ผมจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้คุณฟัง... ผมน่ะ มีพลังจิต.. พลังจิตของผม คุณคงคิดว่ามันเท่ห์มากใช่มั้ยล่ะ ? เหาะได้ หายตัวได้ ... เปล่าเลย พลังจิตของผมคือการได้รู้ว่า ใครมีเงินอยู่เท่าไหร่ ... ซึ่งจนทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้จะใช้ประโยชน์จากมันยังไง
พี่เบสท์ ขอน้ำอัดลมขวดนึง ผมมองไปยังต้นเสียง เจ้าหนูจำไมจอดจักรยานไว้ที่หน้าร้าน และเดินตาละห้อยมาขอซื้อน้ำด้วยท่าทางอิดโรย ผมเองก็ไม่แพ้กัน นั่งตากพัดลมมาซะตั้งนาน ยังไม่คลายจากความร้อนเลย อ่ะนี่ครับ เจ้าหนูจำไมยื่นเหรียญสิบมาให้ เดี๋ยวไปไหนต่อล่ะผมถาม ไปร้านเกมส์ครับ เฮ้ย แล้วเอ็งมีตังค์เหรอ ก็ขอติดพี่เจนเจ้าของร้านไว้ก่อน ว่าแล้วเจ้าหนูจำไมก็ขึ้นจักรยานขี่ออกไปจากหน้าร้านผมอย่างรวดเร็ว คงชินแล้วล่ะที่ผมมักถามแบบนี้ เพราะมันมาหาผมทีไร ผมมองเห็นแต่เลข 2 บ้าง 3 บ้างบนหัวมันทุกที ใช่ครับ... ผมรู้ได้ว่าใครมีเงินอยู่เท่าไหร่จากเลขที่อยู่บนหัวคนอื่น เคยไปเดินห้างสรรพสินค้า ผมเห็นบางคนแต่งตัวธรรมดา ดูเรียบๆ แต่ตัวเลขบนหัวเขามีตั้งล้านสองล้าน แต่บางคนแต่งตัวใส่สูทผูกไทค์ เนี้ยบซะไม่มี แต่ตัวเลขบนหัวมีแค่ 1000 ก็มี คนเราดูจากภายนอกไม่ได้จริงๆ พลังวิเศษของผม เคยช่วยผมจากหัวขโมยได้บ้างเหมือนกัน ตอนนั้นมีเด็กมาซื้อของที่ร้านผมครับ ผมเห็นตัวเลขบนหัวมันมี 1000 บาท พอมันจ่ายเงินค่าของ ประมาณ 200 กว่าบาทมั้ง บนหัวมันก็มีเลข 1000 บาทเหมือนเดิม ผมเลยเอาแบงค์มาดู แบงค์มันแบงค์ปลอมนี่หว่า ผมเลยจับตัวมันได้ทันควันเลย การที่ได้รู้ว่าใครมีเงินเท่าไหร่บางทีก็ได้ปลอบใจตัวเองเหมือนกันนะครับ ว่าเราไม่ได้จนอยู่คนเดียว ผมเดินไปตามท้องถนน ร้านค้า ตลาด คนส่วนใหญ่มีตัวเลขอยู่บนหัว 5000 บ้าง 10000 นึงบ้าง ยิ่งช่วงสิ้นเดือนนะครับ บางพื้นที่ที่ผมไป แต่ละคนมีเลขบนหัวแค่ 500-1000 เอง เห็นหรือยังล่ะครับ ว่าพลังจิตของผมมันไม่ค่อยมีความหมายสักเท่าไหร่ ผมยังคงนั่งตาละห้อยเหมือนเจ้าหนูจำไมอยู่บนเก้าอี้ ในร้านขายของของผม เสียงมือถือผมดังขึ้น... ฮาโหลผมรับสาย เบสท์เอ๋ย นี่ข้าเอง... เสียงปลายสายของผม เพื่อนซี้ผมเอง มันชื่อธันย์ มันเป็นคนเดียวในโลกที่รู้ว่าผมมีพลังจิตเห็นว่าใครมีเงินเท่าไร คงเพราะเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ แทบไม่เคยมีความลับอะไรต่อกันเลย แต่หลายปีมานี่ผมไม่ได้เจอมัน มีแต่คุยมือถือหรือไม่ก็อีเมลล์ เพราะมันเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา ว่าไงฟร่ะ มีเรื่องอันใหญ่ยิ่งที่ข้าต้องการให้แกช่วย... เจ้าธันย์มันยังคงชอบทำเสียงเหมือนในการ์ตูน หมอนี่ไม่รู้จักโตซะที ข้าได้เข้าร่วมงานประลองศึกเจ้ายุทธจักรวงเงิน... ยังไม่ทันที่มันจะพูดจบ ผมก็พูดแทรก อะไรของแก อย่ามาเว่อร์ซะให้มาก เอาดีๆหน่อยผมว่ามัน ที่สหรัฐอเมริกา ณ ตอนนี้ มีการแข่งขันอย่างหนึ่งซึ่งมีเงินเดิมพันสูงมาก ข้าต้องการให้แกช่วย ถ้าแกช่วยสำเร็จ พวกเราจะรวยมากๆเลยว่ะธันย์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ทำเสียงเลียนแบบการ์ตูนเหมือนเมื่อกี้แล้ว จะไปยังไง ตังค์ไม่มีผมบอก เดี๋ยวจะโอนค่าตั๋วเครื่องบินไปให้ แล้วเดี๋ยวมาพักกับข้า ค่ากินเดี๋ยวมาเอาที่นี่ รับรองถ้าแกมา อย่างน้อยก็ไม่อดตายอยู่แล้ว มันสั่งผม เฮ้ย ๆ แล้วร้านล่ะ ถ้าแกอยากรวยมาด่วน ร้านก็ให้เจ๊ฉิ่นเฝ้าไปดิ เดี๋ยวมีปัญหาอะไรแกก็ส่งเงินจากที่นี่มาให้เค้าก็ได้ ผมยังคงงงๆกับมัน ฉันไม่เคยโกหกอะไรแกใช่มั้ย เชื่อฉันสิ พลังที่แกมีมันจะใช้ประโยชน์ได้มากในเกมส์นี้ ฉันกับแกจะรวยแบบมหาศาล ธันย์พูดก่อนที่มันจะวางสายจากผม ผมมองไปยังท้องฟ้า เอาไงดีว่ะกรู พึมพำกับตัวเอง วันต่อมาก็มีเงินค่าตั๋วเครื่องบินโอนเข้ามาในบัญชีผม รู้สึกตัวอีกที ตอนนี้ก็นั่งอยู่บนเครื่องบินแล้ว ขึ้นจากสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส อะไรจะรอผมอยู่ว่ะเนี่ย... ผมนั่งนิ่ง หน้าดูเหวอๆ โปรดติดตามตอนต่อไป...
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 55 23:18:51
จากคุณ |
:
Mr.Terran
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 55 23:18:16
|
|
|
|