บทที่ 6 แขกไม่ได้รับเชิญ
หลังเลิกงานมณิการ์มีนัดกับเอริคแวะไปเซอร์ไพรส์ราชินทร์กับปาหนันที่เรือนหอ โดยไม่ลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือเพราะหวังจะฝากท้องกับอาหารมื้อเย็นรสเลิศ มณิการ์โทรบอกปาหนันล่วงหน้าตั้งแต่เที่ยงวันว่าเธอมีแขกคนพิเศษจะพาไปพบที่บ้าน เพราะหวังให้เจ้าบ้านเตรียมการต้อนรับแบบสุดพิเศษ
แล้วการกลับมาพบกันอีกครั้งก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้ราชินทร์และปาหนันตามที่เอริคและมณิการ์คาดคิด เจ้าบ้านทั้งสองแปลกใจกับท่าทางสนิทสนมที่เอริคมีต่อมณิการ์ จึงอดไม่ได้ที่บนโต๊ะอาหาร มณิการ์จะถูกเพื่อนสาวและพี่ชายที่เคารพแซวแล้วแซวอีกจนหน้าแดงปานตำลึงสุก
คุณเอริคกลับเมืองไทยมาตั้งหลายวันแล้ว มีแต่ยัยตัวเล็กคนเดียวที่รู้ คิดแล้วมันน่าน้อยใจเนอะพี่ชินทร์ ปาหนันหันไปพ้อกับสามี แกล้งแหย่ไปอย่างนั้น ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกน้อยอกน้อยใจอะไร
คนพิเศษก็ต้องรู้ก่อนเป็นธรรมดาซิคะหนัน จริงมั้ยครับคุณเอริค ราชินทร์รับแล้วชงต่อสนุกปาก เอริคก็บ้าจี้พยักเพยิดตาม ให้คนพิเศษที่ถูกพาดพิงรู้สึกร้อนแก้มจนนั่งแทบไม่ติดที่ จึงหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนและพี่ชายคนละที ทำได้แค่นี้ เพราะมากกว่านี้จะดูไม่งาม กว่ามื้อเย็นจะจบลง ตัวเล็กก็แก้มแดงแล้วแดงอีก ดูเหมือนราชินทร์และปาหนันพร้อมใจกันจับมณิการ์ใส่พานทูลถวายเจ้าชายรูปหล่อ และดูเหมือนมณิการ์เองก็ยินยอมพร้อมใจจะนั่งอยู่บนพานใบสวยนั้นเสียด้วย
กว่ามื้อค่ำกับบรรยากาศครึกครื้นจะจบลงก็สองทุ่มเศษ เอริคและมณิการ์อยู่สนทนากับเจ้าของบ้านต่ออีกหนึ่งชั่วโมงเต็มก่อนจะขอตัวแยกย้าย เพราะอยากให้คุณแม่ท้องโย้ได้พักผ่อน มณิการ์แยกกับเอริคที่เรือนหอของราชินทร์ ขับรถมุ่งกลับบ้านกฤตภาคตามลำพัง พลันความคิดก็หวนถึงคำของเทพบุตรรูปงามเมื่อถูกราชินทร์เอ่ยแซวว่าไม่คิดสนใจในตัวเธอบ้างหรือ ถ้าคุณตัวเล็กเป็นภรรยาของผม คุณราชินทร์อาจเสียใจที่ต้องเสีย Jewelry Designer มือดีไปอีกคนนะครับ เพราะผมคงต้องพาภรรยากลับไปดูแลธุรกิจของครอบครัวที่อียิปต์ แล้วคำตอบของเอริคก็ทำเอาหัวใจมณิการ์พองโต แม้จะเป็นเพียงเรื่องสมมติ แต่น้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง ไม่บ่งบอกสักนิดว่าเขารังเกียจเธอ แววตาที่หันมามองกันมันดูมีความหมายจนมณิการ์แอบคิดคนเดียวในใจ ว่าขอให้สิ่งที่เขาพูดไว้เกิดขึ้นจริง
แย่จังนะครับ แต่เพื่อความสุขของตัวเล็กที่ผมรักเหมือนน้องสาว ผมก็ยินดีเป็นฝ่ายสูญเสียครับ แต่ครั้นคำพูดของราชินทร์กระทบใจ รอยยิ้มที่คลี่เต็มแก้มก็ค่อยๆ หุบลงราวดอกไม้เหี่ยวเฉา เธอยังรักงานที่ทำ และมีความสุขที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ lovely Jewelry แล้วเธอจะเลือกอะไร
เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว มันแค่เรื่องสมมติ จะคิดให้ปวดหัวทำไมเนี่ย มณิการ์บ่นตัวเองที่หลงคิดฟุ้งซ่าน รอให้วันดีคืนดีเอริคเกิดหน้ามืดตามัวมาขอเธอเป็นเจ้าสาวก่อนเถอะ ถึงค่อยมาปวดหัวว่าผลสุดท้ายแล้วเธอจะเลือกอะไร สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคิดตอนนี้คือ โปรเจคตัวใหม่ของ Lovely ที่จะเปิดตัวในอีกสามเดือนข้างหน้า ภายใต้แนวคิดของ Dream หรือความฝัน นิยามสั้นๆง่ายๆ ที่ทำเอามณิการ์คิดหนัก ว่าควรออกแบบเครื่องประดับให้รองรับแนวคิดนี้ได้อย่างไร
