Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กับดักรักสองโลก 12. vote ติดต่อทีมงาน

วันนี้เอานิยายมาลงให้อ่านก่อนถึงวันนะคะ
เพราะเดี๋ยวคงยุ่งกับงานหลายวัน เกรงว่าจะไม่มีเวลาเอามาลง


++++


.

.


12.



‘ใช่.. ผมคงชอบผู้หญิงคนนั้นเข้าให้แล้ว’


ประโยคตัดปัญหาเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมายังคงวนเวียนซ้ำๆ ในจิตใจแข็งแกร่ง กันยวัฒน์ทบทวนความรู้สึก เหตุใดเขาถึงเอ่ยวาจาทำร้ายคนรักเก่าอย่างเลือดเย็น เหตุผลเพียงแค่ตัดความรำคาญจริงหรือ เขาพยายามค้นคำตอบในใจ รถยนต์คันหรูจอดนิ่งสนิทยังหน้าที่พักอาศัย มือแข็งแรงกุมพวงมาลัยรถ ฟุบใบหน้าทับบนมืออีกทอดหนึ่ง ความคิดในสมองแบ่งเป็นสองฝ่ายคล้ายเกิดศึกสงครามต่อสู้อย่างหนักระหว่างควรรู้สึกผิดหรือโล่งอกที่ตัดปัญหาเช่นนี้


กันยวัฒน์ยกกาย ถอนใจเฮือกใหญ่ระบายปัญหาหนักอกทิ้ง พลางดึงประตูรถ ผลักเปิดจนกว้างพร้อมก้าวลงเหยียบยังพื้นดิน ร่างสูงย่างเดินหันหลังพักพิงอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนบนฝากระโปรงรถยนต์ส่วนตัว สองมือยกกอดอกปล่อยใจล่อยลอยไกล สายตาเหม่อมองทอดสูงขึ้นฟ้า พระจันทร์ดวงกลมโตสว่างไสวโดดเด่นท่ามกลางความมืดมิดที่ทาบทาเป็นผืนกว้างขว้างทั่วท้องฟ้ายามราตรี


จู่ๆ ใบหน้าของเงือกพรายล่องลอยเข้ามายืนในความคิด อยู่ห่างกันไม่กี่ก้าวเดิน เพียงหันหลังกลับก็คงได้พบเจอ เหตุใดใจจึงพะวงกังวลชอบกล กันยวัฒน์ปัดความคิดทุกอย่างทิ้งสิ้น เอี้ยวกายเข้ายังที่พักอาศัย อยากพบนางในความคิดขึ้นมาเสียดื้อๆ


ประตูบ้านถูกเปิดกว้าง พร้อมสายตากวาดมองรอบบริเวณ โดยไม่ลืมถอดรองเท้าที่สวมใส่ยกขึ้นเก็บยังที่อยู่ของมัน พลางก้าวเดินเข้าห้องรับแขก ซึ่งมีร่างบอบบางตะแคงหน้า หมอบลงกับโต๊ะกระจก หลับตาพริ้ม กันยวัฒน์ก้าวเดินราวย่องเบา ทรุดกายลงนั่งยอง มือวางพาดบนหัวเข่าพร้อมคางเกยแขนตนเองจ้องมองใบหน้านวลเนียน มือข้างหนึ่งค่อยๆ เอื้อมสัมผัสเส้นผมสลวยเกลี่ยไล้ทัดใบหู เพื่อไม่ให้ปกปิดดวงหน้าขาวสวย


เขาไม่เข้าใจ เหตุใดใจจึงเต้นรัวหวั่นไหวเพียงนี้ แค่ได้ใกล้ชิดนาง ‘นี่คุณมาทำอะไรผมนีลา..’ ในช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดนีลาน่า เขาเริ่มสังเกตุได้ว่าความโศกเศร้าเสียใจหายเป็นปลิดทิ้ง คล้ายหัวใจโดนฟูมฟักรักษา ให้อาการปวดร้าวปางตายค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ


