Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 10. vote ติดต่อทีมงาน

.
.

10.

‘นางฟ้าตกสวรรค์’ หัวข้อข่าวพาดขึ้นตามหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสารแฟชั่น คอลัมน์แวดวงสัมคมไฮโซ หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีขาวถูกถ่ายภาพอวดความงดงามตีแผ่หรา ทั้งข้อความและรูปภาพตกอยู่ภายใต้สายตาของพรีมาดาทุกรายละเอียด เธอรู้สึกประหลาดใจกับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งตามคำกล่าวอ้างของเพื่อนสนิทเหตุใดจึงสวยเด่นเป็นประกายดึงดูดความสนใจแก่ช่างภาพทั้งหลาย งานหมั้นหมายออกจะใหญ่โตอลังการ ข่าวคราวแทบจะไม่มีให้เห็น ผิดกับหญิงสาวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ากลับโดดเด่น ยิ่งคิดยิ่งเสียอารมณ์ ‘หล่อนเป็นใครกันแน่’ แม้แต่กันย์วัฒน์คนรักเก่ายังแสดงความสนิทชิดเชื้อจูงไม้จูงมือพาเดินออกจากงานเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดคำถามต่อเนื่องในใจ

“พรีมครับ..”

สติรับรู้ตื่นจากภวังค์ความคิดชั่วครู่ หันสายตามองตามเสียง คู่หมั้นหนุ่มส่งยิ้มโปรยให้อย่างหวานซึ้ง หยาดเยิ้มในแววตา เมื่อเห็นคนพิเศษมองมาตามคำเรียกชื่อ

“สวัสดีค่ะพี่รุธ มาแต่เช้าเลยนะคะ”

คำทักทายส่งกลับพร้อมรอยยิ้มสดใสพยายามปัดความกังวลในใจทิ้งให้สิ้น อนิรุธบุรุษหนุ่มว่าที่สามีในอนาคตย่างก้าวเดินตรงยังคู่หมั้นสาวพลางหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งที่อยู่ตรงกันข้าม เพื่อทอดสายตาผ่านความน่ารักสดใส

“พี่คิดถึงคู่หมั้นพี่นิครับ”

คำหวานหยอดเติมความรู้สึกให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรู้สึกแรกรัก พรีมาดาก็ยินดีสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ใหญ่ให้สมปรารถนาตามที่หวังไว้ ถึงอย่างไรเธอก็ตัดสินใจรับหมั้นและยอมสละทิ้งคนรักเก่าให้คงที่ระยะห่าง ลดตำแหน่งเหลือเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น

“พี่รุธนี่หวานแต่เช้าเลยนะคะ ว่าแต่ตั้งใจมาหาพรีม หรือมีธุระกับคุณพ่อ คุณแม่คะ”

“ไม่ได้มีธุระอะไรครับ พี่ตั้งใจมาหาพรีม กะว่าจะพาออกไปหาอะไรทานข้างนอก ว่าแต่พรีมทำอะไรอยู่ครับ”

“พรีมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวงานหมั้นเมื่อคืนหน่ะค่ะ”

“เออ.. จริงสิ พอดีเพื่อนพี่ที่เป็นช่างภาพ ฝากมาถามพรีมว่า พอจะรู้จักผู้หญิงผมยาวที่ใส่ชุดเดรสสีขาวไหมครับ เห็นเจ้าเพื่อนตัวดีบอกว่าเธอมากับกลุ่มเพื่อนสนิทของพรีม เลยอยากให้ติดต่อเธอโดยตรงนะครับ”

“เพื่อนพี่รุธจะติดต่อผู้หญิงคนนั้นเรื่องอะไรหรือคะ..”

“คงอยากปั้นเป็นนางแบบมั้งครับ เห็นหลงปลื้มน่าดูว่าเธอคนนั้นสวยขึ้นกล้องมาก”

รอยยิ้มชื่นชม สร้างความหงุดหงิดในใจ เหตุใดหญิงสาวคนที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ คล้ายใบมีดคมกริบบาดเฉือนความรู้สึกในใจลึกๆ ให้เจ็บแปลบอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“พรีมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวยังไงจะลองติดต่อสอบถามเพื่อนพรีมให้นะคะ”

“โอเคครับ ไว้ได้เรื่องยังไงบอกพี่อีกทีนะครับ จะได้ให้เจ้าเพื่อนตัวแสบติดต่ออย่างเป็นทางการ จะได้เลิกเซ้าซี้พี่เสียที”

