บทที่ 5 ภารกิจลับ
เป็นอีกวันที่นักเรียนโข่งแวะมาหาเด็กๆ ในห้องเรียนครูพรีมพร้อมนิทานแสนสนุกเรื่องใหม่ที่เรียกเสียงหัวเราะจากเด็กๆ และรอยยิ้มของครูสาวได้ไม่ขาด เอริคเล่านิยายด้วยภาษาอังกฤษแสนง่าย ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ละสนุกสนานไปพร้อมๆ กัน อุปกรณ์ประกอบนิยายแสนสนุกก็หนีไม่พ้นตุ๊กตาแสนสวยเลื่องชื่อในความงดงามสมเป็นเจ้าหญิงอย่างตุ๊กตาบาร์บี้ที่เด็กๆ หลงใหล รวมทั้งตุ๊กตาเจ้าชายแสนสง่า ส่วนพวกตัวร้ายก็หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นเหล่าปีศาจ ที่สร้างสีสันให้เรื่องน่าสนุกยิ่งขึ้น
ในห้องเรียนครูพรีมเต็มไปด้วยเสียงแห่งความสุข แต่นอกห้องกลับคุกรุ่นไปด้วยอารมณ์ริษยาแผ่ปกคลุม ดวงตาเฉียบคมที่จับจ้องพิชชาอรผ่านประตูกระจกราวจะแผดเผาให้คนถูกมองมอดไหม้ไป
คุณเปรมเหรอคะ นี่พีชเองนะคะ พีชโทรมาบอกคุณด้วยความหวังดี ถ้าไม่อยากให้คู่หมั้นตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นงาบไปซะก่อน รีบมาหายัยพรีมที่โรงเรียนนะคะ พิชยากดตัดสายเมื่อสิ้นธุระแล้วเดินกอดอกเฉิดฉายไปจากตรงนั้น กลับมานั่งรอดูผลงานในรถคันงามที่ยืมคู่ขามาขับอวดชาวบ้าน เธอตั้งใจมาหาน้องสาว หวังจะหยิบยืมสะตุ้งสตางค์เหมือนอย่างเคย แต่ภาพความสนิทสนมระหว่างพิชชาอรกับชายหนุ่มรูปหล่อที่เธอหมายตา ทำให้ไฟริษยาจุดประกาย รู้สึกหมั่นไส้ระคนไม่ชอบใจยามเห็นบุรุษนัยน์ตาสีนิลส่งยิ้มและสายตาหยาดเยิ้มกับพิชชาอร ยัยน้องตัวดีปากแข็งบอกว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ความนัยที่แฝงมากับแววตางดงาม มันมากเกินคำว่าเพื่อน เช่นนี้ก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม
หมดชั่วโมงสอน ครูพรีมและนักเรียนโข่งช่วยกันเก็บโต๊ะและปิดห้องเรียน ครูสาวยิ้มให้บุรษรูปงามบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงไพเราะ
ขอบคุณมากนะคะ วันนี้เด็กๆ สนุกกันมาก
เด็กๆ สนุก แล้วคุณพรีมล่ะครับ สนุกด้วยรึเปล่า เขายิ้มหวานให้ครูสาวที่ทำแค่ยิ้มน้อยๆ คืนกลับมา
ให้ผมไปส่งนะครับ เอริคเสนอ แววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความเว้าวอน ที่ไม่รู้เลยว่าขัดลูกหูลูกตาใครบางคนเข้าอย่างจัง
เธอเป็นภรรยาของผม ผมดูแลเองได้ เสียงห้วนบอกทันทีเมื่อก้าวมาประชิดตัวคู่หมั้น พอได้รับโทรศัพท์จากพิชยา เปรมยศรีบเปลี่ยนเส้นทางแล้วตรงมาหาพิชชาอร อยากเห็นน้ำหน้าคนที่ริอาจข้องแวะกับผู้หญิงของเขา พลันที่สายตาปะทะกับร่างสูงของคนที่เคยคุ้น เปรมยศก็เริ่มฉุน เขาเคยเห็นชายคนนี้ในห้องเรียนของพิชชาอรเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่คิดว่าจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง บุรุษสูงสง่าที่แสนเพอร์เฟคในสายตาสาวๆ ยิ่งเห็นพิชชาอรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูสนิทสนมกัน เปรมยศก็ยิ่งไม่สบอารมณ์
คุณเปรม พิชชาอรตกใจเมื่อจู่ๆ ข้อมือน้อยก็ถูกกำแน่น ก่อนที่เขาจะหันมาใช้สายตาแข็งบังคับเธอเหมือนอย่างที่ชอบทำ
