วยความยากเย็น ในลำคอเต็มไปด้วยรสเลือด

     “เจ้าเป็นคนจัดการอย่างไรละอิง” แอนนาชี้ไปดูนกยักษ์ซึ่งตอนนี้กลายเป็นซากรุ่งริ่งด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ เลือดสีแดงอาบไปทั่วบริเวณ “เจ้าสั่งให้ดาบเล่มนั้นงอกใบดาบเล็กๆออกมาทิ่มแทงจนตาย จำไม่ได้หรือ” อิกริดสั่นหัว

     “เอาเถอะตอนนี้ไปพักบนเกวียนก่อน เขาจะพาไปส่งให้ที่โรงแรม ฝากอิงด้วยนะลาเวนเดอร์ ข้าต้องไปดูคนเจ็บคนอื่นๆก่อน”

     แล้วแอนนาก็หายเข้าไปในกลุ่มคนที่มุงดูอิกริดกับซากนกยักษ์อยู่ ผู้กล้าลาเวนเดอร์ค่อยๆพาชายหนุ่มขึ้นเกวียนเทียมม้าใกล้ๆ นางกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆด้วยความรับผิดชอบคนเจ็บ เมื่อเกวียนบรรทุกคนเจ็บเต็มแล้วก็แล่นกลับเข้าตัวหมู่บ้านเพื่อส่งคนที่ไม่เจ็บหนักนักกลับที่พักของตน

     “เป็นอย่างไรบ้าง แอนนาบอกว่าเจ้าเหลือแค่แผลบนหน้าท้องเท่านั้น” ลาเวนเดอร์ถามขึ้นระหว่างอิกริดพยายามหาที่นอนที่สะดวกที่สุด “แล้วนางเป็นคนรักของเจ้าหรือ”

     “เปล่า เราโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง แม่ของข้าเสียตั้งแต่คลอดข้าออกมา ตั้งแต่จำความได้ก็ถูกฝากเลี้ยงไว้กับแม่ของแอนนาแล้ว”

     อิกริดหันไปรับน้ำหญิงสาวก็มีท่าทีแปลกๆ ดวงตาเหม่อลอยใบหน้ายิ้มน้อยๆอย่างพึงใจ แล้วก็บิดไม้บิดมือราวกับกำลังเขินอายอยู่ ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงปล่อยนางให้อยู่ในห้วงความคิดของตัวเองหันไปสนใจดาบวิเศษแทน...


     ระหว่างรอบาดแผลหายเองโดยการแพทย์แบบปกติ อิกริดได้ทดลองใช้ดาบวิเศษอีกครั้งโดยสั่งให้มันงอกใบดาบออกมาเป็นแฉกๆ ซึ่งดาบยอมทำตามคำขอโดยดีตรงกับที่แอนนาเล่า ว่ามีใบดาบขนาดต่างๆงอกจากใบดาบหลักหั่นร่างนกยักษ์เป็นชิ้นๆ ปัญหาอยู่ที่ว่า ในตอนนี้เขาทำไปด้วยเจตจำนงของตนจริงหรือไม่

     “อิง! มีคนอยากคุยด้วย” แอนนาเข้ามาในห้องพร้อมกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งและผู้กล้าลาเวนเดอร์ที่วางท่าราวกับเป็นบุคคลสำคัญ

     “ข้าคือรองฝ่ายทหารม้าของเมืองอัลเทเนีย ยินดีที่ได้รู้จัก ท่านผู้กล้า”

     “ผู้กล้าน่ะคนโน้น” อิกริดหันปลายดาบไปทางลาเวนเดอร์ “แน่อยู่แล้วย่ะ” นางตอบ

     “ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน” แอนนาตัดบท “ท่านรองฝ่ายทหารม้าขอให้พวกเราช่วยกำจัดปิศาจ...”

