Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 11. vote ติดต่อทีมงาน

ลงให้แล้วนะจ๊ะ นู๋ลลิ นักอ่านไร้นาม
ทวงเช้าทวงเย็น ฉันลงให้แล้ว!! อ่านซะนะ 555

+++
.

11.

แสงแดดอ่อนของเช้าวันใหม่ส่องสะท้อนกระทบผิวกายบุรุษมาดขรึมที่ย่างก้าวลงจากรถยนต์คันหรู ตามที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ แขกผู้มาเยือนกลับมายืนอีกครั้งยังหน้าบ้านที่เคยหนีห่างจากความน่าสยดสยองของซากศพนกน้อยจนไกล สมชายยังคงทำใจดีสู้เสือแบกรับตำแหน่งหน้าที่ของครูผู้สอนให้กับหญิงสาวแปลกหน้าที่เพื่อนสนิทยัดเยียดเรียกเป็นเด็กอนุบาลหัดศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้อ่านออกเขียนได้

นีลาน่าจ้องมองบุรุษสองนายที่เดินมาหยุดยืนเบื้องหน้า หนึ่งมนุษย์รู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่อีกหนึ่งไม่เคยเห็นแม้แต่ผ่านสายตา นางพยายามจดจ้องทำความคุ้นเคยโดยใช้ดวงตากลมกลิ้งเก็บรายละเอียด

“นี่กันย์.. คนนี้หรือเปล่าเด็กอนุบาลที่ว่า..”

“อืม..”

กันยวัฒน์อมยิ้ม ส่งเสียงผ่านลำคอแผ่วเบา นึกขำสีหน้าเพื่อนที่ดูประหลาดใจอย่างมากกับสิ่งที่ผ่านสายตา เขาไม่เคยคิดจงใจหยอกล้อเพื่อนด้านข้างแต่อย่างใด เพราะถึงอย่างไรสมชายก็ต้องฝึกหัดให้นีลาน่าเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้นศึกษาอยู่ดี เขาจึงเทียบเคียงให้คล้ายเด็กอนุบาล มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งต้นให้อยู่ในระดับมหาวิทยาลัย

“ทำไมกันย์ต้องหลอกชายด้วย จะให้สอนสาวๆ บอกกันตรงๆ ก็ได้ เห็นชายเป็นตัวตลกหรือไง”

“เฮ้! อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้หลอก แต่เพราะเธอคนนี้ไม่เคยเรียนหนังสือมาจริงๆ อ่านและเขียนไม่ได้ด้วย”

“คนบ้าอะไรไม่เคยเรียนหนังสือ โตจนป่านนี้แล้ว”

สายตาจิกกัดเล็กๆ จ้องยังพรายสาวที่นั่งทำตาปริบๆ มองสองบุรุษกำลังมีปากเสียงต่อเนื่อง

“เอาน่า.. อย่าถามมาก ให้สอนก็สอน ตกลงไหม”

“เออๆๆ จะเอาไงก็เอา ชายเคยปฏิเสธกันย์ไหมล่ะ”

สีหน้าฮึดฮัดขัดใจ สร้างเสียงขำขันให้กันยวัฒน์ไม่น้อย คล้ายถูกอกถูกใจที่มีคนยอมสยบให้แต่โดยดี

“นีลา.. นี่สมชายเพื่อนผม จะมาสอนหนังสือคุณ”

นีลาน่าพยักหน้าเบาๆ โดยปิดปากเงียบสนิทไม่แม้แต่จะเอ่ยคำทักทายกลับแต่อย่างใด งานนี้คงได้เห็นนางพรายเป็นใบ้แล้วจริงๆ กันยวัฒน์แอบอมยิ้มพอใจ ไม่คิดว่าเงือกพรายจะเชื่อฟังคำสั่งของเขาได้เพียงนี้

กันยวัฒน์จัดเตรียมสถานที่เพื่อให้ได้มุมผ่อนคลายคล้ายห้องเรียนพิเศษท่ามกลางสวนหย่อมจำลองเพื่อความสบายหูสบายตา การฝึกหัดเริ่มต้นเมื่อสมชายแสดงบทบาทคุณครูจำเป็น สอนให้นีลาน่าเรียนรู้ตัวอักษรแต่ละตัว เขาอ่านให้นางฟังและให้สั่งให้นางหัดคัดหัดเขียนตัวอักษรลงกระดาษ

“เป็นไงบ้าง..”

