Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
*********^^ A Little Striptease To Tease Your Heart...ถอดทีละนิดพิชิตใจ(ถอดชิ้นที่ห้า คนหลังม่าน) ^^ ** vote ติดต่อทีมงาน


ตอนใหม่มาแล้วค่า  หวังว่ามนต์อัปสรกับคุณนายดารินจะนำรอยยิ้มมาสู่ทุกคนนะคะ^^

ถอด...ชิ้นที่ห้า  


          แม้จะยังไม่เห็นตัวบ้าน  แต่แค่ทางเข้าก็ทำเอามนต์อัปสรถึงกับตะลึง รั้วสูงใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นตีนตุ๊กแกสีเขียวสดกินพื้นที่ยาวแทบสุดลูกตา   พอเลี้ยวเข้าตัวบ้านมนต์อัปสรก็อึ้งหนึกขึ้นไปอีก   แม้พอจะรู้อยู่แล้วว่าคุณพี่ดารินขาของเจ้าหล่อนดูจะมีฐานะดี   เมื่อดูจากการใช้จ่าย   แล้วไหนยังจะชอบออกค่านู้นค่านี่ให้หล่อนเสมอเวลาไปไหนมาด้วยกัน    แต่มนต์อัปสรก็ไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆว่าบ้านคุณพี่ดารินขาจะอลังการงานสร้างได้ขนาดนี้    


          “บ้านพี่ น่ารักไหมจ๊ะ”  


          “น่ารักมากค่ะ”  มนต์อัปสรตอบเสียงแทบจะเป็นละเมอ   เมื่อเห็นบ้านของคุณพี่ดารินขาชัดๆ   บ้านทรงโบราณสีขาวหลังใหญ่ เพิ่มความอ่อนหวานด้วยลวดลายไม้ฉลุขนมปังขิงตามช่องลม  ชายคา ตลอดจนเหนือประตูทางเข้า  รอบๆบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์  ไล่จากหน้าประตูรั้วเรื่อยมาจนถึงรอบๆบริเวณบ้าน   แถมด้วยสวนดอกไม้สีสันสดใสแข่งกันผลิดอกบานสะพรั่ง    


             “ลงมาเลยจ้ะหนูมิลค์”  

              ไม่รู้เพราะความเอ็นดูบังตาหรือความเมตตาบังใจ   ดารินจึงเข้าใจไปว่าอาการที่มนต์อัปสรเหม่อลอยเพราะเคลิ้มไปกับความสวยงามของตัวบ้านนั้นเป็นเพราะสาวน้อยตรงหน้ากำลังตื่นกลัวกับภารกิจในครั้งนี้    ดารินจึงปลอบขวัญไปว่า
   

          “ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะหนูมิลค์จ๋า   ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ   สามีพี่ก็ออกจะใจดี  ส่วนลูกชายพี่ก็น่ารัก  หนูมิลค์หรือก็แสนดี  เชื่อพี่ซิคะทุกคนต้องรักต้องเอ็นหนูแน่นอนจ้ะ”  ดารินพูดอย่างมาดหมายโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย


          “หนูมิลค์ขอบพระคุณคุณพี่ดารินขามากๆนะคะที่กรุณาหนูมิลค์”   ว่าก็กราบงามๆไปที่อกดารินหนึ่งที  แล้วก็ได้รอยยิ้มเอ็นดูจากดารินเป็นค่าตอบแทน


             แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะเข้าไปในตัวบ้าน  ก็มีหนุ่มใหญ่ท่าทางใจดีเดินออกมาต้อนรับ  


              “มาแล้วหรือคะน้องริน”  คนพูดพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้     พลางกางแขนออกมารวบดารินไปกอดหลวมๆ


              “เหนื่อยไหมคะคนดี   พี่บอกให้ลุงสุขขับให้ก็ไม่เชื่อ  ดูซิเหงื่อซึมไปหมดเลย”   พูดพลางลูบหน้าลูบตาของดารินที่มนต์อัปสรมองอย่างไร  ก็ไม่เห็นว่าจะมีเหงื่อตรงไหน