“ได้ค่ะ” ความรู้สึกขุ่นเคืองก่อตัวในใจ ทำไมใครต่อใครถึงต่างพากันหลงชื่นชมหล่อนกันหมด จุดเด่นของงานควรจะเป็นเธออย่างนั้นไม่ใช่หรือ ความรู้สึกส่วนลึกขัดแย้งกันเอง


++++


ภาพพร่าเบลอเลือนรางของเพดานขาวสะอาดภายในห้องที่เห็นจนเกือบชินตา ค่อยๆ ปรับชัดเจนขึ้นตามลำดับเมื่อดวงตาเบิกกว้างจนเป็นปกติ สมองสั่งการรับรู้ แต่อาการวิงเวียนยังไม่จางหาย มือบอบบางยกกุมขมับ กดบีบเบาๆ คลายความงุนงงที่ยังคงเกาะกุมศรีษะไม่ยอมปล่อย นีลาน่าได้แต่ย้อนรอยความจำที่ผ่านมา เมื่อคืนนางอยู่ในงานเลี้ยงหรูหราและบุรุษทั้งหลายสหายเจ้าโลกันต์ยื่นประเคนน้ำหวานสีสันสวยงามให้ดื่ม และภาพในความคิดกลับเริ่มรางเลือนจนจำอะไรไม่ได้อีก

นีลาน่าขยับกายลุกนั่งก่อนก้าวลงจากเตียงนอนกว้าง เดินต่อยังประตูห้องเพื่อดูลาดเลาการมีตัวตนของมนุษย์โลกว่ายังคงอยู่ภายใต้หลังคาที่พักหรือไม่ หากเดินหาจนทั่วเขตอาศัยยังคงไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตปรากฏให้เห็น เจ้าโลกันต์คงไม่อยู่เสียแล้วเวลานี้ หลังจากสำรวจจนครบถ้วนทุกตารางนิ้วไม่พบสิ่งใด พรายสาวก้าวเดินต่อยังห้องครัว เปิดตู้แช่เย็นหยิบขวดน้ำเทใส่แก้ว ยกดื่มแก้กระหาย เหตุใดในลำคอถึงแห้งผากจนรู้สึกระคายเคืองราวกลืนกินเม็ดกรวดเม็ดทรายเช่นนี้ นางยังคงไม่เข้าใจตนเองที่ดูมีอาการผิดปกติพิลึก ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย มีมาเยี่ยมเยือนจิตใจให้รู้สึกหมดแรง

ยามนี้นีลาน่ารู้สึกอ่อนแอ ไร้กำลัง วิธีเดียวที่พอจะทำให้นางทุเลาลงจากสิ่งรุมเร้าคงไม่พ้นการได้สัมผัสรับความชุ่มชื่นของน้ำที่ชื่นชอบเพื่อซ่อมแซมร่างกายอ่อนแอ ร่างบางไม่รอช้ารีบรุดพาตนเองเดินขึ้นชั้นบนทันที เจ้ามนุษย์โลกันต์คงไม่โผล่หน้ามาเวลานี้เป็นแน่ นีลาน่ารีบเร่งให้ถึงที่หมายโดยไว


++++


เครื่องยนต์ดับสนิทยังประตูรั้วหน้าบ้าน กันยวัฒน์ก้าวลงจากรถหรูพร้อมบุรุษอีกนายลักษณะท่าทางเข้าขั้นเท่สมาร์ท วางมาดขรึม หล่อสำอางค์เอาเรื่องไม่น้อย ท่วงทางการเดินอกผ่ายไหล่พึ่ง หน้าเชิดราวเดินแบบอยู่บนแคทวอล์คระดับโลก เยื้องย่างขนาบข้างเจ้าของบ้านมุ่งเข้าด้านในตามติดระยะประชิดตัว

“นี่กันย์.. ให้ชายมาสอนหนังสือเด็กอนุบาล แล้วเด็กอยู่ไหน เข้ามาในบ้านไม่เห็นมีใคร เงียบอย่างกับป่าช้าฝังศพไร้ญาติ”

เสียงแหบใหญ่เอ่ยถามเมื่อกวาดสายตาจนรอบที่พักอาศัยไม่เห็นผู้ใดรบกวนลูกตา

“ใจเย็นน่า นั่งรอนี่ก่อนล่ะกัน เดี๋ยวผมมา เดินขึ้นไปดูเด็กนักเรียนก่อนว่าตื่นหรือยัง”