มณิการ์เคลื่อนรถเข้าจอดเรียบร้อยก็หอบข้าวของรุงรังเหมือนทุกวัน แล้วหัวใจก็ร่วงลงตาตุมอีกครั้งเมื่อประตูบ้านไม่ได้ปิดสนิทอย่างตอนที่เธอออกไป ซ้ำยังมีแสงไฟเล็ดลอดบ่งบอกว่ามีใครบางคนอยู่ในบ้านของเธอ และก่อนจะเตลิดคิดไปไกล หัวสมองก็ประมวลภาพผู้ชายที่ชื่อเขมินทร์ได้แจ่มชัด
นายเขมินทร์แน่ๆ เสียมารยาทแบบนี้จะมีใคร มณิการ์หลงคิดว่าเป็นเขา หลงลืมไปสิ้น ว่าเป็นเธอเองที่ยึดกุญแจบ้านทั้งพวงไปแล้วเรียบร้อย และอนุญาตให้เขามีติดตัวได้แค่กุญแจสำหรับประตูรั้วด้านนอกเท่านั้น
คุณเขมินทร์ เข้าบ้านได้ก็เดินหาตัวการ ภายในบ้านดูแปลกตา มีเพียงไฟบริเวณห้องโถงเท่านั้นที่เปิดสว่าง มณิการ์รีบวางข้าวของลงบนโต๊ะแล้วเดินสำรวจ พลันสองหูได้ยินบางเสียงแว่วมาจากชั้นสองของตัวบ้าน และคาดไม่ผิด มันดังมาจากห้องนอนของเธอ ไม่ต้องคิดทวนให้เสียเวลา มณิการ์สาวเท้ารวดเร็วมาดหมายเอาเรื่องเต็มกำลัง ครั้งก่อนเขารุกล้ำเข้าห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต และครั้งนี้คงเป็นใครไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่ไอ้คนโรคจิตที่ชื่อเขมิทร์
ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ! กระชากประตูห้องตัวเองเปิดได้ก็หลับหูหลับตาตะคอกใส่ ควันยังกรุ่นๆ จะออกหู แต่ครั้นสองตาเบิกขึ้นมอง มณิการ์ก็แทบล้มทั้งยืน เมื่อในห้องนอนของเธอมีแขกไม่ได้รับเชิญถึงสองคน และไม่มีใครหน้าตาละม้ายกับบุคคลที่เธอหลงคิดตั้งแต่แรก
กรี๊ดดด มณิการ์หวีดเสียงร้องยาวเพราะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ สติสัมปชัญญะกระเจิงหายตั้งแต่รับรู้ว่ามีโจรห้าร้อยกำลังรื้อข้าวของในห้องเธอกระจัดกระจาย โจรอ้วนกับโจรผอม มณิการ์พยายามจดจำรูปพรรณสัณฐานของพวกมัน หน้าตาไม่มีสิทธิ์เห็นเพราะทั้งสองโจรใส่หมวกไหมพรมยาวคลุมอำพรางไว้
เฮ้ย จับมันไว้ โจรอ้วนตะโกนสั่งโจรผอมเมื่อมณิการ์ตั้งสติได้และกำลังวิ่งหนีลงไปยังชั้นล่าง
ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย โจรค่ะ โจรปล้นบ้านค่ะ ช่วยด้วยยย มณิการ์ตะโกนลั่นไปตลอดทาง เร่งฝีเท้าลงบันไดแบบสุดชีวิต มือเล็กพยายามล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเล สุดท้ายก็ซุ่มซ่ามสะดุดขั้นบันไดหัวคะมำกลิ้งลงมากองกับพื้น ดีที่เหลืออีกสามสี่ขั้นเท่านั้น หากเธอเกิดซุ่มซ่ามสะดุดตั้งแต่ขั้นบนสุด ป่านนี้คงได้นอนแน่นิ่งเป็นผีเฝ้าบ้านตัวเองไปเรียบร้อย จะไปไหน มานี่! สุดท้ายไอ้โจรผอมก็กระโจนลงมาตะครุบตัวมณิการ์ได้ มันพยายามล็อคแขนให้มณิการ์หยุดขัดขืน กรี๊ด ปล่อยฉันนะ ไอ้โจรบ้า ไอ้พวกไม่มีคุณธรรม พ่อแม่ไม่สั่งสอน ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับพวกแก มณิการ์พยายามจะดิ้นให้หลุด แรงมีมากแค่ไหนก็ใส่ไปแบบไม่ยั้ง แม้ตัวจะเล็กกว่ามันนิดหน่อย แต่มณิการ์ก็สู้ยิบตา นับว่าโชคยังดีที่คนวิ่งตามเธอมาคือไอ้โจรผอมกระหร่อง ขี้โรค ไม่ใช่ไอ้โจรอ้วนหยั่งกับหมีควายอีกคน หุบปาก! โจรผอมตะคอกใส่ แต่มณิการ์ไม่ฟัง มันเลยปล่อยสองแขนของมณิการ์แล้วซัดหมัดเข้าไปเต็มแรงที่หน้าท้องเรียบ มณิการ์จุกจนร้องไม่ออก งอตัวให้โจรผอมเข้าตะครุบกุมอิสระของเธออีกหน คราวนี้แย่กว่าเก่า เพราะโจรอ้วนตามลงมาสมทบกับพวก ในมือมันมีเชือกเส้นหนา เท่านั้นมณิการ์ก็รู้ชะตากรรมของตัวเองทันที โจรผอมยังปิดปากเธอไว้แน่น ส่วนสองแขนถูกโจรอ้วนล็อคไว้แล้วพันเชือกเส้นใหญ่รัดไปมาหลายทบ มันลากเธอมามัดติดไว้กับราวบันได ก่อนจะใช้ผ้าที่พวกมันหาได้มัดปิดปากเธอเอาไว้แน่น อื้อ อือ อื้อออ เท่านั้นล่ะคือเสียงที่มณิการ์ส่งผ่านออกมาได้ สองโจรจึงพากันหัวเราะลั่น ชอบอกชอบใจที่เจ้าของบ้านสิ้นฤทธิ์