กลับบ้าน ไม่พูดพร่ำหรือหันมองหน้าใคร เปรมยศฉุดข้อมือน้อยบังคับให้ไปกับตน รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วหวังพาพิชชาอรให้ห่างจากบุรุษสูงสง่าคนนั้นโดยไว เอริคมองผู้หญิงในดวงใจที่ถูกผู้ชายหน้าขรึมดันให้ขึ้นรถ รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเขา พิชชาอรอาจมีปัญหากับคนรักของเธอ แต่กระนั้นก็เถอะ นายนั่นควรจะถนอมพิชชาอรมากกว่านี้ ไม่ใช่ใช้กำลังบีบบังคับตามอารมณ์ เขาเองเป็นคนนอก ที่ทำได้แค่ยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ครั้งนี้ยังไม่มีเหตุกาณ์รุนแรง แต่หากวันหนึ่ง หมอนั่นเกิดพลั้งมือทำร้ายผู้หญิงในดวงใจที่เขาสุดหวงแหน หรือแม้แต่ทำให้เธอต้องเสียใจ เมื่อนั้น มันจะไม่มีวันได้ตายดี
ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น รถเคลื่อนออกมาได้สักพัก พิชชาอรก็เปิดปากถาม ข้อมือยังแดงเป็นรอย เพราะเขากดน้ำหนักลงบีบมันอย่างไม่ปราณี
พูดอะไร เปรมยศสะบัดน้ำเสียงด้วยนิสัยเอาแต่ใจ
ฉันเป็นแค่คู่หมั้น ไม่ใช่ภรรยาของคุณ จะพูดอะไรคุณควรให้เกียรติฉันด้วย
วันนี้ยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ต้องใช่ จะพูดตอนนี้หรือพูดตอนไหน ความหมายมันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไอ้นักเรียนล้ำเส้นของคุณมันจะได้รู้ ว่าตัวมันไม่มีสิทธิ์
คุณเปรม! พิชชาอรปราม ตาแข็งสู้กับคู่หมั้นที่ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษอื่นใด
หึ มันทำตาหวานใส่เข้าหน่อย ลืมสถานะตัวเองไปเลยรึไง ก็แค่สถานะจอมปลอมทำไปตามความต้องการของผู้ใหญ่ หากเลือกได้พิชชาอรไม่อยากจดจำ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะทำเสื่อมเสียในขณะที่ครองตำแหน่งคู่หมั้นของเขา
ฉันไม่เคยลืม ฉันรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ทำให้คุณ ให้ครอบครัวคุณต้องเสื่อมเสียแน่
รู้ก็ดี เพราะผมไม่อยากตกเป็นข่าว ว่าคู่หมั้นแอบสวมเขาให้โดยไม่รู้ตัว
เปรมยศจ้องหน้าพิชชาอรแวบหนึ่งแล้วเมินใส่คู่หมั้นสาวที่เริ่มทำตาแข็งบ่งบอกว่าไม่พอใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไม่มีอะไรที่ลึกซึ้งหรือผูกพัน รู้จักกันในฐานะคู่หมั้นได้เพียงสิบเดือนเท่านั้น นิสัยใจคอก็ใช่ว่าจะรู้ลึกไปทุกเหลี่ยมมุม ชีวิตเขามีแค่งาน พิชชาอรก็ไม่แตกต่าง จะพบเจอกันบ้างก็ยามที่มีธุระ หรือถูกบิดามารดารบเร้าให้พาคู่หมั้นสาวไปร่วมโต๊ะอาหารที่บ้าน ในหัวสมองของเขา เรื่องรักเรื่องใคร่แทบไม่เคยได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความคิด การแต่งงานโดยปราศจากความรัก สำหรับเปรมยศแล้วมันคือเรื่องธรรมดา แค่หน้าที่ของลูกผู้ชายที่ต้องทำตามความประสงค์ของบิดามารดาที่อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา มีเชื้อสายสืบสกุล เปรมยศไม่อยากเสียเวลาไปตามหารักแท้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่า ผู้หญิงที่พ่อแม่สรรหาให้นั้นจะเป็นภรรยาที่ดีในอนาคตของเขาได้ พิชชาอรได้ครองตำแหน่งคู่หมั้นของเขา จึงยอมรับไม่ได้หากความประพฤติของเธออาจส่งผลเสียกับชื่อเสียงของเขาและครอบครัว ...............................................................................