กันย์วัฒน์สาวเท้าเดินขึ้นชั้นบนเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลังจากวันนี้เป็นต้นไปนีลาน่าคงไม่มีเวลาว่างที่จะทำจานแตกหรือรีดเสื้อผ้าไหม้อีกแล้ว เขาหวังให้เป็นเช่นนั้น ประตูห้องนอนของนีลาน่าถูกบิดเปิด แต่ทว่าเวลานี้ไร้ซึ่งเงือกพราย นางหายไปไหนอีกแล้ว.. สายตากวาดมองรวดเร็ว พาสมองสั่งการสิ่งที่ต้องทำลำดับต่อไป สองเท้าไม่รอช้าพาตนเองเดินยังที่หมายหากพอเดาสถานที่ออกว่านางควรอยู่แห่งใด

“นีลา!!”

ใจร่วงหายลงปลายเท้า เมื่อภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือร่างบางนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นเบื้องหน้า กันยวัฒน์สาวเท้าเร็วถึงตัวนีลาน่าอย่างเร่งด่วน มือแข็งแรงพยุงกายพรายสาวขึ้นแนบอกจับร่างเขย่าให้รู้สึกตัวตอบสนอง เม็ดเหงื่อผุดเต็มใบหน้านวลเนียน ผิวกายเย็นเฉียบ ซีดขาวจนน่าตกใจ

“คุณเป็นอะไร!” บุรุษหนุ่มถามไถ่อย่างกังวล จิตใจสั่นไหว ทำสิ่งใดไม่ถูกเอาเสียเลย อย่างเดียวที่พอนึกออกเวลานี้คือน้ำ การกระทำเร็วทันความคิดกันยวัฒน์ช้อนอุ้มร่างบางเดินหน้าลงสระบัวทันที น้ำคงเป็นสิ่งเดียวที่น่าจะช่วยประทังชีวิตอมนุษย์อย่างเงือกพรายได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้

“นีลา.. ฟื้นสิ!”

มือแข็งแรงพยายามตวัดน้ำในสระรดผิวกายซีดขาวให้สัมผัสรับรู้ความสดชื่น ใจแกร่งสั่นไหวรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ หรือเพราะเขาเองที่ปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลนางให้ดีกว่านี้ บางทีอมนุษย์ในร่างคนอาจต้องการความเอาใจใส่มากกว่ามนุษย์ธรรมดาก็เป็นได้

“กันย์!! เกิดอะไรขึ้น..”

เสียงตระหนก ตกอกตกใจ หยุดยืนระหว่างประตูทางเข้าเตรียมก้าวออกมายังสวนหย่อมอย่างกระตือรือร้นห่วงใย

“อย่าเข้ามา!!”

กันยวัฒน์เบี่ยงกายปกป้อง ปิดบังพรายสาวพร้อมส่งเสียงดุดันห้ามปรามออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด ไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาใกล้กว่านี้

สมชาย.. บุรุษผู้ซึ่งเปรียบดังเพื่อนสนิทคนหนึ่งก็ว่าได้ กันยวัฒน์ตั้งใจนำติดรถมาเพื่อให้ช่วยสอนนีลาน่าเกี่ยวกับการเรียนรู้ ทั้งอ่าน ทั้งเขียน ภาษามนุษย์โลกให้พอเป็นบ้าง และประเด็นสำคัญเพื่อฆ่าเวลา โดยที่นีลาน่าไม่ต้องอยู่ว่างไปวันๆ

หากสีหน้ากังวลใจ สงสัย หวาดกลัว ยังปรากฏชัดเจนบนใบหน้าสมชาย ความลับที่พยายามปกปิดคงไม่ถูกเปิดเผยเอาตอนนี้หรอกใช่ไหม กันยวัฒน์กังวล ระยะทางที่ห่างพอควร คงไม่ทำให้ใครเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ แตกต่างจากมนุษย์มนาเขาเป็นกัน

“กันย์! ชายเป็นห่วง ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย มีใครเป็นอะไรไหม! โอ๊ย!! แล้วทำไมมีซากนกตายด้วยล่ะ.. ชายเริ่มรับไม่ได้แล้วนะ น่ากลัวที่สุด มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย!!”