อยู่คนเดียวก่อนนะน้องสาว เดี๋ยวพวกพี่เนี่ย จะไปขนสมบัติให้หมดบ้านก่อน แล้วจะกลับมาเล่นสนุกด้วยคนนะ ฮ่าๆๆๆ พวกมันหัวเราะทิ้งท้ายได้น่ารังเกียจ แล้วพากันวิ่งกลับขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน ปล่อยมณิการ์ที่ดิ้นขลุกขลักไว้เพียงลำพัง
ความกลัวเริ่มสิงสู่ใจ สีหน้าของพวกมันบ่งบอกถึงความป่าเถื่อน โรคจิตได้อย่างชัดเจน ที่หน้าท้องยังจุกไม่หาย ขนาดไอ้โจรผอมมันหุ่นกุ้งแห้งแบบนั้น ทำไมแรงของมันถึงมากมายนัก และหากพวกมันสองคนรุมทำร้ายเธอล่ะ! มณิการ์หยุดความคิดน่าหวาดกลัวไว้แค่นั้นแล้วหันหาลู่ทางเอาตัวรอด มือที่ถูกมัดไพล่หลังไว้แน่นดิ้นให้ตายยังไงก็หลุดได้ยาก ปากนี่ก็อีก รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ มันเหนื่อยที่ต้องอาศัยจมูกเล็กสูดอากาศเข้าปอดลำพังในยามคับขัน หญิงสาวพยายามตั้งสติ นึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เป็นที่พึง เธอไม่เคยทำผิดคิดร้ายกับใคร พระท่านต้องคุ้มครอง ไม่มีทางปล่อยให้เธอตกเป็นเหยื่อของไอ้โจรชั่วช้าสองคนนั่นเป็นอันขาด
นอกรั้วบ้านกฤตภาค มีบุรุษสูงสง่ายืนชะเง้อคอยาว เขมินทร์เดินวนไปมาวุ่นวาย คิดไม่ตกว่าควรตัดสินใจเช่นไร ระหว่างกดออดเรียกเจ้าของบ้านออกมาพบยามวิกาล หรือขับรถกลับบ้านตัวเองไปเสีย วันนี้เขาแวะมาหามณิการ์ตั้งแต่ช่วงเย็น เพราะตั้งใจเอาแบบที่แก้ไว้เรียบร้อยมาให้เธอช่วยติติงอีกครั้ง เขากะเวลาให้พอดีกับเจ้าหล่อนเลิกงาน แต่รอแล้วรอเล่ามณิการ์ก็ยังไม่กลับมา จนกระเพาะร้องท้วงทนไม่ไหว เขาจึงขับรถคู่ใจออกไปหาอะไรรองท้อง ก่อนจะกลับมาวนเวียนแถวหน้าบ้านเธออีกครั้งในยามนี้ เขมินทร์มองเข้าไปในตัวบ้านด้วยความสงสัย วันนี้ไฟทั้งบ้านไม่ได้เปิดสว่างอย่างเคย แต่มีแสงไฟเล็ดลอดออกมาเป็นย่อมๆ หลักๆ ที่สังเกตเห็นได้ คือไฟในห้องของมณิการ์ที่เขาเห็นผ่านระเบียง และไฟในห้องโถงใหญ่ แต่ไฟหน้ารั้วบ้านและไฟทางเดินมืดมิด คนช่างสังเกตยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ยังไม่สี่ทุ่มเสียด้วยซ้ำ ปกติมณิการ์นั่งทำงานจนดึกดื่น และเธอจะเปิดไฟที่ชั้นล่างของตัวบ้านจนสว่างสไว เพราะชอบลงมาหาของประทังชีวิตยามค่ำคืน แต่วันนี้ผิดปกติ
เอ๊ะ หรือว่ายังไม่กลับมา เขมินทร์เดินไปผลักประตูรั้วเล็กปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อค ทำให้รู้ทันทีว่าเขาคิดผิด กลับมาแล้วนี่หว่า แล้วคนช่างสงสัยก็เดินเข้าบ้านกฤตภาคไปแบบเงียบเชียบ ภายใต้ทางเดินที่มืดมิด ก่อนจะหยุดช่างใจคิด ว่าเป็นการเสียมารยาทเกินไปหรือเปล่า เขาอาจรบกวนเวลาของมณิการ์เพราะมันก็ดึกเอาการ แต่ก่อนจะได้คิดมากคิดมาย เสียงของแตกดังสนั่นภายในบ้านก็ดึงความสนใจของเขาไปได้ทั้งหมด
เพล้ง! รูปปั้นหญิงสาวกระเบื้องเคลือบในชุดกิโมโนราคาสูง ที่มณฑาหอบหิ้วมาจากญี่ปุ่นเพื่อใช้ตั้งโชว์ ถูกหนึ่งในสองโจรชนล้มลงมาจากแท่น แตกกระจายเต็มทางเดิน และเสียงนี่เองทำให้เขมินทร์ลืมการเสียมารยาทรีบหมุนลูกบิดประตู เมื่อรู้ว่ามันไม่ได้ล๊อคเขาก็เปิดพรวดพราดเข้าบ้านกฤตภาคทันที
...............................................................................................