กันยวัฒน์เดินถามไถ่เป็นระยะ ขนมหวาน อาหารว่าง พร้อมเครื่องดื่มถูกหยิบมาประเคนให้เป็นพักๆ เพื่อเสริมแรงสมอง รองท้องกันหิวโหย ตั้งใจให้ทั้งคู่ฝึกฝนต่อไป

“ก็ดีนะ ถึงจะนิ่งใบ้แต่ก็เรียนรู้เร็ว ชายถามจริงเหอะ กันย์ไปเอายัยคนนี้มาจากไหน ชักหึงแล้วนะ หน้าตาก็สะสวย แถมเป็นผู้หญิงอยู่ในบ้านกับกันย์สองต่อสองอีกต่างหาก ไม่ได้การล่ะ ชายจะขนเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองให้ดู”

“เฮ้!! จะบ้าไปใหญ่แล้ว อะไรจะขนาดนั้น”

ถึงแม้สมชายจะวางท่าเป็นบุรุษมาดเข้ม ลักษณะภายนอกอาจดูเป็นชายแท้หล่อเหลาเพียงใด แต่ในใจกลับแอบหญิง หลงรักชายหนุ่มรูปงามเป็นชีวิตจิตใจ เขาจึงไม่พอใจเอาเสียเลยกับการที่จะให้นีลาน่ามาอยู่ใกล้ชิดวนเวียนข้างกันยวัฒน์เพื่อนสนิทที่เขาหมายตาปองใจเอาไว้

“ชายพูดเรื่องจริงนะ ให้ชายมาอยู่ที่นี่ได้ไหม นอนห้องกันย์ก็ได้ นะ นะ”

ว่าแล้วสมชายยื่นมือสองข้างกอดก่ายขาแข้งของกันยวัฒน์ไว้เหนียวแน่นราวกับนิ้วตุ๊กแก ทำให้นีลาน่าที่กรอกลูกตามองตามเสียงสนทนาถึงกับหลุดยิ้ม จ้องดูสองบุรุษยื้อยุดฉุดลากกันไปมา

นีลาน่ามีความมุมานะตั้งใจศึกษาบทเรียนที่สมชายสอนสั่งทุกกระบวนการ ถึงแม้จะเป็นเพียงวันแรกแต่นางก็ทำความเข้าใจหลักจำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเก็บไว้ฝึกหัดด้วยตนเองต่อไป พรายสาวพยายามท่องจำในใจเก็บสิ่งต่างๆ ไว้ในสมอง มือบอบบางจับหยิบปากกาขีดเขียนอักษรตามแบบฝึกหัดที่ได้รับมอบหมายให้ทำจนเพลิดเพลินและสนุกสนาน

“เที่ยงกว่าแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า”

กันยวัฒน์ก้าวเดินเข้าสวนหย่อม ตรงยังศาลาที่นั่งพักเรือนไม้ทรงกลมขนาดกำลังดี มีหลังคาไว้บังแดดหลบฝนเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจหรือใช้เป็นสถานที่สอนหนังสืออย่างเวลานี้ ทั้งนักเรียนและครูผู้สอนละสายตาจากกองตำราตรงหน้ามองตามเสียงทักทาย

“ไปสิ.. แหม๋.. รู้ใจชายจังเลยนะกันย์ กำลังหิวพอดี ว่าแต่จะพาชายไปไหนเหรอ..”

“ไปใกล้ๆ แถวนี้ล่ะกัน”

“ไปเร็วยัยขี้เหร่ เดี๋ยวค่อยกลับมาเรียนต่อ”

เสียงแหบใหญ่เอ่ยดังทำให้นีลาน่าส่งยิ้มสดใสละทิ้งทุกสิ่งเบื้องหน้าลุกเดินตามสมชาย พาคนมองตามอย่างกันยวัฒน์ใจเต้นแรงขึ้นมาเสียเฉยๆ ดูท่ารอยยิ้มของเงือกน้อยคงเป็นสิ่งปั่นป่วนก่อกวนจิตใจ จนต้องสร้างเกาะคุ้มกัน เขาเลี่ยงหันมองทางอื่นเพื่อหยุดอาการตุ่มต่อมแปลกๆ ในอก


+++


ร้านอาหารเลิศรสภายใต้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำถูกจับจองที่นั่ง เมื่อพนักงานต้อนรับจัดแจงสรรหาให้ลูกค้าตามหลักของการบริการชั้นเยี่ยม พร้อมเมนูอาหารถูกยื่นส่งและรอจดรับรายการตามต้องการ

“เอาไรสั่งเลยสมชาย”

“ยัยขี้เหร่ล่ะ..”

สมชายหันหานีลาน่าอย่างลืมตัวว่าหญิงสาวที่เขากำลังไถ่ถามนั้นเป็นใบ้ตามที่เข้าใจ นีลาน่าปรับสติเผลอไผลเกือบหลุดเสียงพูดจา เกิดระแวงกลัวโดนจับพิรุธขึ้นมา นางจึงเหลือบสายตาหันมองกันยวัฒน์ขอความช่วยเหลือ ดวงตากลมกลิ้งส่งตรงคล้ายเป็นสัญญาณบางอย่าง ทว่าการสื่อสารทางแววตากลับทำให้บุรุษหนุ่มรับรู้และเข้าใจความคิดของนางขึ้นมาเสียเฉยๆ จนเขาเองยังประหลาดใจไม่น้อย เลิกคิ้วทำตาโตงุนงงกับสิ่งที่สัมผัสรับรู้

“เอาข้าวผัดให้นีลาล่ะกัน”

“นิ.. จะรู้ใจกันมากเกินไปหรือเปล่า แค่มองตาก็เข้าใจแล้วหรือไง ชายไม่ยอม!!”