“โทษที.. เอารถผมขับกลับบ้านไปก่อนแล้วกัน วันนี้คงไม่สะดวก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาสอน โอเคไหม”

“ดีๆ ได้เลย! งั้นชายกลับก่อนนะ แล้วไว้คุยกันนะ”

บุรุษที่เคยตั้งท่าวางมาดขรึมเวลานี้หลุดอาการแปลกๆ ลนลานรีบร้อนหันหลังกลับไม่คิดชีวิต เขาคงไม่รอเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งที่ห่วงเพื่อนแทบตาย แต่เวลานี้ความกลัวควบคุมสมอง คงต้องวิ่งหนีให้ห่างไว้ก่อนจากซากนกไร้วิญญาณที่มองกี่ทีก็สยดสยองจนหลอนโลก

“นีลา.. คุณเป็นไงบ้าง!”

กันยวัฒน์เรียกชื่อพรายสาวในอ้อมกอดอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตค่อยๆ ปรือขึ้น นัยน์ตาประกายแดงก่ำค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีมรกตอมฟ้าส่องสะท้อนตามเดิม ทำให้พอโล่งใจขึ้นมาบ้าง มือแข็งแรงเขย่าร่างบางเบาๆ ให้รับรู้ นีลาน่าเริ่มมีความรู้สึกตื่นตัว หางงามโบกสะบัดพลิ้วไหวกระเพื่อมตามน้ำน้อยๆ

“เราเป็นอะไร..”

“ผมสิต้องถามคุณ ทำไมถึงมานอนสลบอยู่บนนี้”

นีลาน่าขยับกายเชื่องช้าทรงตัวนั่งมั่นคง แขนแข็งแรงค่อยๆ คลายออกจากกันปล่อยร่างบางเป็นอิสระ พรายสาวครุ่นคิดชั่วครู่พอจำได้รางๆ ว่าร่างกายตนเองเริ่มมีอาการย่ำแย่ อึดอัด จึงเดินขึ้นมาเพื่อรับสัมผัสความสดชื่นยังสระบัว แต่แล้วจู่ๆ เกิดหมดสติไม่รับรู้สิ่งใดอีก

“เรารู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรง เลยอยากมาลงน้ำ แต่กลับจำสิ่งใดไม่ได้เลย”

กันยวัฒน์ได้แต่ส่องสำรวจพรายสาวเบื้องหน้าค้นหาสิ่งผิดปกติตามร่างกาย ใบหน้าดูดีมีเลือดฝาดดังเดิม สาเหตุที่นางเป็นเช่นนี้คงเกิดจากผลข้างเคียงของสิ่งมึนเมาที่ร่างกายรับเข้าไป เขาได้แต่สันนิษฐานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“คุณคงเมาค้าง ผมว่าไปนอนพักดีกว่าไหม”

ถึงแม้จะหาเหตุผลลบล้างข้อขัดแย้งในใจ แต่ความรู้สึกพะวงยังคงวนเวียน กันยวัฒน์ค่อยๆ พยุงร่างบางพาเดินเข้ายังเขตอาศัย พลันหางตามองเห็นซากศพนกน้อยจึงนึกขึ้นได้ถึงท่าทีหวาดกลัวของเพื่อนที่แสดงออกมาเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ ทำไมจึงมีนกตกมาสิ้นใจบริเวณนี้ ข้อสงสัยถูกตั้งเป็นคำถามเพื่อรอหาคำตอบ แต่คงต้องปล่อยไปก่อน เวลานี้พานีลาน่าพักผ่อนคือสิ่งสำคัญยิ่งกว่าคิดถึงซากศพที่บังเอิญเจอะเจอ


++++


“ไอ้เกล้า วันนี้ข้าไม่ไปเล่นดนตรีนะ นีลาไม่สบาย”

เครื่องมือสื่อสารขนาดพกพาถูกต่อสายยังเพื่อนสนิทซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่เปรียบเสมือนหัวหน้าวงดนตรีที่ทำงานร่วมกัน เพื่อทราบข่าวคราวของการขาดงาน เนื่องจากต้องค่อยดูแลพรายป่วยที่เวลานี้หลับไหลไร้ความรู้สึกรับรู้ใดๆ

