Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพียงผูกพัน.......ตอนที่4,5....ข้อ้าง.....ดอกหน้าวัว vote ติดต่อทีมงาน

ติดตามอ่านตอนที่1 ได้ที่นี้เลยนะคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12991792/W12991792.html

ส่วนอันนี้เป็นตอนที่2และ3 ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W13000809/W13000809.html



ข้ออ้าง



ปุณณภัทรเดินเข้ามาบริเวณ Lobby รีสอร์ท พนักงานหลายคนกำลังจัดโต๊ะและดอกไม้

“วันนี้มีอะไรพิเศษเหรอคุณเสนอ” ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปถามผู้จัดการ

“สวัสดีครับ คุณปุณณภัทร เอ่อ....วันนี้จะมีลูกทัวร์กรุ๊ปใหญ่ของทางรัฐบาลจีนมาเข้าพักครับ  เราเลยวุ่นกับการจัดสถานที่เตรียมต้อนรับ”

“อ๋อ ถ้ามีอะไรขาดเหลืออยากให้ผมช่วยก็บอกได้นะ”

“ครับ”

“เอ้อ คุณเห็นคุณริณมั้ย  เมื่อเช้าผมแวะไปหาเธอที่ห้องก็ไม่อยู่  ไม่รู้ขาหายดีรึยัง  แต่เมื่อวานได้พักทั้งวันก็คงจะดีขั้น”

“อ๋อ  คุณริณเหรอครับ  เห็นช่วยจัดดอกไม้อยู่ทางโน้น ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง หนุ่มสาวไฟแรงอย่างนี้  ทั้งคุณปุณณภัทร ทั้งคุณริณ  คนแก่อย่างผมเห็นแล้วก็อิจฉา เจอคนหนุ่มสาวเข้าไปทำให้มีไฟขึ้นมาเชียว แต่คุณริณแกเก่งมากเลยนะครับ  ผมเพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ ทำได้ทุกตำแหน่ง แถมยังตรวจบัญชีอีก  หายากนะครับ ครบสูตรแบบนี้”

“ออกมาทำงาน เฮ้อ  บ้างานสมคำล่ำลือ  แล้วอย่างนี้ขาจะหายไหมนั่น”

“อ่าว พูดถึงก็มาพอดีเลย คุณริณเชิญครับ”

หญิงสาวที่เห็นคนทั้งคู่แล้วก็ให้สะดุ้ง  พยายามจะหันหลังกลับ แต่ก็ช้ากว่าผู้สูงวัย เมื่อวานปุณณภัทรแวะมาเยี่ยมเธอทั้งวัน  และกล่าวย้ำว่าเช้านี่จะแวะไปหา  หญิงสาวไม่อยากเจอเขา  เธอเลือกแล้วที่จะอยู่ห่างเขา  เช้านี้ถึงจึงรีบออกมาดูงานโดยไม่รอเขา

“สวัสดีค่ะ คุณเสนอ คุณปุณณภัทร” หญิงสาวก้มลงไหว้ผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง

“นี่ขาคุณเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

“ถึงยังไงก็ควรพัก ไม่น่ารีบกลับมาทำงาน” ชายหนุ่มเอ็ดเบาๆ เขารู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้า

“นั่นสิครับ ผมว่าคุณริณน่าจะกลับไปพักนะครับ  เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง” ผู้สูงวัยกล่าวสนันสนุน  

“แต่ ริณไม่เป็นไรแล้วจริงๆนะคะ เอ่อ ดิฉันไม่ชอบอยู่ว่างๆ มันน่าเบื่อ” ประโยคแรกหญิงสาวหันไปคุยกับผู้สูงวัย หล่อนแทนตัวว่าริณ  แต่เมื่อหันกลับไปคุยกับเขา  สรรพนามก็เปลี่ยนไป

“เอาอย่างนี้  วันนี้คุณออกไปนั่งรถกับผม  ผมจะออกไปสำรวจโรงแรมที่พักแถวนี้ อยากสำรวจคู่แข่งเสียหน่อย”

“ก็ดีนะครับ คุณริณจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย  มาอยู่นี้ตั้งหลายอาทิตย์แล้ว  ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย”
“แต่ริณ..”