สายตาสบประสาน ด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ความหมายในตาคมสีดำดุจรัตติกาลฉายชัดว่าสุดตกใจ ส่วนตาสวยของผู้หญิงดวงซวยเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังและความยินดี
คุณมัช เขมินทร์ถลาลงไปหามณิการ์ทันที จิตใจเขาร้อนร้น กังวลยิ่งนัก มือไม้รีบปลดแก้ผ้ามัดปากลงเพื่อสอบถาม
เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรคุณ น้ำเสียงนั้นแสนห่วง มือใหญ่ยังยื้อแก้เชือกที่มัดข้อมือเล็กไว้แน่นให้คลายออก
โจรค่ะ โจรอยู่ข้างบน คุณต้องช่วยฉันนะ ฉันกลัว น้ำตาคลอตา มณิการ์ตัวสั่นเป็นลูกนก อคติที่เคยมีต่อเขาหายไปสิ้น วินาทีนี้เขาเหมือนเจ้าขายขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิงตกยากอย่างเธอ
ไม่ต้องกลัวนะคุณมัช ผมจะดูแลคุณเอง มือใหญ่ของเขมินทร์กระชับมือเล็กแสนเย็นที่แกะแขนเขาแน่น พยายามบีบมือน้อยส่งผ่านความอบอุ่นให้มณิการ์รับรู้ว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งเธอไป
คุณต้องไปซ่อนในที่ปลอดภัย แล้วโทรหาตำรวจ ส่วนผมจะขึ้นไปจัดการกับพวกมันข้างบน เขมินทร์พยุงมณิการ์ให้ลุกขึ้นแล้วดันตัวสาวเจ้าให้ไปหาที่ซ่อน แต่มณิการ์ไม่ยอม รู้สึกกลัวพิกลหากไม่มีเขา
ไม่นะ พวกมันอาจมีอาวุธ คุณอย่าขึ้นไปเลยนะ คุณสู้พวกมันไม่ไหวแน่
ไหวซิถ้ามีอาวุธ พูดจบเขมินทร์ก็ลากแขนพามณิการ์เข้าครัว หยิบนู้นจับนี้ที่พอจะใช้สู้รบกับไอ้โจรห้าร้อย ส่วนมณิการ์รีบกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจ รายงานสถานการณ์ พร้อมทั้งระบุที่อยู่อย่างชัดเจน อีกทั้งไม่ลืมกำชับว่าต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
เฮ้ย นังตัวดีมันหายไปไหนแล้วพี่ สองโจรรื้อค้นทรัพย์สินได้จนพอใจก็ขนข้าวของใส่กระสอบหิ้วลงมาชั้นล่าง แล้วก็สะดุ้งใจหายเมื่อเชลยที่จับมัดไว้ไม่อยู่ที่เดิม มีแค่เชือกกับผ้าที่ถูกแกะออก
ชิหายแล้วมั้ยล่ะ รีบไปเถอะเมิง ป่านนี้นังตัวดีมันหนีไปแจ้งตำรวจแล้วแน่ โจรอ้วนสบถอย่างหัวเสียแล้วเร่งให้โจรผอมช่วยกันยกกระสอบสมบัติ พวกมันแวะเวียนมาดูลาดราวหลายวันจนแน่ใจดีว่ามณิการ์อยู่บ้านลำพัง จึงวางแผนเข้าโจรกรรม เพราะคิดว่าจะจัดการกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างมณิการ์ได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้เริ่มสังหรณ์ใจว่าคิดผิด มั่นใจว่ามัดเอาไว้อย่างแน่นหนาไม่คิดว่าแรงน้อยๆ ของผู้หญิงจะดิ้นหลุดออกไปได้ เว้นแต่มีคนตามมาช่วย!
