วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ อภิเศกตั้งใจที่จะขับรถมารับพริกแกงถึงที่ทำงานในตอนเย็นซึ่งคาดว่าน่าจะได้เวลาเลิกงานแล้ว ชายหนุ่มจอดรถยนต์ส่วนตัวลงที่หน้าสำนักงานของพริกแกงแล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์
ผมมาหาคุณสิตาครับ หญิงสาวหลังเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้นมองผู้พูดแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย
อ้อ คุณนั่นเอง เชิญค่ะ ขึ้นไปชั้นบน ห้องกองบรรณาธิการค่ะ
นี่ครับบัตร อภิเศกยื่นบัตรประจำตัวให้เพื่อขอแลกบัตรผู้มาติดต่อ
อ้อ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ
ไม่เป็นไรครับ อภิเศกรับบัตรของสำนักงานมาติดที่หน้าอกเสื้อแล้วเดินขึ้นบันไดผ่านห้องต่าง ๆ ที่ตอนนี้ผู้คนยังทำงานอย่างคึกคักทั้งที่น่าจะเป็นเวลาเลิกงาน จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งลอยลมมาเข้าหูเขา
โอ้โห เห็นแต่รูปไม่พอ ยังมีตัวจริงมาหยามกันถึงที่อีก ไม่ใช่เพียงชายหนุ่มแปลกหน้าของสถานที่แห่งนี้เท่านั้นหรอกที่สะดุดหู แต่หญิงสาวที่ตอนนี้กำลังสนใจกับกองกระดาษมากมายก็ผละจากงานขึ้นมามองเช่นกัน
คุณแขกมาได้ยังไงคะเนี่ย พริกแกงทักชายหนุ่มด้วยชื่อเล่นอย่างสนิทสนม เมื่อเห็นคุณบอดี้การ์ดมาเกาะคอกทำงานของเธออยู่เวลานี้
ผมขับรถมาครับ
แกงหมายถึงว่า คุณแขกมาที่นี่มีธุระอะไรคะ ชายหนุ่มสั่นศีรษะ
ไม่มีหรอกครับ แค่จะมารับคุณแกงไปเที่ยวกัน พริกแกงฟังแล้วก็ต้องย่นจมูกก่อนตอบ
คงไม่ได้หรอกค่ะ แกงมีงานต้องทำ
แต่นี่มันเวลาเลิกงานแล้วไม่ใช่หรือครับ
วันนี้ต้องปิดต้นฉบับค่ะ จะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พริกแกงบอกกับเขา
ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ว่าแล้วอภิเศกก็เดินเลี้ยวเข้ามาในคอกทำงานของพริกแกง ที่ดูจะแคบขึ้นมาทันตาเมื่อมีชายหนุ่มตัวโตมายืนอยู่ในนี้ พริกแกงจึงเบี่ยงตัวออกมายืนข้างนอกแล้วถามว่า
คุณแขกจะรอหรือคะ อภิเศกพยักหน้า
ก็คุณบอกว่าวันนี้ปิดต้นฉบับ ยังไงมันก็คงไม่เกินคืนนี้หรอก จริงมั้ย พูดจบอภิเศกก็เหลียวซ้ายแลขวามองหาที่นั่ง พริกแกงจึงจัดแจงลากเก้าอี้ของเธอเองให้เขานั่ง แล้วตนเองก็เก็บกองอาร์ตเวิร์คที่เธอกำลังตรวจอยู่นั้น ไปหาที่ทำงานที่อื่นแทน
คุณแขกน่าจะโทรมาก่อนนะคะ จะได้ไม่ต้องมารอ