“ตกลงตามนี้ก็แล้วกัน  ผมอยากได้ไอเดียจากคุณด้วยเพราะคุณน่าจะรู้จักรีสอร์ทนี้มากกว่าผม  คุณต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งอยู่แล้ว  ความเห็นของคุณคงจะเป็นประโยชน์” ชายหนุ่มสรุปเอาดื้อๆ  ปิดทางให้อีกฝ่ายปฏิเสธโดยสิ้นเชิง

“ถ้าเช่นนั้น ดิฉันขออนุญาตกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ  ไปทั้งชุดพนักงานอย่างนี้คงไม่ดีเท่าไหร่” หญิงสาวขอตัวก่อนจะรีบปลีกตัวออกจากบทสนทนา อย่างน้อยก็หล่อนกลับไปตั้งหลักก่อน ชายหนุ่มจึงเดินออกไปรอ รริณอยู่ที่จอดรถ  



“ครับแม่” ปุณณภัทรกลอกเสียงผ่านสายไปยังมารดา

“ครับ ก็ดีครับ วันนี้ก็อากาศดีเหมือนเคยครับ อากาศดีอย่างนี้แม่น่าจะมาพักผ่อนกับผมนะครับ เสาร์นี้เป็นไง เดี๋ยวผมขับรถไปรับ คุณพ่ออีกแล้ว เฮ้อ....ไหนบอกชีวิตที่เหลืออยู่นี้จะรักผู้ชายแค่สองคน  เห็นชัดๆว่ารักพ่อมากกว่าผม  ไอ้เราชวนมาทำบ่ายเบี่ยง  แต่พอพ่อยังไม่เอ่ยปากชวนก็ขอตามไป  ฮ่าๆ ไม่เอาครับอย่าเบี่ยงประเด็น  โอ้ย...ไม่ไปหรอกครับ  งานคุณหญิงคุณนาย  แม่ไม่ต้องพยายามจับคู่ให้ผมเหมือนในละครหรอกครับ  ของอย่างนี้  ลองมันจะมาเดี๋ยวมันก็มา  มันมาของมันเอง  ฮ่าๆ ไม่ล้อแล้วครับ  ผมรู้ครับว่าแม่หวังดีอยากให้ลืมเขา แต่แม่ก็รู้ ลืมมันทำได้ยากกว่าจำนะครับ  แม่ไม่ต้องไปหาใครมาดามใจผมหรอก  นี่ก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว  ผมก็ดีขึ้นมากแล้ว  ยิ่งพวกดารานี่อย่าเลย แค่พาไปทานข้าวครั้งสองครั้ง  ผมก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว  บางทีผมอาจจะเจอคนแถวนี้ก็ได้  เนื้อคู่หนังคู่ของผมอาจจะกำลังหลบอยู่หลังเขา ฮ่าๆไม่ได้ล้อเล่นครับ แค่นี้ก่อนนะครับผมต้องไปแล้ว ครับ รักแม่เหมือนกันครับ” ชายหนุ่มรีบวางโทรศัพท์เมื่อเห็นรริณกำลังเดินมาเขากลัวว่าหล่อนจะได้ยินบทสนทนานั้น  แต่จะกลัวทำไมเขาไม่ได้เอ่ยถึงหล่อนซะหน่อย  ปุณณภัทรมองคนที่กำลังจะเดินมาพลางคิดไปว่าบางทีเขาอาจเจอสาวหลังเขาจริงๆก็ได้


               ขับออกจากรีสอร์ทได้ประมาณ5 นาที  ชายหนุ่มก็เลี้ยวรถขึ้นทางหลัก  ตั้งแต่ขับรถออกมาจนถึงตอนนี้คนข้างๆ  เขายังปิดปากเงียบสนิท  จนสุดท้ายเขาต้องเป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมาเอง

“คุณชอบที่นี่ไหมครับ” ชายหนุ่มหันมาถามคนข้างๆ  หญิงสาวเงียบไปสักพักเหมือนจะหาคำตอบ

“เรื่องระบบการบริหารถือว่าโอเคค่ะ  วางไว้ตามแบบเหมือนสาขาอื่นๆ  และที่สำคัญเพราะที่นี่มีโรงแรมมากมาย  ทำให้พนักงานมีประสบการณ์มาก่อน  สอนง่าย  บริหารง่าย  แต่อาจจะยังขาดเรื่องระเบียบวินัย”

คำตอบของหญิงสาวทำให้คนข้างๆถึงกับหลุดขำ  เธอตอบไปไกลจากที่เขาคิดไว้เลย  น่าจะต้องบอกว่าคนละเรื่องเลยมากกว่า  ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงตอบว่า  ชอบค่ะ  ฉันชอบภูเขาหรือชอบธรรมชาติ  บรรยากาศ  อะไรเทือกๆนั้น  สงสัยเขาจะเลือกคำถามไม่ดีเอง