“เปล่าๆ ก็แค่นีลาชอบกินข้าวผัดนี่”

กันยวัฒน์ตัดบทแก้ต่างเอาตัวรอด หันสายตาหลบการปะทะซึ่งหน้ากับสมชาย มองดูเมนูอาหารในมือต่อตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้ ต่างคนต่างให้ความสนใจรายการอาหารในมือเพื่อสั่งสิ่งที่ต้องการรับประทานให้พนักงานบริการจัดการจดและลงมือทำตามขั้นตอนถัดไป

ระหว่างรอคอยอาหารมาเสิร์ฟ ข้อสงสัยที่สมชายเก็บไว้ในใจตลอดทางตั้งแต่อาศัยนั่งรถยนต์มา เกิดอยากหากุญแจไขปัญหาให้หายเคลือบแคลง เขาจ้องมองบุรุษหนุ่มด้านข้างอย่างชั่งใจชั่วครู่ก่อนรวบรวมความกล้าเอนกายกระซิบถาม

“นี่กันย์.. ชายถามจริงเหอะ ทำไมต้องแอบมองยัยขี้เหร่ด้วยล่ะ ชายอยากรู้.. กันย์ชอบยัยขี้เหร่หรือไง”

“...” คำถามกระชากอารมณ์ เกิดวูบไหวในใจ พาคนฟังนิ่งอึ้งพูดไม่ออกแม้ซักประโยคเดียว

“ชายเห็นนะ.. กันย์แอบมองยัยนี่อยู่ตลอดเวลา”

“ไร้สาระน่า!”

กันยวัฒน์บ่ายเบี่ยงเลี่ยงการตอบคำถาม พลางเบือนหน้าหนีการจ้องจับผิด เผอิญสายตาเจ้ากรรมเหลือบเห็นใครบางคนด้านนอกร้านอาหาร ซึ่งเขาเกิดลืมนึกถึงเธอคนนี้ไปแล้วพักใหญ่ และจังหวะประจวบเหมาะเธอผู้นั้นหันมาสบสายตาเข้าอย่างจังพอดิบพอดี ดวงตาคมกริบแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชากะทันหัน ความรู้สึกหงุดหงิดวิ่งตัดอารมณ์วูบวาบในอกเมื่อครู่ฉับพลัน ราวกับหุ่นยนต์โดนตั้งโปรแกรมขึ้นใหม่ให้นิ่งเฉยไร้ความรู้สึก โลกมันช่างกลมเสียเหลือเกินกับคนที่ไม่อยากเจอก็ต้องมาเจอะเจอ กันยวัฒน์ได้แต่พึมพำในใจ

พรีมาดาเดินดิ่งตรงเข้ามายังโต๊ะอาหารเมื่อพบเจอคนรู้จักที่สนิทคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ใบหน้าสดใสแย้มยิ้มส่งให้พร้อมกล่าวทักทาย

“ไง..”

“อ้าว! ยัยพรีม.. พายุอะไรพัดมาตกแถวนี้”

“เฮ้! ทำไมหล่อนมาอยู่กับกันย์ได้ล่ะชาย”

พรีมาดาไม่ใส่ใจหาคำตอบให้สมชาย เธอกลับตั้งคำถามประหลาดใจส่งตรงยังเพื่อนบุรุษใจสาวที่ทำหน้าตาตื่นราวโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ

“กันย์จ้างชายมาเป็นครูสอนหนังสือเด็กนักเรียน”

“อะไรกัน.. เดี๋ยวนี้ตกอับต้องรับงานพิเศษแล้วเหรอ” น้ำเสียงกลั้วยิ้มประชดประชันเพื่อนเล็กน้อย

“ไม่ถึงกับตกอับหรอกยัยพรีม นี่ถ้ากันย์ไม่จ้างวาน ชายก็ไม่มาหรอกนะจ๊ะ”

พรีมาดาหันเหสายตาหาบุคคลที่โดนเอ่ยถึงอย่างตั้งใจมอง คล้ายไม่เชื่อคำบอกเล่าที่ลอยผ่านโสตประสาทเท่าไหร่ อยากถามเพื่อความแน่ใจ

“กันย์นี่นะ.. จ้างสมชายสอนหนังสือ”

กันยวัฒน์ตีหน้านิ่งเฉยทำหูทวนลม ส่งสายตามองนีลาน่าที่ทำหน้างงมองเผ่าพันธุ์มนุษย์เจรจากันต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

“ใช่สิยัยพรีม.. ชายสอนหนังสือให้ยัยขี้เหร่คนนี้ไง” สายตาทุกคู่มองตามยังมือวาดแนะนำ

“พอน่าสมชาย! เลิกพูดมากได้แล้ว!”