               
             “แค่เห็นพี่เทพน้องก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ”   ว่าแล้วคนพูดก็เอนศีรษะไปซบอกล่ำของหนุ่มใหญ่นั้น   อาการดั่งโลกนี้มีเพียงเราสองของดารินกับหนุ่มใหญ่ท่าทางดูดีคนนี้  แม้ไม่ต้องแนะนำก็พอเดาได้ล่ะว่าคนนี้น่าจะเป็นสามีของพี่ดารินแน่นอน   มนต์อัปสรไม่อยากรบกวนช่วงเวลาหวานๆของทั้งคู่   จึงได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ


           “อุ้ยพี่เทพนี่น่าตีจริงเชียว    ทำน้องลืมเลย”  คนพูดทำท่าตีคนฟัง  แต่มนต์อัปสรดูอย่างไร  อาการนั้นมันก็ดูเป็นยกมือขึ้นแล้วไปไล้อกชัดๆ   ‘กรี๊ด พี่ดารินขาได้ใจหนูมิลค์มากค่ะ  มิลค์ว่ามิลค์มารยาเยอะแล้วนะคะนี่  เจอคุณพี่เข้าไปหนูชิดซ้ายเลยค่ะ  คุณพี่เป็นไอดอลของหนูจริงๆค่ะ’ มนต์อัปสรคิดในใจอย่างชื่นชม


           “พี่ขอโทษค่ะคนดีก็พี่มัวแต่เป็นห่วงน้องรินนี่คะ”  


            “นี่คะ  น้องมิลค์  มนต์อัปสรที่น้องรินเคยเล่าให้พี่เทพฟังไงคะ”


            “สวัสดีค่ะ  ท่าน”


            คุณเทพมองท่าไหว้ของมนต์อัปสรที่ดูชดช้อยเกินไปบ้างอย่างคุ้นตาคุ้นใจ     ก่อนจะยิ้มอย่างเอ็นดู  เมื่อนึกได้ว่ากิริยาท่าทางของมนต์อัปสรนั้นราวกับเป็นโคลนนิ่งของดารินอย่างไรอย่างนั้น  


             “ไหว้พระเถอะจ้ะหนูมิลค์   แล้วก็ไม่ต้องเรียกฉันท่านก็ได้  อืม”  สามีคุณพี่ดารินขานิ่งไปนิดหนึ่งอย่างใคร่ครวญ  ”แต่จะให้เรียกพี่อย่างหนูเรียกน้องรินก็กระไรอยู่   เอาอย่างนี้เรียกว่า คุณลุง ก็ได้จะได้กันเอง”  พร้อมส่งยิ้มใจดีให้มนต์อัปสรที่ยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม


             “ค่ะ”  มนต์อัปสรตอบรับเบาๆ


              “ เอ้ามัวแต่ยืนคุยกันซะนาน  เข้าไปในบ้านกันดีกว่านะหนูมิลค์  ไปค่ะน้องริน”

              พอเข้ามาด้านใจตัวบ้านมนต์อัปสรก็แทบจะลืมหายใจ   เพราะด้านในตัวบ้านก็สวยงามไม่แพ้กัน  ความอ่อนช้อยของลวดลายขนมปังขิงที่ประดับบริเวณเหนือประตูห้องต่างๆ   การตกแต่งที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความกลิ่นไอความอบอุ่น   หากมนต์อัปสรจะสังเกตสักนิดจะเห็นว่าแม้เครื่องเรือนและของตกแต่งบ้านแต่ละชิ้นจะดูเรียบง่าย  แต่แต่ละชั้นก็รับการคัดสรรค์มาอย่างดี  ดังนั้นราคาของมันจึงไม่ได้เรียบง่ายตามภาพที่เห็นแม้แต่นิดเดียว   ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างมนต์อัปสรไม่มีทางสังเกตอยู่แล้วเพราะเจ้าหล่อนมัวแต่จินตนาการว่าตัวเป็นนางเอกสมัยวนิดา ปริศนา กำลังเดินอยู่ในบ้านของพระเอก