“คุณขำอะไรคะ” เธอทำหน้าสงสัย

“เปล่าครับผมผิดเองแหละ  ผมแค่อยากรู้ว่าคุณชอบบรรยากาศที่นี่ไหม”

“อ่อ  ไม่รู้สิคะฉันเคยชินกับภูเขาไปเสียแล้ว”

“ผมลืมไปคุณจบจากสวิสฯนี่นา  เขาใหญ่คงเทียบไม่ได้” หญิงสาวแปลกใจกับคำพูดของเขาเล็กน้อย  เขาทราบได้อย่างไรว่าเธอเรียนจบจากที่ไหน

“เปล่าค่ะ  ฉันอยู่ที่เชียงใหม่ เห็นภูเขาจนชินเสียมากกว่า”

“อ่อ  คุณเป็นคนเชียงใหม่นี่เอง  ที่นั่นก็มีรีสอร์ทในเครือเรานะ”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ  
เจอการถามคำตอบคำ  ตัดบทจบอย่างนี้  ชายหนุ่มถึงกับไปต่อไม่เป็น  สงสัยถ้าจะคุยคงต้องเป็นเรื่องงานอย่างเดียว  เขาเพิ่งเคยเจอผู้หญิงที่ไม่อยากจะคุยกับเขา  ปกติไม่ว่าจะก่อนโสดหรือหลังโสด  ก็มีแต่สาวๆวิ่งเข้ามาหาเขา  แม้แต่ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศเพราะสาวๆที่นั่นชอบผู้ชายผิวเข้มและเห่อพวกนักกีฬา

“ทำไมคุณถึงเลือกเรียนต่อการโรงแรมล่ะ” ในเมื่อจะคุยกับเธอได้ต้องเป็นเรื่องงานเขาก็เลยยกเรื่องงานขึ้นมาพูด

‘จะให้บอกได้ยังไงว่าเป็นเพราะเขา’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ  แต่เธอก็ไม่อยากโกหก  สุดท้ายจึงเลือกคำตอบสั้นๆที่แล้วแต่เขาจะตีความ

“เพราะชอบค่ะ” สั้นๆ  
ชายหนุ่มหันมายิ้มให้กับคนข้างๆ  ตอนแรกเขานึกว่าเธอจะบรรยายเหตุผลมากกว่า  เช่น  เพราะเมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว  ทำให้มีโรงแรมหรือรีสอร์ทมาก  หางานง่าย  แต่คราวนี้เธอกลับพูดเรื่องความรู้สึก  เขาเดาใจเธอไม่ออกจริงๆ





ดอกหน้าวัว






               ปุณณภัทรขับรถพารริณวนดูรีสอร์ทต่างๆตามที่เขาได้หาข้อมูลมา  บางรีสอร์ทที่น่าสนใจมาก  เขาก็ขับรถเข้าไปทำเป็นสอบถามเรื่องที่พัก นอกจากนั้นชายหนุ่มยังสนใจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่จะสามารถนำมาจัดกิจกรรมเป็นโปรแกรมทัวร์ของทางรีสอร์ท หญิงสาวมีไอเดียดีๆหลายอย่างที่เขาเองก็คิดไม่ถึงมานำเสนอ  ทั้งเรื่องการบริหารงานและการบริการลูกค้า  เมื่อคนบ้างานสองคนมาเจอกันเข็มนาฬิกาจึงเหมือนวิ่งมากกว่าเดิน

“เกือบจะบ่ายโมงแล้วคุณคงหิว  ผมขอโทษด้วย  สมองวิ่งทีไรน้ำย่อยไม่ทำงานทุกที”

“ไม่เป็นไรค่ะฉันก็เหมือนกัน”

“ถ้าคุณยังไม่หิวมาก  ผมมีร้านดีๆอยากพาไป  ผมหาข้อมูลมาเมื่อคืน  บรรยากาศดีอาหารอร่อย”

“ตามใจค่ะ”
หญิงสาวหันมายิ้มให้เขาอย่างจริงใจ  แค่เธอยกมุมปากขึ้น ตาหยีลง เพียงแค่นี้เขาก็รู้สึกว่ามันช่างสว่างสไว