เฮ้ย พวกเมิงจะรีบไปไหน เสียงกังวานดุจราชสีห์ดังก้อง สองโจรเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกันอย่างไม่ตั้งใจ
กูว่าแล้ว โจรอ้วนหันมองหน้าลูกน้องที่หัวเสียพอกัน ก่อนจะวางกระสอบสมบัติลงแล้วตั้งท่าจะเข้ารุมเขมินทร์ หนึ่งต่อสอง ยังไงน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ
ลุย โจรอ้วนสั่งแต่โจรผอมยังไม่ทันได้ก้าวตาม ผู้หญิงที่ฉวยโอกาสแอบมายืนอยู่ข้างหลังห่างจากพวกมันไม่มากก็ย่องเงียบเข้าไป แล้วฟาดไม้เบสบอลในมือลงต้นคอของโจรผอมเต็มแรงเพื่อตัดกำลัง ทำตามแผนของเขมินทร์ที่วางไว้ เขายอมออกไปเป็นตัวล่อ ให้เธอลอบเข้าไปฟาดหนึ่งในสองโจรอย่างเงียบเสียงที่สุด แม้จะกลัวแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะผลจากการฟาดสุดแรงเกิด ทำให้โจรผอมสลบเหมือด คอพับไปเรียบร้อย ส่วนโจรอ้วนก็แลกหมัดนัวเนียกับเขมินทร์
คนถือไม้เบสบอลที่ใช้เรียนในวิชาเลือกอิสระสมัยอยู่มหาวิทยาลัยหันซ้ายทีขวาทีพยายามจะเข้าไปช่วยเขมินทร์ แต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ไม่ได้ เพราะทั้งสองชุลมุน หมุนไปหมุนมาจนมณิการ์ตาลาย มวยคู่นี้ดูเหมือนเขมินทร์จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องรูปร่างและพละกำลัง เพราะคู่ต่อสู้ตัวใหญ่กว่ามากนัก ครั้นเขมินทร์เตะต่อย ก็ดูไอ้โจรอ้วนจะไม่รู้สึกสะทกสะท้าน จะมีก็แต่เขมินทร์ที่ถูกโจรอ้วนจับเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ก่อนที่มันจะหันมาเล่นงานเธอ
โอ๊ย มณิการ์ถูกแย่งไม้จากมือแล้วโดนผลักจนกระเด็นลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอีกคน เรียกเสียงร้องหลงจากเขมินทร์ได้ดังลั่น เมื่อไอ้โจรอ้วนไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ มาดหมายจะรังแกมณิการ์ คุณมัช เขมินทร์ยันตัวลุกแล้วตรงเข้าปกป้องมณิการ์ จึงถูกไม้เบสบอลในมือไอ้โจรอ้วนฟาดลงเต็มแผ่นหลัง
คุณ! มณิการ์ร้องลั่น เมื่อเห็นร่างใหญ่ทำท่าจะทรุด แล้วไอ้โจรอ้วนเตรียมจะฟาดไม้ในมือลงทำร้ายเขาอีกครั้ง แต่ยังดีที่เขมินทร์ยังมีสติเอี้ยวตัวหลบได้ทันแล้วหันไปถีบก้นโจรอ้วนเต็มแรงจนมันเซเสียหลัก
เขมินทร์ถอยมาดูเชิง พยายามกันตัวมณิการ์ให้ออกไปห่างๆ เพราะกลัวเธอจะได้รับอันตราย มณิการ์ก็ว่านอนสอนง่าย เธอถอยมาหลบอีกมุมแล้วชะเง้อมองหน้าบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินทางมาไม่ถึงและดูเหมือนเขมินทร์กำลังเสียเปรียบหนักขึ้น เพราะโจรอ้วนมันโยนไม้ทิ้งแล้วลากมีดที่พกไว้ออกมาข่มขวัญเขมินทร์ที่มีแค่ตัวเปล่า เห็นท่าไม่ดีมณิการ์ก็วิ่งเข้าครัว มองหาอาวุธที่คิดว่าสูสีกับมีดในมือโจรอ้วน หญิงสาวเปิดตู้ยกมีดออกมาทั้งกล่อง เลือกขนาดที่ใหญ่และยาวกว่าของโจรอ้วนลากติดมือออกไปหนึ่งเล่ม รวมทั้งกะทะทอดไข่ใบใหญ่ที่คิดว่ามันอาจมีประโยชน์ อย่างน้อยก็เป็นโล่ป้องกันภัย กลับมาอีกครั้งมณิการ์ก็ยิ่งใจเสีย เพราะไอ้โจรผอมที่เธอฟาดจนสลบรู้สึกตัวลุกยืนได้อีกครั้ง ส่วนเขมินทร์ยังวิ่งหลบมีดของไอ้โจรอ้วนเป็นพัลวัน มณิการ์คิดอย่างมีสติ เธอเหน็บมีดไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้วตรงเข้าฟาดศีรษะโจรผอมที่กำลังสะลึมสะลือด้วยกระทะใบโตในมือ ครั้งแรกโจรผอมยังไม่ล้ม เธอจึงตีซ้ำเข้าไปหลายที คราวนี้ได้เรื่อง ต่อให้ทนทานแค่ไหน เจอฤทธิ์มณิการ์ไปก็ไม่ไหวจะรอด โจรผอมสลบเหมือดลงอีกครั้ง และดูท่าว่าคราวนี้คงนานทีเดียวกว่าจะรู้สึกตัว