                แม้บ้านจะแสนสวยชวนฝันอย่างที่มนต์อัปสรชอบน่ะใช่   ห้องนอนของมนต์อัปสรก็น่ารักราวกับห้องของเจ้าหญิงก็ถูก   แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของมนต์อัปสรที่สุดก็หนีไม่พ้นห้องออกกำลังกาย ดังนั้นเมื่อดารินพามาเยี่ยมชมจึงไม่แปลกเลยที่มนต์อัปสรจะทำท่าราวกับเป็นผีเสื้อตัวน้อยที่กำลังบินร่าเริงอยู่ในทุ่งดอกไม้แสนสวย


                ห้องออกกำลังของดารินนั้น  แบ่งเป็นสองส่วน  ส่วนเป็นหนึ่งด้านที่ติดกับประตูมีกระจกบานใหญ่จรดเพดานทั้งสองด้านเหมาะสำหรับการเต้นหรือโยคะ  อีกส่วนหนึ่งจะเป็นด้านที่อยู่ริมอีกด้านของห้องซึ่งชิดผนังอีกฝั่งมีผ้าม่านทึบฉลุลายสวยงามทับด้วยผ้าม่านโปร่งแต่งให้ห้องนี้ดูสะอาดตา  ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นที่ตั้งของเครื่องออกกำลังกายประเภทลู่วิ่งแล้วก็เครื่องยกน้ำหนักต่างๆ  


                 “เป็นไงคะหนูมิลค์ชอบไหมเอ่ย”   ดารินถามเสียงเรื่อยๆ  ด้วยไม่อยากให้มนต์อัปสรรู้แกว  ทั้งที่ในใจนั้นลุ้นสุดขีดกลัวห้องที่ตนเตรียมไว้เป็นเหยื่อล่อว่าที่ลูกสะใภ้ให้ติดใจบ้านนี้จะใช้ไม่ได้ผล

             
                “ถูกใจค่าคุณพี่ดารินขา   ถ้าเป็นไปได้หนูมิลค์นอนในห้องนี้ก็ได้นะคะ  หนูมิลค์ช้อบชอบ”   มนต์อัปสรมองห้องออกกำลังกายอย่างเคลิ้มๆ   แม้จะไม่ฟูลออฟชั่นอย่างห้องซ้อมเต้นของโรงเรียน  แต่กระจกบานใหญ่จรดเพดานสองด้าน   ก็ทำเอามนต์อัปสรแทบอดใจไม่กระโจนเข้าไปเต้นแทบไม่ไหว


                   เมื่อเห็นประกายตาวาวๆด้วยความถูกใจของมนต์อัปสร   คนเจ้าแผนการอย่างดารินยิ้มอย่างสมใจ  ที่เหลือก็รอแค่ให้ความน่ารักของมนต์อัปสรมาเติมสีสันในชีวิตให้เจ้าลูกชายของหล่อนเท่านั้นเอง   คนคิดยิ้มอย่างมาดหมาย   ‘ระดับดาริน  ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้’


               “ไปจ้ะหนูมิลค์ไปทานข้าวดีกว่านะจ้ะ”   ดารินเรียกพร้อมกับจูงมนต์อัปสรออกจากห้องออกกำลังกาย  เมื่อเห็นว่าขืนปล่อยให้คนข้างๆอยู่ในห้องนานกว่านี้ละก็  วันนี้ทั้งวันคงไม่ยอมกินข้าวกินปลาแน่  ซึ่งนอกจากจะไม่ดีต่อกระเพาะน้อยๆของมนต์อัปสรแล้ว  ที่สำคัญคือจะไม่ได้เจอหน้าลูกชายสุดที่รักแล้วสานรักสร้างสัมพันธ์กัน ซึ่งข้อนี้ดารินยอมไม่ได้จริง