เขมินทร์วางเอกสารเล่มย่อมลงบนโต๊ะทำงานไม้เรียบหรูดูมีรสนิยม เหมาะสมกันดีสำหรับตำแหน่งเจ้านายของเขา
สิ่งที่คุณอยากได้ อยู่ในนี้ทั้งหมดแล้วครับ มิสเตอร์แกรน เอนตัวลงนั่งที่เก้าอี้รับแขกหน้าโต๊ะทำงานของเจ้านายได้ ก็เอ่ยปากกับคนที่ยืนหันหลังจิบชาอุ่น ทอดสายตามองทะลุผนังกระจกของห้องทำงานบนตึกยี่สิบชั้น ชมวิวทิวทัศน์ด้านนอกยามพระอาทิตย์อัสดง
ผู้ถูกเรียกหันมาสบตากับลูกน้องในปกครองแล้วยกยิ้มพึงใจ เดินสง่ามานั่งประจำตำแหน่ง วางถ้วยชาลงบนจานรองลายวิจิตร ก่อนจะเลื่อนเอกสารเล่มนั้นมาพลิกเปิด
นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ เปิดอ่านข้อมูลที่จัดพิมพ์เรียบร้อยเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่มแบบคร่าวๆ มิสเตอร์แกรนด์ก็ยิ้มพอใจ ก่อนจะพลิกดูเอกสารแนบที่ท้ายเล่ม
อะไรที่มิสเตอร์แกรนด์อยากได้ ผมก็บันดาลมาให้หมดนั่นล่ะคร้าบ เหน็บเจ้านายสุดหล่อไปนิดหน่อยแล้วยิ้มอารมณ์ดี เอื้อมมือไปคว้าเบเกอรี่ในจานของเจ้านายมาโยนใส่ปาก เคี้ยวหน้าตาเฉย
เลิกเรียกแบบนั้นสักทีได้มั้ยวะไอ้เขม ฟังดูแก่ชะมัด อยู่กันตามลำพังไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากก็ได้ เพราะยังไงแกก็เพื่อนฉัน
เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นเยอะนะมิสเตอร์แกรนด์ รู้จักพิธีรีตองด้วยเหรอครับ เขมินทร์ล้อเล่น แล้วหัวเราะลั่นเมื่อเจ้านายสบถด่าเป็นภาษาอียิปต์โบราณที่เขมินทร์ฟังไม่รู้ความหมาย และเจ้านายของเขาเองก็ไม่รู้ความ หมายของมันเช่นกัน จะเลิกเล่นได้หรือยัง
โอเคๆ เข้าเรื่องก็ได้ ฉันหาข้อมูลที่นายอยากได้ทั้งหมด ตั้งแต่ประถมยันจบปริญญา แล้วก็แถมพวกกิจกรรมต่างๆ สิ่งที่ชอบทำ สถานที่ที่ชอบไป อะไรที่ชอบกินไม่ชอบกิน รวมไปถึงงานอดิเรก เท่าที่พอจะหาข้อมูลให้ได้
ผู้หญิงนี่ชอบเล่นตุ๊กตาเหมือนกันหมดเลยเหรอ ทำเหมือนยังไม่โต มิสเตอร์แกรนด์ไล่อ่านข้อมูลในมือแล้วออกความคิดเห็น
ก็เพราะยังไม่โตน่ะซิ ในห้องมีตุ๊กตาหน้าตาประหลาดเยอะแยะ แล้วดูเหมือนจะคลั่งไคล้มาก เพราะฉันเห็นวาดหมีพิการตัวเบ่อเริ่มเป็นจิตรกรรมฝาผนังประดับห้องนอนซะด้วย เขมินทร์วาดแขนให้รู้ว่าภาพหมีพิการที่เขาเห็นตัวใหญ่แค่ไหน
ถามจริงเถอะ สเปคนายเหรอผู้หญิงคนเนี๊ย ฉันว่าดูไม่เหมาะสมกับนายเท่าไหร่นะ
ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น มิสเตอร์แกรนด์ช้อนตาสีนิลขึ้นมองเขมินทร์ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเลขาส่วนตัว
ก็คนอย่างมิสเตอร์แกรนด์ เอริค ไม่น่ามีรสนิยมแบบนี้นี่หว่า ไหนว่าชอบผู้หญิงสวยสมเป็นกุลสตรี มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน แต่คุณมณิการ์นี่ ไม่มีสักข้อเลยนะโว๊ย
เธอเก่ง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีจิตนาการ
แต่ความสามารถแค่นั้นเป็นภรรยาที่ดีไม่ได้นะเอริค เขมินทร์เถียง ไม่อยากให้เพื่อนหลงเดินทางผิด สำหรับคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบอย่างมิสเตอร์แกรนด์ มณิการ์ไม่สามารถเป็นภรรยาที่ดีของเขาได้แน่ คุณสมบัติข้อแรกที่ไม่ผ่าน คือความเป็นกุลสตรี
ก็ใครว่าฉันอยากได้มาเป็นภรรยาล่ะ เอริคปิดเอกสารลงแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มเจ้าเล่ห์กับเขมินทร์ที่ขมวดคิ้วผูกกันเป็นปม
นี่นายหมายความว่ายังไง
ฉันต้องการ Jewelry Designer ฝีมือดีๆ สักคน และมณิการ์ก็คือคนๆ นั้น
เอริคเพิ่งเริ่มสร้างธุรกิจในวงการอัญมณี เขาก่อตั้งบริษัทใหญ่ที่อียิปต์ ตามโครงการที่วางไว้เป็นปี ตอนนี้บริษัทเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง จะเปิดตัวในอีกไม่ช้า และเขาต้องการผลงานเครื่องประดับชิ้นเยี่ยม จากนักออกแบบฝีมือดีอย่างมณิการ์ เป็นหนึ่งในเซทเครื่องประดับที่จะใช้ในงานเปิดตัว และมากกว่านั้น เขาอยากดึงตัวหญิงสาวมาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทของเขา
ให้มันได้อย่างนี้ซี่ แค่อยากได้เขามาร่วมงานแค่เนี๊ยะ ถึงขนาดต้องให้ผมไปตามสืบตามล้วงข้อมูลของเขาเลยหรือครับเจ้านาย ทุ่มเงินหนักๆ แค่นั้นก็น่าจะจบแล้วนะคร้าบ เขมินทร์ตบเข่าฉาด บ่นไปอย่างหัวเสีย เรื่องที่เขามองว่าง่ายแสนง่าย ทำไมเอริคถึงไม่ยอมทำ
ฉันก็เคยคิดแบบนาย แต่มณิการ์ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ อย่างที่นายคิด เงินซื้อเธอไม่ได้ สีหน้าเจ้านายจริงจัง จนเขมินทร์ไม่กล้าจะแหย่ให้เคืองอารมณ์ เขานิ่งแล้วคิดตาม เอริคลงทุนทำถึงขั้นนี้ แสดงว่าไม่หมูอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ และก่อนจะได้ซักอะไรต่อ คนเป็นนายก็เปิดปากเล่าเรื่องของมณิการ์ บอกถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร การดึงมณิการ์มาร่วมงานเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก
อ้อ อย่างนี้นี่เอง ฟังจนจบกระบวนความ เขมินทร์ก็พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ เห็นมีนิสัยเหมือนเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้น แต่มณิการ์ก็มีความคิดที่นับว่าดีเยี่ยม เข้าท่าเข้าทาง โดยเฉพาะเรื่องความกตัญญู ที่รู้จักตอบแทนแก่ผู้มีพระคุณ แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน เห็นทีงานนี้เจ้านายเขาจะต้องกินแห้วไปตามระเบียบ เพราะมณิการ์จงรักภักดีต่อเจ้านายของตัวเองและบริษัท ยากเหลือเกินที่เธอจะมองข้อเสนอของมิสเตอร์แกรนด์ เอริค
บอกแล้วว่ามันไม่ง่ายอย่างที่นายคิด เอริคย้ำด้วยสีหน้าขรึม ใช้เงินซื้อไม่ได้ แล้วนายคิดจะใช้อะไรซื้อเธอ
ใช้ใจไง ถ้าฉันสามารถเอาชนะใจเธอได้ อะไรๆ มันก็คงจะง่ายขึ้น
นี่อย่าบอกนะ ว่านายจะจีบเธอ เพราะหวังให้เธอยอมร่วมงานด้วย ทำแบบนี้มันก็เท่ากับหลอกลวงเธอนะ เขมินทร์ตาโต เมื่อเอริคบอกถึงแผนการที่คิดเอาไว้แต่ต้น