ความสวยงามชวนหลงใหล สะกดสายตาจนไม่อาจละไปไหนได้เลยขณะนี้ ความต้องการจากเบื้องลึกภายในใจส่งผลให้มืออบอุ่นเคลื่อนย้ายแตะสัมผัสศรีษะ ลูบไล้ผมนุ่มยาวอย่างอ่อนโยน เกิดนึกเอะใจขึ้นมา โดยปกติหากเขากลับมาดึกดื่นเพียงใด ไม่เคยแม้สักครั้งจะเห็นนีลาน่าหลับนอนก่อนเขาเลย เหตุใดคืนนี้นางจึงสลบไสลรวดเร็วเช่นนี้ ความห่วงใยเกิด ด้วยรู้สึกกังวลนำมือจับไหล่กลมกลึงเขย่าเล็กน้อยให้นางรู้สึกตัว


นีลาน่าค่อยๆ ปรือเปลือกตาเปิดออก เผยดวงตากลมโตกรอกมองยังบุรุษด้านข้าง นางขยับเคลื่อนไหวพยุงกายขึ้นนั่งด้วยความมึนงงเล็กน้อย


“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้หลับได้ล่ะ”


“... เรารู้สึกเหนื่อย”


“งั้นขึ้นไปนอนบนห้องดีกว่าไหม”


นีลาน่าส่ายหน้าปฏิเสธ นางรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการเหน็บชาควบคุมความรู้สึก จึงจัดท่านั่งใหม่ให้กับตนเอง ขาเรียวยืดเหยียดขนาบพื้นกระเบื้องที่นั่งอยู่ หลังบางเอนพิงเบาะโซฟาเพื่อยืดเส้นสายคลายความเมื่อยล้า


“เจ้ามาถึงนานแล้วงั้นหรือ”


“ผมเพิ่งถึงได้ซักพัก เมื่อยหรือไงทำท่าทางแบบนั้น”


กันยวัฒน์ไถ่ถามพลางเคลื่อนกายนั่งหันหลังพิงโซฟาในท่าเดียวกันกับนางพรายด้านข้างที่พยักหน้าแทนคำตอบ


“เราคงนั่งนานเกินไป”


“เออ.. ผมว่าจะถามคุณเรื่องเมื่อกลางวัน ทำไมคุณถึงสื่อสารกับผมได้โดยไม่ต้องขยับปาก”


“ส่งจิต..?”


“คงงั้น.. ประมาณกระแสจิตคุยกันเหมือนในหนังไรงี้”


“เมืองบาดาลสื่อสารทางจิตได้ ถ้าอยู่ภายในอาณาเขตท้องน้ำ”


“แต่นี่บนพื้นดินนะ คุณก็สื่อสารแบบนั้นได้ด้วยว่างั้น”


มือบางยกแตะสัมผัสสร้อยคอพลางก้มลงมองสิ่งวิเศษที่บิดามอบให้ไว้ครั้งยังอยู่แดนบาดาล ในเมื่อขึ้นชื่อว่าสิ่งวิเศษมันคงมีอิทธิฤทธิ์อีกหลายอย่างที่นางอาจยังไม่รู้ และเมื่อถึงเวลาพลังต่างๆ คงจะสำแดงเดชให้เห็นแจ้งแก่สายตาดังเช่นหลายๆ เรื่องที่ประสบพบเจอมาบ้างแล้ว


“คงเพราะของสิ่งนี้”


“น่าสนุกนะสื่อสารได้ทุกภาษาแถมส่งกระแสจิตได้อีก ผมว่าถ้าเอาคุณไปออกงานวัดคงดังไม่ใช่เล่น”


“งานวัด..”