ไม่เป็นไรครับ อ๋อ คุณคงไม่อยากเห็นหน้าผมแล้วล่ะสิ พริกแกงแปลกใจกับประโยคนั้น จะว่าไปก็ดูไม่มีแววตัดพ้อ แต่เขาพูดขึ้นมาทำไม เมื่อหญิงสาวเลิกคิ้วสงสัย อภิเศกจึงพยักเพยิดไปทางริมผนังคอกทำงานของเธอเองที่เต็มไปด้วยกระดาษอาร์ตมันพิมพ์ภาพถ่ายสี่สีของเขาต่างกรรมต่างวาระ จนอภิเศกไม่แน่ใจว่า เขามีภาพถ่ายของตนเองมากขนาดนี้หรือเปล่าตั้งแต่ทำงานในประเทศไทยมา ไม่แปลกใจเลยว่า ตลอดทางที่เขาเดินเข้ามาในสำนักงานแห่งนี้ ทำไมเขาถึงพบกับสายตาแปลก ๆ โดยเฉพาะเสียงแซวค่อนข้างรุนแรงและกล้าหาญที่เขาได้ยินเมื่อสักครู่นี้มาได้อย่างไร
พริกแกงถึงกับออกอาการเขิน ซึ่งเธอมักจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ถูกจับได้ว่า เธอแอบถ่ายภาพเขา ตั้งแต่ครั้งที่เขาแอบเปิดดูภาพในกล้องของเธอ แล้วก็ยังภาพถ่ายของเขาเต็มโต๊ะทำงานอีก
นี่เราเจอกันบ่อยขนาดนี้เลยเหรอครับ อภิเศกพูดขณะที่สายตายังจับอยู่ที่ภาพของตนเองทุกใบมีรอยปากกาจดบันทึกชื่องานและวันที่อย่างคร่าว ๆ เอาไว้ด้วย
ช่างเถอะค่ะ พริกแกงเตรียมหันหลังออกไปแล้วก็ต้องหันมาใหม่ อ้อ ถึงแกงไม่อยากพูดแต่ก็คงต้องพูด อย่าซนนะคะ อภิเศกยิ้มรับคำสั่ง เธอรู้ว่าพูดไปก็เท่านั้น กระเป๋าของเธอไปอยู่กับเขาแค่ข้ามคืน เขายังค้นเสียทั่ว แล้วนี่โต๊ะทำงานทั้งโต๊ะ คงสนุกเขาล่ะ หญิงสาวเตรียมจะหอบงานออกไปทำที่โต๊ะอื่น ก็ต้องหยุดหันกลับมาที่โต๊ะของตัวเองอีกครั้งตามเสียงเรียก
คุณแกงครับ
อะไรคะ
นี่มันอะไรครับ อภิเศกชี้นิ้วลงไปที่หน้ากระดาษที่กองอยู่บนโต๊ะงานของพริกแกง
ไหนคะ พริกแกงก้มลงไปดูตามที่เขาชี้
นี่ไงครับ ชายหนุ่มยังย้ำอยู่ที่เดิม
ไม่เห็นมีอะไรเลย พริกแกงมองตามที่เขาชี้ แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อแก้มของเธอถูกริมฝีปากอุ่น ๆ สัมผัสเข้าอย่างจัง
อุ๊ย พริกแกงง้างมือเตรียมจะฟาดใส่คนเจ้าเล่ห์ แต่อีกฝ่ายรู้ทันรีบคว้าไว้ก่อน แล้วยกมือนั้นจูบหนัก ๆ ที่หลังมือ
ถ้าแค่โทรมาก็ไม่ได้อย่างนี้สิครับ แหม ชื่นใจจัง พริกแกงเขินจัด รีบดึงมือออกแล้วเดินห่างออกมาทันที
พริกแกงย้อนกลับไปที่โต๊ะทำงานของของเธออีกครั้งเมื่อค่อนข้างดึก เธอเห็นคุณบอดี้การ์ดตัวโตนั่งหลับพิงพนักเก้าอี้ตัวเดิม
คุณแกงดึกแล้วนะ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ อภิเศกพูดขึ้นด้วยเสียงงัวเงีย เมื่อลืมตาขึ้นแล้วเห็นพริกแกงยืนอยู่ตรงหน้า
ยังเลยค่ะ ยังมีที่ต้องดูอีกหลายอย่าง คุณแขก คุณจะไปนอนก่อนมั้ย
หือ
ข้างนอกเขาเปิดไฟทำงานกันทั้งคืน คุณแขกไปนอนในห้องประชุมมั้ยคะ แกงพาไป คุณจะได้นอนสบาย ๆ พริกแกงถาม เพราะเห็นเขานั่งหลับบนเก้าอี้ทำงานที่พนักสูงไม่มากนัก ดูแล้วน่าสงสาร
ไปค่ะ เดี๋ยวแกงพาไป อภิเศกลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามพริกแกงไปอย่างว่าง่าย เพราะพริกแกงจูงมือเขาข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็หยิบหมอนอิงที่เขากอดอยู่เมื่อสักครู่เดินนำเขาไปยังห้องประชุม แน่นอนว่า แทบทุกคนในห้องกว้าง ๆ นั้นมองคนทั้งคู่เป็นตาเดียว