ยังไง เอริคยักไหล่ไม่เข้าใจ
เพราะนายกำลังจะหลอกให้เธอรัก
ฉันแค่ดีกับเขา ไม่ได้บังคับให้เขาต้องรักฉัน คนเราดีต่อกันในฐานะเพื่อนก็ไม่เห็นแปลก
แต่ เขมินทร์เตรียมจะแย้ง รู้สึกตะขิดตะขวงในใจแต่ไม่ทันได้หลุดปากไปมากกว่าหนึ่งคำ
ไม่ต้องพูดมาก นายแค่ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ หน้าที่ต่อไปของนายคือ พยายามเข้าไปอยู่ร่วมบ้านกับมณิการ์ให้ได้
ห๊า! เขมินทร์อุทานลั่นกับภารกิจที่ไม่เข้าท่าเลยในความคิดของเขา แต่ก็พูดได้แค่นั้น
แล้วนายต้องไม่รู้จักฉัน นายเป็นแค่นักออกแบบสวน ไม่ได้ทำงานให้ฉัน โอเคมั้ย
เขมินทร์อึ้ง ทึ่งไปหลายวินาที พอรู้สึกตัวก็กดเสียงคล้ายตัดพ้อในโชคชะตา
ฉันมีสิทธิ์พูดว่าไม่โอเคหรือวะ เขมินทร์พูดไม่ได้ เพราะบุญคุณมันค้ำคอ ครอบครัวของเอริคมีพระคุณกับบิดามารดาของเขามากมาย แล้วเขาน่ะหรือจะกล้าหือกล้าอืออะไร
มารดาของเขมินทร์เป็นลูกครึ่งสาวไทยอียิปต์ เพราะสืบเชื้อสายทางฝั่งอียิปต์มาจากตาของเขา มารดาเขาเกิดและเติบโตที่อียิปต์ ครั้นอายุครบยี่สิบปีก็กลับมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองไทย จนกระทั่งแต่งงานกับพ่อและให้กำเนิดเขา เขมินทร์เกิดและโตที่เมืองไทย กระทั่งห้าขวบ ชีวิตครอบครัวพลิกสู่ภาวะวิกฤต ธุรกิจของครอบครัวแย่ลงเพราะเศรษฐกิจตกต่ำ คอนโดที่พ่อและแม่ลงทุนสร้างไว้ติดหนี้มหาศาลและไม่มีคนเช่าพัก พ่อแม่ขายบ้านเพื่อเอาเงินบ้างส่วนไปใช้หนี้สินที่รุงรัง ช่วงนั้นเองที่เขาได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่อียิปต์ ได้กราบคุณตาคุณยายที่รักและเอ็นดูเขา คุณตาคุณยายขอร้องให้พ่อและแม่ใช้ชีวิตอยู่ที่อียิปต์สักพัก พวกท่านรับรู้ปัญหาที่ครอบครัวเขาประสบก็ไม่สบายใจ กลัวจะต้องกลับไปใช้ชีวิตกันอย่างลำบากที่เมืองไทย และพวกท่านก็ไม่ต้องการให้หลานตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
ใช้ชีวิตอยู่อียิปต์หลายปี จนเข้ามัธยมถึงได้รู้จักกับครอบครัวของเอริค พ่อแม่ของเอริคร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของที่นั่น มีธุรกิจมากมายใต้ความดูแล อาจเพราะบุญพาวาสนาส่งให้เอริคเกิดชอบใจและต้องการเป็นเพื่อนกับเขา ความสนิทสนมของรุ่นลูกทำให้รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็พลอยสนิทสนมกันไปด้วย และสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยลืมเลยก็คือ พระคุณอันยิ่งใหญ่ของมิสเตอร์และมิสซีสแกรนด์ นอกจากพวกท่านจะเอ็นดูเขาในฐานะลูกชายคนหนึ่งแล้ว ท่านยังอุปการะส่งเสียให้เขาได้เรียนในโรงเรียนมีชื่อระดับต้นๆ ของประเทศ เพราะคำร้องขอของบุตรชายที่อยากมีเพื่อนร่วมสถาบัน ไม่แค่นั้น ยังปลดหนี้สินให้ครอบครัวเขาทั้งหมด และให้พ่อแม่เขาใช้หนี้ด้วยการเข้าทำงานในบริษัทของพวกท่าน แต่ยังคงได้รับเงินเดือนในอัตราที่มากโข เรียกได้ว่าปลดหนี้ให้กันแบบฟรีๆ โดยไม่คิดเสียดาย แลกกับให้ลูกชายมีเพื่อนที่รู้ใจและคอยดูแลกันได้สักคน ด้วยเหตุนี้ เขมินทร์จึงยอมทำตามทุกความต้องการของเอริค ขอเพียงไม่เหนือบ่ากว่าแรง เขาก็พร้อมเพื่อตอบแทนบุญคุณ