พรายสาวทำหน้างง เครื่องหมายคำถามปรากฏชัดเจนด้วยความใคร่รู้ เสียงขำขันหลุดจากลำคอชอบอกชอบใจที่สามารถทำให้นางเสียสูญ


“จะอธิบายให้คุณฟังยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าเมื่อไหร่มีงานวัด ผมจะพาไปดูแล้วกัน”


รอยยิ้มจางผุดบนวงหน้าคมคาย พานีลาน่าตะลึงไม่น้อย เนื่องจากอยู่ร่วมกันมาก็นานพอดู นี่คงเป็นครั้งแรกที่นางเห็นเจ้ามนุษย์โลกปรากฏยิ้มเป็นบุญแก่สายตา


“เจ้ายิ้มเป็นแล้วหรือ”


เสียงทักทวงทำรอยยิ้มเมื่อครู่หุบลงทันที เบือนหน้าหันหนีทางอื่น รู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า เขาไม่เข้าใจตนเองเหตุใดต้องรู้สึกเสียหน้ากับแค่หลุดยิ้ม และกลับทำให้อมนุษย์บางตนแสดงท่าทางตื่นเต้นดีอกดีใจราวกับมันเป็นสิ่งประหลาด กันยวัฒน์ลุกยืนเต็มความสูงก้าวเดินทำภารกิจที่ต้องจัดการก่อนเข้าพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้าเต็มที หลีกเลี่ยงสายตากลมกลิ้งที่มองตามปริบๆ


“ผมไปพักล่ะ คุณก็ขึ้นนอนได้แล้ว ช่วงนี้ดูคุณคงอ่อนเพลียใช่ย่อยนะ อ่อ.. เกือบลืมอีกเรื่อง จริงๆ ถ้าคุณอยากพูดคุยกับสมชายก็ตามสบายนะ ผมกลัวคุณจะอกแตกตายซะก่อนหากไม่ได้พูดคุยกับใครบ้าง ยังไงกับสมชายก็คุ้นเคยกันดีแล้วนี่”


นีลาน่าจ้องมองตามหลังร่างสูงจนเขาเดินหายขึ้นยังชั้นบน นางได้แต่ครุ่นคิดตามประโยคที่ได้ยิน หรือเพราะนางอ่อนเพลียเกินไปจึงทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



++++



  “ยัยขี้เหร่ ยู้ฮู..”


คำทักทายแว่วดังห่างไกลตั้งแต่มนุษย์ผู้ส่งเสียงยังไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ความคุ้นเคยแบบนี้นีลาน่าไม่ต้องสุ่มเดาให้ยุ่งยากก็รับรู้ทันทีว่าเขาคนนั้นคือคุณครูผู้สอนของนางเอง นีลาน่าก้าวเดินยังประตูหน้าบ้านที่เปิดรอต้อนรับแขกผู้มาเยือนพร้อมส่งยิ้มหวานหยาดทักทายกลับ


“ฉันล่ะเบื่อเธอจริงๆ จะพูดคุยกันหน่อยก็ไม่ได้ รู้บ้างไหมฉันเหงาปาก ว่าแต่วันนี้กันย์ไปไหนแต่เช้า โทรปลุกให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่”


นีลาน่าทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะนางเองก็ไม่อาจรับรู้ว่าเจ้าโลกันต์ไปไหน ตั้งแต่รุ่งอรุณนางก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเสียแล้ว ความคิดผุดตาม ‘ถ้าคุณอยากพูดกับสมชายก็ตามสบายนะ’ สายตามองตามบุรุษใจหญิงที่ทรุดกายลงนั่งยังโซฟานุ่ม ยืดแข้งขาในท่าสบายตัว


“เจ้าจะเริ่มสอนให้เราศึกษาเลยหรือไม่”


“เริ่มสิ.. เอาเลย.. เอ๊ะ!!.. อ๊ายยย!!.. หล่อนพูดได้เหรอยัยขี้เหร่!!”


