เพลิงรักอัปสรา (นิยายชุด ดอกไม้แห่งอาเซียน)
|
|
ภาพ ท่ารำของนางอัปสร อ้างอิงภาพมาจากในเน็ตนะคะ ขอบคุณท่านเจ้าของภาพ
นิยายเรื่องนี้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นไม่ได้อิงประวัติศาสตร์ หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากเรื่องจริง
เพลิงรักอัปสรา (มนต์ตรากลีบลำดวน)
ตอนที่ 1 แรกพบสบตา
ธนา ชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวขาวหน้าตาคมเข้มยืนอยู่เพียงลำพังภายในศาลาริมน้ำทรงไทย เขามองไปในเวิ้งน้ำอันกว้างใหญ่เบื้องหน้าลมจากแม่น้ำเจ้าพระยายามดึกสงัดแผ่วพัดมาปะทะผิวกายจนเส้นผมดกดำของชายหนุ่มขยับเบาๆ แต่มันทำให้เขารู้สึกเย็นสบายมากขึ้นไม่อบอ้าวเหมือนเมื่อช่วงหัวค่ำเขาเป็นคนไม่ชอบนอนเปิดแอร์ชอบลมจากธรรมชาติมากกว่า
จมูกโด่งได้รูปของธนาได้กลิ่นหอมจางๆจากดอกไม้ชนิดหนึ่งมาตามสายลมซึ่งเขามั่นใจว่าภายในบ้านริมน้ำหลังนี้อันเป็นของตระกูลเขาสืบทอดกันมาแม้จะอนุรักษ์บ้านเรื่อนไทยริมน้ำเอาไว้และมีต้นไม้มากมายแต่ไม่มีดอกไม้ที่ชื่อว่าลำดวนอย่างแน่นอน แต่กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกลำดวนมจากไหนกันเขากวาดมองเพื่อหาที่มาของกลิ่นและก็อมยิ้มออกมาเล็กน้อยบ้านสวนริมน้ำเป็นบ้านไม้ทรงปั้นหยาที่อยู่ถัดไปนี้บ้านของเพื่อนบ้านอาจจะนำต้นลำดวนมาปลูกเอาไว้อย่างแน่นอนจากการมองด้วยสายตาเข้าไปที่บ้านริมน้ำหลังถัดไปนั้นปลูกพืชสมุนไพรไว้มากมายทั้งพันธ์ไม้หายากคงไม่แปลที่จะปลูกลำดวนด้วย
ธนาสูดกลิ่นหอมบางเบาของดอกลำดวนที่ส่งกลิ่นหอมจางๆมาตามสายลมเข้าไปจนเต็มปอดจากนั้นหลับตาผ่อนลมหายใจออกเบาๆกลิ่นดอกลำดวนทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลลาดเหมือนกัยว่าการรอคอยอะไรบางอย่างกำลังจะสิ้นสุดลง เขาเผลอฮัมบทกลอนบทหนึ่งของกวีชื่อดังขึ้นมาเป็นบทกลอนที่เขาเคยได้อ่านและติดตาตรึงใจมาจนกระทั่งทุกวันนี้ น่าแปลกใจที่เขาจำบทกลอนบทนี้ได้อย่างไม่ลืมเลือนแม้ว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเสียหลายปีแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน "เหมือนกลิ่นปรางนางปนสุคนธ์รื่น คิดถึงคืนเคียงน้องประคองสม ถอนสะอื้นยืนเด็ดลำดวนดม พี่นึกชมต่างนางไปกลางไพร" (อ้างอิง มาจาก นิราศเมืองแกลง ผู้แต่งสุนทรภู่) ลมที่พัดแผ่วบามาจากแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนได้พัดพาดอกลำดวนสีเหลืองอ่อนดอกหนึ่งมาตามสายลมและตกลงตรงหน้าเขา
มาได้ยังไง ธนาก้มลงไปหยิบดอกลำดวนขึ้นมาเขามองมันอย่างสนใจจากนั้นพลันกลิ่นหอมเย็นที่สูดเข้าไปจากกลิ่นของเจ้าดอกลำดวนในมือที่โชยกลิ่นขึ้นมาก็ทำให้ธนาต้องหลับตานิ่งราวกับถูกมนต์สะกด