ดีมากเพื่อนรัก เอริคยิ้มชอบอกชอบใจก่อนจะย้ำอีกครั้ง
อย่าลืมนะว่าเราไม่รู้จักกัน เป็นภารกิจลับ
ครับเจ้านาย เข้าใจแล้วครับผม
งั้นก็กลับไปทำงานของนายได้แล้วล่ะ ฉันหมดธุระกับนายแล้ว
เอ๊ะเดี๋ยว นายบอกให้ฉันเข้าไปอยู่ร่วมบ้านกับคุณมณิการ์ นี่นายคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายนักเหรอวะ แค่กุญแจบ้านเขายังหวงฉันอย่างกับอะไรดี เขาไม่มีทางยอมแน่ๆ
นายมีหน้าที่ต้องคิดหาวิธีนะเขม ไม่ใช่ฉัน
ฟังคำเจ้านายเขมินทร์ก็แทบถอดใจ ให้ตายเถอะ ภารกิจลับครั้งนี้เริ่มจะเกินขอบเขตของคำว่าพอดี เพราะเขาต้องเข้าไปคลุกคลีอยู่กับผู้หญิงน่ารักแต่นิสัยแปลกๆ อย่างมณิการ์ กลัวเหลือเกิน ว่าการใกล้ชิดจะนำพาความผูกพันจนถึงวันที่ภารกิจลุล่วง อาจเป็นเขาเองที่ไม่อยากให้ภารกิจนี้จบลง
เขมินทร์กลับบ้านพร้อมความคิดในสมองที่ยังวิ่งพล่านจนปวดตุบๆ พอรถเลี้ยวเข้าตัวบ้าน ผู้หญิงร่างท้วมใบหน้ายิ้มแย้มท่าทางใจดีก็เดินออกมาต้อนรับ
กลับมาแล้วครับคุณย่า วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ ผมหิวจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว ลงจากรถก็เดินเข้าไปสวมกอดคุณย่ามายด์ที่เลี้ยงเขามาแต่เด็ก จากย่าไปอยู่กับตาและยายที่อียิปต์แต่เขมินทร์ไม่เคยลืมย่ามายด์ใจดีของเขาเลย ครั้นได้กลับเมืองไทยอีกครั้ง บ้านไม้สองชั้นหลังนี้จึงเป็นที่แรกที่เขาต้องกลับมา เจ็ดปีแล้วที่เขาได้กลับมาอยู่ที่นี่ จะมีบ้างปีละครั้งสองครั้งที่จะขึ้นไปเยี่ยมครอบครัวที่อียิปต์ อาจเพราะเขาเกิดที่เมืองไทยและอยู่กับย่ามาตั้งแต่เล็ก เขาจึงรู้สึกผูกพันกับที่นี่มากกว่าอียิปต์เป็นไหนๆ
ย่าทำไว้เยอะแยะเลย นึกว่าวันนี้จะถูกทิ้งให้กินข้าวคนเดียวซะแล้ว
ใครจะใจร้ายทิ้งคุณย่าได้ลงคอละครับ ไปครับ กินข้าวกัน เขมินทร์ประคองย่ามายด์ในวัยหกสิบเจ็ดปีเข้าบ้านไปพร้อมรอยยิ้ม ลืมเรื่องวุ่นๆ ที่วิ่งพล่านในหัวเขามาตลอดเส้นทาง เพียงได้เห็นสีหน้าใจดีและแววตาที่บอกเสมอว่าห่วงใย เขมินทร์ก็พร้อมจะยิ้มได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะพบเจอปัญหาเล็กใหญ่ เขายังมีย่ามายด์อีกคนที่คอยอยู่เคียงข้าง แม้บางครั้งย่าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่กับข้าวแสนอร่อยฝีมือย่า รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของย่า ก็ทำให้เขามีความสุข และพร้อมจะต่อสู้กับปัญหามากมายนั้นต่อไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูเรียกให้คนที่กำลังตระเตรียมการสอนต้องวางทุกอย่างลง เพื่อเดินไปเปิดต้อนรับผู้มาเยือนยามวิกาล แต่ครั้นเห็นแววตาเอาเรื่องของคนด้านนอก พิชชาอรก็อยากจะปิดประตูหนีให้รู้แล้วรู้รอด