                  มนต์อัปสรที่เดินตามแรงจูงของดารินออกจากห้องไป  แต่ตาก็ยังไม่วายมองห้องออกกำลังกายอย่างอาวรณ์  ดารินเห็นแล้วก็ไม่รู้จะสงสารดี หรือจะหัวเราะดี   เพราะมนต์อัปสรตอนนี้ท่าทางราวกับเป็นลูกแมวขนฟูหิวโซที่ถูกห้ามไม่ให้กินนมอย่างไรอย่างนั้น   เห็นแล้วดารินก็เริ่มกลุ้มใจนิดๆว่ามนต์อัปสรจะมัวแต่เต้นจนลืมภารกิจที่ตกลงกันไว้ไหมนี่  ดารินนิ่งไปนิด  ก่อนดวงตาคู่สวยจะมีประกายสมใจเมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
มนต์อัปสรที่สายตามัวแต่จดจ่อกับห้องออกกำลังกาย  เลยไม่เป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แต้มอยู่บนปากสวยของคุณพี่ดารินขราของเจ้าหล่อน


                  “ไปทานข้าวก่อนนะคะหนูมิลค์   แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมาเต้นดีไหมคะ  ห้องออกกำลังกายไม่ค่อยมีใครเข้ามาใช้เท่าไหร่นะจ้ะ  เชื่อพี่ไปทานข้าวก่อนนะคะคนดี”  


                    ดารินไม่ฟังคำตอบของมนต์อัปสร  ก็ลากเจ้าหล่อนไปยังห้องอาหาร  ระหว่างทางดารินก็เล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนในบ้าน  ได้ความคร่าวๆ ว่า  บ้านนี้ อยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก   จะทานข้าวด้วยกันมื้อเช้ากับมื้อเย็นเป็นส่วนใหญ่  พอถึงห้องอาหารก็พบว่าสามีของคุณพี่ดารินนั่งรออยู่แล้ว  เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาสามีพี่ดารินก็ลุกขึ้นยืนรอจนมนต์อัปสรและดารินเดินมาถึงโต๊ะอาหาร  


                   “หนูมิลค์นั่งตรงนี้นะคะ”  พอจัดแจงที่นั่งให้มนต์อัปสรเสร็จ  
สามีของคุณพี่ดารินก็เลื่อนเก้าอี้ให้คุณพี่ดารินขาของหล่อนนั่งอย่างน่ารัก    ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง


                    “ขอบคุณนะคะพี่เทพ”  พร้อมกับยิ้มหวาน  รอยยิ้มนั้นคงจะอยู่บนหน้าสวยๆของดารินอีกนาน  หากเจ้าหล่อนจะไม่หันมาแล้วเห็นว่าจานข้าววันนี้จัดไว้เพียงสามที่เท่านั้น  


                   “พี่เทพคะลูกธีไปไหนคะนี่  ยังไม่กลับหรือคะ”  


                    “ธีติดงานเลี้ยงของตากรค่ะน้องริน”   พอเห็นหน้าสวยของภรรยาเริ่มยับยุ่ง  ท่าทางเริ่มไม่พอใจเหมือนโดนขัดใจอะไรบางอย่าง    เทพก็ให้ข้อมูลเพิ่มแก่คนที่ถูกขัดใจว่า  “ลูกธีกลับไม่ดึกหรอกค่ะคนดี  ไม่น้องห่วงลูกหรอกนะคะ  ดูสิคะหน้ายุ่งหมดแล้ว ”

               
                       เมื่อเห็นว่าภรรยาที่รักยังมีสีหน้าสีตาไม่ดีขึ้น  คนรักภรรยาอย่างคุณเทพก็รีบปลอบขวัญ


                    “ไม่อารมณ์เสียนะคะคนดี  ทานนี่หน่อยนะคะมัสมั่นไก่นี่ของโปรดน้องรินเลยนี่คะ”    