               เวลาที่ล่วงมาเกือบจะบ่ายสองทำให้ร้านดังแห่งนี้มีลูกค้าบางตา  ชายหนุ่มเลือกโต๊ะที่อยู่ติดกับน้ำตก  ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆกับน้ำตกเจ็ดสาวน้อย1  ทำให้บริเวณนี้มีเกาะแก่งที่ไม่สูงชันมาก  สายน้ำเอื่อยๆไหลผ่านแต่ละฉัน เกิดเป็นน้ำตกเล็กๆที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน  หญิงสาวเหม่อมองออกไปทิ้งตัวเองออกจากปัจจุบัน  เหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์  ชายหนุ่มตรงหน้าเฝ้ามองเธอเงียบๆห  ญิงสาวที่เขามองว่าแปลก  ในเวลานี้เธอช่างงดงามเหลือเกิน  เขาจึงปล่อยให้เธอดื่มด่ำกับบรรยากาศ  จนเมื่อพนักงานนำอาหารมาวางหญิงสาวจึงเหมือนได้สติ

“คุณชอบน้ำตกเหรอ”

“ค่ะมันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง” หญิงสาวหันมายิ้มให้เขา  รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะทุกครั้ง

“สมองโล่งแล้ว  ฉันคงช่วยคุณคิดอะไรใหม่ๆได้อีกเยอะ” ประโยคถัดมากทำให้ปุณณภัทรแทบจะสำลักน้ำ  เขาวางแก้วน้ำลงก่อนจะถอนหายใจ

“คุณนี่ไม่เคยไปไกลจากเรื่องงานเลยจริงๆ  พอดีเมื่อกี้ผมเห็นคุณกำลังมีความสุขจึงไม่อยากกวน  ไม่รู้ว่าอาหารที่สั่งมาจะถูกปากรึป่าว  คุณทานเผ็ดได้มั้ย  ผมเลือกมาแต่อาหารแนะนำของที่นี่  มีของทอดด้วย คุณทานได้นะ”

“ได้ค่ะฉันชอบทั้งของเผ็ดและของทอด”

“ผมเห็นมีแต่ผู้หญิงกลัวของทอด  เพิ่งมาเจอคุณนี่แหละ  อีกอย่างเห็นคุณอยู่ต่างประเทศมานานเลยกลัวว่าจะทานเผ็ดไม่ได้”

“ตอนไปใหม่ๆฉันแถมจะลงแดงเลยรู้มั้ยคะ  ถึงแม้จะอยู่ง่ายกินง่าย  แต่พอเจอเนยกับอาหารจืดๆ  ฉันก็ขอบาย ไม่ไหวๆจริงๆค่ะ  สุดท้ายเลยต้องให้ที่บ้านส่งพวกน้ำพริกไปให้  ทำกับข้าวทานเองอร่อยดีแถมถูกด้วย  แต่ถ้าวันไหนต้องทำงาน  ฉันก็ห่อของเหลือจากที่ร้านกลับมาทาน  โชคดีนะที่เจ้าของเค้าใจดี”

เป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มพูดเรื่องส่วนตัวกับเขา  ชายหนุ่มเลิกคิ้วน้อยๆอย่างแปลกใจ  แต่ก็ไม่ได้ขัดจังหวะปล่อยให้หญิงสาวพูดไปเรื่อยๆ

“คุณทำงานด้วยเหรอผมเห็นคุณได้ทุนเลยไม่คิดว่าจะทำงาน  ผมเองก็ทำที่ร้านอาหารไทย  ตอนแรกๆเหนื่อยมากท้อเลย”

“รวยอย่างคุณเนี่ยต้องทำงานด้วยเหรอคะ  ถึงฉันได้ทุนแต่ฉันก็อยากช่วยที่บ้าน  ทำงานที่โน้นไม่กี่ชั่วโมงได้เงินส่งกลับมาเยอะเลย”

“ไม่เกี่ยวว่ารวยรึเปล่า  ผมก็อยากเที่ยว  แต่ไม่อยากรบกวนที่บ้านเ  ลยตัดสินใจทำงานเก็บเงินไว้เที่ยวกับเพื่อนๆตอนซัมเมอร์”  
ชายหนุ่มชวนหญิงสาวคุยไปเรื่อย  เขาเพิ่งค้นพบว่าเธอเองก็เป็นเพื่อนคุยที่ดีเหมือนกัน  โดยเฉพาะเมื่อค้นพบว่ามีหลายๆเรื่องที่ความชอบของทั้งสองตรงกัน



               หลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสองเดินผ่านหน้าร้าน  รริณหยุดมองดอกหน้าวัวในกระถางที่วางขาย  เธอเห็นว่ามันงามดี  ที่บ้านเธอปลูกแล้วไม่ค่อยออกดอก หญิงสาวอยากได้ปุ๋ยดีๆ  ชายหนุ่มหันมามองตามเขาคิดว่าเธอออยากได้ดอกไม้ที่ทางร้านจัดไว้สำหรับขาย

“คุณชอบดอกทิวลิปเหรอ”

“คะ” หญิงสาวหันมาทำหน้าสงสัย  ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นแจกันในตู้



                ชายหนุ่มยืนมองดอกทิวลิปเหลือง  ความหมายของมันทำให้ใจของเขาพาลจะคิดถึงใครอีกคน  สีหน้าเขาเศร้าลงจนหญิงสาวข้างๆรู้สึกได้  รริณรู้เธอ  รู้เรื่องของเขาและเข้าใจความหมายของดอกทิวลิปสีเหลืองมันหมายถึง  ‘ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร ’ รริณค่อยๆเอื้อมมือไปแตะแขนเขาเบาๆเธอไม่รู้จะปลอบเขาอย่างไร

“ฉันชอบดอกหน้าวัวตรงนั้นต่างหาก  แปลกนะคะไม่รู้ว่าใครเค้าไปตั้งชื่อให้  ไม่เห็นจะเหมือนวัวตรงไหนเลย  แต่ถึงชื่อไม่งาม  นามไม่เพราะ  เค้าก็แฝงความหมายดีๆนะคะ”

“คุณรู้เหรอ” ชายหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ  คนข้างๆจึงส่งค้อนวงใหญ่มาให้

“เอาความหมายไหนล่ะคะ  ฉันชอบทั้งสองอย่าง” เรื่องอะไรมาปรามาศเธอ  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ยกมุมปากขึ้นข้างนึงประหนึ่งหยันนักเรียนนอก

“คุณไม่เชื่อฉันเหรอ” คราวนี้คนตรงหน้าเริ่มโกรธขึ้นมาริ้วๆ  หญิงสาวไม่ชอบให้ใครดูถูก

“ดอกหน้าวัวแทนหญิงสาวที่เหงาเศร้าแต่หยิ่งทรนงในตัวเอง”

“เหมือนคุณ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาลอยๆก่อนจะหันมาจ้องตาคนตรงหน้า  เมื่อทำอะไรไม่ได้หญิงสาวเพียงสะบัดหน้าแล้วเดินหนี

“แต่ตอนนี้คุณเหมือนดอกหน้าวัวสีแดงมากกว่า”
ประโยคถัดมายิ่งทำให้คนตรงหน้ารีบจ้ำหนีก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นนั่งข้างคนขับและเสมองออกไปด้านนอก

“ฉันไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลนะคะ” ในที่สุดหล่อนก็ทนเงียบไม่ได้

“ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณไม่มีเหตุผลนี่” ชายหนุ่มโคลงศรีษะน้อยๆอย่างอารมณ์ดี

“แต่คุณว่าฉันเหมือนดอกหน้าวัวสีแดง”
“ผมหมายถึงคุณโกรธง่ายต่างหาก”

“ก็นั่นแหละค่ะ”
หญิงสาวหันมาแหว  แต่เจ้าตัวกลับไม่ทุกข์ร้อน  ดูจะมีความสุขเสียด้วยซ้ำที่แกล้งเธอได้ เขายิ้ม  รอยยิ้มนั้นทำให้เธอชะงักไปชั่วครู่  ก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้ม  อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาลืมเรื่องเศร้า   ถือว่าคุ้ม  เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไปชายหนุ่มจึงหันกลับมามอง  เพียงแค่หันมาเขาก็สบกับดวงตากลมโต  เต้นระริกตามอารมณ์ของเจ้าตัว  ยิ้มน้อยๆยิ่งเสริมให้หล่อนดูน่าหลงใหล  ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆยอมแพ้กับความน่ารักของเธอ   ถ้าหญิงสาวจะยิ้มบ่อยกว่านี้แทนการมองเขาด้วยแววเศร้า  หรือแววตัดพ้อ  เขาคงจะมีความสุขไม่น้อย

แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 17:08:12

จากคุณ : Ma_Moo_Tua_Aun
เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 23:23:59




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com