กันยวัฒน์หยุดยืนข้างเตียงนอนเมื่อเจรจาธุระทางโทรศัพท์เสร็จสิ้น เขามองดูนีลาน่าอย่างห่วงใย หรือเพราะถิ่นอาศัยแห่งนี้ไม่คุ้นเคย นางจึงเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เหตุผลต่างๆ สารพัดจะคิด ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นโต้แย้งกับข้อสงสัยที่เกิดขึ้นว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ เกิดฉุกคิดถึงร่างไร้วิญญาณของนกน้อยที่นอนเสียชีวิตขึ้นมา คงไม่ปล่อยให้เป็นปัญหาคาใจอีกครั้ง สองเท้าก้าวเดินยังปลายทางทันที

เหล่าซากศพของสัตว์ปีกนอนแข็งทื่อชวนหันหน้าหนี แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพิสูจน์ให้รู้กันไปว่าทำไมสัตว์โลกที่บินอยู่บนท้องฟ้าจึงตกลงมาสิ้นชีพยังพื้นดินเบื้องล่าง ทั้งที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนตั้งแต่อาศัยอยู่ที่นี่ กันยวัฒน์ค่อยๆ เอื้อมมือจับสัมผัสร่างไร้วิญญาณพลิกหาสาเหตุราวชันสูตรศพเก็บหลักฐานอะไรประมาณนั้น สภาพศพหลังจากผ่านการสำรวจพบว่ามีรอยเขี้ยวฝังลงยังร่างนกน้อยทั้งสามตัว

‘เห้ย.. บนนี้มันมีงูหรือไงกัน’

ความคิดเอะดังในใจ จากสภาพศพที่ผ่านสำรวจด้วยสายตาคมกริบ รอยเขี้ยวที่เห็นไม่น่าเป็นอย่างอื่นไปได้ แต่หากเป็นงูจริงตามคาดก็ไม่น่าเหลือเศษซากทิ้งศพไว้เช่นนี้ อสรพิษเลื้อยคลานน่าจะเขมือบกลืนกินนกน้อยเข้าไปทั้งตัวคล้ายอาหารเลิศรส แต่นี่อะไรกลับเหลือร่างกายแข็งทื่อพร้อมฝากรอยเขี้ยวประจาน ความน่าจะเป็นคงกลายเป็นศูนย์ กันยวัฒน์ครุ่นคิด แต่ก็พยายามปัดความสงสัยรกสมองทิ้งให้สิ้น

บุรุษหนุ่มนำพาซากศพไร้ชีวิตทั้งหลายเดินตรงยังสวนหย่อม หยิบพลั่วขนาดพอดีมือขุดดินฝังกลบร่างนกน้อยให้นอนตายตาหลับ หลังจากทำการฝังศพเสร็จสิ้น ไม่วายที่กันยวัฒน์จะเดินสำรวจตรวจตารอบบริเวณอย่างละเอียดถี่ถ้วน หากเป็นงูเงี้ยวเขี้ยวขออย่างคิดไว้ก็น่าจะโผล่ให้เห็นบ้างสักตัวสองตัว ร่างสูงก้มๆ เงยๆ หยิบจับด้ามไม้กวาดใกล้มือยกแหวกตามต้นไม้ใบหญ้าสาดสายตาสอดส่องอย่างถี่ยิบ เพื่อไม่ให้เป็นภัยยังภายภาคหน้า แต่ทว่าควานหาเท่าไรก็ไม่เจอแม้แต่เงาอสรพิษมีเขี้ยว

และเป็นอีกครั้งที่กันยวัฒน์นึกถึงพรายสาว หากนางขึ้นมาบริเวณนี้เมื่อครู่ อาจประสบพบเจอกับสัตว์เลื้อยคลานจนเป็นลมล้มพับไปก็เป็นได้ ความสงสัยก่อร่างในใจ บุรุษหนุ่มรุดเดินกลับด้านในบ้านตรงยังห้องนอนนีลาน่า ร่างนวลเนียนถูกสายตาสำรวจตรวจสอบร่องรอยผิดปกติอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง ไม่พบสิ่งใดผิดแปลกทำให้กันยวัฒน์รู้สึกโล่งใจ พลางยกผ้าห่มคลุมกายให้ร่างบางตามเดิม นางเงือกคงไม่โดนงูกัดหรอกมั้ง เขาถอยหลังนั่งลงยังเก้าอี้ข้างเตียงนอนจ้องมองพรายสาวหลับไหลเนิ่นนาน