น้ำเสียงดุดันปรามเพื่อนที่นั่งด้านข้างให้หยุดเรื่องราวเกี่ยวกับการจ้างวานเสียที โดยสมชายเองรู้ตัวทันทีเมื่อเห็นสายตาคมกริบจ้องมองมาพร้อมแผ่รังสีอำมหิตกระจายรอบบริเวณ

“เดี๋ยวนี้ทำเป็นมีลับลมคมนัยกับพรีมนะกันย์”

“...”

“ช่างเถอะ.. ว่าแต่เจอกันย์ก็ดีแล้ว ว่าจะมาคุยเรื่องเธอคนนี้หน่อย”

พรีมาดาหันหน้าพลางตวัดสายตาเรียบนิ่งมองนีลาน่าสร้างจุดสนใจ จัดการให้จบสิ้นเสียทีถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากเสวนาด้วยเท่าไหร่กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง หากไม่เพราะคู่หมั้นเอ่ยปากเธอคงไม่มาเสียเวลาฝืนใจตนเองอยู่แบบนี้

“มีไรก็ว่ามา..”

กันยวัฒน์พยายามข่มใจ สะกดอารมณ์หลายๆ อย่างไว้ภายใน ทำไมพระเจ้าถึงจงใจกลั่นแกล้งเขานักหนาทำให้ต้องมาเจอะเจอ ทั้งที่เวลานี้เขาเกือบลืมเธอคนนี้ไปได้อยู่แล้วเชียว

พรีมาดาถือโอกาสหย่อนกายลงนั่งเก้าอี้ที่ยังเหลือว่างเพื่อเจรจาธุระบางอย่าง จริงๆ แล้วเธอตั้งใจจะแวะไปหากันย์วัฒน์ที่บ้านของเขา เลยจงใจแวะมาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก่อนเพื่อหาของติดไม้ติดมือเป็นของฝาก แต่ถึงอย่างไรก็นับว่าโชคดีที่มาเจอกันตรงนี้เสียก่อน หากเข้าไปถึงตัวบ้านโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า เธอเองก็ไม่อาจคาดเดาว่าบุรุษหนุ่มจะยินดีต้อนรับหรือขับไสไล่ส่งเธอไปเสียให้พ้นสายตา เพราะดูจากท่าทางที่แสดงออกมาเวลานี้ เขาคงไม่อยากจะเสวนากับเธอเท่าไหร่

“มีคนอยากติดต่อเธอคนนี้ไปถ่ายแบบ พรีมว่าน่าสนใจนะ โอกาสแบบนี้หาได้ยาก”

“ต๊าย! จริงหรือพรีม ยัยขี้เหร่โดนทาบทามไปเป็นนางแบบ”

สมชายทำเสียงสูงปี๊ดออกอาการตกตะลึงไม่น้อย แต่มันก็ไม่น่าแปลกเลย เนื่องจากเด็กนักเรียนในการดูแลของเขาดูดีออกไปทางสวยงามราวนางฟ้ามาเกิด ถึงแม้เขาจะแกล้งแหย่เรียกนางว่ายัยขี้เหร่แต่ลึกๆ ในใจกลับชื่นชมความงดงามอยู่ไม่น้อย ยอมรับเสียอีกว่ามนุษย์ที่พยายามจะปั้นนางให้เป็นดาวตาถึงมากทีเดียว

“อื้อ.. จริงสิ.. ตื้อน่าดู โทรจิกพรีมทั้งวันว่าติดต่อให้หรือยัง”

“ไม่ต้องติดต่ออะไรทั้งนั้น ผมไม่อนุญาต”

เสียงเข้มขึงตัดบทสนทนาพาทุกคนนิ่งอึ้งตามกัน เขายืนยันปฏิเสธหัวชนฝาเด็ดขาด ทำไมไอ้เรื่องบ้าๆ พวกนี้ไม่จบสิ้นเสียที ในเมื่อเคยปัดไม่รับข้อเสนอไปแล้ว เหตุใดยังให้ใครต่อใครตามตื้อจนน่ารำคาญไปกันใหญ่

“นี่มันอะไรกัน.. พรีมยังไม่เห็นกันย์ถามความสมัครใจของเธอสักคำ ก็ไม่อนุญาตแล้วหรือไง”

“ครับ ผมไม่อนุญาต คำตอบเดียว แล้วหวังว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป คงไม่มีเรื่องบ้าพวกนี้มากวนใจผมอีก”