ในที่สุดเจ้าแกงก็ทำสำเร็จจนได้ เสียงนี้ดังมาจากห้องบรรณาธิการ มันคือเสียงของอาหนิง ที่เห็นตั้งแต่ตอนเย็นแล้วว่า ท่านราชองครักษ์มาหาหลานสาวของท่านถึงที่ทำงาน
เรื่องอะไรพ่อ เสียงของนายเล็กถามขึ้น
ก็ในที่สุดคนที่พี่เราคอยตามดูเขา วันนี้เขาก็เป็นฝ่ายมาตามเฝ้าพี่เราซะเองไง อาหนิงหัวเราะ
เขาคงจะเป็นคู่กันนะพ่อ แต่คนอาไร้...เจอกันในงานพระเมรุ ถ้ายังไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็ประหลาดเต็มทีแล้ว พูดจบนายเล็กก็หัวเราะบ้าง
พริกแกงเปิดประตูห้องประชุมเพื่อพาอภิเศกเข้าไป ภายในห้องนั้นแทบจะมืดสนิท มีแสงจากภายนอกเข้ามาแค่ทางประตูที่ทั้งสองคนยืนอยู่เท่านั้น พริกแกงกำลังจะเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟที่ผนัง แต่ถูกมือใหญ่รั้งเอาไว้ก่อน
ไม่ต้องเปิดหรอกคุณแกง เมื่ออภิเศกพาตัวเองและหญิงสาวเข้ามาในห้องหลังจากที่ประตูปิดสนิท ลำตัวของพริกแกงก็ถูกรวบเข้ามา ไออุ่นร้อนจากลมหายใจของชายหนุ่มก็ปะทะตามใบหน้าของเธอ ปลายจมูกโด่งและริมฝีปากอุ่นไล้ไปตามแก้มจนหญิงสาวต้องดิ้นหนีเป็นพัลวัน แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ
คุณแขก ปล่อยแกงนะ
คิดถึงจังเลยครับ คุณแกง ชายหนุ่มพึมพำออกมา
คิดถึงอะไรกันคะ พริกแกงถามเสียงสั่น ๆ ไม่ได้เคยทำอย่างนี้สักหน่อย ถึงได้มาคิดถึง เกือบได้ผล เพราะอภิเศกชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า
ถ้าอย่างนี้ ก็เคยแล้วสินะ แล้วอภิเศกก็ดำเนินการ แก้คิดถึง ของเขาต่อไป ให้ผมรอตั้งนาน ให้รางวัลผมหน่อยสิ
ก็ใครเขาให้รอล่ะ พริกแกงตอบสะบัด ๆ ทั้งเสียง และทั้งตัวที่พยายามจะดิ้นหนี
เมื่อไหร่จะเสร็จล่ะครับ คุณแกงไม่ง่วงเหรอ นอนด้วยกันมั้ย ในความมืดชายหนุ่มเลยไม่ได้เห็นว่าพริกแกงค้อนให้เขาวงใหญ่
แกงจะไปทำงานแล้วค่ะ คุณแขกนอนไปเถอะ พริกแกงพยายามเบี่ยงตัวออกมาจากวงแขนล่ำสัน แต่ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด เพราะชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย จนกว่า
ไปนอนก็ได้ แต่ต้องมีกู๊ดไนท์ คิสนะครับ
ไม่เอา ปล่อยแกงนะ พริกแกงส่งเสียงดัง แต่แล้วเสียงของเธอก็ถูกกลืนหายไป เพราะริมฝีปากของคนที่กำลังจะเข้านอน
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 55 01:13:09
จากคุณ |
:
ธ.ศ.ร. (Thomket)
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 55 08:11:35
|
|
|
|