บ้านเมืองนี้ถูกสร้างด้วยปูนและหินเป็นหลัก สีเทาของกำแพงและฝาผนัง ทำให้เมืองนี้มีบรรยากาศเหมือนอยู่ใน นิยายแฟนตาซี ถนนถูกปูไว้ด้วยหินสีขาว พอลองมองดูชัดๆ ก็พบว่ามันคล้ายกับถนนในกรุงโรม อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขามองดูบนท้องฟ้า ก็พบมังกรสีเทากำลังบินผ่านหัวไป มันกำลังบินลงไปที่ใจกลางเมือง และที่ตรงนั้นมีหอสูงสร้างจากหินและบนยอดบานออก รูปร่างคล้ายกับไม้เท้าของจอมเวทย์ที่เคยเห็นในเกมส์
"เจ้านั่นมีไว้ทำอะไรน่ะครับ " แทนไทเอ่ยปากถาม
เทอร่าที่กำลังชี้ให้ฟ้าใส ดูเจ้าสิ่งมีชีวิตคล้ายตัวนิ่มที่กำลังอยู่บนเขียงของพ่อค้าขายเนื้อ เปลี่ยนความสนใจ ก่อนที่เธอจะหันไปมองตามนิ้วของเขา "อ๋อ หอคอยนั่นงั้นรึ นั่นก็หอคอยสื่อสารอย่างไรเล่า ในนั้นมีผลึกฟาราฟอันโตยิ่งนัก ไม่เหมือนที่ข้ามีดอก เอาไว้สื่อสารได้ไกล ขนาดระยะเดินเท้าเป็นเดือนเชียวนะ " "ผลึกฟาราฟ งั้นเหรอครับ " เขาทวนคำอย่างสงสัย เธอเลิกคิ้วด้วยความสงสัย "เจ้ามาจากที่ไหนกัน ทำไม ไม่รู้จักผลึกฟาราฟ ก็นี่อย่างไรล่ะ " สิ้นคำเธอก็ล้วงเอาสร้อยคอออกมา มันเป็นสีฟ้า เมื่อมองดูให้ดีนั่นไม่ใช่สีของตัวสร้อย แต่เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ในก้อนผลึก ทำให้ตัวสร้อยกลายเป็นสีฟ้า "เขารับมันมาไว้ในอุ้มมือ ช่างน่าแปลก ความรู้สึกร้อนในมือกลับไม่มี มีเพียงสัมผัสเย็นชืดเท่านั้น "มันมีไว้ทำอะไรครับ " "มันก็ไว้พูดคุยกันน่ะสิ อันถูกๆอย่างที่ข้ามีนี่ เอาไว้คุยกันได้ประมาณ ภายในเขตกำแพงเมืองเท่านั้นล่ะ " ไม่ทันขาดคำ ไฟสีฟ้าก็กลายเป็นสีแดง "มีคนติดต่อมา ขอสร้อยข้าคืนหน่อย " เธอรับสร้อยคอไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะหลับตาลงแล้วกล่าว "ว่าไง..."เธอทำเสียงเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะโกนอย่างตกใจ "อะไรนะ!!! เจ้าพูดใหม่อีกทีซิ " ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดลงก่อนจะหันไปทางหอคอยสื่อสาร ที่ตอนนี้มีเปลวไฟและควันลอยออกมา
" แย่แล้ว " เธอผิวปากเสียงสูงครั้งหนึ่ง ทำให้ชายสวมชุดเกราะเต็มยศคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่บนหลังอาคารหันมามองที่เธอ
" ตามคนไปช่วยดับไฟ ส่งสัญญาณเรียกหน่วยที่สองให้ข้าด้วย " ชายคนนั้น พยักหน้ารับก่อนจะส่งสัญญาณมือให้ใครสักคน ทันใดนั้นเองเสียงแตรแปลกหูก็ดังขึ้น แล้วอีกเสียงก็ดัง แล้วก็ดังต่อกันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดคนทั้งเมืองก็ได้ยิน
พอรู้ว่า เกิดไฟไหม้ที่หอคอยสื่อสาร หลังสั่งคน เธอก็รีบรุดไปยังคอกม้า แต่ทว่าก็อดแปลกใจไม่ได้ทำไมที่นั่น ถึงได้โดนไฟไหม้ได้ ยามก็มี ใครเข้าเวรกันนะ ประเดี๋ยว เธอจะสั่งลงโทษให้อยู่ยามต่อเสียให้เข็ด
เธอวิ่งสวนทหารนายหนึ่งที่ห้อม้าสวนไป ก่อนจะหลบชายแก่ๆคนหนึ่งที่เรียกให้พักพวกดูกลุ่มควัน เธอเลี้ยวเข้าคอกม้า ก่อนจะขึ้นเจ้าซิลเฟ่คู่ใจ ส่วนแทนไทและฟ้าใสเธอให้สองคนนั้น ขึ้นม้าที่พวกพลทหารใช้กัน ก่อนที่จะพบว่าสองคนนั้นขึ้นม้าอย่างลำบากยากเย็น เหมือนกับไม่เคยขี่มาก่อน .