เขาปล่อยดอกลำดวนล่วงหล่นจากมือเหมือนมีพลังบางอย่างผลักดันให้เขาตกลงไปในหุบเหวลึกสูงชันความแรงของพลังนั้นแทบจะทำให้ร่างเขากับวิญญาณของธนาแยกออกจากกัน ความรู้สึเหมือนร่างกำลังตกไปที่ก้นหุบเหวลึกมืดมิด ธนารู้สึกปวดศีรษะหนึบๆเขาขยับศีรษะและค่อยๆลืมตาขึ้น อย่างช้าๆทันทีที่เปลือกตาเปิดอย่างเต็มที่ธนาก็แทบจะตะลึงงันไปกับสถานที่แปลกไปเขามองรอบตัวถ้านี่ไม่ใช่ความฝันเขาคงกำลังเจอดีกับสิ่งเล้นลับความกลัวเกิดขึ้นอยู่ภายในหัวใจแต่ฉาบเอาไว้ด้วยใบหน้าหล่อนิ่งสงบ
เมื่อพบว่าตนเองกำลังอยู่ในปราสาทหินโบราณหรือว่าเทวสถานที่ใดสักแห่ง ธนาลุกขึ้นยืนและพยายามนึกหาเหตุผล
เป็นไปไม่ได้ ทันใดนั้นไฟจากตะเกียงน้ำมันโบราณที่อยู่ริมสองข้างผนังก็ค่อยติดขึ้นทีละดวงจนเป็นแนวยาวชวนให้ขนลุก แสงไฟเหมือนกำลังเชื้อเชิญให้ธนาเดินไปตามทางนั้นตามระเบียงคตยาวเรื่อยไป
นี่มันอะไรกัน เป็นใครก็ต้องกลัวทั้งนั้นเมื่อครู่ธนายังคงยืนอยู่ที่ศาลาริมน้ำหน้าบ้านของตนเอง แต่เวลานี้เขาตื่นมาอีกครั้งในปราสาทหินโบราณหากไม่ใช่คนที่คุมสติได้ดีแบบธนาแล้วคงจะแทบคลุ้มคลั่ง
ธนาซ่อนความกลัวเอาไว้และเดินไปตามทางเดินนั้นแม้เขาจะไม่ใช่นักโบราณคดี แต่ด้วยการที่เขาจบด้านการท่องเที่ยวก็พอจะเดาได้ว่าที่นี่คือปราสาทหินโบราณเก่าแก่อายุนับพันปี เขาเดินผ่านระเบียงคดหินทรายศิลปะแบบขอมยุครุ่งเรือง ตามผนังเป็นภาพจำหลักอวตารของพระนารายณ์เมื่อเดินต่อมาอีกนิดเขาก็พบระเบียงคดอีกชั้นเต็มไปด้วยภาพนางอัปสราในอริยบทต่างๆ ดูอ่อนช้อยงดงาม และการแต่งกายที่แตกต่างกันแทบจะไม่ซ้ำกันสักนางเดียวหากไม่ใช่การมาแบบผิดปกติเขาคงจะหยุดดูความงามจากศิลปะสองข้างทางแต่นี่คือการมาแบบผิดปกติ
ปราสาทนี้คล้ายปราสาทดังแห่งหนึ่ง แต่เขาบอกตัวเองว่าไม่ใช่ปราสาทเดียวกันอย่างแน่นอน ปราสาทดังที่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นเขาเคยไปแล้วหลายครั้งตอนฝึกงานที่บริษัททัวร์ แต่ปราสาทหินที่นี่ก็มีส่วนคล้ายคลึงกันมากเขามองออกไปด้านนอกผ่านหน้าต่างก็พบว่าด้านนอกมีบารายเดาไม่ยากนักว่าเป็นศิลปะในยุคใด เพียงแต่ปราสาทหินหลังนี้เล็กกว่ามากแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่อะไรกันที่ชักนำเขามาที่นี่
หรือว่าเขากำลังฝันไปมันไม่ใช่ความจริง แต่แล้วบางอย่างก็ทำให้ธนาคิดว่าเขาไม่ได้ฝันไปเมื่อพลันสายตาคู่คมไปสะดุดเข้ากับภาพนางอัปสราจำหลักรูปร่างอรชรส่งยิ้มหวานละไมอยู่ตรงมุมทางเดินด้านขวาที่จะเลี้ยวไปไหนสักห้องอาจเป็นบรรณาลัย หรือห้องสำหรับทำพิธี นางอัปสรานางนี้ต่างกับนางอัปสรานางอื่นๆที่เรียงรายกันไปตามทางเดินที่เขาได้เดินผ่านมา ธนารู้สึกว่าหล่อนไม่เหมือนรูปสลักนางอัปสรานางนี้เหมือนมีชีวิตและกำลังส่งยิ้มหวานให้เขา ไม่สิหล่อนกำลัง....ขยิบตาทักทายเขาด้วย
ไม่จริงๆ ธนาพึมพำ นี่คือความฝันมันไม่ใช่เรื่องจริง นางอัปสราอะไรขยิบตาได้ด้วย