     ท่านรองฝ่ายทหารม้าลูบหนวดเบาๆอย่างครุ่นคิด “เมืองเราขึ้นชื่อเรื่องหญิงงาม เจ้าหญิงฟรอนเซียของเราก็ได้ชื่อว่างามที่สุดในแคว้นนี้...อยู่มาวันหนึ่งปิศาจมังกรก็ปรากฏตัว มันต้องการตัวเจ้าหญิงฟรอนเซียไปเป็นเจ้าสาวของมัน”

     “แล้วอย่างไรต่อ เหตุใดพวกท่านไม่สู้ล่ะ”

     อิกริดถามทั้งที่ยังจ้องมองดาบวิเศษอยู่ เนื่องจากแม่ของแอนนาสามารถเรียกสัตว์ปิศาจได้เขาจึงเคยเห็นมังกรจนเบื่อ ทั้งถูกใช้งานเป็นพาหนะ ขนส่ง ใช้แรงงานเยี่ยงทาสโดยไม่ต้องเสียค่าจ้าง

     “พวกเราหาทางเจรจาโดยบอกไปว่าเจ้าหญิงมีคู่ครองอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ผล...เจ้าปิศาจมังกรยังบอกด้วยว่าให้คู่หมั้นหมายของเจ้าหญิงมาสู้กับมัน ใครชนะจะได้ตัวเจ้าหญิงไป”

     “ให้องค์เอริสเป็นพยาน พวกท่านเจรจาต่อรองกับพวกปิศาจหรือนี่! แถมมันยังยอมให้มีการต่อสู้อย่างยุติธรรมอีก” แอนนาปิดปาก

     “ตามตำนานว่าเอาไว้ องค์เอริสตรัสว่าเหล่าปิศาจไม่ได้มีแต่พวกเลวร้าย นั่นคือสาเหตุที่ท่านไม่กำจัดจนหมดสิ้น” ท่านรองตอบอย่างทรงภูมิ

     “แล้วต้องการให้ข้าไปประลองกับปิศาจนั่นล่ะสิ” อิกริดเอ่ยถาม ดวงตายังจ้องดาบวิเศษอย่างไม่ลดละ

     “ไม่ใช่แค่ท่าน พวกท่านต่างหาก ท่าน ผู้กล้าหญิงท่านนี้ กับผู้กล้าอีกหนึ่งท่าน เราจะหลอกล่อว่ามีว่าที่พระคู่หมั้นของท่านหญิงสามคน หากชนะได้สองในสามเจ้าปิศาจจะชนะ ข้าเลือกพวกท่านเพราะประทับใจฝีมือในการต่อสู้กับนกยักษ์”

     “แล้วคู่หมั้นตัวจริงของเจ้าหญิงล่ะ เหตุใดไม่ออกมาสู้” แอนนาโผล่งขึ้น

     “คนรักขององค์หญิงเป็นทหารใหม่ในหน่วยอัศวิน เจ้าตัวอยากต่อสู้ด้วยตัวเองแต่ฝีมือไม่ถึง แต่อีกไม่นานเราจะให้เจ้าหญิงอภิเษกกับเจ้าชายพระองค์อื่นแล้ว”

     “ขอปฏิเสธ! ข้าไม่ชอบทำงานการกุศล” อิกริดตอบโดยไม่ต้องคิด ทำให้แอนนามองเขาด้วยดวงตาขุ่นเขียวตามประสาผู้หญิง “ก็ได้แอนนา แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ตกลงนะ”

     “ผู้ที่ปราบปิศาจมังกรได้จะได้สิ่งที่ต้องการหนึ่งอย่างอยู่แล้ว หากท่านตกลงบ่ายนี้เราจะใช้มนตร์เคลื่อนย้ายไปกันเลย เวลาระหว่างสองที่ต่างกันราวสามชั่วโมง จะได้ทานอาหารขึ้นชื่อของทางเราได้ทันที”...