พรีมาดารู้สึกเจ็บร้าวขึ้นสมอง ปวดรุนแรงที่อกข้างซ้าย คล้ายถูกบีบหัวใจจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมด ทำไมถึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึกได้รวดเร็วเช่นนี้ แม้แต่กันยวัฒน์บุรุษที่เคยรักเธอนักหนายังทำเย็นชา ส่งเสียงเยือกเย็นใส่ ราวกับคนแปลกหน้าต่อกัน เพียงเพราะเด็กบ้านนอกคนเดียว ยิ่งคิดยิ่งแค้นเคือง เธอพยายามควบคุมอารมณ์เก็บความรู้สึกชิงชังไว้ภายใน

“โอ๊ย! ยัยพรีมดีแล้วล่ะ กันย์ไม่อนุญาตหน่ะ เพราะถ้าเอายัยขี้เหร่นี่ไปทำงานอย่างนั้นนะ มีหวังบ้าตาย นิ่งใบ้ซะขนาดนั้น”

สมชายรีบแก้ไขสถานการณ์ พรีมาดาละสายตาจากวงหน้าคมคายหันเหยังเพื่อนบุรุษใจสาวอีกครั้ง เนื่องจากเขาสร้างความประหลาดใจให้เธอได้ไม่หยุดหย่อน หรือเพราะเด็กบ้านนอกเป็นใบ้พิกลพิการ ใครๆ จึงต่างพากันสงสารได้มากมายขนาดนี้

“เป็นใบ้..”

“ใช่.. เป็นใบ้”

นีลาน่าได้แต่ทำตาปริบๆ รับรู้หมดทุกสิ่งอย่างที่มนุษย์โลกสื่อสารกัน แต่นางทำได้แค่นิ่งเฉยทนฟังต่อไป บางจังหวะที่หันสายตาสบมองกับกันยวัฒน์ นางได้แต่สื่อสารร้องบอกว่าเวลานี้นางหิวโหยเต็มที บุรุษผู้รับรู้ถึงกับหลุดขำออกมาโดยไม่ใส่ใจเพื่อนที่กำลังสนทนากัน

“นี่กันย์เป็นอะไร เห็นชายกับพรีมคุยกันเป็นเรื่องตลกมากนักหรือไง”

“เปล่าๆ แค่คิดว่าทำไมอาหารมาช้าจัง อ่า.. มาพอดี”

พนักงานให้บริการเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้า ในมือถือถาดยกอาหารพร้อมเสิร์ฟ ส่งให้ลูกค้าตามรายการที่สั่ง กลิ่นหอมโชยฟุ้งเตะจมูก ทำเอาเงือกพรายที่รอคอยอย่างใจจดจ่อถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ พาคนมองตามแอบยิ้มน้อยๆ อย่างเอ็นดู แต่ทุกการกระทำไม่มีรอดพ้นสายตาของพรีมาดาเลยสักวินาที ไม่ว่าจะสายตาอ่อนโยนหรือแม้แต่รอยยิ้มอบอุ่นที่กันยวัฒน์มองเด็กบ้านนอกพาลหัวใจเธอเจ็บระบมยิ่งชิงชังหนักกว่าเดิมหลายสิบเท่า

“งั้นพรีมกลับก่อนดีกว่า..”

พรีมาดากระแทกกายยืนขึ้น พยายามควบคุมน้ำเสียงให้เรียบนิ่งและเก็บความรู้สึกริษยาไว้ภายใน หากทว่าร่างกายกลับปิดไม่มิด เนื่องจากเวลานี้มือไม้สั่นเทาด้วยอารมณ์แค้นเคือง จิตใจแกว่งไม่เป็นสุขเอาเสียเลย

“อ้าว! ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอยัยพรีม”

“ไม่ล่ะ.. คนแถวนี้คงอยากให้พรีมไปพ้นๆ หน้า”

ประโยคตัดพ้อน้อยอกน้อยใจปรากฏให้ได้ยิน ทำเอากันยวัฒน์สะดุดเล็กน้อยแต่ยังคงทำนิ่งเฉยตักอาหารใส่ปากต่อไป เสมือนคนรักเก่าไม่มีตัวตนอยู่ตรงหน้าเวลานี้ เขาคงต้องพยายามให้ถึงที่สุดกับการตัดใจ หัวใจที่เย็นชาจนเป็นน้ำแข็งคงจะปล่อยให้มันละลายไม่ได้อีกแล้ว ความเจ็บปวดสอนให้จดจำ สร้างภูมิคุ้มกันจิตใจตนเอง

“เออๆ งั้นไว้ว่างๆ คุยกันนะยัยพรีม”

“โอเค.. พรีมไปนะชาย.. ไปนะกันย์..”

“ครับ..”

กันยวัฒน์เอ่ยคำลาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท สมชายยกมือโบกสะบัดแทนการร่ำลา ก่อนตีจากพรีมาดาไม่ลืมเหลียวสายตามองยังนีลาน่าที่ก้มหน้าก้มตาสนใจข้าวผัดในจานอย่างเอร็ดอร่อย ‘สักวันฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอมีความหมายแค่ไหนกันนังบ้านนอก’ ประโยคกระตุ้นเตือนจิตใจก่อนก้าวเดินจากไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างสาหัส

“นี่กันย์..”