++++


สถานที่แห่งความบันเทิง แหล่งสร้างความครื้นเครง ชวนสัมผัสบรรยากาศคึกคักไม่เงียบเหงา จุดรวมพลนัดพบของเหล่าท่องราตรีทั้งหลายแหล่ รอแค่เวลาตื่นจากหลับไหล เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดให้บริการรอบบริเวณจึงดูเงียบกริบราวเป่าสากยังได้ยินเสียกว่า ด้วยเหตุจำเป็นที่รับปากจัดการ ทำให้พรีมาดามีข้ออ้างในการมาพบปะกลุ่มเพื่อนสนิทที่คุ้นเคยเวลานี้

เสียงส้นสูงกระทบพื้นตามจังหวะก้าวเดินไม่เร่งรีบ บ่งบอกผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นรับรู้ถึงการมาเยือนของหญิงสาวทรวดทรงดี

“เฮ้! พรีม ลมอะไรหอบมาวันนี้”

พรีมาดาตวัดสายตาตามแว่วเสียงด้านข้าง พลางส่งยิ้มพร้อมเปลี่ยนทิศทางเดินหันหาต้นเสียงทักทาย

“คนอื่นไปไหนหมดล่ะ ทำไมแฟรงค์มานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว”

“ยังไม่มีใครมา คงอีกซักพักล่ะ ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่า มาตั้งแต่ผับยังไม่เปิดแบบนี้”

“จะว่าธุระก็ไม่เชิง คือเพื่อนพี่รุธที่เป็นช่างภาพ อยากให้ติดต่อผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นว่าสนใจอยากพาไปถ่ายแบบหน่ะ”

“ผู้หญิง..” ความสงสัยส่อออกทางแววตาจนต้องหันมองคู่สนทนา

“ใช่.. ผู้หญิง คนที่แฟรงค์ว่าเป็นเด็กบ้านนอกที่กันย์พากลับมา หรือจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คนที่แฟรงค์พามาในงานหมั้นของพรีมเมื่อคืนนี้ไง”

“อ๋อๆๆ ก็นึกว่าใครซะอีก”

“เป็นธุระติดต่อให้พรีมได้ไหมแฟรงค์”

“โทษทีนะพรีม คนนี้คงไม่ได้จริงๆ”

สายตาประหลาดใจส่งมองยังบุรุษเบื้องหน้าที่หันกลับไปใส่ใจหน้าที่รับผิดชอบเช็ดทำความสะอาดเครื่องดนตรีอย่างขมักเขม่นอีกครั้ง

“ทำไมล่ะแฟรงค์..”

“ผู้หญิงคนนั้นบอบบางและอ่อนต่อโลกเกินไป ผมเป็นห่วงเธอ และอีกอย่างไอ้กันย์มันคงฆ่าผมตายคามือแน่ๆ ขนาดเมื่อคืนนี้มันยังจะกินผมให้ได้กับอิแค่พาเธอคนนั้นเข้าไปโผล่ในงาน”

ใจกระตุกเจ็บแปลบคล้ายกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกาย เหตุใดต้องประคบประหงมกันราวกับเป็นสิ่งบอบบางล้ำค่า

“อะไร.. ไหนบอกแค่เด็กบ้านนอกไง บอบบางขนาดนั้นเชียวเหรอ”

“เฮ้อ.. จะอธิบายยังไงดีล่ะ.. เอาเป็นว่าพรีมบอกคนติดต่อล่ะกัน ว่าเลิกล้มความตั้งใจเหอะ”

“เหรอ.. อื้ม.. ไม่สนก็ไม่สน”

ดวงตานิ่งเฉยบนใบหน้าสดใสไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา หากในใจร้อนรุ่มดังไฟรน มันคงมีอะไรมากกว่านั้น ทุกคนถึงดูเปลี่ยนไปเพียงแค่หญิงสาวคนนั้นก้าวเข้ามาวุ่นวายในชีวิต เธอคงต้องหาสาเหตุขจัดข้อข้องใจให้จงได้

“แล้ววันนี้แวะมาแค่เรื่องนี้หรือไง”

แฟรงค์เกนสไตล์ถามไถ่เมื่อเห็นว่าบนสนทนาระหว่างกันเริ่มหดหายและเงียบลงไปจากที่สัมผัสได้

“ก็เปล่าหรอก คิดถึงเพื่อนๆ ด้วยล่ะ เลยอยากมาหา”

“แล้วเป็นไงมีความสุขดีไหม กับงานหมั้นเมื่อคืนนี้”

“จะให้พูดเรื่องจริงหรือเปล่า..”