มีอะไรพี่พีช
ตกลงแกกับพ่อรูปหล่อคนนั้นเป็นอะไรกันแน่ วันนี้ฉันเห็นเขาที่ห้องเรียนแก พิชยาเดินลงส้นเข้ามาในห้องน้องสาวแล้วคาดคั้นเสียงเขียว
ก็บอกแล้วว่าเป็นเพื่อน
ไม่ต้องมาสตอเบอรี่ สายตาที่แกมองเขา มันไม่ใช่เพื่อนแน่นอน แกคิดอะไรกับเขา บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะยัยพรีม ท้ายเสียงดังลั่น เพราะน้องสาวเดินหนีไม่สนใจ พิชยาจึงเดินตามไปติดๆ สุดท้ายก็กระชากแขนน้องให้ยอมหันกลับมาเสวนา
อะไรของพี่นะพี่พีช พรีมบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อน ระหว่างเราสองคนมันเป็นได้แค่นั้น
ใช่! เพราะแกมีคู่หมั้น และอีกหน่อยแกก็ต้องแต่งงาน แกไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีก โดยเฉพาะพ่อรูปหล่อคนนั้น
พี่พีชสนใจเขาซินะ ถึงมากันท่าพรีมแบบนี้
ใช่ ฉันสนใจเขา และสนใจมากด้วย ทำมะ เกิดหวงขึ้นมารึไง พิชยายกมือกอดอก ท่าทางเอาเรื่องไม่เบา
พรีมไม่มีสิทธิ์ไปหวงเขาหรอก เชิญพี่พีชตามสบาย หมดธุระแล้วก็เชิญค่ะ พรีมยังมีงานต้องทำ พิชชาอรไม่สนจะมารยาทดีกับพี่สาว ที่มักเสียมารยาทกับเธอบ่อยๆ
เดี๋ยวซิ ฉันยังไม่หมดธุระ พิชยารั้งแขนน้องที่กำลังจะหนีหน้า
มีอะไรอีกล่ะคะ
ฉันอยากรู้จักเขา แกพอจะหาทางให้ฉันได้มั้ย
อย่างพี่พีช ไม่จำเป็นต้องให้พรีมช่วยสักนิด พี่ผ่านผู้ชายมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องให้ถึงมือพรีมคะ พิชชาอรว่ากลับไปเจ็บๆ มีหรือที่พิชยาจะสะทกสะท้าน เพราะเรื่องที่น้องสาวพูดเป็นความจริง ซึ่งเธอได้ยินอยู่บ่อยๆ จนชินหูไปเสียแล้ว สวยเซ็กซี่แบบเธอ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกหนุ่มๆ จะรุมขายขนมจีบ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอเลิกกับใครง่ายๆ ด้วยเหตุผลที่ความคิดความอ่านไม่ตรงกัน สถานะของเธอยังโสด ไร้ซึ่งพันธะกับใคร การแต่งงานสำหรับเธอแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หาผู้ชายที่เรียกได้ว่าดีพร้อมและเพอร์เฟคได้เมื่อไร เมื่อนั้นเธอก็พร้อมสละโสด และคาดว่า เธออาจเจอผู้ชายแสนเพอร์เฟคคนนั้นแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งนะยัยพรีม เพราะคนนี้ฉันซีเรียส และฉันก็ไม่รู้จะไปเจอเขาได้ที่ไหน ชื่อฉันยังไม่รู้จักเลย เพราะแกไม่บอกอะไรฉันสักอย่าง
เขาชื่อเอริค ชอบแวะไปที่ห้องเรียนพรีมบ่อยๆ เพราะเขาเรียนภาษาไทยกับพรีม พี่พีชอยากเจอเขาก็ไปดักรอเจอเขาที่นั่น หรือสละเวลาไปรับไปส่งพรีมสักวันสองวัน
ชวนเขามาที่บ้านไม่ได้รึไง มาตอนที่ป้าไม่อยู่ก็ได้ แล้วแกก็แกล้งออกไปจ่ายตลาด ทิ้งให้ฉันอยู่กับเขาตามลำพัง ฉันรับรองว่าจะได้ทำความรู้จักกับเขาแน่ แววตาของพิชยาเป็นประกาย ดูมั่นอกมั่นใจให้ความคิดของตน