เสียงเรียกแผ่วเบาราวกระซิบกระซาบ พาเจ้าของชื่อที่เพลินกับการทานอาหารมองตาม พร้อมส่งคำถามกลับว่ามีอะไรจากดวงตาคมกริบคู่นั้น

“...”

“ตัดใจจากยัยพรีมได้แล้วสิ ชายเห็นกันย์นิ่งมากเลย”

ไอ้สมชาย.. ไอ้เพื่อนเฮงซวย.. ปั่นป่วนอารมณ์ฟุ้งซ่านอีกจนได้ ทั้งที่พยายามสุดฤทธิ์เกี่ยวกับการลืมเรื่องราวต่างๆ ยังจะหาเรื่องรื้อฟื้นขึ้นมา กับคำว่าตัดใจมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะให้ขาดแบบไม่เหลือเยื่อใย แต่เขาคงต้องทำให้ได้โดยไวเพื่อความปลอดภัยกับจิตใจของตนเอง

“อยากตายหรือไง..”

“อ๊ายยย!! ชายขอโทษ.. ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กันย์สะเทือนใจนะ แค่จะบอกว่าดีแล้ว กันย์จะได้เป็นของชายคนเดียว”

‘เจ้าโลกันต์’

“ว่าไง”

“อะไรเหรอกันย์ ชายยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”

กันยวัฒน์ละสายตาจากอาหารมองยังเสียงเรียกชื่อที่เขาเองจำได้ไม่ผิดแน่ว่าคือนีลาน่า พลางนึกขึ้นมาได้ว่าเวลานี้เงือกพรายกำลังแสดงละครตบตาว่าพูดจาไม่ได้

“เอ่อ.. เปล่าๆ ไม่มีอะไร” เสียงอึกอักหลบสายลงต่ำชั่วครู่ ก่อนตั้งสติแล้วหันมองยังนีลาน่าอีกครั้ง

‘เราอยากไปเดินเล่น’

กันยวัฒน์พยักหน้าให้พรายสาวน้อยๆ เสร็จสิ้นจากรับประทานอาหารเมื่อใด คงต้องตามใจยอมให้ได้ในสิ่งที่ต้องการสักวัน ไหนๆ ก็พานางออกมาเปิดหูเปิดตานอกบ้านทั้งที


++++


“โอ๊ย!! เมื่อยขาจังเลย”

สมชายหลุดเสียงบ่นพึมพำตามความเคยชินของมนุษย์โลกทั่วไป กับการใช้งานอวัยวะเบื้องล่างเพื่อก้าวเดินตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาทำให้ทั้งล้า ทั้งปวดเมื่อย ผิดกับนีลาน่าตั้งแต่นางก้าวเข้ามายังถิ่นอาศัยก็จับหนังสือทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ไป ทั้งอ่าน ทั้งเขียน ราวกับไม่เหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

“กันย์.. นวดขาให้ชายหน่อยสิ ขาชายจะเป็นอัมพาตอยู่แล้ว”

“โอเวอร์จริงไอ้คุณสมชาย.. มีมือก็หัดนวดเอาเอง”

กันยวัฒน์หัวเราะหึในลำคอเหล่สายตามองเพื่อนที่นั่งทำหน้าบูดส่งค้อน ตวัดสายตาจิกกัดหลายตลบ นีลาน่าละสายตาจากหนังสือตรงหน้าพลางวางปากกาในมือ ลุกเดินพร้อมหยุดย่อกายนั่งลงบนพื้นเบื้องหน้าสมชาย มือบอบบางจับขาของมนุษย์ที่บ่นปวดหนักหนาขึ้นตั้งพาดพักบนตัก แล้วจับบีบนวดอย่างเบาแรง พาเจ้าของอวัยวะถึงกับตะลึงงันสาหัส สัมผัสตามแรงกดบีบเกิดความอบอุ่นและหายปวดเป็นปลิดทิ้ง สร้างความประหลาดใจให้กับสมชายเป็นอย่างมาก

“นี่! ยัยขี้เหร่.. เธอเป็นแม่มดหรือไงกัน แค่บีบเบาๆ ทำไมรู้สึกดีอย่างนี้ล่ะ!”

นีลาน่าส่งยิ้มหวานพากันยวัฒน์มองตาม นี่หรือเปล่าสิ่งอัศจรรย์ที่เงือกพรายสามารถเสกสร้างขึ้นมา สัมผัสอบอุ่น ความรู้สึกดีๆ รับรู้ได้เมื่ออยู่ใกล้ชิด ใครต่อใครต่างพากันหลงใหลชื่นชมไม่เว้นแม้แต่ตนเองเช่นกัน สมชายนั่งทำหน้าเคลิบเคลิ้มกับการบีบนวดอยู่พักใหญ่ก่อนโดนขัดจังหวะ

“หายเมื่อยหรือยัง จะกลับเลยไหม จะแวะไปส่ง ผมจะออกไปทำงาน”

“กลับๆ ว่าแต่.. กันย์จะปล่อยยัยขี้เหร่ไว้แบบนี้หรือไง”

“นีลาชินแล้ว.. อยู่ได้ใช่ไหม..”