โอ๊ย เสียงร้องหลงของเขมินทร์เพราะถูกคมมีดของไอ้โจรผอมบาดเนื้อแขนทำเอามณิการ์ใจหาย หญิงสาวตัดสินใจขว้างกระทะในมือในระยะที่ไม่ไกลนักเมื่อเล็งเห็นโอกาสเหมาะ ตัวกระทะลอยละลิ่วกระแทกศีรษะโจรอ้วนได้พอเหมาะพอเจาะ ส่งให้ร่างใหญ่เซหลุ่นๆ ถอยหลังไปหลายก้าว แล้วมณิการ์ก็คว้ามีดที่กระเป๋าหลังส่งให้เขมินทร์ใช้ป้องกันตัว ส่วนตัวเธอได้ทีก็รีบคว้าไม้เบสบอลที่ไอ้โจรอ้วนโยนทิ้งมาถือครอง อย่านะโว้ย ขืนแกทะเล่อทะล้าเข้ามา ฉันเสียบพุงแกแน่ เขมินทร์ได้มีดที่ใหญ่และยาวกว่าของไอ้โจรอ้วน จึงฮึกเหิมมีกำลังใจ
โจรอ้วนเห็นท่าไม่ค่อยดีได้ยินเสียงไซเรนของรถเจ้าหน้าที่ดังแว่วมาแต่ไกล มันตาลีตาเหลือกมองหาลู่ทางหนี แต่ติดตรงที่เขมินทร์ถือมีดขู่ขวางประตูอยู่ข้างหน้า และมณิการ์ยกไม้ในมือเตรียมหวดไม่ยั้งหากมันริอาจขยับเพียงก้าวเดียว
หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทิ้งอาวุธแล้วยอมมอบตัวซะดีๆ ประโยคอมตะของคุณตำรวจดังลั่น เจ้าหน้าที่สามคนเล็งปืนพกตรงไปที่โจรอ้วน ส่วนโจรผอมก็ถูกเจ้าหน้าที่อีกคนจับใส่กุญแจมือเรียบร้อย โดยไม่ต้องเปลืองแรงต่อสู้
สุดท้ายสองโจรกระจอกก็ถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกระสอบขุมทรัพย์ของพวกมันไว้เป็นของกลาง แล้วหันมาบอกผู้เสียหายที่วางอาวุธในมือเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ผมขอเชิญพวกคุณทั้งสองคน ไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับ
ทำแผลก่อนดีกว่ามั้ยคุณ เลือดคุณออกด้วยนะคะ นั่งมาด้วยกันในรถของเขมินทร์มณิการ์ก็รู้สึกเป็นห่วงคนขับพิกล ถึงแม้บาดแผลจะไม่ลึกแต่ก็ยาวพอสมควร
รีบไปจัดการให้เสร็จเถอะคุณมัช แผลขี้ประติ๋วแค่นี้ผมไม่เป็นไรหรอก ไกลหัวใจตั้งเยอะ เขมินทร์ไม่ยี่หระ ยังยิ้มร่าได้สบายใจ
ฉันรู้ว่าคุณเก่ง แต่ฉันไม่สบายใจที่คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะฉันนะ
ผมเจ็บแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่คุณปลอดภัยดีก็พอ แววตาที่หันมาสบพาหัวใจมณิการ์แกว่งไกว หญิงสาวหันหนีตาวาวของเขมินทร์ บีบมือตัวเองแน่นแล้วก้มหน้าลงมองมันเงียบๆ
ว่าแต่คุณเถอะ ข้อมือช้ำขนาดนั้นเจ็บรึเปล่า เขายังตามมาหลอนด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุนให้สองแก้มระเรื่อ เริ่มร้อนระอุ แค่นั้นไม่พอยังคว้ามือน้อยของเธอไปพินิจร่องรอยฟกช้ำ ไม่สนใจจะมองเส้นทาง
นี่คุณ ตั้งใจขับรถดีๆ หน่อยได้มั้ย ฉันยังไม่อยากเป็นผีเฝ้าถนนนะ มณิการ์ชักมือกลับแล้วโวยวายกลบเกลื่อนจังหวะหัวใจที่ระรัวกระทุ้งอกตึงตัง คร้าบบ คุณผู้หญิง เขมินทร์ยิ้มล้อคนน่ารักแล้วตั้งใจกับเส้นทางตรงหน้าให้มากขึ้น ไม่อยากทำบรรยากาศดีๆ ให้เสียไป รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดยามได้ยินเสียงเล็กๆ ของมณิการ์ทวงถามด้วยความเป็นห่วง แววตาของเธอที่ทอดมองฉายให้เห็นความห่วงใยกันอย่างชัดเจน ไม่แตกต่างไปจากเขาที่ห่วงเธอไม่แพ้กัน