สมชายดีดกายรวดเร็ว กระโดดหลบหลังโซฟาโดยอัตโนมัติราวโดนผีหลอกยามเช้า ทำเอานีลาน่าหัวเราะขำขันท่าทางของครูผู้สอนที่ตื่นกลัวจนเกินเหตุ บุรุษที่ดูยังไงก็ประหลาดไม่สมเป็นชายชาตรีผู้นี้คงจะขวัญอ่อนง่ายดายเสียเหลือเกิน ถึงได้ตกอกตกใจยกใหญ่กับอิแค่นางเอ่ยวาจาออกไปให้ได้ยิน


“ใช่.. เราพูดได้”


“แล้วทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก!! ปล่อยให้ฉันพร่ำอยู่คนเดียว โอ๊ย!! อกนางสาวสมชายจะระเบิดเป็นเสี่ยงให้ได้ ขวัญเอ้ย.. ขวัญมา..”


สมชายว่าพลางเคลื่อนย้ายตนเองกลับมานั่งบนโซฟาตามเดิม นีลาน่าก้าวเดิน ยุบกายลงนั่งใกล้สมชายโดยไม่ยอมหยุดยิ้มกับท่าทางพิสดารของมนุษย์โลก


“ทำไมเจ้าต้องตกใจเช่นนั้น”


“ฉันนึกว่าผีหลอกสิยะ!! ว่าแต่ทำไมเธอพูดจาประหลาดจัง หรือที่บ้านเกิดเธอเขาพูดกันแบบนี้”


“ใช่..”


“แล้วทำไมต้องแกล้งใบ้ด้วยห๊ะ เหตุผลที่ต้องทำนี่เพราะกันย์ของฉันหรือเปล่า” นีลาน่าพยักหน้าหงึก


“ใช่.. สหายเจ้าไม่ให้เราคุยกับมนุษย์แปลกหน้า”


“กะแล้วเชียว.. ผู้ชายอะไรชอบบังคับขืนใจ แต่ถึงยังไงฉันก็ชอบอยู่ดี ว่าแต่.. กันย์มีเหตุผลอะไรนะถึงไม่อยากให้เธอพูดจากับใคร เดี๋ยวต้องถามให้รู้เรื่อง ความสงสัยสะกิดต่อมอยากรู้จริงๆ ขัดใจ! ขัดใจ!”


สมชายจิกหางตามองนักเรียนในปกครองก่อนสะบัดหนีคล้ายหงุดหงิดอารมณ์เล็กๆ หนึ่งมนุษย์หนึ่งพรายสาวเริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนตามที่ตั้งตารางไว้ แต่เนื่องจากเวลานี้สมชายล่วงรู้ความจริงว่านีลาน่าไม่ได้นิ่งใบ้อย่างที่เคยรับรู้ หลักสูตรในการเรียนการสอนคงต้องเพิ่มการพูดภาษามนุษย์เมืองกรุงเข้าในโปรแกรมที่วางไว้ สมชายไม่รอช้าจัดการสอนสั่งให้นีลาน่าพูดจาอย่างที่มนุษย์โลกสื่อสารกัน


“อะ สอนพูดไปตั้งเยอะแล้ว ไหนลองเรียกฉันสิ คุณสมชาย”


“คุณสมชาย..”


“เก่งมากเลยยัยขี้เหร่ เรียกฉันว่าคุณสมชายยังดีกว่าเรียก เจ้าๆ ฟังแล้วขัดหู มันปวดประสาทเข้าใจไหม ภาษาเมืองไหนกัน ทำยังกับหลุดมาจากยุคโบราณสมัยสงครามโลก”


ระหว่างสนทนาออกรสชาติ โทรศัพท์ขนาดพกพาเกิดส่งเสียงดังแทรก ทำให้สมชายหยุดเจรจาชั่วครู่พลางล้วงมือลงกระเป๋าเสื้อ หยิบเครื่องมือสื่อสารกดรับสายโทรเข้า ต่างคนต่างทำหน้าที่ นีลาน่าศึกษาต่อ ส่วนสมชายลุกเดินเพื่อหาที่ทางสงบสนทนากับปลายสาย จนเวลาผ่านได้สักระยะสมชายเดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มราวมีเรื่องน่ายินดี


“นี่.. ยัยขี้เหร่ เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาไปเที่ยว สนใจไหมจ๊ะ”