บุรุษร่างใหญ่เลื่อนสายตามองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างสนใจเมื่อน้ำเสียงเธอดูอ่อนลงชัดเจน ไม่สมกับพรีมาดาคนที่เคยแข็งแกร่ง มั่นอกมั่นใจ เลยแม้แต่น้อย เขาพอจับความผิดปกติบางอย่างได้

“ว่ามาสิ..”

“พรีม.. คิดถึงกันย์..”

ประโยคลองใจทำให้คนฟังถึงกับอึ้งนิ่งไปชั่วขณะ พรีมาดาเองแค่อยากรู้ว่าจริงๆ แล้วเวลานี้เธอยังคงมีความสำคัญแค่ไหนกับคนรักเก่าซึ่งเพื่อนสนิทอย่างแฟรงค์เกนสไตล์คงรู้เรื่องราวเป็นอย่างดี

“ถ้าคิดถึงแล้วทำไมต้องหมั้น คุณทำร้ายตัวเอง ทำร้ายไอ้กันย์ทำไม ผมไม่เข้าใจจริงๆ”

แววตาสลด แสดงให้เห็นความอ่อนแอ ต่อให้ใครหน้าไหนจะว่าเธออย่างไร เธอก็ไม่สน พรีมาดายอมรับอย่างเต็มใจว่าแท้จริงแล้วเธอยังอยากให้คนรักเก่าอย่างกันยวัฒน์เห็นเธอสำคัญที่หนึ่งตลอดไป เธอคงเป็นผู้หญิงเอาแต่ใจ ไร้เหตุผล ในสายตาของใครๆ แต่เธอพร้อมยอมทำทุกอย่างตามที่ต้องการ

“พรีมต้องทำไงดีล่ะแฟรงค์ คิดได้ตอนนี้มันคงสายไปแล้วใช่ไหม”

“ผมว่า.. ในเมื่อเรื่องมันลงเอยแบบนี้แล้ว คุณก็ดำเนินชีวิตไปตามทางของคุณดีกว่านะพรีม อย่าให้มันเป็นปัญหาตามมาเลย บอกตรงๆ ผมสงสารไอ้กันย์ ทั้งมันและคุณ เป็นเพื่อนผมทั้งคู่ ผมไม่อยากให้ต้องผิดใจกันด้วยความเอาแต่ใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”

พรีมาดาได้แต่นิ่งเงียบ รู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูก เหตุใดเพื่อนสนิทที่เธอเคยคิดว่าเขาคงยืนเคียงข้างเธอเสมอ กลับแปรพักตร์ชัดเจนเช่นนี้ ไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่เธอพยายามทดสอบจิตใจ

“ทุกทีแฟรงค์ก็ลุ้นให้พรีมคบกับกันย์ไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้เปลี่ยนใจซะล่ะ”

“นี่พรีม.. คุณหมั้นอย่างเป็นทางการแล้วนะ ถ้าหากคุณยังไม่เข้าพิธีการอะไร ผมคงยุส่งให้กลับไปหาไอ้กันย์เต็มตัว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”

“แหม๋.. พรีมก็ล้อเล่นไปงั้นล่ะ ซีเรียสไปได้ เดี๋ยวนี้แฟรงค์เปลี่ยนไปนะดูจริงจังน่าดู ไม่เห็นล้อเล่นเหมือนแต่ก่อนเลย”

“เห้ย! ไอ้แฟรงค์หายเมาแล้วหรือไง”

เพื่อนสนิทส่งเสียงทักทายถามไถ่อาการของคนเมาไม่ได้สติจากค่ำคืนที่เพิ่งผ่านพ้นมา โดยไม่ลืมส่งยิ้มราบเรียบให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เป็นการทักทาย ระหว่างก้าวเดินหยุดยืนร่วมวงสนทนา

“งั้น.. พรีมขอไปห้องน้ำหน่อย เกล้ากับแฟรงค์คุยกันไปก่อนนะ”

พรีมาดาเดินเยื้องย่างแยกตัวออกจากกลุ่มหวังทำภารกิจส่วนตัว ปล่อยให้บุรุษเพื่อนซี้ได้เจรจาสานต่อตามประสา