                       ดารินที่แสนจะขัดใจที่ลูกชายดันติดงานเลี้ยงเลยไม่เห็นหน้าคนที่หล่อนหมายมั่นปั้นมือจะรวบหัวรวบหางมาเป็นลูกสะใภ้  แต่พอเห็นหน้าตาแสดงความห่วงใยของสามีดารินก็อดจะยิ้มบางๆให้คนช่างเอาใจไม่ได้


                       “น้องรินคะ  ยิ้มหน่อยนะคะคนดี  ดูสิคะตอนนี้หนูมิลค์หน้าเสียแล้วนะคะ”   พร้อมบุ้ยใบให้หันไปมองมนต์อัปสรที่ตอนนี้นั่งหงอเป็นลูกแมวเฉามือก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่เงียบ  เท่านั้นแหละดารินก็รีบปรับสีหน้าเป็นร่าเริงกลับมาจ๊ะจ๋าปลอบขวัญคนที่ยังไม่รู้ตัวว่าถูกเล็งเป็นว่าที่ลูกสะใภ้  


                             ต่อจากนั้นบรรยากาศในการรับประทานอาหารก็ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อดารินค่อยๆสร้างความคุ้นเคยให้มนต์อัปสรคุ้นเคยกับคุณเทพมากขึ้น  แล้วตามประสาคนเข้ากับคนง่ายของมนต์อัปสรรวมทั้งความเอ็นดูที่คุณเทพมีต่อมนต์อัปสรเป็นทุนเดิม  ทำให้ไม่นานทั้งมนต์อัปสรและคุณเทพก็เริ่มพูดคุยกันอย่างถูกคอ เมื่อดารินเล่าความเป็นไปของคนในบ้านให้ฟัง  ก็จะมีคุณเทพสามีของคุณพี่ดารินขาเสริมเป็นระยะ  ส่วนมนต์อัปสรก็ฟังไปกินไปอย่างเพลิดเพลิน....เพลินจนไม่สังเกตว่าคุณพี่ดารินขาของเจ้าหล่อนดูจะให้รายละเอียดของ ธีรักษ์  ลูกชายของเจ้าหล่อนมากผิดปกติ  


                           พอทานอาหารเสร็จ  สามีพี่ดารินขาก็แยกตัวไปทำงานที่เอากลับมาจากโรงพยาบาล  ดารินก็ชวนคุยเรื่องเริ่มร่ายประวัติลูกชายพร้อมภาพประกอบเป็นรูปถ่ายในอิริยาบถต่างของลูกชายสุดที่รักของเจ้าหล่อน  พร้อมตั้งปณิธานว่า เจ้าหล่อนจะใช้ช่วงเวลานี้ทำให้คนที่หมายตาว่าจะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้รู้สึกคุ้นเคยกับลูกชายของเธอให้มากที่สุด


                    ฝ่ายมนต์อัปสรก็ฟังแล้วจำได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสา  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมัวแต่เหม่อมองหน้าหล่อๆของลูกชายพี่ดารินขาอยู่อย่างเพลิดเพลิน  คนอะไรหล้อหล่อ  ตาคมหวาน  คิ้วเข้ม  จมูกก็โด่งเป็นสัน  ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยว่าสิ่งที่มนต์อัปสรจำได้จะมีเพียงว่าลูกชายพี่ดารินขาไอคิวสูงปรี๊ดจบทั้งแพทย์ทั้งบริหาร   ตอนนี้เลยรับสองจ๊อบคือเป็นทั้งคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ   และคอยดูแลโรงพยาบาลของครอบครัวอยู่  ส่วนใหญ่จะกลับบ้านมาทานข้าวเย็นที่บ้านเว้นแต่วันนี้ที่ติดงานเลี้ยงอะไรซักอย่างกับคุณกรเพื่อนสนิทที่ทำตัวคิดไม่ซื่อ  หวังจะแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจคุณธีรักษ์ลูกชายของคุณพี่ดารินขา  