นีลาน่าเกิดหูพึ่งกับคำว่าเที่ยว ละสายตาจากสมุดที่กำลังง่วนคัดตัวอักษร มองยังสมชายที่เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าตามเดิมเมื่อจบการสนทนา แววตาดูตื่นเต้นทันใด คงมีหนทางได้เปิดหูเปิดตาอีกครั้ง ชั่ววูบดันนึกถึงสีหน้าขึงขังและน้ำเสียงดุดันของเจ้ามนุษย์โลกันต์ขึ้นมาในจินตนาการพาใจห่อเหี่ยวลงทันที หากออกนอกเขตบ้านโดยไม่บอกกล่าวอีกครั้งมีหวังนางคงโดนยักษ์มารหักคอไร้ชีวิต


“เจ้า.. เอ่อ.. คุณสมชายจะพาเราไปแห่งใดกัน หากเจ้าโลกันต์รู้คงโดนโกรธเคืองเป็นแน่”


“โอ๊ย!! เอาอีกแล้วภาษาหลุดยุคโผล่มาอีกแล้ว ต้องพูดว่า.. คุณสมชายจะพาฉันไปไหน ถ้ากันย์รู้ต้องโกรธแน่เลย เฮ้อ! ช่างเถอะๆ ของแบบนี้คงต้องใช้เวลา เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจัดการเองรับรองกันย์ไม่ทันรู้ เธอจะต้องแปลงร่างเป็นนางซินกลับก่อนเที่ยงคืน เดี๋ยวนางสาวสมชายจัดให้”


รอยยิ้มแสยะขึ้นมุมปาก สายตาพราวเจ้าเล่ห์ปรากฏ วันนี้จะเฮฮาให้หลุดโลกกันไปข้าง มีโอกาสนัดหมายรวมตัวกับเพื่อนฝูงทั้งที สมชายจึงถือโอกาสพานักเรียนในปกครองเปิดหูเปิดตาตามคำเชิญชวนของเพื่อนสาวที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ไปหมาดๆ



++++



ร้านอาหารกึ่งผับอบอวลไปด้วยเสียงเพลงคลอเบาฟังสบาย แสงไฟสีส้มสลัวประดับเป็นโคมระย้าตามเสาหลักของสถานที่ เข้ากับบรรยากาศช่วงย่ำค่ำที่ยังไม่ถึงกับดึกมากนัก


“เฮ้! สมชายทางนี้”


เจ้าของชื่อตวัดสายตาตามเสียงเรียก มองเห็นเพื่อนสาวโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณบอกตำแหน่ง สมชายคว้าแขนนีลาน่าให้เดินตามใกล้ชิด เกิดนึกกลัวนักเรียนในปกครองหลงทางขึ้นมา ถึงอย่างไรก็เด็กบ้านนอกคอกนาคงตื่นกลัวกับแสงสีของเมืองหลวง สมควรดูแลไม่ให้คาดสายตา หากเกิดปัญหาตามหลังมีหวังกันยวัฒน์สุดที่รักคงเล่นงานจนอ่วมอรทัย


“ไง ยัยพรีม คนอื่นยังมากันไม่ครบอีกหรือไงจ๊ะ”


“พรีมก็รออยู่เนี้ยยังไม่มากันเลยหรือจะเบี้ยวแล้วก็ไม่รู้สิ”


“ไม่ไหวเลยนะ เห็นนัดกันดิบดีจะมาเบี้ยวแบบนี้ เจอกันเมื่อไหร่ชายจะจับกดน้ำซะให้เข็ด”


“สวัสดีค่ะคุณนีลาน่า ยินดีที่มาร่วมสนุกตามคำเชิญนะคะ”