กันยวัฒน์ตอบคำถามเพื่อน พร้อมตั้งคำถามกลับอีกครั้งยังพรายสาว นีลาน่าพยักหน้าพลางลุกเดินยังที่นั่งประจำตำแหน่งหันเหความสนใจให้กับตำราเบื้องหน้าตามเดิม ดีแฮะ.. มีความมุมานะ อดทน และที่สำคัญไม่ช่างเจรจาซักไซร้สิ่งใดให้มากเรื่องมากราว และเมื่อไหร่จะหมดความอดทนระเบิดคำพูดออกมา กันยวัฒน์ตั้งข้อสังเกตุในใจ


++++


ราตรีอันแสนยาวนานกับคืนวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างทยอยหาความสำราญเพื่อสละทิ้งความตึงเครียดที่ต้องเผชิญกันมาตลอดทั้งอาทิตย์ เสียงดนตรีคลอเบาด้วยท่วงทำนองสบายโสตประสาทค่อยๆ ปลุกอารมณ์ความคึกคักให้ตื่นตัวเพื่อความสนุกสนานที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“ไอ้กันย์.. วันนี้โผล่หัวได้แล้วหรือไง”

“เออ..”

ประโยคทักทายเอ่ยดังเมื่อเห็นเพื่อนสนิทย่างกายเข้ามายังห้องพักนักดนตรีที่ทางสถานความบันเทิงจัดไว้รับรองเพื่อความสะดวกสบาย ตั้งแต่กลายเป็นมนุษย์อกหักก็ทำตัวเหลวไหล เมามายไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่นานหลายเดือน เพราะพิษรักทำเหตุให้เขาผู้ซึ่งเคยขยันขันแข็งใส่ใจในหน้าที่การงาน ดูถดถอยความตั้งใจแทบกลับลำไม่ทัน หากคงถึงเวลาเสียทีกลับการเริ่มต้นใหม่ ควรตัดทิ้งให้สิ้นซากกับความรักจอมปลอม คงไม่หวังให้เรื่องราวในอดีตกลับมาทำลายชีวิตดับอนาคตอีกเป็นครั้งที่สอง

“เป็นไง หายหน้าหายตาไปหลายวันเลยนะเอ็ง”

“หึ.. ไม่เป็นไง ตอนนี้ก็มาแล้วไง”

รอยยิ้มแสยะมุมปากพร้อมเสียงลอดดังจากลำคอเบาๆ สร้างความรู้สึกสยองขวัญให้เพื่อนที่เอ่ยทักทายไม่น้อย แต่นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่าเวลานี้กันยวัฒน์คนเดิมกลับมาเกือบเป็นปกติแล้วจริงๆ ถึงแม้เสียงหัวเราะนั้นจะสร้างความขนพองเพียงใด หากยังดีกว่านั่งซึมเศร้าไร้วิญญาณคล้ายหมดอาลัยตายอยากแล้วกับชีวิตนี้

“ได้ยาดีอะดิ..”

“ยาอะไรที่ว่าดี ช่วยอธิบายให้ข้าเข้าใจหน่อยไอ้วิณ..”

หางตาปรายมองคนส่งคำถามที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำท่าทางทะเล้น ส่งสายตาแพรวพราวใส่

“ทำเป็นไขสือ ตีมึน ก็เด็กเอ็งไง ไปหามาจากไหน สวยซะจุกเลย”

“อ้าว! ไอ้วิณเดี๋ยวนี้ริอาจชมหญิงอื่น ข้าจะฟ้องแฟนเอ็ง คอยดู”

เสียงหัวเราะรื่นเริงเมื่อหยอกเหย้าเซ้าแหย่ ไม่เลย.. ไม่เหมือนมนุษย์กำลังบอบช้ำปางตาย หรือเวลานี้เธอหมดความหมายกับเขาแล้วจริงๆ หัวใจอ่อนแอ สั่นไหว เจ็บปวด พรีมาดาได้แต่แอบมองในระยะไกลๆ ไม่เข้าใจตนเองเหตุใดจึงต้องรู้สึกย่ำแย่เพียงนี้ เธอเพียงต้องการอยากรู้ความคืบหน้าของคนรักเก่า ว่าสำหรับเขาเธอยังมีความหมายและเป็นคนสำคัญอยู่หรือไม่ จึงพยายามมาวนเวียนป่วนเปี้ยนคอยดูพฤติกรรมของกันยวัฒน์อย่างเวลานี้ พรีมาดาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอด ก่อนเดินส่งเสียงทักทาย

“ว่าไงหนุ่มๆ คุยอะไรกันอยู่เหรอ ดูสนุกสนานเชียวนะ”

ประโยคขัดจังหวะพารอบบริเวณเงียบกริบกะทันหัน สายตาสองคู่ตวัดมองตามหญิงสาวที่ย่างกายเดินมายืนใกล้ๆ กันยวัฒน์สะบัดสายตากลับ แสร้งให้ความสนใจกับเครื่องดนตรีของตนเองเพื่อเตรียมตัวขึ้นแสดงเมื่อถึงเวลา

“...”