มันดูจงใจเกินไป พรีมกลัวว่าเขาจะขยาดพี่มากกว่าอยากรู้จัก เอาตามที่พรีมบอกนั่นแหละ พรุ่งนี้ไปรับพรีมที่โรงเรียน หากพี่อยากเจอเขา พรีมก็ช่วยพี่ได้แค่นี้ พิชชาอรสรุป มัดมือชกพี่สาวที่ดูจะไม่พอใจนัก แต่คงไม่มีทางเลือกอื่น พิชยาจึงยอมโอนอ่อนผ่อนตาม
ก็ได้ๆ ทำตามที่แกบอกก็แล้วกัน
งั้นก็กลับห้องพี่ไปได้แล้วดึกมากแล้ว พิชชาอรพูดจบก็หันหลังไม่ส่งแขก กลับเข้าประจำที่ตระเตรียมการสอนของตัวเองต่อ
โอ้โห น้ำหอมขวดนี้สวยจัง ของแกเหรอยัยพรีม
ได้ยินเสียงตื่นเต้นของพี่สาวกล่าวถึงขวดน้ำหอมสุดโปรดพิชชาอรก็หันขวับกลับมามองต้นเสียงอีกครั้ง
เอริค เอ๊ะ น้ำหอมขวดนี้คุณเอริคให้แกเหรอ เพราะสายตาซุกซนอ่านตัวอักษรสีทองที่สลักไว้ ทำให้พิชยาคาดเดาไปตามใจคิด อารมณ์ที่เริ่มจะดีกลับคุกรุ่นๆ
ใช่รึเปล่ายัยพรีม ของคุณเอริคเหรอ พิชยาลากขวดน้ำหอมมาถามความกับน้องสาว แววตาขึงดุดูน่ากลัว
ของฝากจากอียิปต์น่ะ หมดประโยชน์ที่จะโกหก เพราะชื่อของเขาบนขวดน้ำหอมคือหลักฐานชี้ชัดมัดความจริงแน่น
งั้นฉันขอ ฉันอยากได้ พิชยาหยั่งเชิง อยากเห็นทีท่าของน้องสาว จะได้รู้ว่าพิชชาอรไม่ได้คิดอะไรกับผู้ชายที่เธอหมายปองอย่างที่ปากเคยพูดไว้
แต่มันของพรีมนะพี่พีช หากพี่อยากได้ ไว้พี่รู้จักกับเขา พี่ก็บอกให้เขาเอามาฝากพี่สิ
ก็ฉันอยากได้วันนี้ เดี๋ยวนี้ และวินาทีนี้ หรือแกหวง
เปล่า ไม่ได้หวง แต่ฉันชอบใช้กลิ่นนี้ที่สุด พิชชาอรก็อ้างไปอย่างนั้น เพราะเธอไม่เคยได้ใช้มันซักครั้ง อยากเก็บเอาไว้นานๆ ไม่อยากให้มันระเหิดระเหยไป
ไม่รู้ล่ะ ฉันอยากได้ แกเป็นน้อง แกก็ต้องเสียสละให้ฉัน พิชยาไม่ฟัง กำขวดน้ำหอมแน่นแล้วสะบัดหน้าเดินเร็วจากห้องน้องสาวไปทันที ปล่อยเจ้าของห้องมองตามตาละห้อย เสียดายน้ำหอมขวดนั้นจับหัวใจ เพราะมันทรงคุณค่า เป็นของฝากเพียงชิ้นเดียวที่เอริคหอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากบ้านเกิดของเขา ไม่น่าเลย เธอไม่น่าวางเด่นไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ควรจะเก็บแอบเอาไว้ให้พ้นหูพ้นตา ใครกันจะคิด ร้อยวันพันปีพิชยาไม่เคยเข้ามาพบเธอในห้อง เพราะท่องราตรีไม่เว้นวัน คงเป็นความซวยของเธอเองที่ต้องสูญเสีย มันคือสัจธรรมที่เที่ยงแท้ ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
*************************************
เปิดปมมาให้ลุ้นกันต่อนะคะ ภารกิจลับครั้งนี้ของเขมินทร์ จะสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างไรน้า ชักจะสงสารมณิการ์ของเราเสียแล้ว เพียงเท่านี้ก็คงจะพอมองออกกันเนอะ ว่าเอริคคิดยังไงกับยัยตัวเล็กของพวกเรา
ขอกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ ช่วงนี้เหงาๆพิกล เม้นต์ให้กันบ้างนะคะ วันนี้วันลอยกระทง ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆจ้า
จากคุณ |
:
บ้านสายไหม
|
เขียนเมื่อ |
:
วันลอยกระทง 55 09:29:13
|
|
|
|