พรีมาดาเหยียดยิ้มทักทายหญิงสาวที่เธอหมายเจอะเจอในค่ำคืนนี้ ยิ่งทำความรู้จักใกล้ชิดได้มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอรู้ความเคลื่อนไหว รู้ถึงนิสัยใจคอได้มากเท่านั้น รู้เขารู้เราทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง นีลาน่าคลี่ยิ้มอวดริมฝีปากอิ่มชมพูระเรื่อ พลางหันมองบุรุษด้านข้างที่จับสัมผัสแขนสองข้างของนางดันให้นั่งลงยังเก้าอี้ สมชายได้ตกลงกับนีลาน่าไว้ว่าเรื่องที่นางเป็นใบ้จะเก็บไว้เป็นความลับต่อไป เนื่องจากคำพูดแปลกๆ ของนีลาน่าอาจทำให้ผู้คนแตกตื่นอาจเหมาเอาว่านางเป็นตัวประหลาดหลงยุคหลุดออกมาก็เป็นได้


“นี่ยัยพรีม เห็นว่าคืนนี้มีอะไรสนุกงั้นเหรอ”


“มีแน่ๆ หล่อนรอดูแล้วกันนะชาย ใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ”


เข็มนาฬิกาเดินผ่านจากนาทีเป็นชั่วโมง ความคึกคักค่อยๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มดึกเท่าไหร่ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลเพิ่มเติมจนทั้งร้านแน่นขนัดเต็มพื้นที่ ไม่สนุกเอาเสียเลยกับการต้องมานั่งมองมนุษย์โลกทั้งหลายพูดคุย เสียงที่ดังจอแจกระทบโสตประสาทพาพรายสาวเริ่มเข้าสู่สภาวะมึนงง แสง สี เสียง และความมืดสลัวพาปั่นป่วนจิตใจยิ่งนัก เวลานี้นีลาน่านึกถึงแต่กันยวัฒน์ หากนางกลับถึงบ้านช้ากว่าเจ้าบุรุษโลกจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาคงโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเป็นแน่ ความกังวลวิ่งวนในใจ


มือบางเอื้อมสะกิดแขนบุรุษด้านข้างคล้ายต้องการเจรจาบางอย่าง สมชายละสายจากบุรุษรูปงามที่มองอย่างไรก็เตะลูกตาเต็มเบ้า ตวัดกลับมามองนางที่พยายามเรียกร้องความสนใจอย่างรู้สึกขัดใจเล็กๆ


“มีอะไร..”


สมชายเอนกระซิบข้างใบหูตั้งคำถาม สมุดโน๊ตขนาดพกพาถูกยกขึ้นจากกระเป๋าถือที่นีลาน่าหยิบติดมือออกมา พร้อมปากกา เริ่มบรรจงขีดเขียนได้ความว่า ‘อยากกลับที่พักแล้ว’ สมชายหรี่ตาเลื่อนใบหน้าส่องลงใกล้สมุดเพื่ออ่าน เนื่องจากแสงไฟที่สลัวทำให้มองเห็นตัวอักษรไม่ถนัดนัก


“อ้าว.. อยากกลับแล้วเหรอยัยขี้เหร่ ที่นี่เพิ่งจะเริ่มสนุกเองนะ ห่วงกลัวกันย์ดุหรือไง”


“...” นีลาน่าพยักหน้า ส่งสายตาเว้าวอน


“อย่าห่วงไปเลย กว่ากันย์จะทำงานเสร็จ และเดินทางกลับบ้านคงเกือบสว่าง รับรองฉันพาเธอกลับก่อนกันย์ถึงบ้านแน่ๆ ใจเย็นๆ นะ ฉันเพิ่งจะเริ่มสนุกเอง อย่ามาขัดใจคนกำลังเหล่หนุ่มๆ”


พรายสาวได้แต่ถอนใจเบาๆ คงต้องทนอยู่ต่อไป เพราะนางเองก็ไม่อยากเป็นตัวปัญหาพามนุษย์โลกหมดสนุกหยุดอารมณ์รื่นเริง


‘เอาล่ะครับ..’