พวกนี้อยู่แถวไหนกันนะ ไม่มีม้าใช้หรือไงกัน เธอลงจากหลังม้า เข้าไปช่วยฟ้าใส พอดีกับที่สร้อยคอเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง ด้วยความเร่งรีบ เธอจึงส่งกระแสจิตไปที่สร้อยบังคับให้มันออกเสียง
"ว่ายังไง " เธอตอบไปด้วยเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเหตุที่ร้อนใจ "เทอร่าเจ้าอยู่ที่ไหน " เสียงในสร้อยดังออกมาไปบริเวณ ไม่ต้องก็รู้ฟีเรียสนั่นเอง คงมาเร่งให้เธอไปที่เกิดเหตุเร็วๆล่ะสิ "ข้าอยู่ที่คอกม้า กำลังจะไป " เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งๆเล็กน้อย รู้แล้วคนกำลังจะไป ไม่รู้หรือไรกัน "ไม่ต้องแล้ว เจ้าไปที่หอคอยประจำเมือง สั่งให้คนปิดประตูเมืองเดี๋ยวนี้ " "อะไรนะ เจ้าว่าใหม่อีกทีซิ " เธออดเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งไม่ได้ "มีคนสังหารยามเผ้าหอคอย นี่เป็นการวางเพลิง ย้ำนี่คือการวางเพลิง " "ว่าไงนะ!! ได้ๆอีกประเดี๋ยว ข้าจะไปถึง เจ้าดูคนให้ดีล่ะ เลิกกัน" เธอเก็บสร้อยคอเข้าอกเสื้อ ก่อนจะเหวี่ยงตัวขึ้นม้า ใจเธอเต้นหน่วงๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยิน ว่าเคยมีพวกปีศาจวางเพลิง ไปจนถึงทำร้ายคนบริสุทธิ์ให้ได้ยินบ่อยๆ พวกมันไม่มีเหตุผล มีเพียงแค่ความไม่พอใจเท่านั้น พวกนี้มีการทำงานเป็นองค์กร เคยได้ยินชื่อที่พวกมันเรียกขานกันเอง หรือใครสักคนตั้งให้ว่า สายลมปีศาจ และมักจะมีการเอาคืนจากพวกมนุษย์ที่สูญเสียเช่นกัน แต่ไม่ว่าครั้งใด มันก็เกิดขึ้นในที่ห่างไกล มันไม่น่าจะเกิดขึ้น ที่นี่อยู่ในความดูแลของ หน่วยมังกรที่101 เป็นหน่วยรบพิเศษ ที่ได้รับคำสั่งให้มาดูแลที่นี่ การที่หอคอยถูกวางเพลิง เท่ากับว่าตบหน้าหน่วยรบพิเศษเข้าอย่างจัง "แทนไท ฟ้าใสเจ้าสองคนอยู่ที่นี่นะ " เธอหันไปบอกทั้งสองคนที่อยู่บนหลังม้า เธอต้องการไปด้วยความเร็วสูงสุด ไม่รู้ว่าจะทันรึเปล่า ป่านนี้เจ้ามือเพลิงไปไกลถึงไหนๆแล้วมั้ง
แทนไทพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ตื่นๆ คงรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างร้ายแรง ตรงกันข้ามกับฟ้าใสที่ก้มหน้านิ่ง เธอทำปากขมุบขมิบ เหมือนท่องอะไรบางอย่าง "ฟ้าใสเจ้าได้ยินรึเปล่า " ฟ้าใสเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะบอก ดวงตาของเธอสีนี้งั้นเหรอ เทอร่า อดแปลกใจไม่ได้ แต่เพราะอยู่ในที่มืด คงทำให้แสงเกิดผิดเพี้ยนไป เธอจึงเห็น ฟ้าใสมีดวงตาสีเงิน "คุณเทอร่าคะ คนทำยังไม่ไปไหนหรอกค่ะ " ไฮ้ย่ะ!!! เธอฟังได้เพียงแค่นั้น ก่อนจะกระตุ้นม้าออกไปจากโรงเก็บ มุ่งหน้าไปยังหอหอคอยสั่งการ จากที่นั่นเธอจะสามารถปิดประตูเมืองได้ บนท้องถนนช่างเต็มไปด้วยผู้คนมากมายราวกับว่า เมื่อครู่ เป็นยามกลางคืนที่ผู้คนหลับไหล เธอและเจ้าซิลเฟ่หลบสิ่งกีดขวาง หลบผู้คนที่ออกมาตามถนนเพื่อรับรู้เหตุการณ์ เธอพยามเร่งความเร็ว แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเร่งเต็มที่ได้ เสียงเด็กน้อยเรียกร้องหาแม่ ผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่แบกของขึ้นหลัง บนถนนดูสับสนวุ่นวายไปหมด คิดผิดจริงๆที่ใช้เส้นทางนี้ ข่าวคงไปทั่วแล้วว่าเกิดรื่องใดในใจกลางเมือง จึงเกิดเหตุวุ่นวายถึงเพียงนี้ ขณะที่เธอตัดสินใจว่าจะย้อนกลับไปทางเดิม เพื่อหาเส้นทางใหม่ดีหรือไม่ เสียงเล็กๆก็ดังขึ้นด้านหลัง ฟ้าใสนั่นเอง แม้ว่าจะทุลักทุเลไปบ้าง แต่เธอก็พาม้าที่ขี่อยู่ตามเธอทันจนได้ "คุณเทอร่าคะ " เจ้ากลับรอข้าที่คอกม้านั่นล่ะเดี๋ยวข้าตามไป "ฉันอยากรู้ค่ะว่า แม่น้ำไปทางไหน" เธอตอบกลับมาด้วยคำพูดและ แววตาที่เทอร่า อดไม่ได้ ที่จะรู้สึกว่ามันช่างทรงอำนาจเหลือเกิน
จากที่คิดจะกระตุ้นเจ้าซิลเฟ่ ก็กลับเหลือเพียงแตะสีข้างม้าเบาๆ เทอร่าเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ รถม้าที่บรรทุกภาชนะบรรจุน้ำวิ่งนำหน้าเธอไปเป็นขบวน มีการเปิดเส้นทางให้แล้ว ผู้คนเริ่มถูกกันออกไปจากท้องถนน "เจ้าจะรู้ไปทำไม ไฟไหม้แค่นี้ ประเดี๋ยวเดียว ก็ดับได้กลัวขนาดนั้นเลยรึ " เธออดขำไม่ได้ เมื่อเด็กสาวตรงหน้าดูจะกลัวเกินกว่าเหตุ ถึงขนาดถามทางไปแม่น้ำ แต่ทว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าเชื่อถูกส่งมาแทนคำตอบ
จากคุณ |
:
sillfai
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ธ.ค. 55 21:38:39
|
|
|
|