               จนเริ่มดึก  ก็ยังไม่มีทีท่าว่าพ่อลูกชายตัวดีจะกลับบ้าน  คนที่อยากจะเป็นกามเทพอย่างดารินก็เริ่มขัดใจ   หน้าจึงเริ่มยุ่งขึ้นเรื่อยๆ  ร้อนถึงมนต์อัปสรต้องคอยปลอบ


                “คุณพี่ดารินไม่เอานะคะอย่าทำหน้าอย่างนั้น  เดี๋ยวริ้วรอยจะถามหานะคะ   ไม่ต้องกลัวนะคะคุณพี่เดี๋ยวน้องรับรองว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเก้งกว่างบ่างชะนี่ที่ไหนจะไม่มากล้ำกรายลูกชายคุณพี่อีกแล้วนะคะ”  พูดพลางนวดแขนนวดไหล่ให้ดารินผ่อนคลาย


                 “ดึกแล้วหนูมิลค์ว่าคุณพี่ดารินขาไปพักก่อนดีกว่านะคะ   พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”  คนพูดพูดไปก็ตาปรือๆไป  จนดารินเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ไหนยังจะพี่เทพสามีสุดที่รักที่ตอนนี้คงรอหล่อนอยู่ในห้อง   จึงยอมรามือ   ลุกขึ้นไปกลับห้องนอน


                 มนต์อัปสรพอแยกจากดารินปุ๊บก็รีบทิ้งตัวนอน   ‘ห้องซ้อมเต้นจ๋ารอมิลค์ก่อนนะจ๊ะ’


                 พอฟ้าเริ่มสว่างปุ๊บ มนต์อัปสรก็รีบลงไปที่ห้องออกกำลังกายด้วยความที่ได้หมายมั่นปั้นมือไว้ตั้งแต่เห็นห้องนี้เป็นครั้งแรก    ก็แหม มนต์อัปสรเห็นกระจกบานใหญ่ๆได้ที่ไหน  เห็นแล้วเจ้าหล่อนจากจะถอด  เอ้ยเต้นอยู่ตลอดเวลา

                     มนต์อัปสรใช้เวลาในการอบอุ่นร่างกายเพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่นอยู่พักใหญ่   พอร่างกายยืดหยุ่นดีแล้ว  มนอัปสรก็เริ่มซ้อมการร่ายรำศิลปะการถอดตามจังหวะเสียงเพลงอย่างยั่วเย้า


                   ห้องที่มีเพียงแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านมานั้น  แม้จะไม่ถึงกับสว่างจ้า  แต่ก็ไม่มืดจนมองไม่เห็น  สำหรับมนต์อัปสรแล้วแสงเช่นนี้ช่างเซ็กซี่ยั่วยวนเหมาะกับการเต้นในยามเช้าของเจ้าหล่อนจริงๆ  มนต์อัปสรซึ่งมัวแต่ชื่นชมความงามในการเต้นของตัวเองในกระจก   จึงไม่ได้สังเกตเลยว่าผ้าม่านตรงผนังด้านที่เป็นที่ตั้งเครื่องออกกำลังกายนั้นไหวแผ่วเบา ราวกับกับว่ามีกระแสลมจากด้านนอกพัดเข้ามา  พร้อมกับเงาสูงใหญ่ด้านหลังม่าน  ที่กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

                                 *******************

อ่านแล้วเป็นอย่างไรบอกกันบ้างนะคะ  

ปอลิง  ตอนนี้จะเรื่อยๆหน่อยนะคะ  (ขัดกับความวุ่นวายในชีวิตของหนูนวลช่วงนี้เจงๆค่า)  แต่ตอนหน้าแซ่บเวอร์ค่า     อิอิ

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 01:49:28

จากคุณ : คุณนายนวล
เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 01:42:36




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com