“วันนี้ไอ้กันย์ไม่มานะ เห็นบอกเด็กมันไม่สบาย”

“เฮ้ย! จริงดิ นีลาน่าเป็นไรมากเปล่าวะ”

“เห็นไอ้กันย์ว่าคงเมาค้าง มันบอกไว้จะมาจัดการกับเอ็ง โทษฐานทำให้เด็กมันป่วย”

รอยยิ้มทะเล้นผุดบนใบหน้า หากในใจแฟรงค์เกนสไตล์แอบห่วงใยเงือกสาวขึ้นมาตงิด เหตุเพราะเขาเองเชิญชวนให้นางดื่มน้ำเมาทำให้ร่างกายย่ำแย่จนล้มป่วย ไว้คงต้องหาเวลาไปเยี่ยมเยียนบ้างสักวัน

“เออ.. ไอ้แฟรงค์เมื่อคืนที่เอ็งเล่าว่าเด็กไอ้กันย์ได้มาจากการประมูลจริงเปล่าวะ”

“เห้ย!”

บุรุษผู้ถูกตั้งคำถามถึงกับตกตะลึง รีบลุกขึ้นส่งมือหนาปิดปากเพื่อนสนิทไม่ให้หลุดเสียงเจรจาออกมามากกว่านี้

“...”

“เบาๆ ดิวะ เดี๋ยวใครได้ยินพอดี”

คนโดนปิดปากรีบปัดมือทิ้ง ขำท่าทางเพื่อนที่ลุกลี้ลุกลนกลัวความลับแตก

“เป็นไรของเอ็ง ทีเมื่อคืนตอนเมายังตะโกนซะลั่น วันนี้เกิดกลัวอะไรขึ้นมา”

“เมื่อคืนข้าพูดอะไรไปมั้งวะไอ้เกล้า..”

ความกังวลเกิดในใจลึกๆ บุรุษร่างใหญ่เริ่มระแวงคำพูดตนเอง หากความลับเรื่องเงือกพรายรั่วไหลคงโดนเพื่อนอีกคนฆ่าหมกศพเป็นแน่

“ก็เอ็งบอกไอ้กันย์ประมูลนีลาน่ามา เพราะเธอเป็น..”

“เป็นไร!! นีลาน่าไม่ได้เป็นไร เธอเป็นมนุษย์ดีๆ นี่เอง” ใจเต้นรัวสะเทือนไหว

“นี่เอ็งจะตื่นเต้นอะไร ทำอย่างกับนีลาน่าไม่ใช่คน”

“ใช่ดิ! นีลาน่าเป็นคน” เสียงแผ่วปลาย ‘แต่แค่ครึ่งคนนะ’ คำพูดในลำคอที่ไม่สามารถเอ่ยออกไปให้ใครรับรู้

“ก็นี่ล่ะ ข้าจะมาถามเอ็งว่าเป็นอะไร เพราะเอ็งสลบเหมือดไปซะก่อนจะได้พูดจบ”

เสียงถอนใจพ่นลมเฮือกใหญ่ทางปาก โล่งอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกหน่อยจะทำอะไรคงต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ ถึงแม้จะเพื่อนสนิทกันทั้งนั้นหากความลับคือสิ่งจำเป็นต้องเก็บให้มิด ก็คงต้องรักษาเอาไว้ให้ถึงที่สุด สัญญาลูกผู้ชายต้องหนักแน่นจนวันตาย แฟรงค์เกนสไตล์เตือนตนเอง

“ก็ข้าเมา เลยพูดจาเรื่อยเปื่อย ไม่มีไรหรอกวะ อย่าสนใจเลย”

คำแก้ต่างตัดบทเพื่อจบบทสนทนาเกี่ยวกับเงือกพรายเสียที หากทว่าการสนทนาหยอกล้อของทั้งสองเพื่อนซี้ชัดเจนพอที่จะทำให้พรีมาดาได้ยินและพยายามคาดเดาจับใจความต่อไป    

‘ประมูล’ คำถามเกิดในใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องประมูล ไหนว่าเด็กบ้านนอก พรีมาดาคงปล่อยความสงสัยให้คาราคาซังไม่ได้ คงต้องค้นหาคำตอบด้วยตนเอง


++++

โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 07:03:35

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 22:15:28

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 22:10:23

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 22:07:06

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 22:02:57

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 21:21:19




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com