     “ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะรอดจากศึกนั้นมาได้ แถมยังหลบเข้ามาอยู่ในอิเดนได้อีก”

     “ข้าเห็นท่านจอมปิศาจรีอากลับเป็นมนุษย์จึงอยากเป็นมนุษย์บ้างขอรับ ท่านเวเบอร์”

     เสียงพูดคุยกันปลุกอิกริดให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขากับแอนนามายังเมืองอัลเทเนียแล้วและได้พักผ่อนในเขตห้องพักแขกอย่างอิสระ

     เสียงหนึ่งคือเวเบอร์ไม่ผิดแน่ ส่วนอีกเสียงทุ้มต่ำคงเป็นผู้ชาย อิกริดคิด

     “ถ้าตอนนั้นเจ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างลอกคราบผลการต่อสู้ระหว่างพวกเจ้ากับท่านมาเวอร์ริคอาจเปลี่ยนไปก็ได้...ช่างเถอะ เรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว”

     “ท่านก็รู้ว่าข้าอิจฉาเหล่ามนุษย์มาตลอด ยิ่งเห็นนายเหนือหัวเปลี่ยนเป็นมนุษย์ก็เชื่อแน่ว่าข้าสามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้”

     อิกริดยังคงนอนฟังอย่างจดจ่อแม้จะไม่รู้ว่าอีกสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ในใจสงสัยว่าเวเบอร์กำลังคุยกับใครกัน

     “ลุกขึ้นมาคุยด้วยก็ได้อิกริด เจ้านี่มีเรื่องอยากขอร้องเจ้าด้วย” เวเบอร์ทักขึ้นอิกริดจึงยันตัวขึ้นนั่ง

     แขกยามดึกของพวกเขาเป็นชายในชุดเกราะสีดำสนิทปกปิดหน้าตาและแขนขา ร่างสูงตระหง่านดูแข็งแกร่งสมชายชาตรี

     “ท่านนี้คงเป็นร่าง...” ชายสวมเกราะรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อเห็นดวงตาสีพระจันทร์แดงของเวเบอร์จ้องมองมาด้วยท่าทางไม่ชอบใจ “...ร่างสถิตของท่านเวเบอร์ ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง” อิกริดพยักหน้า ความง่วงงุนเริ่มหายไปแล้ว

     “ข้าคือปิศาจมังกรชาล์ทาล ข้าอยากให้ท่านถอนตัวจากการประลองเพื่อช่วยเจ้าหญิง” อิกริดตกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายบอกตามตรงว่าเป็นปิศาจมังกร “คนอื่นข้าไม่กลัว คนที่ข้ากลัวมีแต่ท่านเวเบอร์เท่านั้น ซึ่งเขาเป็นกำลังของท่านอีกต่อหนึ่ง”

     เอาแต่ใจกันจริงๆ ฝ่ายมนุษย์ก็อยากให้เอาชนะปิศาจมังกรให้ได้ ฝ่ายปิศาจมังกรก็ต้องการให้ถอนตัว นี่เขาจะต้องเอาใจคนอื่นไปอีกนานแค่ไหนกัน อิกริดคิดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

     “เพชรชมพูยอดมงกุฎของเมืองนี้เป็นสิ่งวิเศษ เมื่อได้มันมาจะขอพรได้หนึ่งข้อ หากข้าได้เป็นราชาจะมอบสิ่งนั้นให้ท่าน ตกลงหรือไม่”

     “สิ่งที่ข้าต้องการในตอนนี้คือความแข็งแกร่ง และข้าต้องได้มันมาด้วยตัวเองเท่านั้น”

     ไหนๆแล้วก็ขอเขาสนุกสักหน่อยก็แล้วกัน อิกริดคิด

     “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความโอบอ้อมอารีไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงไม่ฟังเหตุผลข้าบ้าง เราสองคนรักกัน ข้าเพียงแค่ต้องการผลงานเพื่อขออภิเษกกับองค์หญิงเท่านั้น ข้าไม่ได้ขอให้ท่านทำสิ่งเสื่อมเกียรติอย่างแกล้งแพ้สักหน่อย”

     “อย่างนั้นตอนประลองก็สู้สุดฝีมือสิ หากข้าชนะก็จะขอสิ่งนั้นไปจากเจ้า...ความสนุกของข้าในตอนนี้คือการแสวงหาพลัง และการใช้พลังนั้นต่อสู้กับคู่มือเก่งๆอย่างถึงที่สุด ไม่ได้ทำเพื่อความปรารถนาของผู้ใด”