เสียงกึกก้องสะท้อนผ่านไมโครโฟนด้านหน้าเวที กลบเสียงดนตรีคลอเบาที่เปิดเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงค่ำจนเงียบสนิทลง สร้างความสนใจแก่สายตามนุษย์ภายในร้านอาหารเป็นอย่างมาก


‘วันนี้ทางร้านของเรามีจัดรายการเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ อาจจะเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับหนุ่มๆ ทั้งหลาย.. เนื่องจากเพื่อนผมบางคนเป็นผู้มีจิตใจดีงาม ชอบทำบุญสร้างกุศล เธอเกิดไอเดียดีๆ ต้องการหาทุนช่วยเหลือเด็กยากไร้ ขาดแคลนที่อยู่อาศัย ได้เดินทางกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน ทางเราจึงจัดรายการนี้ขึ้น’


เสียงโห้ร้องโวยวายทั้งสนใจ ทั้งไม่เห็นด้วย หลากหลายอารมณ์ ก้องดังรอบบริเวณ


‘ยังครับ.. ยังไม่หมดแค่นั้น ในการหาทุนครั้งนี้ทางร้านเรามีอาสาสมัครครับ เป็นสาวสวยม๊ากมาก ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทุ่มกันแบบสุดตัวไปเลย.. ดังนั้นค่ำคืนนี้ ผมจะขอเปิดประมูลเงินสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้แลกกับการได้ออกเดทใกล้ชิดโฉมงามแสนสวยที่ยอมเสนอตัวอาสาเข้าร่วมประมูลครับ’


เสียงผู้คนรอบด้านฮือฮาตื่นเต้นและประหลาดใจ โดยเฉพาะเหล่าบุรุษเพศทั้งหลายที่ใคร่สนใจในอิสตรี คงจะเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่จริงๆ ขนาดลูกค้าขาประจำที่ว่าแวะเวียนมาเกือบทุกค่ำคืน ยังไม่เคยเจอะเจอการประมูลได้ออกเดทกับสาวสวยเลยสักครั้ง แววตาทุกคู่ต่างจับจ้องให้ความสนใจ กวาดมองรอบด้านรอคอยต่อไป ต่างคนต่างอยากรู้อยากเห็นว่าจุดเด่นของการประมูลครั้งนี้อยู่แห่งใด


‘เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และไม่ต้องอดใจรอกันอีกต่อไป ทางร้านเราจะขอเปิดเผยโฉมงามผู้นั้นให้ทุกท่านได้ยลโฉมกัน ณ บัดนี้..”


เสียงกลองรัวระทึก แสงไฟดวงกลมโตสาดส่ายไปโดยรอบ ปลุกระดมความตื่นเต้น ปั่นป่วนความเร้าใจ ทำให้มนุษย์ทุกผู้ชะเง้อคอยาวส่งสายตามองโดยทั่ว ลุ้นกันอย่างจดจ่อรอคอย เสียงดนตรียิ่งรัวยิ่งแรงทำใจเต้นตูมตาม เสียงสนทนาที่ดังไม่ขาดสายเมื่อครู่สงบลงเหลือเพียงเสียงกลองที่ตีกระหน่ำจนแรงกระแทกครั้งสุดท้าย ความเงียบกริบควบคุมพื้นที่ พาทุกคนแทบหยุดหายใจ


แสงไฟสว่างโล่จากสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่สาดส่องสะท้อนยังร่างหญิงสาวผู้เป็นดั่งโฉมงามจุดเด่นของค่ำคื่นนี้ ความเปล่งประกายเจิดจ้ากลายเป็นจุดเด่นล่อตาล่อใจ ดึงดูดทุกสายตาตรึงไว้ที่นางผู้เดียว


“อ๊ายยย ตายแล้ว! ยัยขี้เหร่โดนจับประมูล นี่!! ยัยพรีมช่วยชายด้วยสิ ทำไมอิเจ้าของร้านทำกันแบบนี้ ไปบอกให้มันยกเลิกการประมูลเดี๋ยวนี้เลยนะ! หากกันย์รู้เรื่องนี้ชายตายคามือแน่ๆ โอ๊ย!! ทำไงดีล่ะทีนี้ อกนางสาวสมชายจะแตก!!”