“รังเกียจพรีมกันขนาดนี้เลยหรือไงนะ”

น้ำเสียงใสสั่นเครือคล้ายอยากระบายสิ่งที่เก็บกดไว้ออกมา เนื่องจากเวลานี้ความรู้สึกแย่ถาโถม อึดอัดจนใกล้ระเบิดเต็มที

“...”

“ทำไมล่ะกันย์.. ทีกับผู้หญิงใบ้คนนั้น ทำไมกันย์ถึงห่วงใยน่าดู แต่กับพรีมกลับทำเย็นชาใส่ ทั้งที่เราสองคนเคยผูกพันกันมากแค่ไหน หรือตอนนี้กันย์ไม่หลงเหลือพรีมอยู่ในใจอีกแล้ว”

“หวงก้าง..”

เสียงแหบห้าวส่งคำพูดตัดบท ทำพรีมาดาสะอึกหยุดกึกกลางทาง น้ำตาคลอด้วยความรู้สึกคับแค้นในใจ

“ไอ้วิณ.. ช่างเหอะ เดี๋ยวข้าคุยเอง”

“ไม่ต้องเลยนะกันย์.. พรีมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าวิณมีอะไรติดค้างในใจ วิณพูดออกมาเถอะ.. พูดออกมาให้หมดตามที่ใจวิณคิด เราจะได้เคลียร์ข้อข้องใจกันตรงนี้ให้จบ”

“วิณไม่เข้าใจ พรีมต้องการอะไร ในเมื่อจบกันไปแล้ว ยังมาตามรังควานไอ้กันย์อีกทำไม ไม่ว่ามันจะเป็นหรือจะตายพรีมก็ไม่เห็นเคยแคร์ กลับทิ้งมันไปหมั้นหน้าตาเฉย แต่พอเห็นว่ามันมีผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้ หรือพยายามจะลืมพรีม กลับเป็นเดือดเป็นร้อนวุ่นวายกับมัน วิณถามจริงๆ นะ ถ้าอยากกลับมาหามันจริงๆ พรีมกล้าถอนหมั้นหรือเปล่า”

พรีมาดานิ่งเงียบ หลุบตาลงต่ำ บีบมือสั่นไหวไว้แน่น สะกดอารมณ์กระอักกระอ่วน พยายามคิดทบทวนในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ใช่.. เธอยอมรับกับตนเอง ว่าเธอหวง หวงคนรักเก่า ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมายุ่งวุ่นวายหรือวนเวียนอยู่ใกล้เขาแม้แต่น้อย ถึงเวลานี้เธอจะไม่มีสิทธิ์ใดๆ แต่ทั้งหัวใจยังคิดเสมอว่าเขาเป็นของเธอผู้เดียว

“พอเหอะไอ้วิณ.. ไม่ว่ายังไงเรื่องของผมกับคุณจบแล้ว ขอตัวนะครับ”

กันยวัฒน์ปรามเพื่อน พร้อมตัดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง พลางเอื้อมหยิบเครื่องดนตรีประจำตัว สีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ก้าวเท้ายาวเดินหนีเหตุการณ์วุ่นวาย

“กันย์อย่าเพิ่งไป!” มือบอบบางคว้าแขนแข็งแรงไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีหรือตีจากไปไหน

“...” ไร้การตอบกลับใดๆ กันยวัฒน์ดึงแขนออกจนหลุดพ้นการจับกุม ยืนฟังนิ่งๆ รอคู่กรณีเจรจาให้จบสิ้น

“กันย์ไม่รักพรีมแล้วใช่ไหม ตอนนี้กันย์ชอบผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”

“...”

“ตอบพรีมสิกันย์..”

“...”

“ตอบออกมาสิ”

“ใช่.. ผมคงชอบผู้หญิงคนนั้นเข้าให้แล้ว.. เรื่องของเราจบแล้ว ขอตัวนะครับ”

น้ำเสียงเย็นเยือก พร้อมร่างสูงเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาใยดี พาจิตใจบอบบางแตกสลาย น้ำตาซึมเมื่อครู่ไหลรินรดข้างแก้มทลายเขื่อนกั้นหมดสิ้น ณ เวลานี้ เธอคงสูญเสียเขาไปแล้วจริงๆ ตั้งแต่วันที่เธอทำร้ายให้เขาต้องเจ็บปวด


++++

โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 55 08:53:55

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 20:52:54

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 18:33:23

แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 15:55:40

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 15:39:11




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com