ยัยมัช แม่โทรหาตั้งหลายรอบ โทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับ โทรเข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้ นี่มัชอยู่ที่ไหน มณิการ์ขอตัวออกจากห้องสอบสวนมารับโทรศัพท์มารดา พอกดรับสายเท่านั้นน้ำเสียงหงุดหงิดก็ดังกระทบหู มณิการ์ไม่ได้ตั้งใจจะปิดเครื่อง แต่โทรศัพท์ที่ยัดไว้ในกระเป๋า ไม่รู้มันปิดตัวเองไปตั้งแต่เมื่อใด กว่าเธอจะรู้ก็ตอนลากมันออกมากดโทรหาคุณตำรวจนั่นล่ะ
มัชอยู่โรงพักค่ะแม่
ห๊า โรงพัก ไปทำอะไรที่นั่นยัยมัช เกิดอะไรขึ้น รีบเล่าให้แม่ฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ คนที่หงุดหงิดเพราะโทรหาลูกสาวไม่ติดร้องลั่น หงุดหงิดมากกว่าเก่า มณิการ์ก็เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เอง ว่าไม่น่าหลุดปากบอกแม่ไปแบบนั้น แต่ด้วยความเคยชินที่คุยกันทุกเรื่อง จึงไม่ทันคิด ว่าอาจทำให้แม่เป็นห่วงเธอมากเพียงใด
แล้วมณิการ์ก็กลายเป็นจำเลยให้มณฑาซักจนขาวสะอาด มณิการ์รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยที่น้ำเสียงของมารดาอ่อนลงเมื่อเธอเล่าเรื่องระทึกขวัญที่เกิดขึ้นละเอียดยิบตั้งแต่ต้นจนจบ
นี่ดีนะที่พ่อเขมมาช่วยไว้ได้ทัน ถือว่ายังโชคดีนะยัยมัช เพราะหากไม่มีพ่อเขม ป่านนี้ลูกไม่ถูกไอ้โจรชั่วนั่นฆ่าตายไปแล้วเหรอ
เลิกเครียดได้แล้วค่ะแม่ มัชปลอดภัยดีแล้วค่ะ ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว
แล้วนี่มันเอาอะไรไปได้บ้างรึเปล่ายัยมัช มีอะไรเสียหายรึเปล่า
ไม่ค่ะ เอาอะไรไปไม่ได้เลย มีแต่รูปปั้นยัยหน้าขาวเท่านั้นล่ะค่ะที่มันชนลงมาแตก
อะไรนะ! มณฑาอุทานลั่น รูปปั้นแสนสวยที่หอบหิ้วมาจากญี่ปุ่นราคาไม่ใช่บาทสองบาท
เหยียบหมื่นเลยนะยัยมัช ให้ตายซิ ไอ้โจรบ้า ของถูกๆ ทำไมไม่รู้จักชน เลือกชนของแพงๆ เนี่ยนะ มันต้องจับเข้าคุกให้เข็ด บอกคุณตำรวจขังลืมมันไปเลยนะลูก อย่าให้มันออกมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก
ใจเย็นๆ ค่ะแม่ แตกแล้วเดี๋ยวก็ซื้อใหม่ได้นะคะ ปลายปีนี้แม่มีแผนจะไปญี่ปุ่นอีกไม่ใช่เหรอ
ใช่ มัชพูดถูก แล้วนี่พ่อเขมล่ะอยู่แถวนั้นรึเปล่า ให้แม่คุยกับเขาหน่อยซิลูก แม่อยากจะขอบคุณเขา มณฑาลืมรูปปั้นยัยหน้าขาวไปชั่วขณะเพราะความคิดอื่นเล่นเป็นริ้วๆ ขึ้นมาแทนที่
กำลังให้ปากคำอยู่ค่ะ เดี๋ยวมัชก็ต้องเข้าไปเหมือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีมัชจะให้เขาโทรกลับหาแม่นะคะ แค่นี้ก่อนนะคะแม่
มณิการ์กดวางโทรศัทพ์แล้วรีบย้อนกลับไปที่ห้องสอบสวน ให้ปากคำและชี้ตัวผู้ต้องหา ทำเรื่องลงบันทึกประจำวัน ตามขั้นตามตอนเรียบร้อยดีก็เช็กทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมและยกขึ้นรถของเขมินทร์ตรงกลับบ้าน กฤตภาคด้วยความเหนื่อยล้า ปวดไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ง่วงจนฝืนเปลือกตาไม่ไหว ขากลับจึงเผลอหลับในรถของเขมินทร์ มาสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ตอนรถดับเครื่องจอดที่หน้าประตูรั้วบ้าน
อย่าเพิ่งกลับนะคุณ เข้าไปทำแผลในบ้านฉันก่อน ดูเหมือนมณิการ์จะฝังใจกับบาดแผลของเขมินทร์เสียจริง เจ้าหล่อนเพิ่งสะดุ้งตื่นจากนิทรา หน้าตายังไม่หายเหลอหลา ก็รีบหันมาบอกเขาราวว่าจะไม่ได้พูดมัน
ครับผม เขมินทร์ยิ้มแก้มปริ นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่มณิการ์เต็มใจต้อนรับเขา วันนี้เธอทำตัวน่ารักหลายอย่าง ไม่เหมือนคุณหนูอารมณ์ร้ายที่เคยเจอมาหลายครา