อันที่จริงเขากควรจะกลัวแล้ววิ่งหนีไปไม่ใช่เหรอ แต่เปล่าเลยสองเท้าเขากลับก้าวเข้าไปหานางอัปสรานางนั้นนางอัปสราผู้สวมชฎาสามยอดประดับด้วยดอกไม้ ทัดดอกลั่นทมข้างจอนหูมีพวงมาลัยห้อยลงมาคล้ายอุบะแต่งกายด้วยกรองทองลายงดงามเปลือยอกมีสังวาลย์ทาบทับ นุ่งผ้าซิ่นยกดิ้นและจับหน้านางเฉลียงไปทางด้านขวาสวมกำไลแขนเป็นห่วงสองอัน มีรัดกรเป็นรูปนงยูงลำแพนที่แขนด้านขวา กำลังอยู่ในท่าร่ายรำอ่อนช้อย เขามองรูปสลักนางอัปสรานางนี้ราวกับว่ากำลังต้องมนต์และพลันนั้นกลิ่นลำดวนจางๆก็ลอยมาตามสายลมเขาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเขาเอื้อมมือไปแตะที่รูปสลักของนางราวกับต้องมนต์ตรา และทันใดนั้นผิวกายที่ทำจากหินโบราณแข็งกระด้างอายุนับพันปีกับแปรเปลี่ยนสภาพไปกลายเป็นผิวกายมนุษย์นุ่มนิ่มละเอียดละออ จากนั้นนางอัปสราที่เคยเป็นรูปสลักจำหลักอยู่ก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นนางอัปสราที่มีชีวิตอย่างมนุษย์ต่างกันตรงนางงามราวกับเทพธิดาลงมาจุติสวยกว่านางฟ้านางสวรรค์ตามจินตภาพที่เขาเคยคิด และนางกำลังยืนจิ้มลิ้มพริ้วเพรายิ้มฟันขาวทักทายเขา
ยืนมาตั้งนานหลายร้อยปีเราก็เมื่อยเป็นเหมือนกันนะ กว่าจะได้เจอคนที่สื่อกับเราได้นางบิดไล่ความปวดเมื่อย
นางอัปสรยิ้มให้เขาและทักขึ้น ซัวสเดย ธนายังไม่ตอบ นางอัปสราหน้าตาจิ้มลิ้มขมวดคิ้วและกอดอกก่อนจะพูดขึ้นใหม่
สบายดี ธนามองนางตาข้างไปสองวินาทีก่อนจะถอยหลังหนีไปสองก้าว
เขาไม่ตอบนางอัปสรายิ่งไม่มั่นใจว่าเขาเป็นคนชาติใดกันแน่
ซาลามัต ดาตัง นางเลยทักเป็นภาษามาเลเซียและพบว่าธนาตาค้างขึ้นนางคิดว่าเขาไม่เข้าใจภาษาของนาง
หนีเห่านางยิ้มและกระพริบตามองหน้าว่าเขาจะเข้าใจหรือยังกับคำทักทายแบบชาวสิงค์โปร
อะไรเนี่ย เป็นไปไม่ได้นางอัปสรามีชีวิตพูดได้ ผีหรอกๆ ธนาถอยห่างทันทีอีกหลายก้าว อ้อที่แท้เป็นชาวสยาม อ้อเขาเปลี่ยนชื่อแล้วสินะ ที่แท้ก็เป็นชาวไทยนี่เอง สวัสดี นางทักเขาเป็นภาษาไทยประโยคยาว ฝันๆ นี่คือฝันมั้นไม่ใช่ความจริง ธนาสั่นศีรษะและหยิกแขนตน
แต่นี่คือความจริงไม่ใช่ความฝันนางอัปสรายิ้มหวานค้านเขา
ไม่ไหวแล้วมั้ง ธนากับหลังหันเตรียมวิ่งแต่แล้วนางอัปสราคนงามกับหายวับมาดักตรงหน้าเขาจนธนาตกใจถอยหลังหนี
นี่ท่านจะหนีไปอีกทำไม ที่จริงถ้าคิดจะวิ่งควรจะวิ่งตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่จะมาเริ่มกลัวกันตอนนี้ ตอนเห็นอดีตเคยเป็นคนเคยสวยอย่างเรามันทำให้เราหมดความมั่นใจ
โอ้ไม่! ธนาอ้ำอึ้งประมวลเหตุการณ์เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี นี่เขาไม่ได้เจอแค่ผีธรรมดาเสียแล้วมั้ง
++++++++++++++++++++++++++++++++
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 55 17:19:39
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 55 13:39:48
จากคุณ |
:
อัปสราน่ารัก
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 55 13:39:07
|
|
|
|