“รู้ไหมชาย.. นี่ล่ะเรื่องสนุกที่พรีมว่า”


รอยยิ้มเหยียดปรากฏ หางตาตวัดมองยังนีลาน่าที่นั่งงงเป็นไก่ตาแตก หันซ้ายแลขวาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าขณะนี้กำลังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับตนเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกินจนตั้งตัวไม่ทัน


‘โฉมงามแห่งค่ำคืนนี้ หญิงสาวลึกลับจากต่างแดนครับผม สวยถูกอกถูกใจหนุ่มๆ กันหรือเปล่าครับ’


เสียงปรบมือเกรียวกราว พร้อมเสียงเฮกระหึ่มดัง สมการรอคอย


‘เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า การประมูลเพื่อหารายได้สมทบทุนแลกกับการออกเดทกับโฉมงามครั้งนี้ขอเริ่มต้นที่ 1,000 บาทครับ!!’


‘1,500’


‘2,000’


เหตุการณ์ในอดีตกลับมายืนในความคิดอีกครั้ง นีลาน่ารู้สึกหวาดหวั่นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สมชายขยับร่างกายเดินเข้าหานีลาน่าด้วยห่วงใย เขาจะช่วยเหลือนางได้อย่างไร รู้สึกไร้หนทางจนมุม มือสองมือบีบประสานกันแน่นปลอบขวัญให้กำลังใจ


“ใจเย็นนะยัยขี้เหร่! เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง”


“อย่ากลัวไปเลยน่า สนุกๆ เดี๋ยวเดียวก็จบแล้ว ดีซะอีกจะได้มีเงินกลับบ้านนอกไปซะที”


สมชายสะบัดสายตามองพรีมาดาที่ยิ้มเยาะราวสมใจในสิ่งที่หวัง เรื่องราวต่างๆ บุรุษใจหญิงพอคาดเดาออกแล้วว่าเหตุใดเพื่อนสาวถึงคะยั้นคะยอให้พานักเรียนในปกครองของเขาออกมาให้ได้ สิ่งเดียวที่ทำให้จิตใจคนพร้อมอวดแรงริษยา อิจฉาตาร้อน จากหญิงสาวแสนดีกลับกลายเป็นนางมารร้ายในพริบตา คงไม่พ้นเรื่องของความลุ่มหลงมัวเมาในรัก โดยมีตัวกลางสำคัญคือบุรุษหนุ่มอย่างกันยวัฒน์แน่นอน ไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาให้ยุ่งยาก


‘10,000’


‘15,000’


‘20,000’


การประมูลยังคงดำเนินต่อไป ยอดเงินเริ่มสูงขึ้นตามลำดับ จิตใจสับสน นั่งไม่เป็นสุขราวเจอไฟรนก้นรนอกร้อนรุ่มดังโดนเผาไหม้ สมชายพยายามชะเง้อมองหาตัวช่วย หากเขาสนิทชิดเชื้อกับเจ้าของร้านสักนิด คงไม่ต้องกังวลใจอย่างนี้ สมชายได้แต่อธิษฐานในใจ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้เรื่องราวต่างๆ จบสิ้นเสียที และเหมือนสวรรค์รับรู้และเข้าข้างบุรุษใจหญิง เมื่อใครบางคนปรากฏแก่สายตา ก้าวเดินตรงมายังโต๊ะที่เป็นจุดเด่นขณะกำลังถูกประมูลกันอย่างดุเดือด


“นี่มันเรื่องอะไรกัน!”


“โอ๊ย!! สวรรค์ทรงโปรด!! ส่งแฟรงค์มาช่วยชายแล้ว!!”


น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของสมชายดังพอให้นีลาน่าหันใบหน้านวลเนียนมองตามบุคคลที่อาจกำลังมาช่วยเหลือให้นางรอดพ้นจากเรื่องเลวร้ายครั้งนี้


++++


โปรดติดตามตอนต่อไป..

แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 10:32:59

แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 10:19:22

แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 10:18:36

จากคุณ : มาโซคิส
เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:10:47




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com