     “ทำไมล่ะอิกริด!” อยู่ดีๆผู้กล้าลาเวนเดอร์ก็โผล่เข้ามาจากทางหน้าต่าง เสื้อผ้าสีฟ้าเบาสบายคงเป็นชุดนอน “พอดีได้ยินเสียงคนคุยกันจึงใช้ดาบวิเศษออกมาดูจากทางหน้าต่างน่ะ...ทั้งสองคนรักกันนี่ เหตุใดเจ้าไม่ช่วยเขาล่ะ ประเดี๋ยวข้าแกล้งแพ้ให้ก็ได้ ท่านนี้จะได้มีผลงาน แต่ผลงานอะไรหรือ”

     “นางได้ยินมากแค่ไหนกัน” เวเบอร์พูดกับตัวเองด้วยเสียงกระซิบ

     อิกริดขยี้หัวอย่างรุนแรง เขามีแอนนาที่ทำตัวผสมผสานระหว่างเพื่อนกับแม่ก็พออยู่แล้ว ไม่ต้องการคุณแม่เพิ่มอีก เมื่อไปดูที่หน้าต่างก็พบแผ่นดินแกร่งเชื่อมหน้าต่างสองห้องเอาไว้ด้วยกันเป็นแผ่นรองเดิน นางคงเสกขึ้นด้วยอำนาจจากดาบวิเศษคู่นั้น

     “เจ้าจะแกล้งแพ้ก็เรื่องของเจ้า ลาเวนเดอร์ แต่ถือวิสาสะเข้ามาได้อย่างไร...แล้วห้องของเจ้าอยู่ถัดไปอีกสองห้องไม่ใช่หรือ เหตุใดได้ยินเสียงไกลนัก”

     “ข้า...ข้าขอเปลี่ยนห้องเอง ข้าไม่ชอบห้องนั้น” อยู่ๆนางก็อึกอักเสียอย่างนั้น ก่อนเปลี่ยนสีหน้ากลับมาโต้คารมกับอิกริดต่อ “เรื่องนั้นไม่สำคัญ ท่านจะใจไม้ไส้ระกำไปถึงไหนกัน นายทหารท่านนี้อุตส่าห์ฝ่าความมืดเข้ามาขอความช่วยเหลือเชียวนะ”

     “แล้วเข้ามาในห้องผู้ชายค่ำๆมืดๆแบบนี้ไม่กลัวบ้างหรือ กลับไปได้แล้วไป!” ด้วยความรำคาญทำให้อิกริดพยายามไล่หญิงสาวกลับออกไปทางหน้าต่างโดยไม่ทันฟังนางพูด หากหญิงสาวยังยืนเท้าสะเอวมองเขาด้วยแววตาตำหนิ

     “คนบ้า! ต้องทำอย่างไรท่านจึงจะยอมช่วยคนอื่นง่ายๆบ้างนะ”

     “น้ำใจมันกินได้ที่ไหน!” อิกริดตอบอย่างเสียไม่ได้ “ถ้าไม่ยอมออกไปข้าจะโยนเจ้าออกนอกหน้าต่างเดี๋ยวนี้ละ!”

     “แล้วพรุ่งนี้เราจะได้เห็นดีกัน!” ผู้กล้าหญิงตอบแล้วปีนหน้าต่างกลับไปทางที่นางเข้ามา

     “ส่วนเจ้าก็กลับไปได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรคำตอบของข้าคือไม่” อิกริดเดินไปหยิบดาบปีกวิหคมาถือไว้เพื่อข่มขู่ “หรืออยากเปิดฉากประลองกันเดี๋ยวนี้เลย...”

     ด้วยคำขู่ของอิกริดทำให้ปิศาจมังกรยอมถอยกลับแต่โดยดี ส่วนเวเบอร์นั้นนิ่งเงียบไม่พูดจาเหมือนทุกครั้ง อิกริดวางดาบวิเศษพลางคิดว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นในเวลาประลอง...

***********************

คุณPsycho man  - - มองอีกด้านพวกนกก็แค่หากินตามปกติครับ แค่มากินคนเท่านั้นเอง


ลิงค์

ตอนที่ 3 - - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12888111/W12888111.html
ตอนที่ 2 - - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12879933/W12879933.html
ตอนที่ 1 - - http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12717775/W12717775.html
บทนำ - - http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/09/W12645393/W12645393.html

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:11:09




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com