ไปนอนเถอะคุณมัช ตาคุณจะลืมไม่ไหวอยู่แล้ว ทำแผลเรียบร้อยมาพักหนึ่งแล้วมณิการ์ก็ยังมีน้ำใจอุ่นนมร้อนๆ มาบริการเขา คงเพราะรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บกระมัง ถึงยอมพักรบเอาอกเอาใจเขาเป็นพิเศษ
แล้วพรุ่งนี้คุณจะไปทำงานไหวเหรอ ผมว่าลาพักสักวันก็ดีนะ
พรุ่งนี้มีประชุมค่ะ ฉันคงเกเรไม่ได้ ว่าแต่คุณไม่เป็นอะไรแน่นะคะ เจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า หรือจะไปหาหมอก็ได้นะ ฉันยินดีจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด มณิการ์ดูเป็นคนน่ารักอ่อนหวานไปในทันที ได้เห็นกิริยาท่าทางเธออีกมุมหนึ่งก็ทำเอาเขมินทร์รู้สึกประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้แปลก มีหลายสิ่งหลายอย่างน่าค้นหา แม้ภายนอกจะดูแข็งกร้าว กระด้างไปบ้างสักหน่อย แต่ลึกๆ แล้ว เธอก็อ่อนโยนกับคนอื่นเป็นเหมือนกัน
แน่ครับ ไม่เป็นอะไรแล้ว ไปนอนเถอะครับ
แล้วคุณ มณิการ์งุนงง เขาไล่เธอไปนอน แต่ตัวเขายังนั่งหัวโด่อยู่ในบ้านเธอแบบนี้นี่นะ ขืนเสียมารยาทลุกหนีแขกไปก็คงถูกเขาเหน็บให้เจ็บใจอีกตามเคย
ลืมไป คืนนี้ผมต้องค้างที่นี่ตามคำขอร้องของแม่คุณ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะไม่ไปเดินเพ่นพ่านที่ไหน ผมจะนอนอยู่ที่โซฟานี่แหละ ไม่ทำตัวเสียมารยาทแน่นอน เขมินทร์อธิบายยืดยาว ให้ผู้หญิงที่ยืนตาค้างได้ฟังชัดๆ เขาโทรหาคุณมณฑาตั้งแต่อยู่ในรถตามคำบอกกล่าวของมณิการ์ เพราะความขี้เซาเอาแต่หลับไม่รู้เรื่องราว มณิการ์จึงไม่ได้ยินบทสนทนาใดๆ
คุณแม่คุณเป็นห่วง ไม่อยากให้คุณอยู่บ้านคนเดียว เพราะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆ มา ท่านเลยขอร้องให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ถึงแม่คุณจะไม่ขอ ผมก็ตั้งใจจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ผมเป็นห่วงคุณนะคุณมัช
เขมินทร์คิดว่าคำพูดจากใจจริงจะทำให้มณิการ์เข้าใจอะไรได้ดีขึ้น เห็นว่าแสนรั้นแต่มณิการ์ก็เป็นคนมีเหตุผล เขาจำแววตาหวาดกลัวของผู้หญิงที่ถูกมัดได้ขึ้นใจ มันบ่งบอกชัดเจนว่าเธอขวัญเสียมากแค่ไหน แล้วจะให้ใจร้าย ทิ้งเธอให้อยู่ลำพังอย่างนั้นหรือ
ขอบคุณนะคะ มิตรภาพอันดีได้ก่อเกิดขึ้นแทนที่ความอคติ มณิการ์ยิ้มกว้างให้เขมินทร์ด้วยความเต็มใจ ใครดีเธอก็พร้อมจะดีตอบ แต่ใครร้าย เธอก็พร้อมจะร้ายกลับร้อยเท่าพันทวี เขมินทร์ดีกับเธอ ก็เปล่าประโยชน์ที่เธอจะตั้งแง่รังเกียจรังงอน คิดว่ามีพี่มีเพื่อนเพิ่มมาอีกสักคน ก็คงไม่เสียหายอะไร
*************************************
เขมินทร์เริ่มทำคะแนนได้บ้างแล้ว เพราะมีคุณแม่เจ้าแผนการคอยหนุนหลังอยู่ อย่างนี้แล้วจะเอาชนะใจสาวตัวเล็กได้มั้ยนะ ตอนหน้าสนุกมากขึ้นเมื่อบ้านกฤตภาพจะมีสมาชิกใหม่อีกคนจ้า ให้ทาย ว่าใครน้า อิอิ
วันพ่อนี้ไรเตอร์ลางานยาวไปทำบุญที่ชัยภูมิ ขนเทียนพรรษาไปถวายพระอาจารย์ที่เคารพจ้า คงได้กลับมาเจอกันอีกทีวันจันทร์เลยนะคะ ฝากบ้านด้วยน้า แวะมาทักทายกันได้ คอมเม้นต์ติชมกันได้เต็มที่เลยจ้า จุ๊บๆ
วันพ่อปีนี้อย่าลืมแทนคุณพ่อด้วยนะคะ และไม่ใช่แค่บอกรักพ่อในวันพ่อเท่านั้น อย่าลืมบอกรักพ่อ เป็นลูกที่ดีของพ่อแแม่ ทุกๆวันด้วยจ้า ขอให้ทุกครอบครัวมีความสุขมากๆจ้า
จากคุณ |
:
บ้านสายไหม
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 09:28:44
|
|
|
|